วันนี้ในช่วงที่นั่งสรุปผลงานการลงทุนในปี 2015 ของตัวเองอยู่ ก็ได้คิดทบทวนและสรุปแนวทางของตัวเองไว้ในเบื้องต้น 30 ข้อ เห็นว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนมือใหม่ๆ จึงอยากจะแชร์แนวทางของผมไว้ให้มือใหม่ได้ศึกษาเป็นทางเลือกแนวทางหนึ่งนะครับ (ถ้าขัดแย้งกับมือเก่าๆบางท่านก็ขออภัยด้วย)
สรุปข้อคิดเบื้องต้นที่ได้เรียนรู้จากการลงทุนในตลาดหุ้นตลอด 14 ปีที่ผ่านมา
(นี่คือแนวทางการลงทุนของผมนะครับ ถ้าข้อไหนขัดกับแนวทางการลงทุนของท่าน ท่านก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อและทำตามครับ)
1. พอร์ตเล็กมีโอกาสทำกำไรได้สูงกว่าพอร์ตใหญ่
2. ไม่ว่าจะ VI หรือเทคนิก จะเล่นสั้นหรือยาว ถ้าศึกษารู้จริงล้วนสามารถทำกำไรสูงๆจนเป็นอิสระทางการเงินได้ทั้งนั้น
3. ถ้าต้องการจะเป็นอิสระทางเวลา และสบายใจไม่ต้องเครียดทุกๆวัน ควรลงทุนระยะยาว มองที่มูลค่ากิจการไม่ใช่ราคา
4. การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) กับการถือหุ้นยาวไม่เหมือนกัน การติดดอยไม่เรียกว่าการลงทุนแบบ VI ถ้าพื้นฐานแย่ลงก็ไม่ควรกอดหุ้นไว้
5. อดีตที่สวยหรูของบริษัท ไม่ได้รับประกันว่าอนาคตจะต้องดีด้วย การติดตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจเสมอๆเป็นสิ่งจำเป็น
6. ไม่มีใครรู้จริง ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ราคาหุ้น สภาวะตลาด หรือแม้แต่ผลประกอบการได้อย่างแม่นยำทุกครั้งไป สิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ การเผื่อใจวางแผนเตรียมรับมือกรณีฉุกเฉินเป็นสิ่งจำเป็น
7. หุ้นขึ้นแรงๆมีทุกวัน อย่าไปไล่ซื้อ เรารวยได้โดยไม่จำเป็นต้องไปมีส่วนร่วมในหุ้นทุกตัวที่ขึ้นแรง
8. ไม่มีงานสัมนาไหนที่จะเปลี่ยนคนให้ลงทุนเก่งขึ้นได้จริงแบบทันทีทันใด ดังนั้นอย่าเสียเงินแพงๆไปอบรมสัมนาหุ้นเพื่อหวังรวยเร็ว
9. การลงทุนคือการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร ไม่มี Short cut ไม่มีวิธีรวยเร็ว มีแต่ต้องทุ่มเทศึกษา สะสมความรู้และประสบการณ์เป็นเวลาหลายๆปี ผลตอบแทนที่ได้จะแปรผันตามความขยันทุ่มเทที่เราใส่ลงไป
10. การแลกเปลี่ยนความเห็นกับเพื่อนนักลงทุนจะช่วยให้มีโอกาสพบบริษัทที่น่าสนใจมากขึ้น ดังนั้นควรจะหาโอกาสไปเยี่ยมชมกิจการ หรือสัมนาฟรีบ้าง เพื่อเพิ่มความรู้และทำความรู้จักเพื่อนนักลงทุนใหม่ๆ
11. ภาพใหญ่ของธุรกิจสำคัญกว่าภาพเล็ก การเข้าไปจ้องมองระยะใกล้ๆในภาพเล็กเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้มองไม่เห็นภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึง ตรงกันข้ามถ้ามองภาพใหญ่ออก ถึงภาพเล็กจะมองผิดไปบ้างก็ไม่ได้เสียหายนัก
12. ซื้อหุ้นคือซื้ออนาคต ถ้ามองอนาคตไม่ออกก็ไม่ควรซื้อ
13. หุ้นที่ขึ้นแรงๆมีทั้งหุ้นที่พื้นฐานดีและหุ้นที่พื้นฐานไม่ดี แต่ถ้าจะหาหุ้นที่ขึ้นแรงและยืนได้มั่นคงจะต้องมีพื้นฐานที่ดีรองรับ
14. หุ้นขนาดใหญ่ไม่ได้แปลว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี
15. หุ้นราคาต่ำบาทไม่ได้แปลว่าถูกกว่าหุ้นราคาหลักพัน ความถูกความแพงต้องเทียบราคาหุ้นกับมูลค่ากิจการที่ควรเป็น
16. จะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนดีต้องลงทุนในหุ้นเติบโต การลงทุนในหุ้นที่เน้นปันผลแต่กำไรในอนาคตไม่เติบโตจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
