เพราะคำพูดของ 'เด็ก' ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ มีเหตุผลและหลักการขนาดไหน มีลักษณะเป็นประโยคอะไร พูดด้วยอารมณ์ไหน ล้วนแต่ไร้น้ำหนักและไร้เหตุผล และเป็นเพียงการสื่อสารโดยใช้อารมณ์ล้วนๆ
ถามว่าทำไม
คำตอบง่ายๆ เพราะ 'ผู้ใหญ่' ไม่ฟัง และ ไม่เคารพ
เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นสดๆ เมื่อกี้นี้เอง ระหว่างผม เด็กอายุ 29 ปี กับผู้ใหญ่อายุ 60 กว่า นางเป็นเพื่อนพ่อผม และเป็นนายจ้างผมด้วย
ผม: ยอดเดือนนี้คือ 53,... (ห้าหมื่นสาม...)
ประโยคเต็มที่ผมกำลังพูด คือ "ห้าหมื่นสามพันหกร้อยบาท บวกกับค่ารูปสีน้ำมัน สามพันหกร้อยบาท รวมเป็นห้าหมื่นเจ็ดพันสองร้อยบาท มีเงินมัดจำค้างชำระรวมอยู่ด้วย สามพันบาท"
เจ้านาย: ไก่! (นามสมมติ)
นางพูดเสียงแข็งกับผม
เจ้านาย: เมื่อวานบอกห้าหมื่นสามวันนี้บวกเพิ่มจะเป็นห้าหมื่นสามได้ยังไง
ผม: ก็... (คำเดียว)
เจ้านาย: เมื่อวานบวกถึงวันที่ 29
ผมก็รวมยอดถึงวันที่ 29 ตีออกมาได้ 49,000 เศษๆ
ผม: สี่หมื่นเก้า...
เจ้านาย: จะไม่ให้โกรธได้ยังไง
นางเริ่มตะวาดใส่(หน้า)ผม
เจ้านาย: เมื่อวานรายงานถึงวันที่ 29 โพสต์ตอนเช้าวันที่ 30
รายงานยอดกันใน Line ส่วนเวลาจริงที่ผมรายงานคือ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ณ เวลา 20:08 นาฬิกา ตามเวลาประเทศไทย (ซึ่งในขณะนั้นนางก็อยู่ในประเทศไทย) และรายงานถึงวันที่ 29 ที่นางว่าจริงๆ คือ ยอดรวมตอนหมดวันที่ 30 แล้ววันนี้นางก็มาขอยอดรวมล่าสุด
จนท้ายที่สุดผมต้องคำณวนจนถึงยอดล่าสุดแล้วหยิบเครื่องคิดเลขมากดรายการอื่นเพิ่มเข้าไปจนได้ยอดรวมจริงๆ จากนั้นนางหอบรายงานที่ผมพิมพ์ออกมาแล้วจากไปอย่างไว ซึ่งแน่นอนไอ้ที่ผมจะอธิบายก็ไม่ได้ลั่นออกจากปากผมสักคำเดียว
ผมจะพูดคุยกับนางแบบยิ้มแย้มแต่มใสก็ต่อเมื่อเราเห็นพ้องต้องกัน หรือผมไปขอคำแนะนำจากนาง แต่ถ้าผมเกิดคิดไม่ตรงใจนางเมื่อไหร่นางพร้อมจะทิ้งสติและเหตุผลเพื่อปรับทัศนคติของผมทันที ไม่ว่าผมจะผิดจริงหรือแค่ไม่รู้
สรุปว่าที่นางเคยบอกผมว่า "เถียงได้ถ้ามีเหตุผล" มันคงเป็นแค่ลมปากเวลาเจอคำถามปลิดชีพเท่านั้นสินะ เพราะถึงเวลาปฏิบัตินางไม่ฟังเสร็จแล้วก็มาทวงถามว่า "จะไม่ให้โกรธได้ยังไง" ผมว่าคนที่ควรโกรธมันน่าจะเป็นผมนะ เพราะผมรู้สึกถูกดูหมิ่น และถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเด็กอนุบาลหมีน้อย
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดความเคารพนี่มันเหมือนการค้าขายนะ คือเรายื่นของให้เขาแล้วเขาก็จ่ายเงินมา เราขายความเคารพให้เขา แล้วเขาก็จ่ายความเคารพกลับมาที่เรา แต่ทุกวันนี้รู้สึกเหมือนมันเป็นการส่งเครื่องราชบรรณาการ ที่เมืองประเทศราชจะส่งเครื่องราชบรรณาการไปที่พระนครหลวง แล้วพระนครหลวงไม่จำเป็นจะต้องให้อะไรตอบแทน
สรุปว่านี่คือคำอธิบายของตรรกะ "เด็กห้ามเถียงผู้ใหญ่" ใช่ไหมครับ
นี่ขนาดผมเป็นลูกเพื่อนยังโดนขนาดนี้ นี่ถ้าเป็นลูกจ้างคนอื่นบอกตรงๆ ผมนึกไม่ออก
ผมไม่ได้ว่าพวกผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติกับเด็กแบบใจเขาใจเราและนายจ้างที่มีสติพอจะรับฟังคำอธิบายของลูกจ้างนะนะ แต่ผมกำลังด่าพวกที่ชอบทำตัวเหมือนเป็นผู้ประเสริฐเหนือสรรพสิ่งกับเด็กหรือคนอายุน้อยกว่า
ผมรู้แล้ว ว่าทำไม 'เด็ก' ถึงห้ามเถียง 'ผู้ใหญ่'
ถามว่าทำไม
คำตอบง่ายๆ เพราะ 'ผู้ใหญ่' ไม่ฟัง และ ไม่เคารพ
เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นสดๆ เมื่อกี้นี้เอง ระหว่างผม เด็กอายุ 29 ปี กับผู้ใหญ่อายุ 60 กว่า นางเป็นเพื่อนพ่อผม และเป็นนายจ้างผมด้วย
ผม: ยอดเดือนนี้คือ 53,... (ห้าหมื่นสาม...)
