สวัสดีปีใหม่ 2559 ขอมอบข้อคิด 9 เลิก 9 เริ่ม สำหรับปีใหม่ที่ถึงนี้ครับ

ก่อนอื่นก็ขอ สวัสดีปีใหม่ที่ถึงนี้ด้วยครับ  เอาล่ะครับ กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้ที่เพ้อเจ้อยาวๆ   สำหรับคนที่คิดว่า ปีใหม่นี้  ที่อยากจะเริ่มเป็นคนใหม่ เป็นคนที่ดีกว่าเดิม  แต่เอ๊ะ.... จะเริ่มยังไงดี  สำหรับหลายๆคนก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหน  เอาเป็นว่า ผมมีข้อคิด 18 ข้อให้ได้เลือกใช้  โดยแบ่งเป็น 9 ข้อสำหรับเลิกสิ่งที่ไม่ดี  และ 9 ข้อสำหรับเริ่มทำสิ่งดีๆ  สำหรับปีที่ลงท้ายด้วยเลข 9 อย่างปี 2559 นี้ครับ
               ซึ่งกระทู้นี้ก็ไม่วายเป็นการเผางานเขียนยาวๆอีกเช่นเคย  จึงอาจมีข้อผิดพลาดบ้าง  ไม่โดนใจบ้าง  อาจมีคำแรงบ้าง เนื้อหาแรงๆ ก็แล้วแต่ท่านผู้อ่านจะพิจารณาครับ

               เอาล่ะครับ  ข้อคิด 9 เลิก 9 เริ่ม นี่มันเป็นยังไงบ้าง  เรามาลองดูกัน  แต่ก่อนอื่นขอเกริ่นที่มาซักเล็กน้อย  โดยข้อคิดที่ผมได้เร่งเขียนเป็นกระทู้นี้ก็มีที่มาจากการที่สังคมเรา  มันค่อนข้างที่จะวุ่นวายพอสมควรเลยล่ะ  และสาเหตุมันก็มาจาก "คน" เรานี่แหละ  ที่มันทำให้วุ่นวาย  คนล่ะเล็กละน้อยก่อน ค่อยมากขึ้นตามทัศนคติที่บิดเบือนไป  จนบางครั้ง บางคน ไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก  ซึ่งถ้าเราเริ่มตระหรักรู้ เพียงแค่เล็กน้อย ก็จะสามารถชลอความเสื่อมแห่งสังคม  หรือช่วยแก้ไขสังคมที่บิดเบือนวุ่นวายที่เราอาศัยอยู่ร่วมกันได้ครับ  ผมเชื่ออย่างนั้น
               ดังนั้น 9 เลิก  9 เริ่มมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ

9เลิก 9 เริ่ม

9เลิก
1.เลิกเป็นเจ้าของถนน   ขับรถเร็วเกิน 90 กม./ชัวโมง
          ประมาณการว่า 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุ ในทุกวันนี้ ไม่ได้ตายเพราะความประมาทของตัวเอง  พวกเขาถูกฆ่า ด้วยความประมาทของคนจำนวนหนึ่ง ที่คึกคะนอง ไม่ใส่ใจในความปลอดภัยคนอื่น  สนองต่อความต้องการของตัวเองเท่านั้น  ซึ่งในหลายๆครั้ง  คนที่ถูกฆ่าไปด้วยกันนั้นด้วยอุบัติเหตุในการจราจรนั้น  คือคนที่เขาพวกนั้นเรียกว่า “คนที่รัก” หรือ “คนในครอบครัวเอง” คุณอาจจะคิดว่าเวอร์เกินไปหรือเปล่า  เปล่าเลย มันแค่ยังไม่ถึงเวลาพลาดของคุณเท่านั้น
          มีคำพูดหนึ่งซึ่งมีคนเคยพูดเอาไว้(ซึ่งผมก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นใคร) ว่า “คุณเป็นได้เพียงแค่เจ้าของรถ  คุณไม่ได้เป็นเจ้าของถนน”  ประมาณนี้  ซึ่งผมว่ามันถูกต้องที่สุด  แม้ถนนจะสร้างด้วยเงินภาษีทุกคน  แต่ก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของได้  และในเมื่อทุกคนจ่ายภาษีสร้างมาร่วมกัน ทุกคนย่อมมีสิทธิที่จะใช้ได้ร่วมกัน  ในกฏ กติกา เดียวกัน เพื่อความปลอดภัยในทุกคนที่ใช้ร่วมกัน  ดังนั้นอย่าเอารัดเอาเปรียบคนอื่นในการใช้รถใช้ถนนครับ จะได้ไม่มีใครต้องตายอีก  เพราะกฏหมายจราจร ทำมาเพื่อไม่ให้มีใครมาต้อง "ตาย" ในการใช้รถ ใช้ถนนร่วมกัน

