เจาะ 5 ความต้องการของลูกค้าในการซื้อสินค้าแฟชั่น (เหมาะสำหรับคนทำธุรกิจแฟชั่นทั้งการขายและผลิต)

เอาข้อมูลมาแปะเผื่อใครหลายๆคนที่ทำธุรกิจด้านแฟชั่นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตตัดเย็บ หรือผู้ทำธุรกิจแบรนด์แฟชั่นของตัวเองค่ะ


ในการทำธุรกิจแต่ละประเภทต่างก็มี target group ที่ต่างกลุ่มกัน คนทำธุรกิจแต่ละคนมักจะรู้ว่า เราสามารถทำ product / service เพื่อตอบโจทย์และเป็นลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น เช่น โทรศัพท์ เราสามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทใหญ่ๆคือ สาวกapple แก๊งandroid ซึ่งเราอาจแบ่งประเภทย่อยได้อีกจากความพึงพอใจและตอบโจทย์ในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย Design ราคา ความสะดวก ความทนทาน
สินค้าแฟชั่นก็เช่นกันมีการแบ่งตามความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มตามความต้องการ ความพึงพอใจ ประโยชน์ใช้สอย ความคุ้มทุน etc. ซึ่งจะขอสรุปออกมาเป็นข้อๆตามนี้นะคะ



1. IMAGE : ในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในโซนของ High-end  ซึ่งลูกค้าให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ค่อนข้างมาก ใส่ใจในเรื่องของบุคลิก เลือกยี่ห้อของแฟชั่นที่ดูดี มีการตัดเย็บที่เนี๊ยบ แพทเทิร์นและรูปทรงของเสื้อผ้าต้องดี มีความละเอียดและเรียบร้อย

ฉะนั้นคนที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ต้องมีสินค้าที่เข้าข่ายในเรื่องของ
– Design โดดเด่น
– เนื้อผ้าที่ดีมีคุณภาพ
– การตัดเย็บและรูปทรงของเสื้อผ้าหรือสินค้าแฟชั่นต้องดี
– มี service ที่พิเศษ
– มีที่มาที่ไปหรือสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ ว่าทำไมถึงต้องเป็นยี่ห้อนี้ พิเศษยังไง ตอบโจทย์อย่างไร

**ความพิเศษของลูกค้ากลุ่มนี้คือมีกำลังทรัพย์ที่จะจ่ายกับของที่มีคุณภาพดีพอ และเหมาะสม





2.STYLE : เป็นการเจาะกลุ่มลูกค้าแนวเฉพาะกลุ่มที่เน้นในเรื่องของ “ความชอบและค่านิยม”
ลูกค้ากลุ่มนี้จะซื้อสินค้าแฟชั่นที่ดูแล้วรู้สึกว่าโดน ชุดนี้แหละตัวฉันแน่ๆ เหมาะกับบุคลิก การใช้ชีวิตและความชอบส่วนตัวของตัวเอง
ยกตัวอย่างเรื่องของสไตล์ ที่น่าจะรู้จักกัน เช่น Street , มินิมอล , Punk etc.

คนที่ต้องการเจาะลูกค้ากลุ่มที่เน้นเรื่องค่านิยมต้องทำการบ้านนิดนึง ต้องเจาะความเป็นสไตล์นั้นๆให้ได้ ดูว่าลูกค้าชอบแบบไหน และสไตล์แบบที่คุณต้องการจะจับมาสร้างสินค้ามีเอกลักษณ์อย่างไรบ้างค่ะ

**ความพิเศษของลูกค้าในกลุ่มความชอบคือ ลูกค้า 1 คนสามารถชอบได้หลายแบบ หรืออาจจะแบบเดียว ฉะนั้นเรื่องของทิศทางและ Image Brand เป็นหน้าที่ของ Founder และ Designer แต่ละท่านว่า ต้องการให้เป็นในลักษณะทิศทางไหนบ้าง ซึ่งสามารถผสมผสานกันได้




3.TREND : ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องของความ “ฮิต”  อะไรเป็นที่ฮิตตอนนี้นะ  ฉันเป็นคนที่ in trend ฉันไม่ out แน่ๆ

ลูกค้ากลุ่มนี้ชอบที่จะดูทันสมัยและทันค่านิยมที่เป็นที่สนใจและนิยมในช่วงเวลานั้นๆ ชอบที่จะรู้สึกว่าทันโลกทันเหตุการณ์ ดูดีและเป็นกลุ่มที่ทันสมัยตลอดเวลา

