เป็นหนังวัยรุ่นเรื่องล่าสุดที่ผมได้ดู คำแรกทันทีที่ดูหนังเรื่องนี้จบคือ ว้าว.... ความรู้สึกมันเต็มอิ่มในหัวใจเส้นเรื่องของหนัง คาแร็กเตอร์ตัวละคร
และข้อคิดต่างๆที่แฝงอยู่มันทำให้รู้สึกตื้นตันในหัวใจดีมากๆครับ
Me and Earl and the Dying Girl ถ่ายทอดเรื่องราวของ เกร๊ก เด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมภายในโรงเรียนของเขาแบบตามน้ำ เกร็ก สามารถอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ที่นิสัยการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไปได้อย่างดี เกร็ก เพียงแค่ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการสร้างศัตรูแต่ในชีวิตของเขาก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมายสักเท่าไหร่ จะมีก็แค่เอิร์ล เด็กหนุ่มผิวสี ที่จะเรียกว่า หุ้นส่วนในการทำงานน่าจะดูเหมาะกว่า ทั้งคู่ชอบใช้เวลาว่างถ่ายทำหนังที่แสนห่วย จนวันนึง เกร็ก ถูกแม่ของเขาบังคับให้ไปอยู่คอยดูแลและให้กำลังใจกับเพื่อนสาว ราเชล ที่กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือด ทั้งคู่พบเจอกันทุกวันจึงเกิดเป็นเรื่องราวต่างๆขึ้น
การเล่าเรื่องราวของหนัง เป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าติดตามเอามากๆครับ ระหว่างเรื่องจะเศร้าก็ไม่เศร้าซะทีเดียว มันยังแฝงความขบขัน และมุกตลกให้ได้อมยิ้มอยู่เป็นระยะๆ (แต่ไม่รวมบางฉากนะครับ T T) ตัวหนังเองถ่ายทอดความเป็นวัยรุ่นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อได้ดีที่เดียว และมันยังบอกเราเป็นนัยๆอีกว่าเพื่อนคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตอย่างนึง และเราควรทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อพวกเขา
(ขอปรบมือให้อีกอย่างนึงคือ สกอเพลงในหนังครับที่สามารถส่งอารมณ์เราไปได้อย่างดีทีเดียว )
ถ้าใครได้ชมแล้วลองมาถ่ายทอดความคิดเห็นกันนะครับ แต่ใครที่ยังไม่ได้ดูผมขอแนะนำเลย เป็นอีกเรื่องที่ดีเอามากๆครับ
"เมื่อคนที่เรารักจากเราไป เรื่องราวของเขาจะยังไม่จบเพียงแค่นั้นถ้าเรายังค้นหาต่อไป"
ใครได้ดู me and earl and the dying girl ผม กับ เกลอ และเธอผู้เปลี่ยนหัวใจ แล้วบ้างครับ
และข้อคิดต่างๆที่แฝงอยู่มันทำให้รู้สึกตื้นตันในหัวใจดีมากๆครับ
Me and Earl and the Dying Girl ถ่ายทอดเรื่องราวของ เกร๊ก เด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมภายในโรงเรียนของเขาแบบตามน้ำ เกร็ก สามารถอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ที่นิสัยการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไปได้อย่างดี เกร็ก เพียงแค่ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการสร้างศัตรูแต่ในชีวิตของเขาก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมายสักเท่าไหร่ จะมีก็แค่เอิร์ล เด็กหนุ่มผิวสี ที่จะเรียกว่า หุ้นส่วนในการทำงานน่าจะดูเหมาะกว่า ทั้งคู่ชอบใช้เวลาว่างถ่ายทำหนังที่แสนห่วย จนวันนึง เกร็ก ถูกแม่ของเขาบังคับให้ไปอยู่คอยดูแลและให้กำลังใจกับเพื่อนสาว ราเชล ที่กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือด ทั้งคู่พบเจอกันทุกวันจึงเกิดเป็นเรื่องราวต่างๆขึ้น
การเล่าเรื่องราวของหนัง เป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าติดตามเอามากๆครับ ระหว่างเรื่องจะเศร้าก็ไม่เศร้าซะทีเดียว มันยังแฝงความขบขัน และมุกตลกให้ได้อมยิ้มอยู่เป็นระยะๆ (แต่ไม่รวมบางฉากนะครับ T T) ตัวหนังเองถ่ายทอดความเป็นวัยรุ่นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อได้ดีที่เดียว และมันยังบอกเราเป็นนัยๆอีกว่าเพื่อนคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตอย่างนึง และเราควรทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อพวกเขา
(ขอปรบมือให้อีกอย่างนึงคือ สกอเพลงในหนังครับที่สามารถส่งอารมณ์เราไปได้อย่างดีทีเดียว )
ถ้าใครได้ชมแล้วลองมาถ่ายทอดความคิดเห็นกันนะครับ แต่ใครที่ยังไม่ได้ดูผมขอแนะนำเลย เป็นอีกเรื่องที่ดีเอามากๆครับ
"เมื่อคนที่เรารักจากเราไป เรื่องราวของเขาจะยังไม่จบเพียงแค่นั้นถ้าเรายังค้นหาต่อไป"