ข้อมูลผู้รีวิว
เพศ: ชาย
น้ำหนัก: 80 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 170 เซนติเมตร
ประสบการณ์การวิ่ง: ประมาณ 2 ปี
ระยะทางที่เคยวิ่งมา: 5, 7, 10, 21 กิโลเมตรสำหรับวิ่งบนถนน
รองเท้าที่เคยใช้ Adidas Adiprene, Puma Faas 800, Brooks, Puma Mobium Elite, Asics Kayano 20, Nike Lunarglide 5, Puma Ignite PWCool และ Brooks Ghost 8 Urban Jungle
ลักษณะเท้า: มีอุ้งเท้าปกติ (Normal Arch)
ลักษณะการลงเท้า: ลงกลางเท้า
ออกตัวนิดนึง ถึงแม้ผมจะเริ่มวิ่งมาพักใหญ่ๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นนักวิ่งที่เก่งเท่าไรนัก ซ้อมแค่สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 5-6 กม. เท่านั้นเอง ข้อมูลที่ได้จากการรีวิวเป็นข้อมูลส่วนตัว ความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ลอง ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้อ่านสามารถนำไปใช้อ้างอิงเพียงแค่เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมในการหาซื้อรองเท้าวิ่งเท่านั้น
Brooks เป็นแบรนด์ที่ผมผูกพันมาตั้งแต่เด็กๆ เท่าที่จำความได้รองเท้าวิ่งคู่แรกของผมก็เป็น Brooks นี่แหล่ะ แถมเอาไว้ใส่เที่ยวด้วยซ้ำ ไม่เคยเอาไปใส่วิ่งเลย ต่อมาก็ยังใช้รองเท้านักเรียนของ Brooks อีกด้วย แล้วก็ว่างเว้นไปนานเลยสำหรับแบรนด์นี้ เนื่องจากสมัยผมเป็นวัยรุ่นรู้สึกว่า Brooks เป็นแบรนด์คนแก่ ดีไซน์ไม่ถูกใจวัยโจ๋เอาซะเลย (ฮา)
ดังข้างต้น ทำให้ไม่ค่อยเห็นเด็กวัยรุ่นใส่ Brooks กันซักเท่าไร จนกระทั่งอายุอานามมากขึ้น เริ่มใส่ใจกับคุณภาพมากกว่าดีไซน์ และบวกกับการที่ Brooks พัฒนาสินค้าของตนเองอย่างต่อเนื่องทั้งทางด้านดีไซน์และการใช้งาน ทำให้หลายปีมานี้ Brooks มักติดอันดับรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดจากหลายๆ สำนักเสมอๆ
Brooks มีเทคโนโลยี BioMoGo DNA ซึ่งก็คือ Gel ที่อยู่ภายในพื้นรองเท้า มีคุณสมบัติเด่นคือ สามารถรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าผู้สวมใส่จะลงเท้าหนักหรือเบา เจ้าตัว Gel ก็จะสามารถปรับให้เข้ากับผู้สวมใส่ได้อย่างเหมาะสม
ปีนี้นับเป็นปีทองของ Brooks เลยก็ว่าได้ เนื่องจากสามารถกวาดรางวัลมากมายจากหลายสถาบัน ซึ่งเจ้าซีรี่ย์ Ghost 8 ที่ผมจะมารีวิวเอง ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับรางวัล editor’s choice จากนิตยสาร Runner’s World ครั้งที่ผ่านมาหมาดๆ โดยสีที่ผมใช้เป็นสี Ebony/Black/metallic Charcoal มีความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ (D)
