คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
คำพูดนี้เค้าพูดกันมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งสื่บทอดกันมานานน่าจะมีความจริงแฝงอยู่มากพอสมควร ถึงยังคงอยู่ ณ ปัจจุบัน
สมัยก่อน ก่อนที่จะมีองค์ความรู้ ผมก็คิดเล่นๆว่าน่าจะเพราะว่า คนที่กลัวภรรยา ( จริงแล้วอาจไม่ต้องถึงกับกลัวครับ ซึ่งเค้าพูดกันเวอร์ๆ ในดูตลกๆ แต่ความหมายแท้จริงคือ ซื่อสัตย์ ให้เกียรติ ดูแลเอาใจใส่ รักภรรยา อยากให้ภรรยาสบาย และมีความสุข )
คนที่ให้รักภรรยา จะ
ไม่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ทำให้ประหยัดเงิน และมีแต่ความสงบสุข
ตั้งใจทำมาหากิน แบบเอาเป็นเอาตาย หาเงินให้ภรรยาใช้ อยากให้ภรรยามีความสุขและสะดวกสบาย
ยอมลดความสุขส่วนตัว เพื่อให้ภรรยาและลูก ได้สุขสบายขึ้น
ไม่กล้าทำอะไรที่มันแย่ๆ
ถ้ารักภรรยา ภรรยาจะเป็นกำลังใจให้ แล้วเค้าจะมีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
การตัดสินใจดีขึ้น เพราะมีคนช่วยคิด และเค้าก็เชื่อฟัง
ส่วนคนที่ไม่รักภรรยา จะ
มีแต่เรื่องเดือดร้อน เช่น มีผู้หญิงเยอะ ก็เสียเงินมาก ไม่มีเวลาทำงานเต็มที่ หาได้ก็ให้คนอื่นหมด รักความหรูหรา หน้าตาภาพลักษณ์สำคัญที่สุด มีแต่เรื่องให้หงุดหงิดรำคาญใจ หวาดระแวง หลบๆซ่อนๆ ความรู้สึกผิด และอีกมากมาย ที่ฝังอยู่ในใจ แล้วจะเอาเวลาไหนไปไขว้คว้าความสำเร็จครับ ส่วนใหญ่ทรัพย์สินก็ไม่พอใช้ ก็ต้องไปหาด้วยวิธีผิดๆ แล้วสุดท้ายก็ไปจบที่ คุก หรือ เป็นโรคร้าย หรือ สวรรค์ลงโทษถูกโกงกลับไป สิ้นเนื้อประดาตัว พอไม่มีทรัพย์ เพื่อนฝูง ญาติมิตรก็หนีหายไป แล้วก็ตายอย่างเดียวดาย เหมือนในหนังเลย แต่คนไม่เรียนรู้เป็นบทเรียน
แต่ขอเพิ่มเติมว่า ความรักที่บริสุทธิ์ ความซื่อสัตย์ ความอ่อนน้อม มันเป็นพลังงานทางบวกที่มีพลังมาก มันดึงดูดสิ่งดีๆ ให้กับคนที่ยึดถือมันไว้ มันพิสูจน์ไม่ได้ แต่เราๆก็เชื่อว่าจริงใช่มั้ยครับ เหมือนคนกตัญญู สุดท้าย ผลกรรมดีก็ตอบรับเค้าแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
บางคนทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพาย แต่พอแต่งงานแล้วชีวิตก็เปลี่ยนไป เพราะว่า ผมเชื่อว่า บางคนที่ขาดความรัก ความอบอุ่น และกำลังใจจากครอบครัว เค้าไม่มีแรงผลักดันหรอก ไม่มีเหตุผลที่จะต้องประสบความสำเร็จ เมื่อเค้าคิดเช่นนั้น มันก็ไม่มีแรงดึงดูดให้เค้าพบกับความสำเร็จ แต่ถ้าได้ภรรยาที่ดี ภรรยาจะเติมเต็มให้เค้า เค้าจะมีพลัง และเป้าหมายชัดเจน และนี่แหละจะดึงดูดสิ่งดีๆที่เค้าต้องการให้เข้ามาหาเร็วและมากยิ่งขึ้น
เหตุผลแค่นี้คงเพียงพอให้เราหันมารักภรรยากันมากยิ่งขึ้นๆ นะครับ มันมีความลับอยู่ในนั้น แค่ทำในสิ่งที่ถูก ชีวิตก็สดใสแน่นอน
โค้ชหน่อง
สมัยก่อน ก่อนที่จะมีองค์ความรู้ ผมก็คิดเล่นๆว่าน่าจะเพราะว่า คนที่กลัวภรรยา ( จริงแล้วอาจไม่ต้องถึงกับกลัวครับ ซึ่งเค้าพูดกันเวอร์ๆ ในดูตลกๆ แต่ความหมายแท้จริงคือ ซื่อสัตย์ ให้เกียรติ ดูแลเอาใจใส่ รักภรรยา อยากให้ภรรยาสบาย และมีความสุข )
คนที่ให้รักภรรยา จะ
ไม่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ทำให้ประหยัดเงิน และมีแต่ความสงบสุข
