สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเราเริ่มต้นหลัง WW-II เสร็จใหม่ๆ เราจะมี Brand คนไทยได้ง่าย
แต่น่าเสียดาย เรามัวขี้เกียจไม่กระตือรือล้น มีเงินซื้อรถฝรั่ง รถญี่ปุ่นมาขับโฉบไปมา
วิถีชีวิตแค่ 1 Gen เราก็มัวคุยโม้อวดรถฝรั่งเยอรมัน ข่มรถญี่ปุ่น
สุดท้ายจะมาเรียกร้อง Brand คนไทย ....ในขณะที่ชาวโลกเขากระโจนไปตั้งไกล ฝุ่นฟุ้ง จนตกลงกองหมดแล้ว
เริ่มตอนนี้ก็ได้ แต่ต้องออกแรงมากหน่อย รณรงค์ให้สอนลูกหลานหัดภูมิใจประเทศชาติเสียก่อน
เสร็จแล้วค่อยสร้าง Brand ไทยๆ
แต่น่าเสียดาย เรามัวขี้เกียจไม่กระตือรือล้น มีเงินซื้อรถฝรั่ง รถญี่ปุ่นมาขับโฉบไปมา
วิถีชีวิตแค่ 1 Gen เราก็มัวคุยโม้อวดรถฝรั่งเยอรมัน ข่มรถญี่ปุ่น
สุดท้ายจะมาเรียกร้อง Brand คนไทย ....ในขณะที่ชาวโลกเขากระโจนไปตั้งไกล ฝุ่นฟุ้ง จนตกลงกองหมดแล้ว
เริ่มตอนนี้ก็ได้ แต่ต้องออกแรงมากหน่อย รณรงค์ให้สอนลูกหลานหัดภูมิใจประเทศชาติเสียก่อน
เสร็จแล้วค่อยสร้าง Brand ไทยๆ
สมาชิกหมายเลข 2806184 ถูกใจ, The Sphinx ถูกใจ, morirun_mamon ถูกใจ, tongmeng ถูกใจ, sunset at chaophraya ถูกใจ, หมาป่าหนุ่ม ถูกใจ, a-zz ถูกใจ, dent_mod ถูกใจ, Superguiman ถูกใจ, หม่ามี๊น้องยิ้ม ถูกใจรวมถึงอีก 47 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 4
คนไทยเชื่อว่าการที่เงินติดลบปีละหลายพันล้านสิบยี่สิบปีเป็นสิ่งเลวร้ายครับ
เพราะว่าคนไทยไม่เข้าใจว่าความรู้มีค่า และการหาความรู้มีต้นทุนสูง
การลงทุนด้าน RD เราเลยต่ำ ถ้าโปรโตไทป์มันกาก งบวิจัยจะหายไปตั้งแต่ ล๊อตสองล๊อตแรก
ถ้ามันออกเป็นมาสโปรดัคแล้วคืนทุนไม่ได้ภายใน 5 ปี มันจะถูกตัดหางปล่อยวัด
และรับจ้างประกอบ สะดวกกว่า ง่ายกว่า ได้เงินเร็วกว่า
การดิ้นรนในสิ่งที่ผ้หลักผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั้งคนธรรมดา เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ
เลยไม่ค่อยเกิดในไทยครับ
เอาเป็นว่า เมื่อไหร่ที่คนเลิกคิดว่า เรียนวิทยาศาสตรเดี๋ยวก็ตกงาน หรือ จบมาอยากรุ่งต้องไปต่างประเทศหมดไป
หลังจากนั้นเราก็จะมีแบรนไทยที่มั่นคง มีการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนได้โปรดัคในเวลา 10 ปีเองครับ
แค่รอว่าเมื่อไหร่ งบ RD ของไทย จะเป็น 2% ของ GDP ก็พอ