ข้างเท้าด้านนอก
ข้างเท้าด้านใน
Ghost 8 Urban Jungle เป็นตัวซีรี่ย์เสริมจาก Ghost 8 โดยเปลี่ยนชนิดหน้าผ้าจากเดิมเป็นหน้าผ้าแบบ Mesh ชนิดพิเศษ ที่บางแต่ทนทานและมีความยืดหยุ่นสูงขึ้น (แถมยังทำเป็นลายเสือเก๋ไก๋) ความรู้สึกหน้าผ้าชนิดนี้คล้ายๆ กับพวกผ้า Base Layer (รัดกล้ามเนื้อ) ทีแรกผมคิดว่ามันไม่น่าจะระบายอากาศหรือความร้อนได้ดี เพราะมันมีลักษณะทึบมาก ไม่ได้เป็นรูพรุนแบบหน้าผ้าของรองเท้าวิ่งทั่วไป แต่กลายเป็นว่าผมคิดผิด ตอนที่ผมเอาลงวิ่งมินิฯรายการล่าสุด มันระบายอากาศได้ดีเหลือเชื่อ จนผมลืมไปเลยว่าเคยกังวลเรื่องความร้อนก่อนหน้านี้
ชุดพื้น midsole ได้ใช้เทคโนโลยี BioMoGo DNA ซึ่งมีจุดเด่นดังที่บอกไปในข้างต้น จากการใช้งานพบว่า ให้ความสามารถในการรับแรงกระแทกที่ดีมาก จัดว่าสูสีกับเทคโนโลยี Gel ของ Asics เลยทีเดียว วิ่ง 10 กิโลเมตร ไม่รู้สึกปวดข้อเท้าหรือเข่าแม้แต่น้อย แถมยังให้ความนุ่มแต่ไม่ยวบยาบอีกด้วย เรียกได้ว่าประทับใจมากๆ
Brooks ได้ออกแบบพื้นตัว Ghost 8 ใหม่ในส่วนของ crash pod ทำให้การส่งแรงนั้นเป็นได้อย่างลื่นไหลขึ้น ในส่วนของพื้น outsole ได้ใช้เทคโนโลยียาง Blown Rubber จุดเด่นนี่ไม่ทราบแน่ชัด(ฮา) แต่ข้อเสียที่ผมพบคือเมื่อเจอสภาพถนนที่แห้ง มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่จะลื่นมากเมื่อเจอถนนที่เปียกแฉะ
ภายในรองเท้ามีการทำเป็นเลเยอร์ไว้เพื่อช่วยกันลื่น
แผ่นพื้นรอง สามารถถอดได้ ผลิตจาก EVA Foam
น้ำหนักรองเท้าโดยประมาณ 310 กรัม
สรุปการใช้งานรวม
ข้อดี
- รองเท้าจัดอยู่ในกลุ่มสำหรับผู้มีเท้าแบบ normal arch , high arch
- นุ่มสบายเท้ามากๆ (9/10)
- วิ่งได้ไหลลื่นมาก (9/10)
- การรองรับแรงกระแทกอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ทั้งในส่วนของ Forefoot Cushioning และ Heel Cushioning หลังจากวิ่ง 10 กม. ไม่รู้สึกถึงอาการปวดบริเวณข้อเท้าหรือหัวเข่าแต่อย่างใด เรียกได้ว่า Brooks Ghost 8 คือ Asics Kayano ที่เพิ่มความนุ่มเข้าไปด้วย (9/10)
- ดีไซน์ดีขึ้นมาก เมื่อเทียบกับสมัยก่อน
- ระบายอากาศและความร้อนได้ดี (8/10)
- เหมาะทั้งใส่ซ้อมและใส่แข่ง เรียกได้ว่าคู่เดียวก็เอาอยู่ เป็นรองเท้าที่สมดุลมากๆ ทั้งในแง่การรับแรงกระแทก น้ำหนักที่เบา การระบายอากาศที่ดี และยังนุ่มสบายเท้าอีกด้วย
ข้อเสีย
- ยางพื้น outsole ค่อนข้างลื่นเมื่อวิ่งบนถนนที่เปียก
- งานกาวของจีนค่อนข้างเลอะเทอะ
- สำหรับตัวสีดำ/เงิน สีที่นำเข้ามาขายจริงๆจะไม่ตรงกับที่ลงไว้ทางเวป BrooksThailand ผู้ที่ไปซื้อในห้างจะได้เห็นสีจริง แต่สำหรับผู้ที่สั่งซื้อออนไลน์บางสีจะไม่ตรงกัน