2.เลิกอวด
         พฤติกรรมคนที่ทำร้ายคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัวอย่างหนึ่งคือการอวด  ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ  แต่มันเป็นสิ่งเล็กๆที่เป็นลิ่มคอยทิ่มแทงคนรอบข้างให้แตกหักอยู่เสมอ คนที่คุณรัก คนที่คุณรู้จัก หรือกระทั่งคนรอบๆตัวคนทุกคน  ย่อมมีปมในใจกันทั้งสิ้น  บางครั้งบางคนเองก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าการลบปมของตัวเองโดยการอวด  ไปสร้างปมในใจของอีกคนขึ้น จนกลายเป็นความไม่พอใจกัน  เป็นลิ่มเล่มเล็กๆที่คอยตอกความสัมพันธ์ให้แตกแยกอยู่ร่ำไป
         เอาล่ะ คุณลองนึกดูสิ คุณเคยไปบอกใครต่อใครไหมว่า “ญาติ(ห่างๆ)ฉันได้เรียนหมอ”  “ฉันมีมือถือแพง(ที่พึ่งผ่อนออกมา)” “ฉันกินอาหารหรู(แต่ฉันติดเงินเพื่อนอยู่)”  “ฉันรักพ่อแม่ปู่ย่าตายายฉัน(แต่ฉันทำแค่เพียงไปถ่ายรูปกับพวกท่าน)” “ฉันไปสถานที่ต่างๆเพื่อไปถ่ายรูปว่าฉันได้ไป(ไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อน แค่ไปให้รู้คนอื่นรู้ว่าเราได้ไป  รีบไปถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับ)”  ลองมองดูว่าเราเป็นแบบนี้มั่งหรือเปล่า  เราเป็นคนแบบนี้หรือเปล่า


3.เลิกเป็นวีไอพี
         เงิน ไม่ได้ซื้อของทุกอย่างบนโลกนี้ได้   และที่สำคัญถ้าเงินนั้นน้อยกว่ามูลค่าของที่จะซื้อ ก็ย่อมจะซื้อของสิ่งนั้นๆ หรือบริการนั้นๆไม่ได้เช่นกัน การที่คุณซื้อของแค่หลักสิบ หลักร้อย  แต่ต้องการการเอาใจระดับการซื้อสินค้าหลักแสนหลักล้าน มันเกินไป  เพราะเมื่อคุณมองกลับกัน  ถ้ามีคนยื่นเงินให้คุณ 10 บาท แล้วให้คุณวิ่งสิบกิโล  คุณยอมทำได้ไหม  ค่าของผลตอบแทนนั้นมันคุ้มค่าหรือเปล่า  เงินสิบบาทของคนหนึ่งกับเงินสิบบาทของอีกคน มันไม่เท่ากันหรือ
        VIP เป็นตัวย่อของคำว่า Very Important Person  ที่แปลว่า บุคคลที่เป็นคนสำคัญ   แต่เราก็เห็นคนทำตัวที่สำคัญตัวว่า ตัวเองนั้นมีค่ามากมายเหลือเกินอยู่เสมอ  เงินของฉันมีค่ามากมาย ฉันมีเงิน 10 บาท 100บาท พ่อค้าแม่ค้าต้องแย่งมาอยากได้เงินของฉัน  คนแบบนี้ก็จะเป็น VIP เช่นกัน แต่เป็น VIP ที่ย่อมาจาก  Very Idiot Person  หรือคนที่น่ารังเกียจนั่นเองครับ