เพราะว่าคนไทยไม่เข้าใจว่าความรู้มีค่า และการหาความรู้มีต้นทุนสูง
การลงทุนด้าน RD เราเลยต่ำ ถ้าโปรโตไทป์มันกาก งบวิจัยจะหายไปตั้งแต่ ล๊อตสองล๊อตแรก
ถ้ามันออกเป็นมาสโปรดัคแล้วคืนทุนไม่ได้ภายใน 5 ปี มันจะถูกตัดหางปล่อยวัด
และรับจ้างประกอบ สะดวกกว่า ง่ายกว่า ได้เงินเร็วกว่า
การดิ้นรนในสิ่งที่ผ้หลักผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั้งคนธรรมดา เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ
เลยไม่ค่อยเกิดในไทยครับ
เอาเป็นว่า เมื่อไหร่ที่คนเลิกคิดว่า เรียนวิทยาศาสตรเดี๋ยวก็ตกงาน หรือ จบมาอยากรุ่งต้องไปต่างประเทศหมดไป
หลังจากนั้นเราก็จะมีแบรนไทยที่มั่นคง มีการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนได้โปรดัคในเวลา 10 ปีเองครับ
แค่รอว่าเมื่อไหร่ งบ RD ของไทย จะเป็น 2% ของ GDP ก็พอ
สมาชิกหมายเลข 2806184 ถูกใจ, Little Miss Overdressed ถูกใจ, ramai ถูกใจ, หมีพูห์แห่งง่อไบ๊ ถูกใจ, หมาป่าหนุ่ม ถูกใจ, a-zz ถูกใจ, Superguiman ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1219477 ถูกใจ, น้ำแข็งใสเปรี้ยวซ่า ถูกใจ, TTIDK ถูกใจรวมถึงอีก 20 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 16
ผลิตรถยนต์เรื่องเล็ก ไมยาก เหล็กที่มีไม่ดีก็สั่ง สั่งจากเยอรมันก็ได้ โรงปั๊มมีเป็นร้อยๆ หรือใช้คารืบอนไฟเบอร์แทนก็ได้ จะสนอะไร
เครื่องยนต์มีแต่เหล็กหล่อ แม่พิมพ์ทราย ลูกสูบกลึงเอา วงจรอิเล็กทรอนกส์สำหรับรถถือว่าบ้านๆ มากเมื่อเทียบกับวงจรอื่นๆ ในปัจจุบัน
โช้คอับไทยทำได้ แม็กไทยทำได้ ยางก็ทำได้ แค่นี้ก็วิ่งได้แล้ว
สิ่งที่ยากลายเป็นเรื่องการตลาด มีจุดขายให้คนซื้อ ต้นทุน ทำรถดีๆ แพงๆ สู้เยอรมันได้ไหม ทำ Super Car แรงสู้อิตาลีได้ไหม
ทำรถดีราคาปานกลาง ทำราคาคุณภาพสู้ญี่ปุ่นได้ไหม ราคถูกสู้จี น อินเดียได้ไหม นี่คือปัญหา
ปัญหาต่อมาในระยะยาวคือแบรนด์ ทำไงให้คนจำได้ ชอบอยากซื้อ ซื้อแล้วใช้ดี แนะนำคนอื่น ฯลฯ แค่ขายก๋วยเตี๋ยวยัง ยากทำรถยนต์
ปีละเป็นแสนเป็นล้านคัน แบรนด์ใหญ่ๆ ยังเอาตัวแทบไม่รอด รถเสียขึ้นมาคันแทบจะประจานทั่วโลก
ปัญหาใหญ่ที่สุดคือเงินทุน สร้างโรงงานผลิตรถยนต์อย่างเดียวไม่พอ (เอาถูกๆ ประกอบเฉยๆ ที่เหลือสั่งเขาหมด) ต้องมีฝ่ายออกแบบด้วย
