ผมทำกิจการเล็กๆ รับเหมา ออกแบบ ติดตั้ง งานระบบไฟฟ้าคับ..
ก่อนหน้านี้ ผม เห็นพวกโซล่าร์เซลล์มาแรง ก็เลยคิดว่าจะรับเหมาติดตั้งงานพวกนี้ ทั้งยังมีแรงกระตุ้นจากโครงการโซลาร์รูฟของรัฐด้วย
ผม จดทะเบียนบริษัท มาเข้าปีที่สามแล้วนี้ตอนนี้.. ตอนระยะแรก บริษัทเป็นแค่บริษัทกระดาษ ซื้อมาขายไปอุปกรณ์งานวัดไฟฟ้า
พอหลังจากนั้น สองปี ..หุ้นส่วนผมไปตามประเทศ จึงขอถอนตัวออกจากชื่อ.. ทางผม ก็คิดว่า จะทำต่อ หรือจะเลิกกิจการดี..
ไอ้เราก็ทำมาสองปีแล้ว จะเลิกก็คิดว่า มันจะไม่ได้อะไร.. ผมเลยมองหาธุรกิจใหม่.. บังเอิญว่าโซลาร์เซลล์บ้านกำลังมา
เลยคิดว่า ตัวนี้แหละ มันน่าจะดี.. ลองๆ ทำโฆษณาดูก่อน.. ถ้ามันมียอดขาย เราค่อยทำ.. ค่อยคิดกู้เงินมาลง
ปรากฎว่า.. ผมทำโฆษณา ทางอินเตอร์เนต ลูกค้าติดต่อมาอย่างล้นหลามเพราะว่ามีแรงหนุนจากรัฐเปนกำลัง..
พอปิดจองโควต้า ผมได้สัญญามา 10 สัญญา มูลค่าราว 5 ล้าน ก็คิดว่า เราควรจะจ้างคนเข้ามาช่วย
ก็เลยจ้างบัญชีมาหนึ่งคน แล้วก็ได้ช่างมาอีกคน.. .. จากนั้น ผมก็เดินเรื่องขอกู้เงินแบงค์ เล็งไปที่smeแบงค์ โดยทำแผนงานคร่าว
ประกอบกับงบการเงิน 2 ปี เนื่องจากว่า บริษัทไม่ได้มียอดขายต่อเนื่อง และ ไม่เคยกู้ที่ไหนมาก่อน.. ส่วนสัญญาลูกค้า 10ฉบับ
ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการพิจารณาวงเงิน ทางแบงค์ให้เหตุผลว่า .. สัญญาเหล่านี้ เปนสัญญาจ้างของงานรัฐก็จริง แต่ก็เปนสัญญาที่ไม่ได้เปน
สัญญากับรัฐโดยตรง ทางบริษัทเหมือนเปนซับ ของลูกค้าอีกที.. อีกทั้ง สัญญาเหล่านี้ ทางการไฟฟ้า ยังไม่ได้อนุมัติว่า หลังไหนจะผ่าน .. การพิจารณา.. นอกจากนี้ เขายังมองว่าทางผมยังไม่เคยติดตั้ง ยังไม่มีประสปการณ์ในงาน ถ้าได้ทำงานมาแล้ว ก็ให้มาคุยกะเขาใหม่
กลายเปนว่าทางแบงค์ ก็ไม่มีที่ไหนจะให้กู้.. ทั้งๆ ที่ผมมีงบการเงิน 2 ปี.. แต่ก็โปรยไว้ว่า ถ้าหลังไหนมันผ่านแล้ว ให้กลับมาหาพี่(สินเชื่อ)ใหม่
ต่อมา จาก 10 สัญญา ผ่านอนุมัติ 4 สัญญา เปนมูลค่างาน 2 ล้าน..............ทางผมก็กุลีกุจอ รวบรวมเอกสารใหม่ พร้อมทั้งเอาโฉนดที่ดิน ไปค้ำอีกด้วย
แต่.. โฉนด14ไร่ ทุ่งนาผืนน้อยของผม ..ซึ่งเปนที่ดินติดทางสาธารณะ มีไฟ มีน้ำ กลับประเมินกรมที่ดินได้แค่ 480,000บาท ..พอทำเรื่องเข้ากู้จริง..
