สวัสดีปีใหม่ค่ะ มาต่อสองล้อรอบโลกกันจากประเทศโบลิเวียเลยนะคะ เป้าหมายของเรายังคงเหมือนเดิม เดินทางไม่เกิน 200 km หรือ ไม่เกิน4ชม ต่อวัน (บอกตรงๆที่ประเทศชิลีนี้เราขี่เกินระยะทางกันซะส่วนใหญ่เนื่องจากเวลากระชั้นชิดเข้ามามากๆ เราอยากจะไปให้ถึง Ushuaia เป้าหมายของเราในทริปนี้ไม่ให้เกินเดือนกุมภาพันธ์ ไม่แน่ใจว่าจะทันรึเปล่านะคะชิวกันมากเลยที่ผ่านมา) ราคาที่พัก ไม่เกิน 20$ หรือ 600 บาทต่อวัน ค่าอาหารไม่เกิน 10$ต่อมื้อ หรือ ไม่เกิน 30$ต่อวัน สำหรับเราสองคน หรือ ค่าใช้จ่าย รวมค่าน้ำมัน ไม่เกิน 50$ ต่อวัน หรือ 25$ ต่อคน หรือ ประมาณไม่เกินคนละ 750 บาท ต่อคนต่อวัน (บอกตรงๆที่ประเทศชิลีนี่ ทั้งที่พักและอาหารราคาแพงที่สุดเท่าที่เราผ่านมาหลายประเทศเลยละคะ กินมาม่าไปหลายมื้ออยู่เหมือนกัน)
ลิงค์จากประเทศโบลิเวีย สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้วนะคะ
http://ppantip.com/topic/34622069
ลิงค์จากประเทศเปรู
http://ppantip.com/topic/34403325
ลิงค์จากประเทศเอกวาดอร์
http://ppantip.com/topic/34057015/comment92-1
และ ลิงค์สำหรับคนที่ยังไม่อ่านตอนแรก จุดเริ่มต้นที่ประเทศปานามา มดแดงอยากให้คนที่ยังไม่ได้อ่านลองเข้าไปอ่านดูนะคะ ว่าจุดเริ่มต้นของพวกเราเป็นยังไง มีจุดมุ่งหมายยังไง แผนการเดินทางของเราครั้งนี้เป็นยังไง ยังไงลองเข้าไปอ่านกันดูนะคะ
http://ppantip.com/topic/34046788
วันนี้เราตื่นกันแต่เช้าออกเดินทาง จาก Oruro ประเทศโบลิเวีย ไปยังเมือง Iquique ที่ประเทศชิลี เป็นระยะทาง 420 กม ซึ่งจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เมือง Pisiga ที่ กิโลเมตรที่ 200 ขี่กันจาก Oruro มาเรื่อยๆ ช่วงแรกๆก็ปรกติดีหลอกค่ะ ขี่มาได้สักพัก เจอถนนลูกลัง แบบที่เป็นลูกคลื่นแบบแย่มากๆเป็นแบบนี้อยู่ประมาณหลายสิบกิโลเมตร ถ้าใครอ่านมาตั้งแต่ต้นก็จะรู้ว่ามอเตอร์ไซค์จีนคันน้อยของเรามันปวกเปียกมากเลยตอนนี้ ซ่อมจนไม่รู้จะซ่อมยังไง โดนถนนแบบนี้เข้าไป ใจมดแดงนี่ลงไปอยู่ตาตุ่มเลยละค่ะ มอเตอร์ไซค์เหมือนจะหลุดออกเป็นชิ้นๆระหว่างผ่านทางลูกลังมา ไอ้หนุ่มผมยาวก็ลุ้นกันมาตลอดทาง ขี่กันมาเรื่อยๆจนในที่สุดเราก็มาถึงด่านกันจนได้ บอกตรงๆตอนแรกคิดว่าจะมาไม่ถึงกันซะแล้วละค่ะ วันนี้เป็นวันที่ 30 ธันวาคมพอดี ที่ด่านนี่คนเยอะมากเลยละค่ะ ด่านนี้คล้ายๆด่านจากประเทศเอกวาดอร์เข้าเปรูคือ 2 ประเทศอยู่ตึกเดียวกันห้องเดียวกัน แสตมป์ออกแล้วก็แสตมป์เข้าช่องถัดไปได้เลย ผิดตรงที่การทำงานต่างกัน วันนี้คนเยอะเป็นพิเศษเพราะเป็นวันสิ้นปี แทนที่จะจัดคนเพิ่มกลับมีคนทำงานที่ด่านแค่คนเดียว ทำให้ช้ากันไปใหญ่เลยค่ะ กว่าจะเสร็จเรื่องแค่สแตมป์เข้าออกนี่ใช้เวลาไป 2 ชม กว่าเลยละค่ะ ยืนต่อแถวกันเมื่อยเลย
