Sakura the movie (บุตรแห่งอัญมณี) Part 2

Sakura the movie (บุตรแห่งอัญมณี) Part 1 >>>> http://ppantip.com/topic/34636783

(Partนี้ลองเปลี่ยนรูปแบบการบรรยายดู ชอบแบบไหน ติชมได้ในคอมเม้นเลยจ้า)

       
        “เธอทำอะไรของเธอ คิดว่าภารกิจนี้เป็นเรื่องตลกรึไง?” ชิกามารุเอ็ดซากุระเรื่องที่เธอไม่ยอมที่จะถอนตัวจากภารกิจทันทีที่เขาเรียก
    “ชิกามารุ...” โจจิพยายามเรียกให้ชิกามารุใจเย็นลง
    “อย่าลืมสิว่าเธอเป็นหัวหน้า”
    “เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงไม่อยากเป็น” ซากุระหันไปขึ้นเสียงใส่ชิกามารุที่ขุดเรื่องที่เธอเป็นหัวหน้าขึ้นมาพูดอีกครั้ง
    “ฉันเข้าใจนะว่าเธอ...”
    “ไม่หรอก...นายไม่มีทางเข้าใจ แต่ถ้าวันนึง...โจจิหรือไม่ก็อิโนะ กลายเป็นนินจาถอนตัว วันนั้นแหละนายถึงจะเข้าใจฉัน” ซากุระพูดขัดชิกามารุที่พยายามจะอธิบายเรื่องบางอย่างให้เธอฟัง
    “ซากุระ จะไปไหนอะ? ใกล้จะเช้าแล้วนะ พวกเราต้องรีบกลับหมู่บ้านไม่ใช่หรอ” โจจิถามขึ้นเมื่อเห็นซากุระกำลังเก็บของใส่กระเป๋าพก
    “ฉันจะไปดูรอบๆ แป๊บเดียว เดี๋ยวกลับมา”
    ซากุระวิ่งออกมาก่อนที่เธอจะเผลอระเบิดอารมณ์ใส่โจจิและชิกามารุ เธอรู้ตัวดีว่าเธอเป็นคนโมโหง่ายแค่ไหน
    
    “เฮ้อ! ฉันพูดอะไรผิดงั้นหรอ โจจิ”
    “ก็ไม่หรอกนะ แต่ถ้านายจำได้ ตอนที่พวกเราทุกคนรู้เรื่องที่ซาซึเกะเป็นนินจาถอนตัว คนที่ร้องไห้หนักที่สุดไม่ใช่นารูโตะไม่ใช่ซากุระ แต่เป็นอิโนะ”
    “หมายความว่าไง?”
    “ฉันคิดว่า บางที...พวกเขาคงเบื่อที่จะร้องไห้แล้วล่ะ”
    “รู้อะไรไหม โจจิ นายไม่ได้มีดีแค่เรื่องกินนะ ฮ่าๆๆ”
    บทสนธนาที่เหมือนจะครึกครื้นของชิกามารุและโจจิดำเนินต่อไปเรื่อยๆในขณะที่โคมัทสึคุงเด็กน้อยตระกูลโฮชิกะกำลังหลับปุ๋ยอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
    