แบงค์กรุงไทยประเมินได้แค่ 460,000บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริงๆ ที่ดินที่นั่นซื้อขายกันไร่ละแสน ซึ่ง ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ที่ดิน ตจว.ต้องประเมินเกิน 500,000บาท ทางสินเชื่อขอให้ผมเพิ่มค้ำประกัน..
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ก็แทบจะเปนไปไม่ได้ .. ผมมองว่า แบงค์ก็น่าจะรู้ดี.. เพียงแต่อาจจะเปนที่สินเชื่อเองไม่ต้องการจะปล่อยเงิน..
ตัวธุรกิจเปนโครงการโซลาร์รูฟ เข้าข่ายใกล้เคียงกับที่มีโครงการกู้ของกรุงไทยเองที่ให้กับพวกโฮมโปร.. .. ..แม้ว่าทางสินเชื่อเองจะมีอำนาจ
ที่จะให้ บสย.ค้ำ แต่เขาคิดว่า อย่างผมและที่ดิน ตัวงาน.. ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขามีความน่าเชื่อถือพอที่จะอนุมัติ.. .. ..ผมพยายามล้วงลูก
โดยให้รุ่นพี่ในมหาลัยที่ผมสนิท ติดต่อเข้าไปถามเขา(สินเชื่อ) ว่าทำไมของบริษัทนี้ถึงไม่ได้..
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กรุงไทย ตั้งแถวๆ ประชาอุทิศ ..ชื่อคุณ ยังกะเทพ บังเอิญว่าเขาจบคณะเดียวกะที่พี่ผมเรียน เขาก็ให้คำตอบเปนภาษานักสินเชื่อว่า ทางผมเนี่ยพอเอาไปเข้าสูตรแล้ว มันไม่มีโอกาสที่จะกู้แล้วคืนเงินได้..หรือเป็นไปได้ยาก ทางเขาก็ถูก ธปท.ล็อคไว้.. จริงๆ เขาสามารถที่จะให้ บสย.ได้.. แต่เขาก็ไม่อยากเสี่ยง..
ซึ่งด้วยเหตุผลต่างๆ นานา.. มันก็ทำให้ผมเข้าใจว่า ..คงเปนที่กิจการผมเองมันคงยังไม่สามารถกู้ได้ ด้วยเหตุผลสารพัด ผมจึงทำใจ
ล้มพับโปรเจคกู้เงินไว้.. พร้อมทั้งรับลูกน้อง 2 คนเงินเดือนรวม 3หมื่น เข้ามา.. เปนภาระเลี้ยงดู โดยขอเก็บเงินลูกค้ามาครึ่งนึงเพื่อจะเปนค่าใช้จ่าย
ในการเดินงาน ทำแบบ ..สั่งสินค้าบางส่วน.. แต่ก็ไม่พอ
ต่อมา.. เหมือนฟ้ามีตา.. ส่ง ซอฟโลน 5% ปลายปี ผ่านออมสิน และ ธนาคารร่วมโครงการ.. ..
ด้วยไฟความหวังยังมี.. ผมจึงหอบหิ้วเอกสาร งบการเงิน สัญญา .. และ ประเมินที่ดิน ไปที่ sme แบงค์ แถวลำลูกกา
..ถึง สินเชื่อ.. .. .. ป้าแก่ๆ พลิกงบผม 2-3 หน้า เปิดดูหน้าบุ๊คเสตทเม้น ล้านกว่าๆ .. แล้วก็พูดว่า..
ป้า:ไอ้หนู ถ้าป้าส่งไป งบแค่นี้ ยังไงก็ไม่ผ่าน.. บริษัทของเธอยังไม่เคยกู้ที่ไหน ที่นี่ ไม่ต้องเอาอะไรค้ำก็ได้ เพราะทางsmeแบงค์ ให้บสย.
