สืบเนื่องจากเทศกาลปีใหม่ ที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้เอง จขกท ได้กลับไปเยี่ยมพ่อที่เชียงราย โดยรถยนต์ส่วนตัว
ซึ่งไปกันกับครอบครัว ก็เข้าใจว่าช่วงเทศกาล คงต้องทำใจเรื่องรถที่เดินทางกันไปจำนวนมาก เพระนอกจากการจราจรที่คับคั่งแล้ว
การเดินทางก็คงต้องเผื่อเวลาไว้เยอะพอสมควร และคงต้องระมัดระวังอุบัติเหตุให้ดี ซึ่งเทศกาลแบบนี้ แน่นอนทุกคนก็ต้องเตรียมทั้งตัว
และทั้งใจไปพอควร
ขาเดินทางขึ้นเหนือ จขกท เดินทางอย่างไม่มีปัญหา แม้จะเลยเวลาตามกำหนดไปบ้าง ก็ถึงเชียงรายอย่างสวัสดิภาพ
และทำกิจกรรมท่องเที่ยวกับครอบครัวอย่างสนุกสนานใน 5วัน 4 คืน
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ต้องกลับ กรุงเทพพวกเราจึงเตรียมตัว และวางแผนที่จะเดินทางกลับ อย่างที่คิดว่าน่าจะสะดวกและรวดเร็วที่สุด
ก็คิดว่าช่วงเวลานี้ทุกคนคงวางแผนเหมือนกัน และความที่คิดอยากจะหลีกเลี่ยงเส้นทาง นครสวรรค์ เพราะคิดว่าต้องติดสาหัสแน่ๆ
เราจึงเลือกเส้นทาง ตากฟ้า-อินทร์บุรี เป็นทางเลือก เพราะคิดว่าน่าจะเป็นอีกเส้นทางที่คนใช้น่าจะน้อยกว่าทางหลักอย่างพิษณุโลก
หรือนครสวรรค์ โดยใช้เส้นทางวังทองเข้ามา แต่พระเจ้า เหมือนจจะดลใจให้คนอื่นคิดแบบเราซะนี่ !!!
ปรากฎว่า รถเยอะมว๊ากคร่าา ทั้งๆที่เป็นทางเลนส์สวน แต่ก็พอทำความเร็วได้ตามระยะและก็วิ่งมาได้เรื่อยๆพอจขกท ขับมาถึงสากเหล็ก
เขตรอยต่อ พิจิตร ซึ่งเป็นถนนเลนส์เดียว รถก็ชลอความเร็วลง จนกระทั่งหยุดนิ่ง ( ทั้งที่ไม่มีไฟแดง)
จขกท คิดว่าคงมีอุบัติเหตุเป็นแน่แท้จึงขับชลอช้าๆตามเลนส์ไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดจะวิ่งแซงขวา เพราะคิดว่าถ้ารถหยุดนิ่งๆ
แบบนี้ขืนวิ่งขวาไป ถ้ามีรถสวนมา มีหวังต้องลดความอายขอเข้าซ้าย เลนส์เดิมแน่นอน
แต่ แต่ แต่ ....พอคิดได้ไม่เท่าไหร่ ต่อหน้าต่อตา คือ มีสารพัดรถหลากหลายยี่ห้อ หลายสี หลายคัน วิ่งแซงขวาหน้าตาเฉย
ไปฉิวววว เลยคร่า.... โห เค้าไปกันได้ไงฟร่ะ
และแล้วรถที่ขับมาตามเลส์ถูกกฎ แบบเราหลายคัน กลับหยุดนิ่งๆเกือบครึ่ง ชม มันเกิดอะไรขึ้น..อิชั้นเซ็งงงง...!!!!
แล้วอิชั้นก็เก็ท ว่ามันคือไร คือเสต๊ปตามรูปเลยคร่าาา...
รถที่ขับตามหลังมา วิ่งแซงขวาไปค่ะ ไปหลายคัน ในขณะที่รถ เลนส์ปรกตนิ่งสนิท
สาเหตุคือ ข้างหน้ามีอุบัติเหตุ เฉียวชน และ รถขนอ้อยซึ่งเป็นรถบบรทุกคันใหญ่สวนมาพอดีค่ะ และก็แน่นอนที่รถติดๆ
และทางแคบๆแบบนี้ รถที่วิ่งสวนขึ้นไปย่อมต้องขอเข้าเลนส์ซ้าย เพื่อหลบรถใหญ่ และนี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้รถติดอยู่นาน
ภาพนี้ ก่อนถ่าย อิชั้นเห็นมอไซค์ ทำปากหมุบหมิบแล้วส่ายหัว เหมือนจะเอือมกับพฤติกรรม ที่น่าเบื่อหน่ายของคนไทย บางคนซะจิงๆ
ปรากฎว่า รถที่ติดเพราะสาเหตุจาก อบ แล้วสาเหตุอีกส่วนหนึ่งคือ รถที่วิ่งแซงขึ้นอย่างเห็นแก่ตัวไปนั่นแหล่ะค่ะ
ผลของการรีบเร่งโดยไม่คิดถึงความเดือดร้อนของคนอื่น จึงทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทั้งสองฝั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้
นี่ยังดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้น และถ้ามันเกิดมันจะเป็นความสูญเสียที่ไม่มีโอกาสกลับไปแก้ไขอะไรได้เลย...