ด่าน ตรวจคนเข้าเมืองPisiga
กว่าจะมาถึงก็บ่ายแก่ๆแล้ว แวะกินข้าวหน้าด่านกันก่อน
ซุปถ้วยนี้มีไก่ชิ้นกับข้าวเละๆอยู่ในซุบ ถ้วยนี้ 20 โบลิเวียโน่หรือ 100 บาทไทย ค่อนข้างแพง แต่ก็ไม่มีทางเลือกค่ะ อากาสหนาวๆแบบนี้ เหมือนกินข้าวต้มร้อนๆ พอได้นะคะ
ข้างในด่านคนเยอะมากค่ะ ยืนต่อแถวกันเป็นชั่วโมงเลย
ในที่สุดก็ออกมาจนได้ บรรยากาศสวยตลอดทางค่ะ คล้ายๆกับหลายประเทศที่ผ่านมา ค่อนข้างจะแห้งแล้ง เป็นภูเขาหัวโล้นซะส่วนใหญ่ ขี่กันมาเรื่อยๆ มีความรู้สึกว่า ถนนหนทางประเทศนี้ดีกว่าถนนที่ประเทศโบลิเวียเยอะมากเลยค่ะ
ขี่กันมาเรื่อยๆกว่าจะมาถึงก็เกือบเย็นแล้ว ใช้เวลาทั้งวันเลยวันนี้ ขอบอกตรงๆ พอมาถึงเมือง Iquique พวกเรานี่ถึงกับอับอึ้งเลยละค่ะ ตั้งแต่เริ่มต้นทริปนี้แต่ละประเทศที่เราขี่ผ่านมาทั้งหมดเป็นประเทศด้อยพัฒนา ค่อนข้างจะยากจน และล้าหลังไปซะทุกอย่าง ไปไหนมาไหนก็ต้องระวังจะโดนปล้นโดนจี้ ผู้คนบนถนนไม่เคารพกฏจารจร จะขี่รถ จะข้ามถนนก็ต้องระวังกันสุดๆ ก่อนจะมาที่ประเทศชิลีพวกเราไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับประเทศนี้มาก รู้แต่ว่า ไม่เคยได้ยินข้อเสียหรือข่าวไม่ดีของประเทศนี้เลย ไม่มีปล้นจี้นักท่องเที่ยวอย่างประเทศอื่นๆ เป็นประเทศที่ผลิตไวน์ส่งออก ไวน์ที่นี่ราคาถูก เรารู้กันแค่นี้ และก็คิดว่า สภาพความเป็นอยู่ก็คงเหมือนหลายๆประเทศที่ผ่านมาในแถบอเมริกาใต้นี้ แต่พอมาถึง เราถึงกับอึ้งค่ะ ที่นี่มีตึกสูงสวยงามมากมาย บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ผู้คนเคารพกฎจารจรดีมากๆ ที่เราเห็นแล้วประทับใจมากก็คือ รถที่นี่จอดให้คนข้ามถนนแม้กระทั้งทางรถเป็นไฟเขียวก็ตาม ผู้คนที่นี่รูปร่างหน้าตาค่อนข้างไปทางชาวยุโรปผิวขาว ไม่มีผิวคล้ำแบบขาวอินเดียโบราณแบบที่ผ่านๆมา เนื่องมาจากหลายร้อยปีมาแล้ว ชาวยุโรปจำนวนมากย้ายมาตั้งรกรากที่ประเทศชิลีและอาเจนจิน่า อาศัยอยู่ที่นี่รุ่นต่อรุ่น จนถึงปัจจุบัน ดูจากสภาพความเป็นอยู่ที่นี่แล้ว มดแดงว่า ประเทศชิลีนี่เผลอๆจะเจริญกว่าที่ประเทศไทยเราเสียอีกนะคะ ส่วนค่าครองชีบไม่ต้องพูดถึง ทั้งอาหารและที่พัก แพงกว่าทุกที่ที่ผ่านมาเลยละคะ อย่างว่า ราคาแพงตามคุณภาพนะคะ อีกอย่าง ตั้งแต่มาประเทศนี้มดแดงยังไม่เห็นมีขอทานเลยสักคนเลย ประเทศนี้เค้าบริหารประเทศได้ดีจริงๆค่ะ