ตั้งใจทำมาหากิน แบบเอาเป็นเอาตาย หาเงินให้ภรรยาใช้ อยากให้ภรรยามีความสุขและสะดวกสบาย
ยอมลดความสุขส่วนตัว เพื่อให้ภรรยาและลูก ได้สุขสบายขึ้น
ไม่กล้าทำอะไรที่มันแย่ๆ
ถ้ารักภรรยา ภรรยาจะเป็นกำลังใจให้ แล้วเค้าจะมีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
การตัดสินใจดีขึ้น เพราะมีคนช่วยคิด และเค้าก็เชื่อฟัง
ส่วนคนที่ไม่รักภรรยา จะ
มีแต่เรื่องเดือดร้อน เช่น มีผู้หญิงเยอะ ก็เสียเงินมาก ไม่มีเวลาทำงานเต็มที่ หาได้ก็ให้คนอื่นหมด รักความหรูหรา หน้าตาภาพลักษณ์สำคัญที่สุด มีแต่เรื่องให้หงุดหงิดรำคาญใจ หวาดระแวง หลบๆซ่อนๆ ความรู้สึกผิด และอีกมากมาย ที่ฝังอยู่ในใจ แล้วจะเอาเวลาไหนไปไขว้คว้าความสำเร็จครับ ส่วนใหญ่ทรัพย์สินก็ไม่พอใช้ ก็ต้องไปหาด้วยวิธีผิดๆ แล้วสุดท้ายก็ไปจบที่ คุก หรือ เป็นโรคร้าย หรือ สวรรค์ลงโทษถูกโกงกลับไป สิ้นเนื้อประดาตัว พอไม่มีทรัพย์ เพื่อนฝูง ญาติมิตรก็หนีหายไป แล้วก็ตายอย่างเดียวดาย เหมือนในหนังเลย แต่คนไม่เรียนรู้เป็นบทเรียน
แต่ขอเพิ่มเติมว่า ความรักที่บริสุทธิ์ ความซื่อสัตย์ ความอ่อนน้อม มันเป็นพลังงานทางบวกที่มีพลังมาก มันดึงดูดสิ่งดีๆ ให้กับคนที่ยึดถือมันไว้ มันพิสูจน์ไม่ได้ แต่เราๆก็เชื่อว่าจริงใช่มั้ยครับ เหมือนคนกตัญญู สุดท้าย ผลกรรมดีก็ตอบรับเค้าแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
บางคนทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพาย แต่พอแต่งงานแล้วชีวิตก็เปลี่ยนไป เพราะว่า ผมเชื่อว่า บางคนที่ขาดความรัก ความอบอุ่น และกำลังใจจากครอบครัว เค้าไม่มีแรงผลักดันหรอก ไม่มีเหตุผลที่จะต้องประสบความสำเร็จ เมื่อเค้าคิดเช่นนั้น มันก็ไม่มีแรงดึงดูดให้เค้าพบกับความสำเร็จ แต่ถ้าได้ภรรยาที่ดี ภรรยาจะเติมเต็มให้เค้า เค้าจะมีพลัง และเป้าหมายชัดเจน และนี่แหละจะดึงดูดสิ่งดีๆที่เค้าต้องการให้เข้ามาหาเร็วและมากยิ่งขึ้น
เหตุผลแค่นี้คงเพียงพอให้เราหันมารักภรรยากันมากยิ่งขึ้นๆ นะครับ มันมีความลับอยู่ในนั้น แค่ทำในสิ่งที่ถูก ชีวิตก็สดใสแน่นอน
โค้ชหน่อง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
กลัวในที่นี้ ถ้าหมายถึง หง๋อ ไปทุกอย่างน่ะคงเอาดีไม่ได้หรอก
คำว่ากลัวเมีย จริงๆไม่ได้หมายถึงกลัวเมียมาทำร้าย ชกตี หรอกนะ มันหมายถึง
คนที่ให้เกียรติเมีย มีอะไร ปรึกษาหารือกันก่อน ช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจโน่น
มันถึงจะได้ดี เพราะคิดคนเดียวทำคนเดียวมันอาจผิดพลาดได้
ผช ประเภทนี้ มักได้ดี
แต่คนมักแซวว่า ผช พวกนี้กลัวเมีย
คำว่ากลัวเมีย จริงๆไม่ได้หมายถึงกลัวเมียมาทำร้าย ชกตี หรอกนะ มันหมายถึง
คนที่ให้เกียรติเมีย มีอะไร ปรึกษาหารือกันก่อน ช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจโน่น
มันถึงจะได้ดี เพราะคิดคนเดียวทำคนเดียวมันอาจผิดพลาดได้
ผช ประเภทนี้ มักได้ดี
แต่คนมักแซวว่า ผช พวกนี้กลัวเมีย
แสดงความคิดเห็น
..เคยได้ยินเป็นประจำกับคำโบราณว่า"สามีที่กลัวภรรยา" มักจะได้ดี!!เป็นข้อเท็จจริงหรือประโยคบอกเล่ากันรึเปล่าครับ?!!
ขอแชร์ประสบการณ์ชีวิตคู่ในห้องนี้ด้วยคนนะขอรับกระผม!!
ขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ครับ!!