แต่ว่า.. เนี่ย ของปีนี้มันยังไม่สวย ..ถ้าปีหน้าก็ไม่แน่
ผม:แล้วที่ โฆษณาว่าทางรัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจล่ะ.. ปล่อย 5% ให้ sme .. ซึ่งถ้าเขาปล่อยไปไม่ถึงรากหญ้า smeเล็กๆ พ่อค้าแม่ค้า
แล้ว.. เศรษฐกิจมันจะไปได้เหรอ(ผมฉายวิศัยทัศน์โง่ๆ)
ป้า:เธออย่าไปเชื่อที่รัฐบาลเขาโฆษณามาก.. บางทีมันไม่ได้เปนอย่างที่เขาว่าหรอก.. จะปล่อยกันได้จริงๆ ..ส่งไปมันต้องผ่าน
ผม: นั่นสิครับ แล้วยังงี้ผมจะไปพึ่งใคร.. ผมเดินเข้าออกธนาคารเป็นสิบๆ รอบ.. เสียเวลางานเปล่า เสียเวลา เสียความรู้สึก
ท้ายที่สุดผมก็ต้องไปกู้นอกระบบ ร้อยละห้า ร้อยละสิบ.. ..ยังงี้ผมจะจดทะเบียนบริษัทเสียภาษีไปทำไม.. ขนาดงานของรัฐแท้ๆ ยังกู้ไม่ได้
ชาวบ้าน แม่ค้า ตาสีตาสา เขาจะกู้ผ่านเหรอ..
ป้า:นั่นแหละ เธอ.. กิจการใหม่ๆ มันต้อง เตาะแตะ ๆ ไป.. เธอก็ไปกู้นอกระบบไปก่อน.. ปีหน้า เดินเสตทเม้นใหม่อีก 6 เดือนค่อยมาหาป้า
ตอนนี้เธอก็ต้องทนๆ ไปก่อน เขาก็ทำกันแบบนี้แหละ
ผม: !! (เดินกลับ แล้วสบถกับแฟนว่า.. ไม่รุจะมาทำไม รู้อยู่แล้วว่ายังไงเราก็ไม่ได้ เสียเวลา!!)
ปัจจุบันนี้ .. ผมต้องรับภาระเงินเดือนลูกน้อง ค่าใช้จ่ายออฟฟิส พร้อมทั้งผ่อนหนี้นอกระบบ... เดือนละกว่าแสน.. ซึ่งจริงๆ แล้ว
ผมไม่ควรแบกพนักงานประจำไว้.. เพราะว่า มันเปนคอสที่ลดได้เยอะ.. .. แต่ก็เพียงเพราะว่าคุณธรรม ความรับผิดชอบ
เราก็ต้องพยายามกู้หนี้ยืมเงินดอก มาจ่ายเงินเดือนพวกเขา.. แม้ว่าปีนี้ไม่มีโบนัส.. หรือ อาจจะพ่วงปีต่อๆ ไป..
แต่เราก็คิดว่า เราอุตส่าห์รับพวกเขามาแล้ว เขาก็น่าจะมีครอบครัวต้องเลี้ยงดูเหมือนผม.. การที่จะให้เขาออกในสภาวะการณ์อย่างนี้
เขาก็คงจะหางานใหม่ลำบาก.. .. ก็น่าจะกระทบกับครอบครัวเขา
ลำพังงาน สองล้าน คงเลี้ยงกันไม่ไหว .. ตอนนี้ เงินที่เก็บงวดลูกค้ามาร่อยหรอ.. ติดตั้งสำเร็จไป 1 หลังเหลืออีก3.......ส่วนหลังอื่นก็โบ้ยกับลูกค้าว่า
เรื่องขอก่อสร้างยังไม่ผ่าน.. (ซึ่งจริงๆ มันก็มีปัญหาเรื่องนี้อยู่บางส่วน).. ... .. บัตรกดเครดิตเริ่มตัน พร้อมกับดอกเบี้ยนอกเริ่มฟู
เรียกได้ว่า แทบจะหมดปัญญาหาเงินมาทำต่อ.. .. ..