* เกือบลืมเล่า ตามหัวข้อกระทู้ที่ว่าประทับใจคนที่นี่ มีเยอะหลายเรื่องค่ะ ครั้งแรกเลยที่เข้ามาในประเทศนี้ไม่ทันไร ก็เจอน้ำใจของคนที่นี่ซะแล้ว เราขี่ข้ามด่านกันมาโดยไม่ได้แลกเงินชิลีเปโซจากด่านมาเลย กะว่า มาถึงเมือง Iquique แล้วค่อยแลก แต่พอขี่มาได้ไม่นานก็มีด่านเก็บเงินค่าฟรีเวย์ เราไม่มีเงินชิลีกันเลยก็ไม่รู้จะทำยังไงตู้เอทีเอ็มแถวนี้ก็ไม่มี ยืนเก้ๆกังๆกันอยู่สักพัก มีรถบรรทุกที่ขับมาต่อด้านหลังเค้าเห็นพวกเราเป็นชาวต่างชาติยืนชี้โบ้ชี้เบ้อยู่ไม่รู้จะทำยังไง เค้าเลยยื่นเงินมาให้แล้วบอกเอาไปเหอะ เรานี่ดีใจกันมากเลยค่ะ หลังจากจ่ายเงินแล้วได้เงินทอนมาเราก็เอาไปคืนเค้าแล้วบอกขอบคุณเค้าเป็นการใหญ่ คนที่นี่ใจดีจริงๆค่ะ
เห็นเมืองใหญ่มาแต่ไกลถึงกับอึ้งค่ะ
เราพักกันอยู่ที่โรงแรมนี้ Hostal San Lorenzo อยู่หลังโบสไกล้กับสถานีรถทัวร์ ห้องพักสะอาด พนักงานเป็นกันเองมากๆ เป็นโรงแรมที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่เราหาได้ 20000 เปโซ เทียบกับเงินไทยตอนนี้ เงิน 1 บทาเท่ากับ ประมาณ 25 เปโซค่ะ ค่าห้องเราคืนนี้ ราคาประมาณ 800 บาทไทย ห้องที่ได้เป็นห้องเดี่ยวแต่ห้องน้ำรวม พักที่นี่ถ้าจะพักแบบราคาถูก็ต้องพักแบบห้องน้ำรวมละค่ะ ไม่งั้นแพงน่าดู
หลังจากเข้าที่พักเสร็จเราก็ออกไปเดินหาอะไรทานกันทันที ตอนนี้ที่ประเทศนี้เป็นช่วงหน้าร้อนพอดี พระอาทิตย์ตกประมาณ 2 ทุ่ม เกือบ 3 ทุ่ม ตอนเย็นที่นี่แดดยังเปลี้ยงอยู่เลยค่ะ เดินมาไม่ไกลจากที่พักเป็นห้างสรรพสินค้า มาเจอร้านอาหารจีนฟาสฟูด พวกเรานี่ดิ่งเข้าไปหาเลยทันที อย่างที่รู้กันว่าพวกเราทานแต่ไก่กับข้าวกับเฟร้นฟรายมาเป็นปีแล้วเบื่อมากๆ ในที่สุดก็มีอย่างอื่นให้เราทาน ราคาค่อนข้างจะแพงแต่งานนี้พวกเราต้องขอเลยค่ะ อดไม่ได้จริงๆ อร่อยด้วยนะคะ ดูแล้วอาจจะธรรมดาสำหรับหลายๆคน แต่สำหรับพวกเรามื้อนี้คือสวรรค์เลยละค่ะ
หลังจากนั้นเราก็กลับที่พัก พักผ่อนกัน เหนื่อยกันมาทั้งวัน เช้ารุ่งขึ้นเป็นวันสิ้นปี เราออกไปเดินเล่นในตัวเมืองไกล้ๆ เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยสะอาด ดูคล้ายๆยุโรบเหมือนกันนะคะ
มดแดงเองก็เป็นนักดนตรี มาเจอคนเล่นฮาร์ฟกลางสวนสาธารณะแบบนี้ อดนั่งฟังไม่ได้ นั่งไปชั่วโมงกว่า เพลินจริงๆค่ะ
วันนี้ค่อนข้างจะคึกคัก ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส ออกมาจับจ่ายซื้อของกันอย่างหนาแน่น