    ฟ้าสว่างเต็มที่แล้ว ด้านซากุระที่ออกมาสงบสติอารมณ์ถือโอกาสเดินหาสมุนไพรที่พอจะเก็บกลับไปได้ น่าแปลกใจที่บริเวณนั้นมีเพียงหญ้ากับต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา และจู่ๆเธอก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้าเธอ
    “ฮึกๆๆๆ....ฮือ...” ซากุระได้ยินเสียงร้องไห้ดังขึ้นตรงหน้าเธอ เธอจึงเดินเข้าหาเสียงนั่นอย่างช้าๆ อย่างระมัดระวัง
    ฉึบ...ซากุระแหวกหญ้าออกอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เธอเห็นคือ...เด็กผู้ชายนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ เด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียง เด็กชายดวงตากลมโตสีเหลือง ผมสีเทาอ่อน และชุดหลวมโพรกที่เขาใส่ ทำเอาซากุระหยุดมองดูด้วยความตะลังงันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้ว่าควรจะช่วยเหลือเด็กน้อยไว้ก่อนเป็นอันดับแรก
    “ไม่เป็นไรแล้วนะ...หนูปลอดภัยแล้วจ่ะ” ด้วยสัญชาติญาณของเด็กผู้หญิง ซากุระยื่นมือไปหาเด็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
    เด็กน้อยจ้องมองไปที่ซากุระ เขารู้สึกคุ้นเคยกับคำพูดแบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้ ภาพของผู้หญิงอีกคนที่เขาคุ้นเคยซ้อนทับขึ้นในตัวซากุระที่เขาเห็นตรงหน้า
    “ท่านแม่...” เด็กน้อยกล่าวขึ้นพร้อมโผเข้ากอดซากุระไว้แน่น ซากุระมั่นใจว่าเธอไม่เคยมีลูกมาก่อนแน่ๆ ในหัวของซากุระตอนนี้คิดอะไรไม่ออกนอกจากเอาเด็กคนนี้กลับไปด้วย เพราะเธอคงไม่อาจทิ้งเขาให้อยู่ลำพังได้

    “ซากุระไปนานจังเลย ฉันควรจะออกไปหาดีไหม?” โจจิเริ่มกังวลที่ซากุระไม่ยอมกลับมาที่พักซักที
    “ไม่ต้องแล้วล่ะ มานู่นแล้ว”
    “เอ๋!!!!” โจจิร้องขึ้นเพราะหันไปเห็นเด็กอีกคนที่มาพร้อมกับซากุระ
    “ไง? คือว่า...ฉันไม่รู้ว่าเขามาจากไหนอะ แต่ว่า...เขาน่าจะหลงทาง” ซากุระอธิบายเรื่องราวให้เพื่อนอีกสองคนฟัง
    “เธอไปเก็บลูกใครมาอีกล่ะเนี่ย” ชิกามารุถามพลางกุมขมับ
    “นั่นแหละปัญหา ก็เด็กคนนี้ไม่รู้อะไรเลย ชื่อ ที่อยู่ พ่อแม่ หรือแม้แต่ชื่อของตัวเอง คงต้องพากลับหมู่บ้านไปก่อนแล้วล่ะ ไปกันเถอะ โจจิ ฝากโคมัทสึด้วยนะ” ซากุระออกคำสั่งรัวๆ โดยไม่รอให้ชิกามารุพูดอะไรต่อทั้งนั้น    
    
    ซากุระ โจจิ และชิกามารุ ถึงหมู่บ้านอย่างปลอดภัยโดยที่ไม่ได้หยุดพักที่ใดเลย การทำภารกิจติดต่อกันสองวันของพวกเขาลุล่วงไปได้ด้วยดี
    “พ่อฮะ!!!!!!” โคมัทสึวิ่งเข้าใส่พ่อของเขาที่มารับถึงห้องของโฮคาเงะ
    “ขอบคุณพวกเธอมากนะ” วาตานาเบะกล่าวขอบคุณพวกซากุระน้ำตาคลอเบ้า
    “พวกมันต้องการอะไรจากคุณหรอ? ถึงได้ทำแบบนี้” ซึนาเดะถามวาตานาเบะถึงสาเหตุที่พวกนินจาวาบะจับตัวลูกของเขาไป
    “พวกมันพูดถึงอัญมณีอะไรก็ไม่รู้ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย น่าจะเป็นของที่พ่อของผมเคยมี แต่พ่อผมก็ตายไปแล้ว และอัญมณีที่ว่านั่นผมก็ไม่รู้ว่าพ่อเอาไปไว้ที่ไหนด้วย” วาตานาเบะตอบ
    “พวกมันอาจจะยังตามคุณอยู่ ฉะนั้นทางเราจะจัดนินจาคุ้มกันไปให้ ถ้ามีเรื่องอะไรจะได้จัดการกันทัน”
    “ขอบคุณมากนะครับ”
    เมื่อวาตานาเบะกล่าวขอบคุณเสร็จก็เดินออกจากห้องโฮคาเงะไป
    “พวกเธอทำได้ดีมาก ไปพักผ่อนกันเถอะ คงเหนื่อยกันมากสินะ”
    “เดี๋ยวสิคะท่านซึนาเดะ แล้วเรื่องเด็กคนนี้ล่ะคะ” ซากุระถามถึงเรื่องของเด็กชายที่เอาแต่แอบอยู่ข้างหลังเธอ
    “ก็ฉันบอกแล้วไง ว่าจะประกาศตามหาครอบครัวของเด็กคนนี้ให้” ซึนาเดะตอบ
    “ฉันหมายถึง ช่วงที่ประกาศตามหาเนี่ย เขาจะไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ?”
    “เด็กคนนี้ไม่ยอมพูดกับคนอื่น ไม่ยอมเข้าใกล้ใครด้วยซ้ำนอกจากเธอ ให้อยู่กับเธอน่าจะเหมาะที่สุด”
    “ขา?” ซากุระร้องขึ้นหลังจากที่ได้ยินคำสั่งของซึนาเดะ และถ้ามันออกมาจากปากซึนาเดะแล้ว คงไม่มีใครกล้าเถียงหรอกนะ