คิดเครื่องยนต์ ระบบการขับขี่ รถหน้าตาเป็นไงถึงถูกใจ ไม่เอาไรมากสวยกว่าโตโยต้า มาสด้า เบนซ์พอแล้ว แค่นี้ขายดีแน่นอน ลืมไป
ศุนย์ครับศูนย์ 0 บริการ มีเซลล์ มีซ่อมบำรุง สำรองอะไหล่ โฆษณาสร้างแบรนด์ก็เรื่องใหญ่ ทำรถกระบะจะเอาใครไปสู้ Christiano Ronaldo ดี
ประเทศในเอเชียคำำว่ารถยนต์ ล้วยเป็นรถยนต์แห่งชาติทั้งสิ้น (ตามข้อมูลที่มี) ไม่มีใครทำรถยนต์ขายเอง โดยรัฐบาลไม่สนับสนุน ทางตรง
คือเงิน แปลว่าบริษัทผลิตรถยนต์ขายเองเฉยๆ บวกลบคูณหารแล้วสิ้นปีขาดทุนตลอด แต่รัฐบาลเอาเงินมาให้ (จะเป็นรูปแแบบใดก็ตาม)
เพื่อให้บ. อยู่ได้ หรือทางออ้อมก็มีนโยบาย กฎหมายหรืออำนวความสะดวกยังไงก็แล้วแต่ ให้ บ. ขายรถได้มากและมีกำไร ซึ่งตลอดมาไทย
จะ play safe เน้นกินเงินน้อยๆ เสี่ยงน้อยๆ แต่กินยาวด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุน โดยไม่บยอมเสี่ยงลงทุนเองตลอดมา (เหตุผล
เพระาอะไรยังไงขอไม่พูดถึงครับ ไม่ได้รู้ทั้งหมด เอาเป็นว่าที่ผ่านมาเป็นตามนี้)
สรุปปัญหามี 2 ประเด็น
1. การตลาด
2. เงินทุน
แปลไทยเป็นไทย เทคโนโลยีซื้อได้ มีเงินไม๊ ส่งยานไปดาวอังคารก็ได้ คุณภาพแค่ไหนก็จ้างเอาไม่ได้ทำเอง คุณภาพสูงก็เครื่องจักรแพงหน่อย
QC หลายขั้นหน่อย รู้ๆ กันหมดแล้ว แต่ปัญหาทั้งหมดคือ "เอาเงินที่ไหน" และ "เอาไปขายใคร" ทั้งสองย่างนี่ไม่ณุ้ตัวเลขนำหน้า แต่เลข 0
ลงท้ายมี่หลายตัวนับไมถูกแน่นอน
"แต่อยากทำอะ ทำไงดี"
คำตอบคือ Luxury Car ครับจะรออะไร เงินทุนเหรอ Ferrai Rolce Roye พวกนี้ทำที่ละคัน ตามออร์เดอร์ เครื่องทำเองหรือสั่งก็ตามใจ มูลค่า
เพิ่ม-กำไรจะมีก็เพราะ ประกอบมือนี่แหละมีคุณค่า เท่สุดๆ กว่ารถจากโรงงานเป็นไหนๆ เรื่องบริการ ขายปีละ 10 คัน สมมติ คันละ 3 ล้านน่า
จะอยูได้ มีลูกค้า 10 คนดูแลไม่ไหวก็ไม่ต้องทำไรแล้ว ค่าแรงในเมืองไทยผลิตอย่างเดียวมีแต่ตายกับตาย (รบ.ก็บีบ ให้ทำของขายเอง) Skill
ไม่เพิ่ม ถ้ายังทำเหมือนเดิมก็เรียบร้อย
ที่สำคัญรัฐบาลล่ะ เรามองข้ามกันไปหมดว่ารัฐบาลสนับสนุน เปิดช่องให้คนไทยทำเรื่อง Luxury Car มาเป็นสิบๆ ปีแล้วครับ แต่ไม่มีใครสักคน
สนใจ รถสปอร์ทคันละ 20 ล้าน รถ Limousine คนัละ 40-50 ล้าน นำเข้ามาแพงเพราะไร ภาษีทั้งนั้น ราคาขาย ตปท. จริงๆ เอา 4 หาร 5 หาร ประเทศลาว SUper Car ขายกันเกลื่อนเพราะเก็บภาษีเท่าเท่าไทย ทำใช้เองยังไงก็ขายได้ ไม่ต้องดีมาก แค่ 60-70 เปอร์เซนต์ ของแบรนด์นอก