ผมคิดไว้สำหรับทางถอย ถ้ามันสุดจริงๆ คุยกะ ซัพพลายเออร์ไม่ได้ เพราะเขาคงไม่ใจดีทุกเจ้า (อย่างผม) ..ผมคงหอบเงินที่เหลือไปตายดาบหน้า..
ต่างประเทศ หางานทำ ขายแรง คงพอได้ใช้หนี้เขา ..ลอยแพบริษัท.. ลอยแพพนักงาน และ คนงาน.. แยกกันเอาตัวรอด ..ว่าที่ภรรยาผมที่กำลังจะแต่งกัน
คงได้อยู่กันคนละที่ต่างวาระความรับผิดชอบ.. หรือ อย่างแย่คือ ยกเลิก ไม่ต้องแต่งกันไปเลย เขาจะได้ไม่ต้องมารอผม
ถึงบรรทัดนี้.. ผมเพียงอยากเก็บประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ในการทำกิจการกลางวิกฤต มาแชร์เพื่อนๆ ว่า อย่าไปหวังเลยเงินแบงค์
และ เผื่อจะมีใครสักคนที่มีอำนาจ หรือ พอที่จะส่งเสียงต่อไปถึง คสช. ..ช่วยบอกเขาว่า ให้ดูแลปากท้องชาวบ้านบ้าง.. sme คนรากหญ้าเขาจะตายกันอยู่แล้ว.. เงินที่ท่านหว่านลงมา มันไม่ถึงมือ.. คนตัวเล็กตัวน้อย อยากให้พวกท่านรับผิดชอบชีวิตเขาด้วย.. กิจการเล็กๆ ล้ม ก็จะล้มโดมิโน่ไปหากิจการใหญ่
และ ประเทศทั้งประเทศ.. .. ประเทศที่มีแต่คนจนทั้งประเทศ กับ คนที่ร่ำรวยผิดปกติอย่างสุดขีด มันอยู่กันไม่ได้หรอกคับ
ใครจะมาให้กำลังใจ.. หรือ สมน้ำหน้า ก็เชิญเลยนะคับ.. ผมไม่มีอะไรจะเสีย
เรื่องของกิจการเล็กๆ ที่กำลังล้มละลาย
ก่อนหน้านี้ ผม เห็นพวกโซล่าร์เซลล์มาแรง ก็เลยคิดว่าจะรับเหมาติดตั้งงานพวกนี้ ทั้งยังมีแรงกระตุ้นจากโครงการโซลาร์รูฟของรัฐด้วย
ผม จดทะเบียนบริษัท มาเข้าปีที่สามแล้วนี้ตอนนี้.. ตอนระยะแรก บริษัทเป็นแค่บริษัทกระดาษ ซื้อมาขายไปอุปกรณ์งานวัดไฟฟ้า
พอหลังจากนั้น สองปี ..หุ้นส่วนผมไปตามประเทศ จึงขอถอนตัวออกจากชื่อ.. ทางผม ก็คิดว่า จะทำต่อ หรือจะเลิกกิจการดี..
ไอ้เราก็ทำมาสองปีแล้ว จะเลิกก็คิดว่า มันจะไม่ได้อะไร.. ผมเลยมองหาธุรกิจใหม่.. บังเอิญว่าโซลาร์เซลล์บ้านกำลังมา
เลยคิดว่า ตัวนี้แหละ มันน่าจะดี.. ลองๆ ทำโฆษณาดูก่อน.. ถ้ามันมียอดขาย เราค่อยทำ.. ค่อยคิดกู้เงินมาลง
ปรากฎว่า.. ผมทำโฆษณา ทางอินเตอร์เนต ลูกค้าติดต่อมาอย่างล้นหลามเพราะว่ามีแรงหนุนจากรัฐเปนกำลัง..