    “เห็นอะไรอีกบ้าง อิโนะ?” ซากุระพาเด็กชายปริศนาไปให้อิโนะดูความทรงจำที่ลานสวนสาธารณะทันทีที่คุยกับซึนาเดะเสร็จ
    “ก็อย่างที่วาดให้ดูนั่นแหละ เห็นแค่ผู้หญิงคนนึง...น่าจะเป็นแม่ของเด็กคนนี้ล่ะมั้งแต่ทำไมไม่เห็นหน้าก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แล้วก็...อีกคนน่าจะเป็นพี่ชายเพราะหน้าตา สีตา สีผม แล้วก็ชุดนี่เหมือนกันเด๊ะเลย”
    “นี่เธอวาดอะไรของเธอเนี่ยห๊ะ!” ซากุระตะลึงกับรูปที่อิโนะวาด เพราะมันไม่ต่างอะไรกับศิลปะของเด็กห้าขวบ
    “ฉันไม่ใช่ซาอินะยะ วาดรูปเป็นซะที่ไหนล่ะ”
    “เฮ้อ! แล้วฉันจะทำยังไงกับเด็กคนนี้ดี”
    “พาไปให้พ่อฉันดูไหม? พ่อฉันดูได้ชัวร์”
    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่อยากกวนพ่อเธอ ขอบใจมาก”
    “งั้นหรอ? ...ว่าแต่ หนูชื่ออะไรหรอจ๊ะ?” อิโนะก้มลงถามเด็กชาย แต่เขาถอยกรูไปหลบข้างหลังซากุระอีกตามเคย
    “เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองเลย แม้แต่ชื่อก็จำไม่ได้” เด็กน้อยไม่ยอมเปิดปากพูด ซากุระจึงตอบแทนให้
    “งั้นเธอก็ตั้งชื่อให้สิ จะได้เรียกง่ายๆ อิโนะจินดีไหม?”
    “คิดได้ไงห๊ะยัยหมู ตาสีเหลืองแบบนี้ ให้ชื่อคิอิโระคุงดีกว่า”
    “เซ๊นต์เรื่องการตั้งชื่อของเธอนี่ห่วยมากๆเลยนะ ยัยโหนก แต่ก็เอาเถอะ เด็กเธอนี่นา เออนี่...รู้รึยังนารูโตะกลับมาแล้วนะ...”
    “ซากูระจางงงงงงงง!!!!” นารูโตะตะโกนเรียกซากุระมาตั้งแต่ไกล
    “ตายยากจริงๆ พูดถึงก็มาเลย”
    “หน้านายไปโดนอะไรมา” ซากุระถามพร้อมเอามือแตะที่หน้านารูโตะ
    “ป่าวหรอก! ไม่ต้องสนใจๆ เอ๋! แล้วใครกันน่ะเด็กคนนี้” นารูโตะปัดมือปฏิเสธพัลวัน
    “ลูกซากุระไงล่ะ” อิโนะแซว
    “จะบ้าหรอ เด็กคนนี้เขาหลงทาง ท่านซึนาเดะเลยให้ฉันดูแลไปก่อน”
    “ใช่...ดูแลเนี่ยก็หมายถึง กินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน แล้วก็...อาบน้ำด้วยกัน” อิโนะอธิบายให้นารูโตะคิดภาพตาม
    “ไม่ได้นะ!!!!”
    “โอ๊ย! ฉันไม่คุยกับพวกนายแล้ว กลับบ้านไปพักดีกว่า แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ไปกันเถอะนะ คิอิโระ!” ซากุระจูงมือคิอิโระเดินไป หวังจะหนีนารูโตะและอิโนะ แต่นารูโตะก็ตามตื้อไปติดๆ
    “ฮ่าๆๆๆ พวกบ้านั่นตลกชะมัด” อิโนะมองดูนารูโตะและซากุระเดินออกไปจนสุดสายตา “เฮ้อ! ฝีมือวาดรูปฉันห่วยจริงๆนั่นแหละ เห? แล้วไอสี่อย่างนี่มันอะไร ก้อนหินหรอ? คุ้นๆนะ” อิโนะจ้องไปที่รูปภาพของเธออีกครั้งเธอสังเกตเห็นภาพที่เธอวาดมีก้อนหินรูปร่างแตกต่างกันสี่ก้อน แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้คนอย่างอิโนะต้องเป็นกังวล เธอทิ้งกระดาษที่ไม่น่าภูมิใจของเธอลงถังขยะไปอย่างไม่ใยดี(กดspoilรูปที่อิโนะวาด)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
    