ความจริง เราเองก็เข้าใจดีว่าช่วงเทศกาลแบบนี้ การเดินทางเป็นเรื่องปรกติที่จะต้องพบเจอกับความไม่สะดวกสะบาย
หรืออาจต้องใช้เวลามากับท้องถนน เพราะจำนวนคนและรถที่มากขึ้นหลายเท่ากว่าช่วงปรกติ
แต่สิ่งที่เรา อยากบอกคือ ทุกคนก็ความคิดเหมือนกันคืออยากถึงที่หมายไวๆ อยากกลับไปพักผ่อนให้เร็วที่สุด ซึ่งสำหรับเรา
มันเป็นเรื่องปรกติที่ทุกคนจะคิดแบบนั้น แต่ถ้าเราเห็นแก่ตัวจนไม่เห็นความเดือดร้อของคนอื่น ต่อไปเราจะบอกเด็กรุ่นหลังยังไง?
ลองมาทบทวนดูว่า สิ่งที่คนไทย ( บางคน) ทำลงไป อาจส่งผลกระทบ ตามมากับคนรอบข้างแค่ไหน?
ถ้าเราไม่คิดถึงส่วนรวม หรือคนอื่น โดยเห็นแก่ตัวทำผิดกฎ โดยไม่ละอายกันแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ เราจะปลูกฝังเรื่องวินัย
กันได้ซะที เข้าใจว่าบ้านเมืองเราละเลยกันเรื่องระเบียบมานาน จนลายเป็นความเคยชินไปแล้วล่ะหรือ?
ปล ...ไม่ได้คิดจะตั้งทู้โจมตีใครเรื่องขับรถนะคะ แค่อยากให้คนไทย( บางคนใช้จิตสำนึก ในการใช้ถนนร่วมกันน่ะค่ะ)
คุณเป็นคนไทย ( บางคน) ที่เป็นแบบนี้บนถนน..ช่วงเทศกาลป่ะคะ?
ซึ่งไปกันกับครอบครัว ก็เข้าใจว่าช่วงเทศกาล คงต้องทำใจเรื่องรถที่เดินทางกันไปจำนวนมาก เพระนอกจากการจราจรที่คับคั่งแล้ว
การเดินทางก็คงต้องเผื่อเวลาไว้เยอะพอสมควร และคงต้องระมัดระวังอุบัติเหตุให้ดี ซึ่งเทศกาลแบบนี้ แน่นอนทุกคนก็ต้องเตรียมทั้งตัว
และทั้งใจไปพอควร
ขาเดินทางขึ้นเหนือ จขกท เดินทางอย่างไม่มีปัญหา แม้จะเลยเวลาตามกำหนดไปบ้าง ก็ถึงเชียงรายอย่างสวัสดิภาพ
และทำกิจกรรมท่องเที่ยวกับครอบครัวอย่างสนุกสนานใน 5วัน 4 คืน
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ต้องกลับ กรุงเทพพวกเราจึงเตรียมตัว และวางแผนที่จะเดินทางกลับ อย่างที่คิดว่าน่าจะสะดวกและรวดเร็วที่สุด
ก็คิดว่าช่วงเวลานี้ทุกคนคงวางแผนเหมือนกัน และความที่คิดอยากจะหลีกเลี่ยงเส้นทาง นครสวรรค์ เพราะคิดว่าต้องติดสาหัสแน่ๆ
เราจึงเลือกเส้นทาง ตากฟ้า-อินทร์บุรี เป็นทางเลือก เพราะคิดว่าน่าจะเป็นอีกเส้นทางที่คนใช้น่าจะน้อยกว่าทางหลักอย่างพิษณุโลก
หรือนครสวรรค์ โดยใช้เส้นทางวังทองเข้ามา แต่พระเจ้า เหมือนจจะดลใจให้คนอื่นคิดแบบเราซะนี่ !!!
