คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
1. ก่อนอื่นลองเช็คก่อนนะคะว่าพี่เขยได้ส่งเงินประกันสังคมสำหรับสิทธิการรับบำนาญ หรือบำเหน็จ
http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?cat=873
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
เงื่อนไขการเกิดสิทธิกรณีบำนาญชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
เงื่อนไขการเกิดสิทธิกรณีบำเหน็จชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพ
- กรณีจ่ายเงินสมทบ มาแล้ว ไม่น้อยกว่า 180 เดือน มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนใน อัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้น สุดลง
- กรณีที่มีการจ่าย เงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพตามข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อ ระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพ
- กรณีที่มีการจ่าย เงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทน ตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
- กรณีผู้รับเงิน บำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับคราวสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย
2. ตอนนี้ ได้เงินประกันสังคมประทังชีวิต - อย่าให่เกิน 6 เดือน ต้องไปสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 เพื่อรักษาสิทธิในการรักษาพยาบาล
http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?cat=875 สำหรับข้อนี้ถ้าได้บำเหน็จ ให้ไปรับเงินบำเหน็จก่อนค่อยสมัคร ถ้าเลือกรับบำนาญสมัครไม่ได้
เพื่อให้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนทั้ง 6 กรณี คือ
1. กรณีประสบอันตราย
2.ทุพพลภาพ
3.ตาย
4.คลอดบุตร
5.สงเคราะห์บุตร
6.และชราภาพ
http://carebest2555.blogspot.com/2012/05/39.html
3. ถ้าไม่เซ็นลาออก บริษัทจะทำยังไงกับเรา - ต้องไม่เซ็นใบลาออก เพรากรณีนี้อายุงานมากกว่า 10 ปี และบริษัทต้องการให้ออกต้องจ่ายค่าจ้างชดเชย 300 วัน ถ้าเซ็นแสดงว่ายินยอมออกเองซึ่งบริษัทจะจ่ายแค่ 4 เดือน
4. ถ้าเซ็นใบลาออก จะได้เสียหายอะไรไหมครับ - ตามข้อ3 ถ้าเซ็นแสดงว่ายินยอมออกบริษัทจ่าย 4 เดือน ถ้าบริษัทให้ออกจากงานโดยไม่มีความผิดต้องจ่าย 300 วัน
http://www.labour.go.th/th/attachments/article/9799/lsdb-16112554.pdf
สรุปนะคะ
1. ตรวจดูสิทธิประกันสังคมว่าได้บำเหน็จมั๊ย จากนั้นรับบำเหน็จ แต่ข้อนี้จะได้ก็ต่อเมื่อบริษัทแจ้งพ้นสภาพเท่านั้น และต้องขาดส่งเงินไม่เกิน 6 เดือน
2. หลังจากแจ้งรับบำเหน็จ ไปสมัครมาตรา39
3. ใบลาออกไม่เซ็น ให้ภรรยาไปคุยเพราะกรณีนี้เราก็ต้องเข้าใจฝ่ายบริษัทว่าทำงานให้ไม่ได้ แต่บริษัทต้องแฟร์จ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งกรณีนี้ไม่ยากบริษัทสามารถออกคำสั่งพ้นสภาพและจ่ายเงินได้อยู่แล้ว
http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?cat=873
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
เงื่อนไขการเกิดสิทธิกรณีบำนาญชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
เงื่อนไขการเกิดสิทธิกรณีบำเหน็จชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพ
- กรณีจ่ายเงินสมทบ มาแล้ว ไม่น้อยกว่า 180 เดือน มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนใน อัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้น สุดลง
- กรณีที่มีการจ่าย เงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพตามข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อ ระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพ
- กรณีที่มีการจ่าย เงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทน ตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
