สิ้นสุด 30/9/2558 ส่วนผู้ถือหุ้น ssi & pae ติดลบกันทั้งคู่ ไม่มีเงินจากการขายหุ้นใหม่เพิ่มทุนทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นพลิกกลับมาเป็นบวก การที่จะทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวกเท่าที่เห็น
(๑) ผลประกอบการไตรมาส 4/2558 ต้องมีกำไรเพียงพอทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวกเพียงเสี้ยวสตางค์ก็พอรอดโดน sp เห็นที่หวังยากมากๆทั้งสองบริษัท; หรือ
(๒) ปรับโครงสร้างหนี้ได้ hair-cut มากเพียงพอทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นสิ้นสุด 31/12/2558 กลับมาเป็นบวกเพียงเสี้ยวสตางค์ ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือน ssi มีข่าวปรับโครงสร้างหนี้จากธนาคาร scb, ktb & tcap ต้องลุ้นให้มากพอทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวก
ในกรณีที่ส่วนผู้ถือเป็นลบ ตลท จะให้ซื้อขายได้อีก 30 วันหลังสงงบประจำปีครบกำหนด 29/2/2559 ก่อนโดน sp ฟื้นฟูการเงินเรื่องยาวเป็นปีๆ ซึ่ง ผบห รู้ดี อาจเลือกไม่ส่งงบประจำปี เพื่อดำเนินเรื่อง ขายหุ้นใหม่เพิ่มทุนให้ pp และ/หรือ ro (ผู้ถือหุ้นเดิม) และ/หรือ ปรับโครงสร้างหนี้ จนกว่าสำเร็จให้ส่วนผ้ถือหุ้บกลับมาเป็นบวกแล้วค่อยส่งงบ แทนที่ปล่อยให้โดน sp ตอนส่งงบประจำปี 2558 เหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นในอดีต เช่น ก. gstel & gjs มีปัญหาผู้ตรวจสอบไม่ให้ความเห็นครบกำหนด 2 ปี (ถ้าจำไม่ผิด) เปลี่ยนผู้ตรวจสอบใหม่ สอบบัญชีย้อนหลังใหม่ กลับมาซื่อขายได้; ข. tgpro ก่อนมาถึงทุกวันนี้เคยประสบปัญหาส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ไม่ทันสิ้นปี ไม่ส่งงบโดน sp ประมาณ 2-3 ไตรมาสกลับมาซื้อขายได้หลังปรับโครงสร้างหนี้ได้ hair-cut ทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวก; ค. tucc ไม่ได้ส่งงบเพราะส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ จนกระทั่งทุกวันนี้ เป็นต้น
ฉะนั้นเป็นหน้าที่สำคัญต้องหาข่าววงในเพื่อบริหารจัดการหุ้นในพอร์ตให้ถูกต้องตามสถานะการณ์ที่จะเกิดขึ้น ถ้าไม่รู้อะไรเลยก็หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เราเลือกได้ ยังมีเวลาถึงวันครบกำหนดส่งงบประจำปี 2558 น่าจะ 29/2/2559
ขอให้โชคดี อยู่รอดปลอดภัย รวยๆกันทุกๆท่าน
ด้วยความปรารถนาดี
ปล : ถ้ารอดโดน sp หลังส่งงบประจำปี 2558 แล้วค่อยมาว่ากันใหม่มีเวลาถึงปีหน้า 2560 ก่อนส่งงบประจำปี 2559 ในเดือน กุมภาพันธ์ 2560
SSI vs PAE : ปัญหาเดียวกัน
(๑) ผลประกอบการไตรมาส 4/2558 ต้องมีกำไรเพียงพอทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวกเพียงเสี้ยวสตางค์ก็พอรอดโดน sp เห็นที่หวังยากมากๆทั้งสองบริษัท; หรือ
(๒) ปรับโครงสร้างหนี้ได้ hair-cut มากเพียงพอทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นสิ้นสุด 31/12/2558 กลับมาเป็นบวกเพียงเสี้ยวสตางค์ ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือน ssi มีข่าวปรับโครงสร้างหนี้จากธนาคาร scb, ktb & tcap ต้องลุ้นให้มากพอทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวก
ในกรณีที่ส่วนผู้ถือเป็นลบ ตลท จะให้ซื้อขายได้อีก 30 วันหลังสงงบประจำปีครบกำหนด 29/2/2559 ก่อนโดน sp ฟื้นฟูการเงินเรื่องยาวเป็นปีๆ ซึ่ง ผบห รู้ดี อาจเลือกไม่ส่งงบประจำปี เพื่อดำเนินเรื่อง ขายหุ้นใหม่เพิ่มทุนให้ pp และ/หรือ ro (ผู้ถือหุ้นเดิม) และ/หรือ ปรับโครงสร้างหนี้ จนกว่าสำเร็จให้ส่วนผ้ถือหุ้บกลับมาเป็นบวกแล้วค่อยส่งงบ แทนที่ปล่อยให้โดน sp ตอนส่งงบประจำปี 2558 เหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นในอดีต เช่น ก. gstel & gjs มีปัญหาผู้ตรวจสอบไม่ให้ความเห็นครบกำหนด 2 ปี (ถ้าจำไม่ผิด) เปลี่ยนผู้ตรวจสอบใหม่ สอบบัญชีย้อนหลังใหม่ กลับมาซื่อขายได้; ข. tgpro ก่อนมาถึงทุกวันนี้เคยประสบปัญหาส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ไม่ทันสิ้นปี ไม่ส่งงบโดน sp ประมาณ 2-3 ไตรมาสกลับมาซื้อขายได้หลังปรับโครงสร้างหนี้ได้ hair-cut ทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวก; ค. tucc ไม่ได้ส่งงบเพราะส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ จนกระทั่งทุกวันนี้ เป็นต้น
ฉะนั้นเป็นหน้าที่สำคัญต้องหาข่าววงในเพื่อบริหารจัดการหุ้นในพอร์ตให้ถูกต้องตามสถานะการณ์ที่จะเกิดขึ้น ถ้าไม่รู้อะไรเลยก็หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เราเลือกได้ ยังมีเวลาถึงวันครบกำหนดส่งงบประจำปี 2558 น่าจะ 29/2/2559
ขอให้โชคดี อยู่รอดปลอดภัย รวยๆกันทุกๆท่าน
ด้วยความปรารถนาดี
ปล : ถ้ารอดโดน sp หลังส่งงบประจำปี 2558 แล้วค่อยมาว่ากันใหม่มีเวลาถึงปีหน้า 2560 ก่อนส่งงบประจำปี 2559 ในเดือน กุมภาพันธ์ 2560