พอปิดจองโควต้า ผมได้สัญญามา 10 สัญญา มูลค่าราว 5 ล้าน ก็คิดว่า เราควรจะจ้างคนเข้ามาช่วย
ก็เลยจ้างบัญชีมาหนึ่งคน แล้วก็ได้ช่างมาอีกคน.. .. จากนั้น ผมก็เดินเรื่องขอกู้เงินแบงค์ เล็งไปที่smeแบงค์ โดยทำแผนงานคร่าว
ประกอบกับงบการเงิน 2 ปี เนื่องจากว่า บริษัทไม่ได้มียอดขายต่อเนื่อง และ ไม่เคยกู้ที่ไหนมาก่อน.. ส่วนสัญญาลูกค้า 10ฉบับ
ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการพิจารณาวงเงิน ทางแบงค์ให้เหตุผลว่า .. สัญญาเหล่านี้ เปนสัญญาจ้างของงานรัฐก็จริง แต่ก็เปนสัญญาที่ไม่ได้เปน
สัญญากับรัฐโดยตรง ทางบริษัทเหมือนเปนซับ ของลูกค้าอีกที.. อีกทั้ง สัญญาเหล่านี้ ทางการไฟฟ้า ยังไม่ได้อนุมัติว่า หลังไหนจะผ่าน .. การพิจารณา.. นอกจากนี้ เขายังมองว่าทางผมยังไม่เคยติดตั้ง ยังไม่มีประสปการณ์ในงาน ถ้าได้ทำงานมาแล้ว ก็ให้มาคุยกะเขาใหม่
กลายเปนว่าทางแบงค์ ก็ไม่มีที่ไหนจะให้กู้.. ทั้งๆ ที่ผมมีงบการเงิน 2 ปี.. แต่ก็โปรยไว้ว่า ถ้าหลังไหนมันผ่านแล้ว ให้กลับมาหาพี่(สินเชื่อ)ใหม่
ต่อมา จาก 10 สัญญา ผ่านอนุมัติ 4 สัญญา เปนมูลค่างาน 2 ล้าน..............ทางผมก็กุลีกุจอ รวบรวมเอกสารใหม่ พร้อมทั้งเอาโฉนดที่ดิน ไปค้ำอีกด้วย
แต่.. โฉนด14ไร่ ทุ่งนาผืนน้อยของผม ..ซึ่งเปนที่ดินติดทางสาธารณะ มีไฟ มีน้ำ กลับประเมินกรมที่ดินได้แค่ 480,000บาท ..พอทำเรื่องเข้ากู้จริง..
แบงค์กรุงไทยประเมินได้แค่ 460,000บาท[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ซึ่ง ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ที่ดิน ตจว.ต้องประเมินเกิน 500,000บาท ทางสินเชื่อขอให้ผมเพิ่มค้ำประกัน..
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ก็แทบจะเปนไปไม่ได้ .. ผมมองว่า แบงค์ก็น่าจะรู้ดี.. เพียงแต่อาจจะเปนที่สินเชื่อเองไม่ต้องการจะปล่อยเงิน..
ตัวธุรกิจเปนโครงการโซลาร์รูฟ เข้าข่ายใกล้เคียงกับที่มีโครงการกู้ของกรุงไทยเองที่ให้กับพวกโฮมโปร.. .. ..แม้ว่าทางสินเชื่อเองจะมีอำนาจ
ที่จะให้ บสย.ค้ำ แต่เขาคิดว่า อย่างผมและที่ดิน ตัวงาน.. ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขามีความน่าเชื่อถือพอที่จะอนุมัติ.. .. ..ผมพยายามล้วงลูก
โดยให้รุ่นพี่ในมหาลัยที่ผมสนิท ติดต่อเข้าไปถามเขา(สินเชื่อ) ว่าทำไมของบริษัทนี้ถึงไม่ได้.. [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เขาก็ให้คำตอบเปนภาษานักสินเชื่อว่า ทางผมเนี่ยพอเอาไปเข้าสูตรแล้ว มันไม่มีโอกาสที่จะกู้แล้วคืนเงินได้..หรือเป็นไปได้ยาก ทางเขาก็ถูก ธปท.ล็อคไว้.. จริงๆ เขาสามารถที่จะให้ บสย.ได้.. แต่เขาก็ไม่อยากเสี่ยง..