สาวไทยกับสองล้อรอบโลก ตอน ตะลุยอเมริกาใต้ (ชิลี ประทับใจคนที่นี่ไม่รู้ลืม)
สวัสดีปีใหม่ค่ะ มาต่อสองล้อรอบโลกกันจากประเทศโบลิเวียเลยนะคะ เป้าหมายของเรายังคงเหมือนเดิม เดินทางไม่เกิน 200 km หรือ ไม่เกิน4ชม ต่อวัน (บอกตรงๆที่ประเทศชิลีนี้เราขี่เกินระยะทางกันซะส่วนใหญ่เนื่องจากเวลากระชั้นชิดเข้ามามากๆ เราอยากจะไปให้ถึง Ushuaia เป้าหมายของเราในทริปนี้ไม่ให้เกินเดือนกุมภาพันธ์ ไม่แน่ใจว่าจะทันรึเปล่านะคะชิวกันมากเลยที่ผ่านมา) ราคาที่พัก ไม่เกิน 20$ หรือ 600 บาทต่อวัน ค่าอาหารไม่เกิน 10$ต่อมื้อ หรือ ไม่เกิน 30$ต่อวัน สำหรับเราสองคน หรือ ค่าใช้จ่าย รวมค่าน้ำมัน ไม่เกิน 50$ ต่อวัน หรือ 25$ ต่อคน หรือ ประมาณไม่เกินคนละ 750 บาท ต่อคนต่อวัน (บอกตรงๆที่ประเทศชิลีนี่ ทั้งที่พักและอาหารราคาแพงที่สุดเท่าที่เราผ่านมาหลายประเทศเลยละคะ กินมาม่าไปหลายมื้ออยู่เหมือนกัน)
ลิงค์จากประเทศโบลิเวีย สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้วนะคะ
http://ppantip.com/topic/34622069
ลิงค์จากประเทศเปรู
http://ppantip.com/topic/34403325
ลิงค์จากประเทศเอกวาดอร์
http://ppantip.com/topic/34057015/comment92-1
และ ลิงค์สำหรับคนที่ยังไม่อ่านตอนแรก จุดเริ่มต้นที่ประเทศปานามา มดแดงอยากให้คนที่ยังไม่ได้อ่านลองเข้าไปอ่านดูนะคะ ว่าจุดเริ่มต้นของพวกเราเป็นยังไง มีจุดมุ่งหมายยังไง แผนการเดินทางของเราครั้งนี้เป็นยังไง ยังไงลองเข้าไปอ่านกันดูนะคะ
http://ppantip.com/topic/34046788
วันนี้เราตื่นกันแต่เช้าออกเดินทาง จาก Oruro ประเทศโบลิเวีย ไปยังเมือง Iquique ที่ประเทศชิลี เป็นระยะทาง 420 กม ซึ่งจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เมือง Pisiga ที่ กิโลเมตรที่ 200 ขี่กันจาก Oruro มาเรื่อยๆ ช่วงแรกๆก็ปรกติดีหลอกค่ะ ขี่มาได้สักพัก เจอถนนลูกลัง แบบที่เป็นลูกคลื่นแบบแย่มากๆเป็นแบบนี้อยู่ประมาณหลายสิบกิโลเมตร ถ้าใครอ่านมาตั้งแต่ต้นก็จะรู้ว่ามอเตอร์ไซค์จีนคันน้อยของเรามันปวกเปียกมากเลยตอนนี้ ซ่อมจนไม่รู้จะซ่อมยังไง โดนถนนแบบนี้เข้าไป ใจมดแดงนี่ลงไปอยู่ตาตุ่มเลยละค่ะ มอเตอร์ไซค์เหมือนจะหลุดออกเป็นชิ้นๆระหว่างผ่านทางลูกลังมา ไอ้หนุ่มผมยาวก็ลุ้นกันมาตลอดทาง ขี่กันมาเรื่อยๆจนในที่สุดเราก็มาถึงด่านกันจนได้ บอกตรงๆตอนแรกคิดว่าจะมาไม่ถึงกันซะแล้วละค่ะ วันนี้เป็นวันที่ 30 ธันวาคมพอดี ที่ด่านนี่คนเยอะมากเลยละค่ะ ด่านนี้คล้ายๆด่านจากประเทศเอกวาดอร์เข้าเปรูคือ 2 ประเทศอยู่ตึกเดียวกันห้องเดียวกัน แสตมป์ออกแล้วก็แสตมป์เข้าช่องถัดไปได้เลย ผิดตรงที่การทำงานต่างกัน วันนี้คนเยอะเป็นพิเศษเพราะเป็นวันสิ้นปี แทนที่จะจัดคนเพิ่มกลับมีคนทำงานที่ด่านแค่คนเดียว ทำให้ช้ากันไปใหญ่เลยค่ะ กว่าจะเสร็จเรื่องแค่สแตมป์เข้าออกนี่ใช้เวลาไป 2 ชม กว่าเลยละค่ะ ยืนต่อแถวกันเมื่อยเลย