ก็ครองตลาดในประเทศได้แล้ว คนซื้อเยอะแยะ ไม่งั้นรถจดประกอบอะรไต่อมิอะไรค่งไม่มีในบ้านเรา
คูแข่งยุโรปหมดไป ในเอเชียหรือก็สนใจแต่รถในรูปแบบ MAss ลงทุนมากขายมากก กำไรมาก ทำมาก็แพง เจอภาษีเหมือนกันจบเห่
ไม่มีใครนใจแน่นอน
เครื่องยนต์มีแต่เหล็กหล่อ แม่พิมพ์ทราย ลูกสูบกลึงเอา วงจรอิเล็กทรอนกส์สำหรับรถถือว่าบ้านๆ มากเมื่อเทียบกับวงจรอื่นๆ ในปัจจุบัน
โช้คอับไทยทำได้ แม็กไทยทำได้ ยางก็ทำได้ แค่นี้ก็วิ่งได้แล้ว
สิ่งที่ยากลายเป็นเรื่องการตลาด มีจุดขายให้คนซื้อ ต้นทุน ทำรถดีๆ แพงๆ สู้เยอรมันได้ไหม ทำ Super Car แรงสู้อิตาลีได้ไหม
ทำรถดีราคาปานกลาง ทำราคาคุณภาพสู้ญี่ปุ่นได้ไหม ราคถูกสู้จี น อินเดียได้ไหม นี่คือปัญหา
ปัญหาต่อมาในระยะยาวคือแบรนด์ ทำไงให้คนจำได้ ชอบอยากซื้อ ซื้อแล้วใช้ดี แนะนำคนอื่น ฯลฯ แค่ขายก๋วยเตี๋ยวยัง ยากทำรถยนต์
ปีละเป็นแสนเป็นล้านคัน แบรนด์ใหญ่ๆ ยังเอาตัวแทบไม่รอด รถเสียขึ้นมาคันแทบจะประจานทั่วโลก
ปัญหาใหญ่ที่สุดคือเงินทุน สร้างโรงงานผลิตรถยนต์อย่างเดียวไม่พอ (เอาถูกๆ ประกอบเฉยๆ ที่เหลือสั่งเขาหมด) ต้องมีฝ่ายออกแบบด้วย
คิดเครื่องยนต์ ระบบการขับขี่ รถหน้าตาเป็นไงถึงถูกใจ ไม่เอาไรมากสวยกว่าโตโยต้า มาสด้า เบนซ์พอแล้ว แค่นี้ขายดีแน่นอน ลืมไป
ศุนย์ครับศูนย์ 0 บริการ มีเซลล์ มีซ่อมบำรุง สำรองอะไหล่ โฆษณาสร้างแบรนด์ก็เรื่องใหญ่ ทำรถกระบะจะเอาใครไปสู้ Christiano Ronaldo ดี
ประเทศในเอเชียคำำว่ารถยนต์ ล้วยเป็นรถยนต์แห่งชาติทั้งสิ้น (ตามข้อมูลที่มี) ไม่มีใครทำรถยนต์ขายเอง โดยรัฐบาลไม่สนับสนุน ทางตรง
คือเงิน แปลว่าบริษัทผลิตรถยนต์ขายเองเฉยๆ บวกลบคูณหารแล้วสิ้นปีขาดทุนตลอด แต่รัฐบาลเอาเงินมาให้ (จะเป็นรูปแแบบใดก็ตาม)
เพื่อให้บ. อยู่ได้ หรือทางออ้อมก็มีนโยบาย กฎหมายหรืออำนวความสะดวกยังไงก็แล้วแต่ ให้ บ. ขายรถได้มากและมีกำไร ซึ่งตลอดมาไทย
จะ play safe เน้นกินเงินน้อยๆ เสี่ยงน้อยๆ แต่กินยาวด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุน โดยไม่บยอมเสี่ยงลงทุนเองตลอดมา (เหตุผล
เพระาอะไรยังไงขอไม่พูดถึงครับ ไม่ได้รู้ทั้งหมด เอาเป็นว่าที่ผ่านมาเป็นตามนี้)
สรุปปัญหามี 2 ประเด็น
1. การตลาด
2. เงินทุน
แปลไทยเป็นไทย เทคโนโลยีซื้อได้ มีเงินไม๊ ส่งยานไปดาวอังคารก็ได้ คุณภาพแค่ไหนก็จ้างเอาไม่ได้ทำเอง คุณภาพสูงก็เครื่องจักรแพงหน่อย