- กรณีผู้รับเงิน บำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับคราวสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย
2. ตอนนี้ ได้เงินประกันสังคมประทังชีวิต - อย่าให่เกิน 6 เดือน ต้องไปสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 เพื่อรักษาสิทธิในการรักษาพยาบาล
http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?cat=875 สำหรับข้อนี้ถ้าได้บำเหน็จ ให้ไปรับเงินบำเหน็จก่อนค่อยสมัคร ถ้าเลือกรับบำนาญสมัครไม่ได้
เพื่อให้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนทั้ง 6 กรณี คือ
1. กรณีประสบอันตราย
2.ทุพพลภาพ
3.ตาย
4.คลอดบุตร
5.สงเคราะห์บุตร
6.และชราภาพ
http://carebest2555.blogspot.com/2012/05/39.html
3. ถ้าไม่เซ็นลาออก บริษัทจะทำยังไงกับเรา - ต้องไม่เซ็นใบลาออก เพรากรณีนี้อายุงานมากกว่า 10 ปี และบริษัทต้องการให้ออกต้องจ่ายค่าจ้างชดเชย 300 วัน ถ้าเซ็นแสดงว่ายินยอมออกเองซึ่งบริษัทจะจ่ายแค่ 4 เดือน
4. ถ้าเซ็นใบลาออก จะได้เสียหายอะไรไหมครับ - ตามข้อ3 ถ้าเซ็นแสดงว่ายินยอมออกบริษัทจ่าย 4 เดือน ถ้าบริษัทให้ออกจากงานโดยไม่มีความผิดต้องจ่าย 300 วัน
http://www.labour.go.th/th/attachments/article/9799/lsdb-16112554.pdf
สรุปนะคะ
1. ตรวจดูสิทธิประกันสังคมว่าได้บำเหน็จมั๊ย จากนั้นรับบำเหน็จ แต่ข้อนี้จะได้ก็ต่อเมื่อบริษัทแจ้งพ้นสภาพเท่านั้น และต้องขาดส่งเงินไม่เกิน 6 เดือน
2. หลังจากแจ้งรับบำเหน็จ ไปสมัครมาตรา39
3. ใบลาออกไม่เซ็น ให้ภรรยาไปคุยเพราะกรณีนี้เราก็ต้องเข้าใจฝ่ายบริษัทว่าทำงานให้ไม่ได้ แต่บริษัทต้องแฟร์จ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งกรณีนี้ไม่ยากบริษัทสามารถออกคำสั่งพ้นสภาพและจ่ายเงินได้อยู่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 63
ขอตอบในฐานะอดีตพนักงานตรวจแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
--ถ้าไม่เซ็นลาออก บริษัทจะทำยังไงกับเรา ตอบ ดูปฏิกิริยานายจ้างจะทำไงต่อ แล้วลองพูดคุยกับนายจ้างดูว่าเขาจะเลิกจ้างไหม หากเลิกจ้างต้องเป็นไปตาม กฎหมายว่าด้วยคุ้มครองแรงงาน คือ บอกกล่าวล่วงหน้าให้ถูกต้องคือ บอกเลิกสัญญาก่อนการจ่ายค่าจ้างหนึ่งงวด เพื่อให้มีผลออกจากงานเมื่อถึงคราวจ่ายค่าจ้างงวดถัดไป ตัวอย่าง จ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน สมมติหากเลิกจ้างวันที่ 25 มกราคม มีผลคือลูกจ้างจะต้องออกจากงานในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ แต่หากบอกเลิกหลัง 25 มกราคม มีผลให้ออกวันที่ 25 มีนาคม เพราะบอกเลิกเกินกำหนดจ่ายค่าจ้างหนึ่งงวด แต่ถ้าบอกก่อนวันที่ 25 มกราคม ก็มีผลให้ออก 25 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้นายจ้างอาจให้ออกก่อนก็ได้แต่ต้องจ่ายค่าจ้างแทนการให้อยู่ต่อไปหรือแทนการบอกกล่าวนั่นเอง *** ในทางปฎิบัติ หากนายจ้างเฉยไม่ทำอะไรหรือมีปฏิกิริยาอะไรเลย คุณไปปรึกษาเจ้าหน้าที่เลยที่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อให้เขาทราบความไว้ เมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างนายจ้างไม่จ่าย ทางเจ้าหน้าที่จะทำการรับเรื่องร้องทุกข์และสอบถามคุณ โดยต้องมีหลักฐานต่างๆเป็นหนังสือหรือบุคคล เพื่อที่จะเรียกเอาค่าจ้างและค่าชดเชยให้แก่คุณตามกฎหมาย หากเป็ยจริงและมีหลักฐานเจ้าหน้าที่จะออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายให้คุณต่อไป หากไม่จ่ายจะให้นิติกรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หรืออาจใช้ช่องทางหนึ่งคือฟ้องศาลแรงงานครับ