ด่าน ตรวจคนเข้าเมืองPisiga
กว่าจะมาถึงก็บ่ายแก่ๆแล้ว แวะกินข้าวหน้าด่านกันก่อน
ซุปถ้วยนี้มีไก่ชิ้นกับข้าวเละๆอยู่ในซุบ ถ้วยนี้ 20 โบลิเวียโน่หรือ 100 บาทไทย ค่อนข้างแพง แต่ก็ไม่มีทางเลือกค่ะ อากาสหนาวๆแบบนี้ เหมือนกินข้าวต้มร้อนๆ พอได้นะคะ
ข้างในด่านคนเยอะมากค่ะ ยืนต่อแถวกันเป็นชั่วโมงเลย
ในที่สุดก็ออกมาจนได้ บรรยากาศสวยตลอดทางค่ะ คล้ายๆกับหลายประเทศที่ผ่านมา ค่อนข้างจะแห้งแล้ง เป็นภูเขาหัวโล้นซะส่วนใหญ่ ขี่กันมาเรื่อยๆ มีความรู้สึกว่า ถนนหนทางประเทศนี้ดีกว่าถนนที่ประเทศโบลิเวียเยอะมากเลยค่ะ
ขี่กันมาเรื่อยๆกว่าจะมาถึงก็เกือบเย็นแล้ว ใช้เวลาทั้งวันเลยวันนี้ ขอบอกตรงๆ พอมาถึงเมือง Iquique พวกเรานี่ถึงกับอับอึ้งเลยละค่ะ ตั้งแต่เริ่มต้นทริปนี้แต่ละประเทศที่เราขี่ผ่านมาทั้งหมดเป็นประเทศด้อยพัฒนา ค่อนข้างจะยากจน และล้าหลังไปซะทุกอย่าง ไปไหนมาไหนก็ต้องระวังจะโดนปล้นโดนจี้ ผู้คนบนถนนไม่เคารพกฏจารจร จะขี่รถ จะข้ามถนนก็ต้องระวังกันสุดๆ ก่อนจะมาที่ประเทศชิลีพวกเราไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับประเทศนี้มาก รู้แต่ว่า ไม่เคยได้ยินข้อเสียหรือข่าวไม่ดีของประเทศนี้เลย ไม่มีปล้นจี้นักท่องเที่ยวอย่างประเทศอื่นๆ เป็นประเทศที่ผลิตไวน์ส่งออก ไวน์ที่นี่ราคาถูก เรารู้กันแค่นี้ และก็คิดว่า สภาพความเป็นอยู่ก็คงเหมือนหลายๆประเทศที่ผ่านมาในแถบอเมริกาใต้นี้ แต่พอมาถึง เราถึงกับอึ้งค่ะ ที่นี่มีตึกสูงสวยงามมากมาย บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ผู้คนเคารพกฎจารจรดีมากๆ ที่เราเห็นแล้วประทับใจมากก็คือ รถที่นี่จอดให้คนข้ามถนนแม้กระทั้งทางรถเป็นไฟเขียวก็ตาม ผู้คนที่นี่รูปร่างหน้าตาค่อนข้างไปทางชาวยุโรปผิวขาว ไม่มีผิวคล้ำแบบขาวอินเดียโบราณแบบที่ผ่านๆมา เนื่องมาจากหลายร้อยปีมาแล้ว ชาวยุโรปจำนวนมากย้ายมาตั้งรกรากที่ประเทศชิลีและอาเจนจิน่า อาศัยอยู่ที่นี่รุ่นต่อรุ่น จนถึงปัจจุบัน ดูจากสภาพความเป็นอยู่ที่นี่แล้ว มดแดงว่า ประเทศชิลีนี่เผลอๆจะเจริญกว่าที่ประเทศไทยเราเสียอีกนะคะ ส่วนค่าครองชีบไม่ต้องพูดถึง ทั้งอาหารและที่พัก แพงกว่าทุกที่ที่ผ่านมาเลยละคะ อย่างว่า ราคาแพงตามคุณภาพนะคะ อีกอย่าง ตั้งแต่มาประเทศนี้มดแดงยังไม่เห็นมีขอทานเลยสักคนเลย ประเทศนี้เค้าบริหารประเทศได้ดีจริงๆค่ะ