4.เลิกพวกพ้อง เข้าข้าง
         อีกหนึ่งวิถีของคนไทยที่ทำให้สังคมไทยอยู่กันยาก ไม่ถึงกับลำบาก แต่ทำให้ไร้ความสงบสุขกัน   ไม่เข้าข้างฉันคือศัตรู  พวกพ้องฉันไม่เคยผิด  เพราะทุกวันนี้ คนจำนวนมากตกเป็นเครื่องมือของคนบางคน  คนที่ชอบบงการคนอื่น  เอาคนอื่นมาเป็นเกราะป้องกันผลกระทบต่อการกระทำชั่วของตัวเอง  อย่างเห็นๆกันอยู่ทุกคนคือ นักการเมืองที่คอยยุยงปลุกปั่นคนให้เกลียดกัน  การแบ่งคนแบ่งคณะ แบ่งสถาบันการศึกษา รับน้อง เพื่อเงิน เพื่ออำนาจการปกครอง  แล้วทำร้ายโจมตีฝ่ายตรงข้ามที่ตัวเองไม่ชอบ
         สิ่งเหล่านี้เป็นภัยร้ายอย่างหนึ่งที่แฝงตัวอยู่ในสังคม  หลายต่อหลายครั้งคนหลงเชื่อก็ผิดใจกับคนที่รักกันเพียงเพราะว่าแรงยั่วยุ การเลือกข้างพวกพ้องบดบังตาอยู่  พ่อแม่เกลียดและเป็นศัตรูกับลูก  ทำร้ายอาฆาตลูกเพราะไม่อยู่เป็นพวกเดียวกัน  พี่น้องแท้ๆทำร้ายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันเพราะเรียนคนล่ะสถาบัน คนละคณะ  ฯลฯ  เรื่องเหล่านี้ เริ่มมีมากขึ้นในสังคมไทย  หากเราไม่เริ่มตระหนักรู้  ความรุนแรงก็จะยิ่งส่งผลร้ายมากขึ้นไปเรื่อยๆ

5.เลิกอ้าง
         ความรับผิดชอบ มันจะอยู่คู่กับคนที่มีวุฒิภาวะอยู่เสมอ  แต่สำหรับคนที่ไร้วุฒิภาวะ  การปัดการรับผิดชอบ จะมาพร้อมกับการอ้างอยู่เสมอ  แทนที่จะเป็นเหตุและผลสำหรับการกระทำนั้นๆ
    ฉันมาสาย เพราะฉันนอนดึก
    ฉันขโมยของ เพราะฉันอยากได้
    ฉันชกต่อยทำร้ายตบตีคนนั้นๆ เพราะฉันไม่ชอบขี้หน้า
    ฉันฝ่าฝืนกฏจราจร เพราะฉันรีบ
    ฉันทำคนตาย เพราะฉันลืมระวังตัว
          ฉัน.... ทั้งหลายนี้  คือ การบ่งบอกว่าคนๆนั้น ไร้ซึ่งความคิด และความรับผิดชอบ  อะไรก็ได้ที่สามารถยกเลิกความผิด ความรับผิดชอบได้  ฉันจะทำมัน  ซึ่งคนเราบางคน เราไม่รู้ตัวหรอกว่า เป็นคนไร้ความรับผิดชอบและชอบอ้างเพื่อพ้นผิด  แต่นั่นแหละ  “คนชั่ว”ไม่ค่อยมีใครรู้ตัวว่า “จิตใจชั่วร้าย” หรอกครับ

6.เลิกสูงส่ง
    ฉันมีเงิน ฉันสูงส่ง เงินฉันซื้อทุกอย่างได้
    ฉันจน ฉันสูงส่ง  ฉันเป็นคนดี ฉันไม่เอารัดเอาเปรียบคนจน จนฉันรวย
    ฉันเป็นลูกค้า ฉันสูงส่ง ฉันคือพระเจ้า
    ฉันสนับสุนฝ่ายการเมือง ฉันสูงส่ง  ฉัน(คิดไปเองว่า)สนับสนุนคนดี
    ฉันเป็นเจ้านาย ฉันสูงส่ง สิ่งที่ฉันคิดต้องถูกต้อง
    ฉันบวชเป็นพระ ฉันสูงส่ง ฉันอยู่ในศาสนา(แต่ไม่รักษาศีล)
    ฉันเป็นข้าราชการ ฉันสูงส่ง ฉันมียศถาบรรดาศักดิ์
            ฉันฯลฯ ฉันสูงส่ง  ทั้งหลายทั้งปวงคือการ ยกย่องตัวเองให้สูงส่งกว่าผู้อื่น ด้วยสิ่ง  ที่เป็นแค่เปลือกนอกของตัวเอง  หาใช่เนื้อแท้ของตัวบุคคลไม่  แต่เป็นการเอาตัวเองไปผูกติดกับความดีของผู้อื่นที่เคยกระทำมา  แล้วมองผู้อื่นว่าต่ำต้อย  ไม่ควรค่าจะมาติติง เอาผิดตัวเองได้
            สุดท้ายก็กลายเป็นเพียงแค่  คนสูงส่งจอมปลอม


