น้องสาวผมโดน "ทิ้งไว้กลางทาง"

กระทู้นี้อยากให้มันเตือนใจ ผู้หญิง หลายๆคน ว่า ความไว้ใจมีได้ แต่ต้องมีความเฉลียวใจด้วย

เรามาเริ่มเรื่องกันดีกว่านะครับ...

ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่า น้องสาวผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ผมรู้จักน้องคนนี้มาตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่มัธยม
เมื่อปี 2556 ผมได้พาน้องไปค่ายๆหนึ่ง ในค่ายนั้นน้องได้พบกับเด็กผู้ชายอีกคนที่อยู่ในวัยมัธยมปลาย
ถึงแม้ผมจะมองเห็นถึงความต่างระหว่างทั้งคู่ แต่ความรักก็ยากเกินกว่าจะห้ามทัน

ทั้งคู่รักกัน และตัดสินใจคบกันเป็นเวลาไม่นานหลังจากจบค่าย...
ผมมองพัฒนาการความรักระหว่างเด็กทั้งสองคน ด้วยความที่ยังต่างกันในวัยที่อีกคนอยู่มัธยม อีกคนอยู่มหาลัย
น้องผู้ชายมีเวลาไปรับไปส่ง และไปหาน้องของผมอยู่บ่อยๆ
เรื่องราวดูจะเป็นไปได้ดี เพราะทั้งคู่คบกันผ่านเวลาไปกว่า 1 ปีกว่าๆแล้ว จนถึงปีที่ผ่านมา

ทั้งคู่เริ่มทะเลาะกัน แน่ละครับ ไม่มีคู่ไหนหรอกที่ไม่ทะเลาะกัน
แต่การทะเลาะที่ไม่ได้ถูกเคลียรืปัญหา ย่อมไม่เกิดผลอะไร ไม่ทำให้ปัยหาคลี่คลาย หรือจบลงไป
น้องสาวผมร้องไห้ เวลาทะเลาะกับแฟน แล้วสุดท้ายก็กลับไปคืนดี ลูปมันก็วันไปวนมาแบบนี้
ผมได้แค่รับรู้ แต่ไม่อาจชี้นำอะไรได้

น้องสาวผมมีแฟนเก่าที่ยังคอยติดตาม คอยถามหา ซึ่งผมก็รู้จักคนนั้นเป็นยังดี
ครั้งหนึ่งเกือบจะมเีรื่องกัน ด้วยความที่อารมณ์ร้อนทั้งคู่ ทั้งแฟนเก่า และแฟนใหม่ของน้อง
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไป ผมเริ่มคิดอย่างจริงจังว่า น้องผมอาจไปได้ ถึงวันนึงเขาอาจจะเข้าใจกัน

แต่หลายๆอย่างก็ทำให้ผมเป็นห่วงความรู้สึกของน้องสาว เมื่อเริ่มมีความรุนแรงถึงขั้นอาละวาดในที่ทำงาน (น้องสาวผมทำงาน PartTime)
ด้วยความที่อยู่หอ และต้องดูแลตัวเองด้วย ทำให้น้องผมยิ่งเครียดมากขึ้นไปใหญ่
ระหว่างที่คบกัน มีคนมาจีบน้องผมยู่เสมอ ถึงแม้เธอจะคุยและดูเหมือนจะถลำตัวไป แต่น้องผมก็รู้สึกละอายกับสิ่งที่ทำ
น้องผมโทรมาปรึกษา ผมบอกให้เธอสงบใจ และทบทวนตัวเอง ว่ายัง รักแฟนของตัวเองอยู่มั้ย
เมื่อคำตอบ คือ ใช่ เธอก็เลือกที่จะไม่หักหลังคนที่ตัวเองรัก

เมื่อถึงเวลาทุกคนย่อมต้องเดินไปในทางของตัวเอง แน่นอนแฟนชของน้องผมก็ไปเรียนมหาลัย
เมื่อทั้งคู่ต่างอยู่มหาลัยเหมือนกัน เวลาย่อมมีไม่เท่ากัน ต่างคนต่างเรียนหนัก ต่างไม่มีเวลาให้กัน

ตรงนี้เองที่เป็นจุดเริ่มเรื่อง... ก่อนก้าวข้ามมาปีใหม่ 2559
น้องผมได้รับข้อความเหมือนกับการบอกเลิก การบอกเลิอกที่ไม่พูดว่า "เลิกกัน"
การบอกเลิอกที่พูดว่า ทุกอย่างเหมือนเดิม...
การบอกเลิก ที่มีเหตุผลว่าห่างกันเพื่อจะได้รู้ใจตัวเอง

การช็อค เป็นสิ่งแรกที่น้องผมต้องรู้สึก และมันก็ตามมาด้วยเหตุผลว่า ทำไม?? เขาทำอะไรผิดไป??
ทุกอย่างที่น้องผมคิดไว้ถึงอนาคต มันจบลงด้วยประโยคบอกลาแบบนี้เอง
แล้วเหตุผลแท้จริงก็ปรากฏ เมื่อเราได้รู้ว่า แฟนของน้องมี "คนใหม่" ในเวลาห่างกันเพียงไม่กี่วัน
เขาเปิดตัวกันและกันผ่านทางเฟสบุ๊ค และโอ้โห มันเจ็บดีใช่มั้ยล่ะครับ....

นี่แหละจุดที่น้องผมถูก "ทิ้งไว้กลางทาง"

และความจริงที่รู้ยิ่งเจ็บปวด เพราะ เขาคบกันมานาน และคุยกันมานานแล้วในขณะที่คบน้องของผม
ผมบอกให้น้องผมทำใจ และเธอก็ทำได้ดี เธอไม่ได้ฟูมฟาย เธอแค่เสียดายเวลา เสียดายทุกสิ่ง ทุกความรู้สึกที่ให้ไป
เธอบอกว่า น้องผู้ชายมีรหัสเฟส รหัสไลน์ของน้องผม และแน่นอนเขาเช็คมันประจำ
น้องผมก็คิดไปว่า มันคือการหวง และถ้าหวง เขาคงไม่ไปมีคนใหม่

ตอนนี้น้องผมกำลังปรับตัวกับชีวิตที่กลับมา โสด อีกครั้ง

ผมอยากบอกผู้หญิงทุกคนว่า "ความไว้ใจเป็นเรื่องที่ดี แต่ความไว้ใจไม่ใช่ทั้งหมดของความรัก"
บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้คนเราละเลยกัน แสวงหาความรักใหม่ๆ โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่มีอยู่ข้างๆ มันดีแค่ไหน

เราสัญญากันมากมายแต่ก็ไม่รู้ตัวว่าสัญญาอะไรออกไป... เพราะงั้น ไม่มีใครบอกว่าความรักเป็นสิ่งเลวร้ายครับ
แต่ความรักไม่ใช่สิ่งที่น่าไว้ใจพอที่คุณจะยิ้มแล้วบอกกับตัวเองว่า "มันจะไม่มีวันเปลี่ยนไป"

ขอให้ทุกคนใช้ความรักทำให้ตัวเองมีความสุขและคนที่ตัวเองรักมีความสุขนะครับ
และถ้าคิดว่าคุณให้ความสุขด้วยความรักกับใครไม่ได้แล้ว
ก็จงปล่อยเขาด้วยคำว่า "เลิกกัน" อย่าแค่ผูกสายจูงไว้ที่คอของเขาด้วยคำว่า "ห่างกัน"

ขอบคุณครับบ....

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่