    “น่ารักจังเลยน้า เอ้า! กินข้าวสิจ๊ะ ไม่ต้องเกรงใจป้าหรอก” เมบุกิ(แม่ซากุระ) ที่กำลังจัดโต๊ะอาหาร กล่าวชมคิอิโระแบบไม่หยุดปาก
    “...” คิอิโระเอาแต่นิ่งเงียบจ้องอาหาร ก่อนที่จะหันไปจ้องหน้าซากุระ
    “กินสิ” ท่าทางคิอิโระจะไม่เชื่อใครเลยนอกจากซากุระจริงๆ เพราะทันทีที่ซากุระพูดจบเขาก็คีบอาหารเข้าปากแบบรีบร้อน รู้เลยว่าเขาคงไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน
    หลังจากมื้อเย็นซากุระและคิอิโระจึงอาบน้ำและเข้านอน จนเวลาเดินไปถึงเที่ยงคืน ด้วยความเหนื่อยล้าจากภารกิจซากุระหลับอย่างสนิทและไม่รู้สึกตัวเลยว่าในห้องของเธอสว่างจ้าด้วยแสงสีเหลือง และเมื่อแสงนั้นหายไปเด็กน้อยคิอิโระที่นอนอยู่ข้างๆซากุระก็หายไปด้วย เหลืออยู่เพียงชายหนุ่มตาสีเหลือง ผมยาวสีเทาอ่อน และชุดหลวมโพลกที่คิอิโระเคยใส่ดูพอดีมากเมื่ออยู่ในเขาร่างของชายหนุ่ม เขาคือผู้ชายคนเดียวกับคนที่อิโนะเห็นในความทรงจำของคิอิโระ
    ชายหนุ่มนั่งมองหน้าซากุระที่กำลังหลับสนิทอยู่นิ่งๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่าง