QC หลายขั้นหน่อย รู้ๆ กันหมดแล้ว แต่ปัญหาทั้งหมดคือ "เอาเงินที่ไหน" และ "เอาไปขายใคร" ทั้งสองย่างนี่ไม่ณุ้ตัวเลขนำหน้า แต่เลข 0
ลงท้ายมี่หลายตัวนับไมถูกแน่นอน
"แต่อยากทำอะ ทำไงดี"
คำตอบคือ Luxury Car ครับจะรออะไร เงินทุนเหรอ Ferrai Rolce Roye พวกนี้ทำที่ละคัน ตามออร์เดอร์ เครื่องทำเองหรือสั่งก็ตามใจ มูลค่า
เพิ่ม-กำไรจะมีก็เพราะ ประกอบมือนี่แหละมีคุณค่า เท่สุดๆ กว่ารถจากโรงงานเป็นไหนๆ เรื่องบริการ ขายปีละ 10 คัน สมมติ คันละ 3 ล้านน่า
จะอยูได้ มีลูกค้า 10 คนดูแลไม่ไหวก็ไม่ต้องทำไรแล้ว ค่าแรงในเมืองไทยผลิตอย่างเดียวมีแต่ตายกับตาย (รบ.ก็บีบ ให้ทำของขายเอง) Skill
ไม่เพิ่ม ถ้ายังทำเหมือนเดิมก็เรียบร้อย
ที่สำคัญรัฐบาลล่ะ เรามองข้ามกันไปหมดว่ารัฐบาลสนับสนุน เปิดช่องให้คนไทยทำเรื่อง Luxury Car มาเป็นสิบๆ ปีแล้วครับ แต่ไม่มีใครสักคน
สนใจ รถสปอร์ทคันละ 20 ล้าน รถ Limousine คนัละ 40-50 ล้าน นำเข้ามาแพงเพราะไร ภาษีทั้งนั้น ราคาขาย ตปท. จริงๆ เอา 4 หาร 5 หาร ประเทศลาว SUper Car ขายกันเกลื่อนเพราะเก็บภาษีเท่าเท่าไทย ทำใช้เองยังไงก็ขายได้ ไม่ต้องดีมาก แค่ 60-70 เปอร์เซนต์ ของแบรนด์นอก
ก็ครองตลาดในประเทศได้แล้ว คนซื้อเยอะแยะ ไม่งั้นรถจดประกอบอะรไต่อมิอะไรค่งไม่มีในบ้านเรา
คูแข่งยุโรปหมดไป ในเอเชียหรือก็สนใจแต่รถในรูปแบบ MAss ลงทุนมากขายมากก กำไรมาก ทำมาก็แพง เจอภาษีเหมือนกันจบเห่
ไม่มีใครนใจแน่นอน
yamr ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2660211 ถูกใจ, ช้า ช้า ได้พร้าเล่มเดียว ถูกใจ, it doesn't mean i don't miss u ถูกใจ, ยกพลขึ้นบก ถูกใจ, เด็กวัดสะพานใหม่ ถูกใจ, Tom Bombadil ถูกใจ, Avexiouz ถูกใจ, KUDOS-C ถูกใจ, Kanistha23Aug ถูกใจรวมถึงอีก 1 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเราถึงไม่สามารถผลิตรถยนต์ brand ไทยได้ครับ
เทคโนโลยี่การผลิตซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากต่างชาติก็ครบถ้วน
ชาติอื่นๆ ไม่ว่า เกาหลี มาเลเซีย จีน อินเดีย ใช้เวลาไม่ถึง 20 ปี สามารถผลิตรถยนต์ BRAND ตัวเองใช้เองได้
สามารถพัฒนาต่อเนื่อง ส่งไปขายต่างประเทศได้
อุปสรรคที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ครับ