ประโยคเต็มที่ผมกำลังพูด คือ "ห้าหมื่นสามพันหกร้อยบาท บวกกับค่ารูปสีน้ำมัน สามพันหกร้อยบาท รวมเป็นห้าหมื่นเจ็ดพันสองร้อยบาท มีเงินมัดจำค้างชำระรวมอยู่ด้วย สามพันบาท"
เจ้านาย: ไก่! (นามสมมติ)
นางพูดเสียงแข็งกับผม
เจ้านาย: เมื่อวานบอกห้าหมื่นสามวันนี้บวกเพิ่มจะเป็นห้าหมื่นสามได้ยังไง
ผม: ก็... (คำเดียว)
เจ้านาย: เมื่อวานบวกถึงวันที่ 29
ผมก็รวมยอดถึงวันที่ 29 ตีออกมาได้ 49,000 เศษๆ
ผม: สี่หมื่นเก้า...
เจ้านาย: จะไม่ให้โกรธได้ยังไง
นางเริ่มตะวาดใส่(หน้า)ผม
เจ้านาย: เมื่อวานรายงานถึงวันที่ 29 โพสต์ตอนเช้าวันที่ 30
รายงานยอดกันใน Line ส่วนเวลาจริงที่ผมรายงานคือ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ณ เวลา 20:08 นาฬิกา ตามเวลาประเทศไทย (ซึ่งในขณะนั้นนางก็อยู่ในประเทศไทย) และรายงานถึงวันที่ 29 ที่นางว่าจริงๆ คือ ยอดรวมตอนหมดวันที่ 30 แล้ววันนี้นางก็มาขอยอดรวมล่าสุด
จนท้ายที่สุดผมต้องคำณวนจนถึงยอดล่าสุดแล้วหยิบเครื่องคิดเลขมากดรายการอื่นเพิ่มเข้าไปจนได้ยอดรวมจริงๆ จากนั้นนางหอบรายงานที่ผมพิมพ์ออกมาแล้วจากไปอย่างไว ซึ่งแน่นอนไอ้ที่ผมจะอธิบายก็ไม่ได้ลั่นออกจากปากผมสักคำเดียว
ผมจะพูดคุยกับนางแบบยิ้มแย้มแต่มใสก็ต่อเมื่อเราเห็นพ้องต้องกัน หรือผมไปขอคำแนะนำจากนาง แต่ถ้าผมเกิดคิดไม่ตรงใจนางเมื่อไหร่นางพร้อมจะทิ้งสติและเหตุผลเพื่อปรับทัศนคติของผมทันที ไม่ว่าผมจะผิดจริงหรือแค่ไม่รู้
สรุปว่าที่นางเคยบอกผมว่า "เถียงได้ถ้ามีเหตุผล" มันคงเป็นแค่ลมปากเวลาเจอคำถามปลิดชีพเท่านั้นสินะ เพราะถึงเวลาปฏิบัตินางไม่ฟังเสร็จแล้วก็มาทวงถามว่า "จะไม่ให้โกรธได้ยังไง" ผมว่าคนที่ควรโกรธมันน่าจะเป็นผมนะ เพราะผมรู้สึกถูกดูหมิ่น และถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเด็กอนุบาลหมีน้อย
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดความเคารพนี่มันเหมือนการค้าขายนะ คือเรายื่นของให้เขาแล้วเขาก็จ่ายเงินมา เราขายความเคารพให้เขา แล้วเขาก็จ่ายความเคารพกลับมาที่เรา แต่ทุกวันนี้รู้สึกเหมือนมันเป็นการส่งเครื่องราชบรรณาการ ที่เมืองประเทศราชจะส่งเครื่องราชบรรณาการไปที่พระนครหลวง แล้วพระนครหลวงไม่จำเป็นจะต้องให้อะไรตอบแทน
สรุปว่านี่คือคำอธิบายของตรรกะ "เด็กห้ามเถียงผู้ใหญ่" ใช่ไหมครับ
นี่ขนาดผมเป็นลูกเพื่อนยังโดนขนาดนี้ นี่ถ้าเป็นลูกจ้างคนอื่นบอกตรงๆ ผมนึกไม่ออก
ผมไม่ได้ว่าพวกผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติกับเด็กแบบใจเขาใจเราและนายจ้างที่มีสติพอจะรับฟังคำอธิบายของลูกจ้างนะนะ แต่ผมกำลังด่าพวกที่ชอบทำตัวเหมือนเป็นผู้ประเสริฐเหนือสรรพสิ่งกับเด็กหรือคนอายุน้อยกว่า