* เกือบลืมเล่า ตามหัวข้อกระทู้ที่ว่าประทับใจคนที่นี่ มีเยอะหลายเรื่องค่ะ ครั้งแรกเลยที่เข้ามาในประเทศนี้ไม่ทันไร ก็เจอน้ำใจของคนที่นี่ซะแล้ว เราขี่ข้ามด่านกันมาโดยไม่ได้แลกเงินชิลีเปโซจากด่านมาเลย กะว่า มาถึงเมือง Iquique แล้วค่อยแลก แต่พอขี่มาได้ไม่นานก็มีด่านเก็บเงินค่าฟรีเวย์ เราไม่มีเงินชิลีกันเลยก็ไม่รู้จะทำยังไงตู้เอทีเอ็มแถวนี้ก็ไม่มี ยืนเก้ๆกังๆกันอยู่สักพัก มีรถบรรทุกที่ขับมาต่อด้านหลังเค้าเห็นพวกเราเป็นชาวต่างชาติยืนชี้โบ้ชี้เบ้อยู่ไม่รู้จะทำยังไง เค้าเลยยื่นเงินมาให้แล้วบอกเอาไปเหอะ เรานี่ดีใจกันมากเลยค่ะ หลังจากจ่ายเงินแล้วได้เงินทอนมาเราก็เอาไปคืนเค้าแล้วบอกขอบคุณเค้าเป็นการใหญ่ คนที่นี่ใจดีจริงๆค่ะ
เห็นเมืองใหญ่มาแต่ไกลถึงกับอึ้งค่ะ
เราพักกันอยู่ที่โรงแรมนี้ Hostal San Lorenzo อยู่หลังโบสไกล้กับสถานีรถทัวร์ ห้องพักสะอาด พนักงานเป็นกันเองมากๆ เป็นโรงแรมที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่เราหาได้ 20000 เปโซ เทียบกับเงินไทยตอนนี้ เงิน 1 บทาเท่ากับ ประมาณ 25 เปโซค่ะ ค่าห้องเราคืนนี้ ราคาประมาณ 800 บาทไทย ห้องที่ได้เป็นห้องเดี่ยวแต่ห้องน้ำรวม พักที่นี่ถ้าจะพักแบบราคาถูก็ต้องพักแบบห้องน้ำรวมละค่ะ ไม่งั้นแพงน่าดู
หลังจากเข้าที่พักเสร็จเราก็ออกไปเดินหาอะไรทานกันทันที ตอนนี้ที่ประเทศนี้เป็นช่วงหน้าร้อนพอดี พระอาทิตย์ตกประมาณ 2 ทุ่ม เกือบ 3 ทุ่ม ตอนเย็นที่นี่แดดยังเปลี้ยงอยู่เลยค่ะ เดินมาไม่ไกลจากที่พักเป็นห้างสรรพสินค้า มาเจอร้านอาหารจีนฟาสฟูด พวกเรานี่ดิ่งเข้าไปหาเลยทันที อย่างที่รู้กันว่าพวกเราทานแต่ไก่กับข้าวกับเฟร้นฟรายมาเป็นปีแล้วเบื่อมากๆ ในที่สุดก็มีอย่างอื่นให้เราทาน ราคาค่อนข้างจะแพงแต่งานนี้พวกเราต้องขอเลยค่ะ อดไม่ได้จริงๆ อร่อยด้วยนะคะ ดูแล้วอาจจะธรรมดาสำหรับหลายๆคน แต่สำหรับพวกเรามื้อนี้คือสวรรค์เลยละค่ะ
หลังจากนั้นเราก็กลับที่พัก พักผ่อนกัน เหนื่อยกันมาทั้งวัน เช้ารุ่งขึ้นเป็นวันสิ้นปี เราออกไปเดินเล่นในตัวเมืองไกล้ๆ เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยสะอาด ดูคล้ายๆยุโรบเหมือนกันนะคะ
มดแดงเองก็เป็นนักดนตรี มาเจอคนเล่นฮาร์ฟกลางสวนสาธารณะแบบนี้ อดนั่งฟังไม่ได้ นั่งไปชั่วโมงกว่า เพลินจริงๆค่ะ
วันนี้ค่อนข้างจะคึกคัก ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส ออกมาจับจ่ายซื้อของกันอย่างหนาแน่น