ผู้ที่ต้องการเจาะตลาดกลุ่มนี้น่าจะต้องเป็นผู้ที่ทันเหตุการณ์และ Update ข่าวสารอยู่เสมอๆ รู้ว่าปีนี้สีอะไรจะมา ทรงผมอะไรจะเป็นที่นิยม สีเล็บอะไรดี ผ้าแบบไหนนะที่สาวๆจะชอบ รวมถึงควรเป็นผู้ที่ Update ข่าวสารด้านแฟชั่นตอดเวลา

**การทำสินค้าเพื่อลูกค้ากลุ่มนี้ คุณอาจจะต้องทำสินค้าที่เป็น Fast Fashion เนื่องจากแฟชั่นและเทรนแต่ละแบบมีระยะเวลาที่ไม่เท่ากัน บางเทรนมานาน บางเทรนมาแป๊ปเดียว แต่ข้อดีคือถ้าเทรนเปลี่ยนเร็ว คุณอัพเดทสินค้าตลอดและจับจุดลูกค้าได้ อาจทำให้เกิดลูกค้าประจำได้ง่ายเช่นกัน





4.FUNCTION : ลูกค้าที่ให้ความสำคัญของเรื่องการใช้สอย ความคุ้มค่าในการซื้อ และอาจรวมถึงเรื่องของระยะเวลา
ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์แฟชั่นที่ชื่อ MUJI จากแดนปลาดิบ MUJI เป็นแบรนด์ที่เน้นในเรื่องของสินค้าที่มีคุณภาพดี เรียบง่ายและราคาไม่แพง นี่คือตัวอย่างแบรนด์ที่ตอบโจทย์ได้ดีในเรื่องของ Function ประโยชน์ใช้สอย

อีกกรณีอาจหมายถึง กางเกงยีนส์
ในช่วงแรก กางเกงยีนส์เกิดขึ้นในสมัยก่อนเพื่อความแข็งแรงทนทานสำหรับการทำงานเพื่อป้องกันการขาดง่าย และยังช่วยปิดบังรอยเปื้อนของดิน

**ผู้ที่ต้องการทำสินค้าเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ต้องให้ความสำคัญของคุณภาพสินค้าเป็นอันดับแรก รองลงมาคือเรื่องของ Design และ ราคา หรือบางกรณีลูกค้ากลุ่มนี้อาจไม่ได้ให้ความสำคัญด้าน Design มากเท่ากลุ่มอื่นๆด้านบนค่ะ





5. PRICE/COST : กลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนการแต่งตัวบ่อย ชอบแต่งตัว พร้อมที่จะซื้อสินค้าทุกเมื่อ เมื่อเจอสินค้าที่โดนใจและราคาไม่แพงเกินไป

ในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีฐานค่อนข้างใหญ่ เหมาะกับผู้ผลิตที่มีกำลังในการผลิตมากและต้องการขายตลาดกว้าง เพราะพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้จะซื้อสินค้าได้บ่อย เมื่อเจอสินค้าที่ตรงตามความพอใจ
ยกตัวอย่างเช่น สินค้าตลาดนัดรถไฟ สินค้าที่ จตุจักร บางส่วน เทียบเรื่องคุณภาพของผ้า การตัดเย็บ สินค้ากลุ่มนี้อาจไม่ได้ละเอียดเท่าและเจาะดีเทลเท่ากลุ่มลูกค้าแบบอื่นๆ แต่ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะสนใจในสินค้าที่ดูแล้ว design สวย รูปทรงและการตัดเย็บโอเค

**ผู้ที่ต้องการทำสินค้ากลุ่มนี้สามารถผลิตได้ในต้นทุนที่ไม่สูงมาก สามารถขายได้ในฐานลูกค้าที่กว้าง ค่ะ จุดที่จะช่วยให้คุณมัดใจกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้คือ การทำให้ลูกค่ารู้สึกว่า “ชิ้นนี้แหละ โอเคเลย”



สรุปไปแล้วนะคะ 5 ข้อสำหรับผู้ที่สนใจทำธุรกิจด้านแฟชั่นแต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปในทิศทางไหน ต้องขายอะไรให้ใครและควรจะต้องทำอย่างไร นี่เป็น 5 หัวข้อย่อยง่ายๆค่ะ ที่น่าจะช่วยเป็นประโยชน์ให้กับคุณ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สุดท้ายแล้วสิ่งที่คุณควรจะไตร่ตรองก่อนลงมือทำมากที่สุดก็คือ “การหาจุดที่เหมาะสมกับคุณที่สุด” ค่ะ



ที่มา http://www.crushonfash.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่