ซึ่งด้วยเหตุผลต่างๆ นานา.. มันก็ทำให้ผมเข้าใจว่า ..คงเปนที่กิจการผมเองมันคงยังไม่สามารถกู้ได้ ด้วยเหตุผลสารพัด ผมจึงทำใจ
ล้มพับโปรเจคกู้เงินไว้.. พร้อมทั้งรับลูกน้อง 2 คนเงินเดือนรวม 3หมื่น เข้ามา.. เปนภาระเลี้ยงดู โดยขอเก็บเงินลูกค้ามาครึ่งนึงเพื่อจะเปนค่าใช้จ่าย
ในการเดินงาน ทำแบบ ..สั่งสินค้าบางส่วน.. แต่ก็ไม่พอ
ต่อมา.. เหมือนฟ้ามีตา.. ส่ง ซอฟโลน 5% ปลายปี ผ่านออมสิน และ ธนาคารร่วมโครงการ.. ..
ด้วยไฟความหวังยังมี.. ผมจึงหอบหิ้วเอกสาร งบการเงิน สัญญา .. และ ประเมินที่ดิน ไปที่ sme แบงค์ แถวลำลูกกา
..ถึง สินเชื่อ.. .. .. ป้าแก่ๆ พลิกงบผม 2-3 หน้า เปิดดูหน้าบุ๊คเสตทเม้น ล้านกว่าๆ .. แล้วก็พูดว่า..
ป้า:ไอ้หนู ถ้าป้าส่งไป งบแค่นี้ ยังไงก็ไม่ผ่าน.. บริษัทของเธอยังไม่เคยกู้ที่ไหน ที่นี่ ไม่ต้องเอาอะไรค้ำก็ได้ เพราะทางsmeแบงค์ ให้บสย.
แต่ว่า.. เนี่ย ของปีนี้มันยังไม่สวย ..ถ้าปีหน้าก็ไม่แน่
ผม:แล้วที่ โฆษณาว่าทางรัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจล่ะ.. ปล่อย 5% ให้ sme .. ซึ่งถ้าเขาปล่อยไปไม่ถึงรากหญ้า smeเล็กๆ พ่อค้าแม่ค้า
แล้ว.. เศรษฐกิจมันจะไปได้เหรอ(ผมฉายวิศัยทัศน์โง่ๆ)
ป้า:เธออย่าไปเชื่อที่รัฐบาลเขาโฆษณามาก.. บางทีมันไม่ได้เปนอย่างที่เขาว่าหรอก.. จะปล่อยกันได้จริงๆ ..ส่งไปมันต้องผ่าน
ผม: นั่นสิครับ แล้วยังงี้ผมจะไปพึ่งใคร.. ผมเดินเข้าออกธนาคารเป็นสิบๆ รอบ.. เสียเวลางานเปล่า เสียเวลา เสียความรู้สึก
ท้ายที่สุดผมก็ต้องไปกู้นอกระบบ ร้อยละห้า ร้อยละสิบ.. ..ยังงี้ผมจะจดทะเบียนบริษัทเสียภาษีไปทำไม.. ขนาดงานของรัฐแท้ๆ ยังกู้ไม่ได้
ชาวบ้าน แม่ค้า ตาสีตาสา เขาจะกู้ผ่านเหรอ..
ป้า:นั่นแหละ เธอ.. กิจการใหม่ๆ มันต้อง เตาะแตะ ๆ ไป.. เธอก็ไปกู้นอกระบบไปก่อน.. ปีหน้า เดินเสตทเม้นใหม่อีก 6 เดือนค่อยมาหาป้า
ตอนนี้เธอก็ต้องทนๆ ไปก่อน เขาก็ทำกันแบบนี้แหละ
ผม: !! (เดินกลับ แล้วสบถกับแฟนว่า.. ไม่รุจะมาทำไม รู้อยู่แล้วว่ายังไงเราก็ไม่ได้ เสียเวลา!!)