7.เลิกเรียกร้องน้ำใจ
           ประตูบานแรกของการเป็นคนชั่วคือ การเรียกร้องหาน้ำใจ  เพื่อให้คนอื่นยอมให้ตามที่เรียกร้อง  สิ่งนั้นไม่ใช่น้ำใจ  แต่เป็นการให้เพราะการถูกบังคับ อย่างช่วยไม่ได้  มุมมองต่างมุม คนได้รับดีใจมีคนให้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ  แต่มุมมองของผู้ให้ ความรู้สึกเขาคือ ถูกปล้น แม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยๆก็ตาม
    เรียกร้องเงินเล็กๆน้อยๆ  ไม่ใช่น้ำใจ
    เรียกร้องการบริการ  ไม่ใช่น้ำใจ
    เรียกร้องการเสียสละ  ไม่ใช่น้ำใจ
          เรียกร้องอะไรก็ตามจากคนอื่น  ไม่ใช่น้ำใจ  ดังนั้น จงอย่าใช้คำว่าน้ำใจ เพื่อไปเรียกร้องการพึ่งพาจากคนอื่น  จงพึ่งพาตัวเอง ด้วยตัวเองก่อนให้ดีกว่า  เหลือบ่ากว่าแรง น้ำใจมันจะมาเองโดยที่ไม่ต้องเรียกร้องขอครับ

8.เลิกชนะ เลิกแข่งขัน
          ชัยชนะที่ให้แต่โทษ หรือไร้ประโยชน์  มันเป็นชัยชนะที่ไร้ความหมายที่จะกระทำ  ทุกวันนี้ถ้าเราพิจารณาเพื่อมอง  จะเห็นการแข่งขันที่ไม่ก่อประโยชน์ในชีวิตรอบตัวเรามากมาย   แข่งกันขับรถเร็วไม่ยอมให้คนอื่นแซง  แข่งขันกันทางฐานะทางสังคมทำร้ายกันลับหลัง  โอ้อวดทรัพย์สินเพื่อแข่งขัน  ต้องมีถึงจะไม่แพ้
          ชนะแล้วโอ้อวด  ชนะแล้วเยาะเย้ยผู้แพ้  แต่ถ้าคิดให้ดี  อีกฝ่ายอาจเป็นเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสนิท เพือนไม่สนิท  สิ่งนั้นจะทำให้ความรู้สึกดีๆของอีกฝ่ายค่อยๆห่างหายโดยที่เราไม่รู้ตัวก็เป็นได้นะครับ

9.เลิกสบถ
          ทุกวันนี้ แทบทุกคนพูดคำหยาบได้อย่างไม่รู้สึกอะไร  แต่เราเองก็ไม่ได้อะไรนอกจากคำพูดเหล่านั้นนอกจากความสะใจ  สิ่งที่ได้กลับมาคือ ความก้าวร้าวขึ้นเรื่อยๆ  บางครั้งบางคนติดจนเป็นนิสัย  กลับไปพูดกับครอบครัว  ผลที่ได้คือความก้าวร้าว รุนแรงกันในครอบครัว  สามีภรรยาพูดกันด้วยคำสบถ จากนั้นก็เริ่มรุนแรงทะเลาะกันโดยไร้สาเหตุ ไร้เรื่องราว เพราะเพียงแค่ไม่พอใจกันด้วยคำพูด  ลูกๆเด็กๆติดคำสบถ จากพ่อแม่ จากพี่น้อง กลายเป็นเด็กก้าวร้าว เอาแต่ใจ  นี่คือจุดเริ่มต้นปัญหาเล็กๆที่เกิดขึ้นในครอบครัว สังคมเพื่อนสนิท มิตรสหาย  ที่จะรอวันห่างหายกันไป เพราะการไม่ใส่ใจในการพูดคุยดีๆต่อกัน
        

              จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่นำไปสู่ปัญหาใหญ่  จะสามารถแก้ไขได้ด้วยการละทิ้งสิ่งที่เราคิดว่ามันไม่ดีไป  แล้วไม่ประพฤติปฏิบัติสิ่งที่เป็นผลเสีย  บางคนอาจมองว่าเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ  แต่ถ้าแค่เพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ยังทำไม่ได้แล้ว ก็คาดหวังเรื่องที่ใหญ่กส่านี้ได้ยากแล้วล่ะครับ


ปล.ก่อนจะเริ่มเรื่องต่อไปในความเห็นต่อไปเนื่องจากบทความยาวเกินไป  ใครเห็นชอบว่าดี กดบวกให้ที่กระทู้ด้วยครับ อมยิ้ม17อมยิ้ม17
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่