    “ฮ้าว!...หลับสบายดีจริงๆ ...เธอก็ตื่นแล้วหรอคิอิโระคุง อ้าว...แล้วทำไมฉันใส่สร้อยของพ่ออยู่ล่ะ” ซากุระคลำไปเจอสร้อยรูปดอกซากุระของคิซาชิพ่อของเธอ และทำท่าจะถอดออก
    ฉึบ!...คิอิโระจับมือซากุระไว้เพื่อไม่ให้เธอถอดสร้อยนั่นออก
    “อย่า” คิอิโระร้องห้าม
    “โอเค งั้นฉันไม่ถอดก็ได้” คิอิโระจับมือซากุระไว้แน่นจนซากุระยอมที่จะใส่สร้อยนั้นต่อไป
    
    “ซากุระ นี่ลูกกำลังจะไปงานเทศกาลรึเปล่า? แค่กๆ...” เมบุกิถามซากุระที่กำลังเดินลงบันไดมา
    “ใช่ค่ะ หนูนัดกับพวกนารูโตะไว้ ว่าแต่พ่อคะ พ่อเป็นคนเอาสร้อยมาใส่ให้หนูหรอ?”
    “ลูกนอนละเมอรึไง แต่ก็ใส่เอาไว้เถอะดีกว่าวางทิ้งไว้เฉย แค่กๆ...”
    “แม่กับพ่อเป็นอะไรรึเปล่า? ไม่สบายหรอ ให้หนูดูให้ไหม?” ซากุระถามพ่อแม่ของเธอที่ท่าทางจะไม่ปกติ
    “ไม่ต้องหรอก น่าจะแค่ติดหวัดมาน่ะ”
    “งั้นหนูไปแล้วนะคะ”
    
    “ซากุระจัง...” นารูโตะเรียกซากุระที่ท่าทางจะกำลังเดินหาพวกเขาอยู่
    “ทำไมพวกนายนัดกันออกมาเร็วจัง” ซากุระสงสัยว่าทั้งๆที่งานเทศกาลเริ่มตอนเย็นแต่นารูโตะ ซาอิ และอิโนะ กลับนัดเธอออกมาตั้งแต่ตอนกลางวัน
    “ก็เพราะพวกเรามีที่ที่ต้องไปก่อนไง” นารูโตะตอบพร้อมสีหน้าสุดเจ้าเล่ห์

    “กล้ามากนะนารูโตะ ที่หลอกให้ฉันไปแข่งงัดกล้ามเพื่อเอาบัตรกินราเม็งฟรีร้านอิจิราคุให้นายอะ”
    “ก็ฉันไม่ถนัดนี่นา...อูย” นารูโตะแก้ตัวในขณะที่เอามือคลำรอยปูดที่โดนซากุระอัด
    “นี่นาย...ฮึ่ม!” ซากุระกะจะซ้ำอีกรอบ
    “แต่ก็ชนะมาได้นี่ครับ แรงวัวแรงควายสมกับเป็นซากุระเลยนะ” ซาอิพูดขึ้นท่ามกลางความโกลาหล ทำให้หน้าของเขามีเลือดเปรอะไปอีกคน
    “ฮิฮิ...” คิอิโระหัวเราะขึ้น ทำให้ทุกคนที่กำลังชุลมุนหยุดชะงักกันหมด อาจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นเด็กน้อยยิ้ม
    เมื่อเคลียร์ปัญหากันจบ นารูโตะ ซากุระ ซาอิ อิโนะ และคิอิโระ ก็มาถึงงานเทศกาลไฟ การเที่ยวชมงานเทศกาลเป็นไปอย่างอย่างสนุกสนาน และทุกคนก็สนิทสนมกับเคอิโระมากขึ้น
    “ไปหาอะไรกินกันเถอะ กว่าจะจุดดอกไม้ไฟก็อีกนาน” นารูโตะเสนอพร้อมกับเอามือลูบท้องตัวเอง
    “พวกนายไปกันก่อนเถอะ” ซากุระสังเกตเห็นคิอิโระที่เอาแต่จ้องลูกบอลอย่างไม่วางตา เธอจึงอยากจะซื้อสิ่งนั้นให้เด็กน้อยก่อน
    “งั้นรีบตามมานะ” อิโนะพูดก่อนที่จะหันไปสนใจกับร้านทาโกะตรงหน้า
(ต่อในคอมเม้นต์^____^    )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่