ปรากฎว่า รถเยอะมว๊ากคร่าา ทั้งๆที่เป็นทางเลนส์สวน แต่ก็พอทำความเร็วได้ตามระยะและก็วิ่งมาได้เรื่อยๆพอจขกท ขับมาถึงสากเหล็ก
เขตรอยต่อ พิจิตร ซึ่งเป็นถนนเลนส์เดียว รถก็ชลอความเร็วลง จนกระทั่งหยุดนิ่ง ( ทั้งที่ไม่มีไฟแดง)
จขกท คิดว่าคงมีอุบัติเหตุเป็นแน่แท้จึงขับชลอช้าๆตามเลนส์ไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดจะวิ่งแซงขวา เพราะคิดว่าถ้ารถหยุดนิ่งๆ
แบบนี้ขืนวิ่งขวาไป ถ้ามีรถสวนมา มีหวังต้องลดความอายขอเข้าซ้าย เลนส์เดิมแน่นอน
แต่ แต่ แต่ ....พอคิดได้ไม่เท่าไหร่ ต่อหน้าต่อตา คือ มีสารพัดรถหลากหลายยี่ห้อ หลายสี หลายคัน วิ่งแซงขวาหน้าตาเฉย
ไปฉิวววว เลยคร่า.... โห เค้าไปกันได้ไงฟร่ะ
และแล้วรถที่ขับมาตามเลส์ถูกกฎ แบบเราหลายคัน กลับหยุดนิ่งๆเกือบครึ่ง ชม มันเกิดอะไรขึ้น..อิชั้นเซ็งงงง...!!!!
แล้วอิชั้นก็เก็ท ว่ามันคือไร คือเสต๊ปตามรูปเลยคร่าาา...
รถที่ขับตามหลังมา วิ่งแซงขวาไปค่ะ ไปหลายคัน ในขณะที่รถ เลนส์ปรกตนิ่งสนิท
สาเหตุคือ ข้างหน้ามีอุบัติเหตุ เฉียวชน และ รถขนอ้อยซึ่งเป็นรถบบรทุกคันใหญ่สวนมาพอดีค่ะ และก็แน่นอนที่รถติดๆ
และทางแคบๆแบบนี้ รถที่วิ่งสวนขึ้นไปย่อมต้องขอเข้าเลนส์ซ้าย เพื่อหลบรถใหญ่ และนี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้รถติดอยู่นาน
ภาพนี้ ก่อนถ่าย อิชั้นเห็นมอไซค์ ทำปากหมุบหมิบแล้วส่ายหัว เหมือนจะเอือมกับพฤติกรรม ที่น่าเบื่อหน่ายของคนไทย บางคนซะจิงๆ
ปรากฎว่า รถที่ติดเพราะสาเหตุจาก อบ แล้วสาเหตุอีกส่วนหนึ่งคือ รถที่วิ่งแซงขึ้นอย่างเห็นแก่ตัวไปนั่นแหล่ะค่ะ
ผลของการรีบเร่งโดยไม่คิดถึงความเดือดร้อนของคนอื่น จึงทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทั้งสองฝั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้
นี่ยังดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้น และถ้ามันเกิดมันจะเป็นความสูญเสียที่ไม่มีโอกาสกลับไปแก้ไขอะไรได้เลย...
ความจริง เราเองก็เข้าใจดีว่าช่วงเทศกาลแบบนี้ การเดินทางเป็นเรื่องปรกติที่จะต้องพบเจอกับความไม่สะดวกสะบาย
หรืออาจต้องใช้เวลามากับท้องถนน เพราะจำนวนคนและรถที่มากขึ้นหลายเท่ากว่าช่วงปรกติ
แต่สิ่งที่เรา อยากบอกคือ ทุกคนก็ความคิดเหมือนกันคืออยากถึงที่หมายไวๆ อยากกลับไปพักผ่อนให้เร็วที่สุด ซึ่งสำหรับเรา
มันเป็นเรื่องปรกติที่ทุกคนจะคิดแบบนั้น แต่ถ้าเราเห็นแก่ตัวจนไม่เห็นความเดือดร้อของคนอื่น ต่อไปเราจะบอกเด็กรุ่นหลังยังไง?
ลองมาทบทวนดูว่า สิ่งที่คนไทย ( บางคน) ทำลงไป อาจส่งผลกระทบ ตามมากับคนรอบข้างแค่ไหน?
ถ้าเราไม่คิดถึงส่วนรวม หรือคนอื่น โดยเห็นแก่ตัวทำผิดกฎ โดยไม่ละอายกันแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ เราจะปลูกฝังเรื่องวินัย
กันได้ซะที เข้าใจว่าบ้านเมืองเราละเลยกันเรื่องระเบียบมานาน จนลายเป็นความเคยชินไปแล้วล่ะหรือ?
ปล ...ไม่ได้คิดจะตั้งทู้โจมตีใครเรื่องขับรถนะคะ แค่อยากให้คนไทย( บางคนใช้จิตสำนึก ในการใช้ถนนร่วมกันน่ะค่ะ)