เราเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง เนื้อตัวก็ไม่ได้สกปรกอะไร แต่เสื้อผ้ามันเก่าๆ เชยๆ ไม่ตามแฟชั่นเหมือนที่วัยรุ่นเดียวกันเขาใส่กัน พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็กอยู่กับอาย่า เราก็ไม่ได้มีดีอะไรมากมายแต่ย่าเราสอนให้เป็นคนดี เราจึงเป็นคนค่อนข้างเรียบร้อยนิ่งๆ พูดจากับผู้อื่นก็มีคะ/ค่ะตลอด ไม่เคยได้เกเรหรือสร้างความเดือนร้อนอะไรให้ครอบครัว
..อยู่วันหนึ่ง เราก็นั่งเล่นในออฟฟิตอาเราตามปกติ หาหนังสือการ์ตูนมานั่งอ่านเล่นบ้าง ทำการบ้านบ้าง อาเรานั่งทำงานเอกสารออฟฟิต สักพักมีพี่คนนึงเขาเดินเข้ามาชวนอาคุย คุยกันเรื่องงานอาเราได้เงินเดือนน้อยไม่ค่อยมีเงินเก็บ สักพักเขามองมาที่เราแล้วถามว่า"เราเป็นใคร" อาเราบอกว่า"หลาน" เขาก็บอกว่าเราไงเป็นตัวถ่วงความเจริญ เราได้ยินแล้วก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไปแล้วก็พูดสาระพัดว่าเราเป็นกาฝากเกาะอาเรากินพ่อแม่ก็ไม่มีใครเอาหน้าตาเราก็ขี้เหร่ดำๆคงหาแฟนยากไม่มีใครเอา และเดี๋ยวก็มีผัวเหมือนคนอืนๆเรียนไม่จบอีกสาระพัด เขาพูดมาแบบนี้เราก็เงียบไป..
บอกตรงๆ.... "ร้องไห้เลยค่ะ"
..พออาเราเลิกงานก็พากันกลับบ้าน พร้อมกับความหม่นหมองในจิตใจ" กลับไปเจอย่าทำกับข้าวรอ คำแรกที่ถามย่าในวันนั้น.. ..
............ "ย่าหนูเป็นตัวถ่วงในชีวิตของย่ากับอาจริงหรอ" แล้วเราก็กอดย่าแล้วร้องไห้.............
....ย่าบอกว่า"ใครจะพูดอะไรก็ช่างเขาถ้ายังมีย่าอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องกลัวใครเขาดูถูก"...
... แต่ถึงอย่างไร เราก็ยังคง อดคิดมากกับคำพดของคนเหล่านั้นไม่ได้ ...
.... แต่เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้เราเกิด "พลัง" ที่จะสู้ ทำชีวิตให้ดีขึ้น ขยัน อดทน เพื่อสักวัน จะไม่มีใครมา ทำสายตา"ดูถูก"เราแบบวันนั้นอีก..........
จนตอนนี้เราเรียนหนังสือจบมหาลัยแล้ว กำลังรับปริญญาเดือนมกราคานี้ ถึงจะยังไม่ดีมีงานทำ ก็อย่างน้อยเราก็เรียนจบมันเหมือนเป็นความสำเร็จขั้นแรกของเรา ก็ขอบคุณคำพูดของเขานะมันทำให้เราขยาดในสิ่งที่เขาพูดแล้วถีบตัวเองให้ดีขึ้นจบประสบความสำเร็จ
------อย่าน้อยใจในโชคชะตาเลย อย่างน้อยมันก็ทำให้เราได้สู้ชีวิต------
ปล.รูปสวยๆเอามาจากGOOGLE
เคยโดน"คนดูถูก" ไหม..มันเจ็บลึก จนเกิด"พลัง"
..อยู่วันหนึ่ง เราก็นั่งเล่นในออฟฟิตอาเราตามปกติ หาหนังสือการ์ตูนมานั่งอ่านเล่นบ้าง ทำการบ้านบ้าง อาเรานั่งทำงานเอกสารออฟฟิต สักพักมีพี่คนนึงเขาเดินเข้ามาชวนอาคุย คุยกันเรื่องงานอาเราได้เงินเดือนน้อยไม่ค่อยมีเงินเก็บ สักพักเขามองมาที่เราแล้วถามว่า"เราเป็นใคร" อาเราบอกว่า"หลาน" เขาก็บอกว่าเราไงเป็นตัวถ่วงความเจริญ เราได้ยินแล้วก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไปแล้วก็พูดสาระพัดว่าเราเป็นกาฝากเกาะอาเรากินพ่อแม่ก็ไม่มีใครเอาหน้าตาเราก็ขี้เหร่ดำๆคงหาแฟนยากไม่มีใครเอา และเดี๋ยวก็มีผัวเหมือนคนอืนๆเรียนไม่จบอีกสาระพัด เขาพูดมาแบบนี้เราก็เงียบไป..
บอกตรงๆ.... "ร้องไห้เลยค่ะ"
..พออาเราเลิกงานก็พากันกลับบ้าน พร้อมกับความหม่นหมองในจิตใจ" กลับไปเจอย่าทำกับข้าวรอ คำแรกที่ถามย่าในวันนั้น.. ..
............ "ย่าหนูเป็นตัวถ่วงในชีวิตของย่ากับอาจริงหรอ" แล้วเราก็กอดย่าแล้วร้องไห้.............
....ย่าบอกว่า"ใครจะพูดอะไรก็ช่างเขาถ้ายังมีย่าอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องกลัวใครเขาดูถูก"...
... แต่ถึงอย่างไร เราก็ยังคง อดคิดมากกับคำพดของคนเหล่านั้นไม่ได้ ...
.... แต่เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้เราเกิด "พลัง" ที่จะสู้ ทำชีวิตให้ดีขึ้น ขยัน อดทน เพื่อสักวัน จะไม่มีใครมา ทำสายตา"ดูถูก"เราแบบวันนั้นอีก..........
จนตอนนี้เราเรียนหนังสือจบมหาลัยแล้ว กำลังรับปริญญาเดือนมกราคานี้ ถึงจะยังไม่ดีมีงานทำ ก็อย่างน้อยเราก็เรียนจบมันเหมือนเป็นความสำเร็จขั้นแรกของเรา ก็ขอบคุณคำพูดของเขานะมันทำให้เราขยาดในสิ่งที่เขาพูดแล้วถีบตัวเองให้ดีขึ้นจบประสบความสำเร็จ
------อย่าน้อยใจในโชคชะตาเลย อย่างน้อยมันก็ทำให้เราได้สู้ชีวิต------
ปล.รูปสวยๆเอามาจากGOOGLE