--ถ้าเซ็นใบลาออก จะได้เสียหายอะไรไหมครับ ตอบ คุณจะไม่ได้ค่าชดเชยตามกฎหมายเลยครับ ซึ่งผมสังเกตุว่าคุณทำงานให้เขามานานถึง 18 ปี ค่าชดเชยกรณีคุณได้เต็มแมกซ์เลยครับ 300 วัน ตามกกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองแรงงาน ฉะนั้นอย่าเขียนใบลาออกเด็ดขาดต้องให้นายจ้างเลิกจ้างเองครับ
--ถ้าไม่เซ็นลาออก บริษัทจะทำยังไงกับเรา ตอบ ดูปฏิกิริยานายจ้างจะทำไงต่อ แล้วลองพูดคุยกับนายจ้างดูว่าเขาจะเลิกจ้างไหม หากเลิกจ้างต้องเป็นไปตาม กฎหมายว่าด้วยคุ้มครองแรงงาน คือ บอกกล่าวล่วงหน้าให้ถูกต้องคือ บอกเลิกสัญญาก่อนการจ่ายค่าจ้างหนึ่งงวด เพื่อให้มีผลออกจากงานเมื่อถึงคราวจ่ายค่าจ้างงวดถัดไป ตัวอย่าง จ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน สมมติหากเลิกจ้างวันที่ 25 มกราคม มีผลคือลูกจ้างจะต้องออกจากงานในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ แต่หากบอกเลิกหลัง 25 มกราคม มีผลให้ออกวันที่ 25 มีนาคม เพราะบอกเลิกเกินกำหนดจ่ายค่าจ้างหนึ่งงวด แต่ถ้าบอกก่อนวันที่ 25 มกราคม ก็มีผลให้ออก 25 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้นายจ้างอาจให้ออกก่อนก็ได้แต่ต้องจ่ายค่าจ้างแทนการให้อยู่ต่อไปหรือแทนการบอกกล่าวนั่นเอง *** ในทางปฎิบัติ หากนายจ้างเฉยไม่ทำอะไรหรือมีปฏิกิริยาอะไรเลย คุณไปปรึกษาเจ้าหน้าที่เลยที่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อให้เขาทราบความไว้ เมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างนายจ้างไม่จ่าย ทางเจ้าหน้าที่จะทำการรับเรื่องร้องทุกข์และสอบถามคุณ โดยต้องมีหลักฐานต่างๆเป็นหนังสือหรือบุคคล เพื่อที่จะเรียกเอาค่าจ้างและค่าชดเชยให้แก่คุณตามกฎหมาย หากเป็ยจริงและมีหลักฐานเจ้าหน้าที่จะออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายให้คุณต่อไป หากไม่จ่ายจะให้นิติกรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หรืออาจใช้ช่องทางหนึ่งคือฟ้องศาลแรงงานครับ
--ถ้าเซ็นใบลาออก จะได้เสียหายอะไรไหมครับ ตอบ คุณจะไม่ได้ค่าชดเชยตามกฎหมายเลยครับ ซึ่งผมสังเกตุว่าคุณทำงานให้เขามานานถึง 18 ปี ค่าชดเชยกรณีคุณได้เต็มแมกซ์เลยครับ 300 วัน ตามกกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองแรงงาน ฉะนั้นอย่าเขียนใบลาออกเด็ดขาดต้องให้นายจ้างเลิกจ้างเองครับ
แสดงความคิดเห็น
เป็นพนักงานบริษัทมา20ปี ล้มป่วยเป็นอัมพฤกติ บริษัทให้ออกครับ
พี่เขยเป็นพนักงานประจำบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มา18ปี ล้มป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก อัมพฤติข้างซ้าย รักษาตัวมา 3 เดือนแล้ว ยังไม่หาย ซึ่งบริษัทจะให้เซ็นใบลาออก แล้วจะมอบเงินก้อนให้อีก 4 เดือน
--ตอนนี้ ได้เงินประกันสังคมประทังชีวิต
***กำลังดำเนินเรื่อง ยังไม่ได้เงินครับ***
--ถ้าไม่เซ็นลาออก บริษัทจะทำยังไงกับเรา
***ตอนนี้ ยังไม่ได้เซ็นใบลาออกครับ***
--ถ้าเซ็นใบลาออก จะได้เสียหายอะไรไหมครับ
--จะต้องทำอย่างไรดี ชี้แนะด้วยครับผมบ้านก็ส่งอยู่ รถก็ผ่อนอยุ่ครับ ขอบพระคุณครับผม
***มาอับเดดครับ***
บริษัทที่พี่เขยทำงานครับ บริษัทดังกล่าวเปนบริษัทใหญ่ทำเกี่ยวกับ“สลิปฟอร์ม” ก่อสร้างทั้งในและต่างประเทศครับ
พี่เขยมีอาการหลังเลิกงานครับ กลับที่พักแล้ว เวลา 21.00 น.
ตอนนี้ยังไม่ได้เซนลาออกครับ ซึ่งทางบริษัทตั้งแต่โทรมายื่นข้อเสนอดังกล่าวแล้วก็เงียบไปเลย ตอนนี้ผมกำลังประสานงานเรื่องประกันสังคมอยุ่ครับ ขอขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกคำชี้แน่ะอย่างมากครับ เป็นประโยชน์จริงๆครับผม *** เรื่องค่าชดเชย คงจะเริ่มต้นด้วยการเจรจาขอความเห็นใจทางบริษัทดูก่อนครับ ไม่อยากให้ถึงต้องฟ้องร้องตามกฎหมายเลยครับ ขอรักษาตัวต่อสักระยะ ตอนนี้พยายามรักษาผู้ป่วยให้หาย ซึ่งใกล้เดินได้บ้างแล้ว ซีกขวาใช้การได้ดีปกติ แต่ซีกซ้ายเริ่มขยับได้บ้างแล้วครับ