ปัจจุบันนี้ .. ผมต้องรับภาระเงินเดือนลูกน้อง ค่าใช้จ่ายออฟฟิส พร้อมทั้งผ่อนหนี้นอกระบบ... เดือนละกว่าแสน.. ซึ่งจริงๆ แล้ว
ผมไม่ควรแบกพนักงานประจำไว้.. เพราะว่า มันเปนคอสที่ลดได้เยอะ.. .. แต่ก็เพียงเพราะว่าคุณธรรม ความรับผิดชอบ
เราก็ต้องพยายามกู้หนี้ยืมเงินดอก มาจ่ายเงินเดือนพวกเขา.. แม้ว่าปีนี้ไม่มีโบนัส.. หรือ อาจจะพ่วงปีต่อๆ ไป..
แต่เราก็คิดว่า เราอุตส่าห์รับพวกเขามาแล้ว เขาก็น่าจะมีครอบครัวต้องเลี้ยงดูเหมือนผม.. การที่จะให้เขาออกในสภาวะการณ์อย่างนี้
เขาก็คงจะหางานใหม่ลำบาก.. .. ก็น่าจะกระทบกับครอบครัวเขา
ลำพังงาน สองล้าน คงเลี้ยงกันไม่ไหว .. ตอนนี้ เงินที่เก็บงวดลูกค้ามาร่อยหรอ.. ติดตั้งสำเร็จไป 1 หลังเหลืออีก3.......ส่วนหลังอื่นก็โบ้ยกับลูกค้าว่า
เรื่องขอก่อสร้างยังไม่ผ่าน.. (ซึ่งจริงๆ มันก็มีปัญหาเรื่องนี้อยู่บางส่วน).. ... .. บัตรกดเครดิตเริ่มตัน พร้อมกับดอกเบี้ยนอกเริ่มฟู
เรียกได้ว่า แทบจะหมดปัญญาหาเงินมาทำต่อ.. .. ..
ผมคิดไว้สำหรับทางถอย ถ้ามันสุดจริงๆ คุยกะ ซัพพลายเออร์ไม่ได้ เพราะเขาคงไม่ใจดีทุกเจ้า (อย่างผม) ..ผมคงหอบเงินที่เหลือไปตายดาบหน้า..
ต่างประเทศ หางานทำ ขายแรง คงพอได้ใช้หนี้เขา ..ลอยแพบริษัท.. ลอยแพพนักงาน และ คนงาน.. แยกกันเอาตัวรอด ..ว่าที่ภรรยาผมที่กำลังจะแต่งกัน
คงได้อยู่กันคนละที่ต่างวาระความรับผิดชอบ.. หรือ อย่างแย่คือ ยกเลิก ไม่ต้องแต่งกันไปเลย เขาจะได้ไม่ต้องมารอผม
ถึงบรรทัดนี้.. ผมเพียงอยากเก็บประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ในการทำกิจการกลางวิกฤต มาแชร์เพื่อนๆ ว่า อย่าไปหวังเลยเงินแบงค์
และ เผื่อจะมีใครสักคนที่มีอำนาจ หรือ พอที่จะส่งเสียงต่อไปถึง คสช. ..ช่วยบอกเขาว่า ให้ดูแลปากท้องชาวบ้านบ้าง.. sme คนรากหญ้าเขาจะตายกันอยู่แล้ว.. เงินที่ท่านหว่านลงมา มันไม่ถึงมือ.. คนตัวเล็กตัวน้อย อยากให้พวกท่านรับผิดชอบชีวิตเขาด้วย.. กิจการเล็กๆ ล้ม ก็จะล้มโดมิโน่ไปหากิจการใหญ่
และ ประเทศทั้งประเทศ.. .. ประเทศที่มีแต่คนจนทั้งประเทศ กับ คนที่ร่ำรวยผิดปกติอย่างสุดขีด มันอยู่กันไม่ได้หรอกคับ
ใครจะมาให้กำลังใจ.. หรือ สมน้ำหน้า ก็เชิญเลยนะคับ.. ผมไม่มีอะไรจะเสีย