17. หุ้นของกิจการที่ดี แข็งแกร่ง และเติบโตสูงๆ อาจจะให้ผลตอบแทนที่แย่ได้หากซื้อมาด้วยราคาที่แพง
18. ถึงแม้จะถือหุ้นครั้งละไม่กี่เดือน แต่ก็ต้องมองภาพอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าให้ออก
19. อ่านบทวิเคราะห์ ไม่ต้องสนใจราคาเป้าหมาย ส่วนใหญ่เชื่อไม่ได้ ให้เลือกดูเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท และนำมาประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสมเอง
20. ยิ่งโลภยิ่งจน
21. "กล้าเมื่อคนส่วนใหญ่กลัว และกลัวเมื่อคนส่วนใหญ่กล้า" พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะคำว่า "ส่วนใหญ่" นั้นวัดยาก
22. อิสระทางเวลามีค่ามากกว่าอิสระทางการเงิน
23. เซียนหุ้นทุกคนล้วนแต่เคยผิดพลาด และทุกวันนี้ก็ยังทำผิดพลาดอยู่เรื่อยๆ
24. วิเคราะห์ให้ถี่ถ้วน กล้าทุ่มเงินซื้อเมื่อพบโอกาส เมื่อซื้อแล้วให้ระแวงและทบทวนเสมอ
25. เจ้ามือที่แท้จริงคือ "ผลประกอบการ" (เครดิต พี่โจ ลูกอิสาน)
26. ราคาเป้าหมายต้องหาให้เป็น แต่อย่ายึดติดตัวเลข ถ้าหุ้นขึ้นมาเร็วใกล้เป้าหมายแล้วหมดแรง ต้องขายให้เป็น ในตลาดมีหุ้นอีกมากมายที่ราคายังห่างไกลเป้าหมายมากกว่า
27. ไม่ต้องพยายามซื้อที่จุดต่ำสุด ขายที่จุดสูงสุด พอใจในกำไรหรือขาดทุนที่ได้จากการทำตามแผนเสมอ
28. เมื่อพบหุ้นที่มีพื้นฐานดี upside เยอะ เคาะขวาทันที ไม่ต้องรอเกี่ยงราคาไม่กี่ช่อง
29. อย่าถือหุ้นจำนวนหลายตัวจน มากเกินไปจนไม่สามารถดู วิเคราะห์ และติดตามธุรกิจ ได้ครบทุกบริษัท
30. หลีกเลี่ยงลงทุนในหุ้นพิมพ์นิยมที่ใครๆก็พูดถึง ใครๆก็มีกัน
ปล1. ถ้าให้นั่งนึกไปเรื่อยๆก็คงมีจำนวนข้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เอาเป็นว่าแชร์แค่ 30 ข้อที่นึกได้เป็นอันดับแรกๆ ละกันนะครับ
ข้อคิดจากการลงทุนในหุ้นมา 14 ปี
สรุปข้อคิดเบื้องต้นที่ได้เรียนรู้จากการลงทุนในตลาดหุ้นตลอด 14 ปีที่ผ่านมา
(นี่คือแนวทางการลงทุนของผมนะครับ ถ้าข้อไหนขัดกับแนวทางการลงทุนของท่าน ท่านก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อและทำตามครับ)
1. พอร์ตเล็กมีโอกาสทำกำไรได้สูงกว่าพอร์ตใหญ่
2. ไม่ว่าจะ VI หรือเทคนิก จะเล่นสั้นหรือยาว ถ้าศึกษารู้จริงล้วนสามารถทำกำไรสูงๆจนเป็นอิสระทางการเงินได้ทั้งนั้น
3. ถ้าต้องการจะเป็นอิสระทางเวลา และสบายใจไม่ต้องเครียดทุกๆวัน ควรลงทุนระยะยาว มองที่มูลค่ากิจการไม่ใช่ราคา
4. การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) กับการถือหุ้นยาวไม่เหมือนกัน การติดดอยไม่เรียกว่าการลงทุนแบบ VI ถ้าพื้นฐานแย่ลงก็ไม่ควรกอดหุ้นไว้
5. อดีตที่สวยหรูของบริษัท ไม่ได้รับประกันว่าอนาคตจะต้องดีด้วย การติดตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจเสมอๆเป็นสิ่งจำเป็น
6. ไม่มีใครรู้จริง ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ราคาหุ้น สภาวะตลาด หรือแม้แต่ผลประกอบการได้อย่างแม่นยำทุกครั้งไป สิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ การเผื่อใจวางแผนเตรียมรับมือกรณีฉุกเฉินเป็นสิ่งจำเป็น
7. หุ้นขึ้นแรงๆมีทุกวัน อย่าไปไล่ซื้อ เรารวยได้โดยไม่จำเป็นต้องไปมีส่วนร่วมในหุ้นทุกตัวที่ขึ้นแรง
8. ไม่มีงานสัมนาไหนที่จะเปลี่ยนคนให้ลงทุนเก่งขึ้นได้จริงแบบทันทีทันใด ดังนั้นอย่าเสียเงินแพงๆไปอบรมสัมนาหุ้นเพื่อหวังรวยเร็ว
9. การลงทุนคือการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร ไม่มี Short cut ไม่มีวิธีรวยเร็ว มีแต่ต้องทุ่มเทศึกษา สะสมความรู้และประสบการณ์เป็นเวลาหลายๆปี ผลตอบแทนที่ได้จะแปรผันตามความขยันทุ่มเทที่เราใส่ลงไป
10. การแลกเปลี่ยนความเห็นกับเพื่อนนักลงทุนจะช่วยให้มีโอกาสพบบริษัทที่น่าสนใจมากขึ้น ดังนั้นควรจะหาโอกาสไปเยี่ยมชมกิจการ หรือสัมนาฟรีบ้าง เพื่อเพิ่มความรู้และทำความรู้จักเพื่อนนักลงทุนใหม่ๆ
11. ภาพใหญ่ของธุรกิจสำคัญกว่าภาพเล็ก การเข้าไปจ้องมองระยะใกล้ๆในภาพเล็กเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้มองไม่เห็นภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึง ตรงกันข้ามถ้ามองภาพใหญ่ออก ถึงภาพเล็กจะมองผิดไปบ้างก็ไม่ได้เสียหายนัก
12. ซื้อหุ้นคือซื้ออนาคต ถ้ามองอนาคตไม่ออกก็ไม่ควรซื้อ
13. หุ้นที่ขึ้นแรงๆมีทั้งหุ้นที่พื้นฐานดีและหุ้นที่พื้นฐานไม่ดี แต่ถ้าจะหาหุ้นที่ขึ้นแรงและยืนได้มั่นคงจะต้องมีพื้นฐานที่ดีรองรับ
14. หุ้นขนาดใหญ่ไม่ได้แปลว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี
15. หุ้นราคาต่ำบาทไม่ได้แปลว่าถูกกว่าหุ้นราคาหลักพัน ความถูกความแพงต้องเทียบราคาหุ้นกับมูลค่ากิจการที่ควรเป็น
16. จะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนดีต้องลงทุนในหุ้นเติบโต การลงทุนในหุ้นที่เน้นปันผลแต่กำไรในอนาคตไม่เติบโตจะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
17. หุ้นของกิจการที่ดี แข็งแกร่ง และเติบโตสูงๆ อาจจะให้ผลตอบแทนที่แย่ได้หากซื้อมาด้วยราคาที่แพง
18. ถึงแม้จะถือหุ้นครั้งละไม่กี่เดือน แต่ก็ต้องมองภาพอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าให้ออก
19. อ่านบทวิเคราะห์ ไม่ต้องสนใจราคาเป้าหมาย ส่วนใหญ่เชื่อไม่ได้ ให้เลือกดูเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท และนำมาประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสมเอง
20. ยิ่งโลภยิ่งจน
21. "กล้าเมื่อคนส่วนใหญ่กลัว และกลัวเมื่อคนส่วนใหญ่กล้า" พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะคำว่า "ส่วนใหญ่" นั้นวัดยาก
22. อิสระทางเวลามีค่ามากกว่าอิสระทางการเงิน
23. เซียนหุ้นทุกคนล้วนแต่เคยผิดพลาด และทุกวันนี้ก็ยังทำผิดพลาดอยู่เรื่อยๆ
24. วิเคราะห์ให้ถี่ถ้วน กล้าทุ่มเงินซื้อเมื่อพบโอกาส เมื่อซื้อแล้วให้ระแวงและทบทวนเสมอ
25. เจ้ามือที่แท้จริงคือ "ผลประกอบการ" (เครดิต พี่โจ ลูกอิสาน)
26. ราคาเป้าหมายต้องหาให้เป็น แต่อย่ายึดติดตัวเลข ถ้าหุ้นขึ้นมาเร็วใกล้เป้าหมายแล้วหมดแรง ต้องขายให้เป็น ในตลาดมีหุ้นอีกมากมายที่ราคายังห่างไกลเป้าหมายมากกว่า
27. ไม่ต้องพยายามซื้อที่จุดต่ำสุด ขายที่จุดสูงสุด พอใจในกำไรหรือขาดทุนที่ได้จากการทำตามแผนเสมอ
28. เมื่อพบหุ้นที่มีพื้นฐานดี upside เยอะ เคาะขวาทันที ไม่ต้องรอเกี่ยงราคาไม่กี่ช่อง
29. อย่าถือหุ้นจำนวนหลายตัวจน มากเกินไปจนไม่สามารถดู วิเคราะห์ และติดตามธุรกิจ ได้ครบทุกบริษัท
30. หลีกเลี่ยงลงทุนในหุ้นพิมพ์นิยมที่ใครๆก็พูดถึง ใครๆก็มีกัน
ปล1. ถ้าให้นั่งนึกไปเรื่อยๆก็คงมีจำนวนข้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เอาเป็นว่าแชร์แค่ 30 ข้อที่นึกได้เป็นอันดับแรกๆ ละกันนะครับ