- ลิ้นรองเท้าฟูหนามาก ทำให้ค่อนข้างลำบากเวลาผูกเชือกรองเท้า
- เชือกรองเท้าเปื่อยไว
ราคาในไทยอยู่ที่ 5,400 บาท
หมายเหตุ : รีวิวชุดนี้เป็นการรีวิวจากการใช้งานส่วนตัวเพื่อโพสใน pantip เป็นการแชร์ประสบการณ์การใช้งาน ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางบริษัทผู้จำหน่ายหรือห้างร้านหรือเวปเพจใดๆ ทั้งสิ้น
[CR] รีวิว Brooks Ghost 8 Urban Jungle
ข้อมูลผู้รีวิว
เพศ: ชาย
น้ำหนัก: 80 กิโลกรัม
ส่วนสูง: 170 เซนติเมตร
ประสบการณ์การวิ่ง: ประมาณ 2 ปี
ระยะทางที่เคยวิ่งมา: 5, 7, 10, 21 กิโลเมตรสำหรับวิ่งบนถนน
รองเท้าที่เคยใช้ Adidas Adiprene, Puma Faas 800, Brooks, Puma Mobium Elite, Asics Kayano 20, Nike Lunarglide 5, Puma Ignite PWCool และ Brooks Ghost 8 Urban Jungle
ลักษณะเท้า: มีอุ้งเท้าปกติ (Normal Arch)
ลักษณะการลงเท้า: ลงกลางเท้า
ออกตัวนิดนึง ถึงแม้ผมจะเริ่มวิ่งมาพักใหญ่ๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นนักวิ่งที่เก่งเท่าไรนัก ซ้อมแค่สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 5-6 กม. เท่านั้นเอง ข้อมูลที่ได้จากการรีวิวเป็นข้อมูลส่วนตัว ความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ลอง ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้อ่านสามารถนำไปใช้อ้างอิงเพียงแค่เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมในการหาซื้อรองเท้าวิ่งเท่านั้น
Brooks เป็นแบรนด์ที่ผมผูกพันมาตั้งแต่เด็กๆ เท่าที่จำความได้รองเท้าวิ่งคู่แรกของผมก็เป็น Brooks นี่แหล่ะ แถมเอาไว้ใส่เที่ยวด้วยซ้ำ ไม่เคยเอาไปใส่วิ่งเลย ต่อมาก็ยังใช้รองเท้านักเรียนของ Brooks อีกด้วย แล้วก็ว่างเว้นไปนานเลยสำหรับแบรนด์นี้ เนื่องจากสมัยผมเป็นวัยรุ่นรู้สึกว่า Brooks เป็นแบรนด์คนแก่ ดีไซน์ไม่ถูกใจวัยโจ๋เอาซะเลย (ฮา)
ดังข้างต้น ทำให้ไม่ค่อยเห็นเด็กวัยรุ่นใส่ Brooks กันซักเท่าไร จนกระทั่งอายุอานามมากขึ้น เริ่มใส่ใจกับคุณภาพมากกว่าดีไซน์ และบวกกับการที่ Brooks พัฒนาสินค้าของตนเองอย่างต่อเนื่องทั้งทางด้านดีไซน์และการใช้งาน ทำให้หลายปีมานี้ Brooks มักติดอันดับรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดจากหลายๆ สำนักเสมอๆ
Brooks มีเทคโนโลยี BioMoGo DNA ซึ่งก็คือ Gel ที่อยู่ภายในพื้นรองเท้า มีคุณสมบัติเด่นคือ สามารถรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าผู้สวมใส่จะลงเท้าหนักหรือเบา เจ้าตัว Gel ก็จะสามารถปรับให้เข้ากับผู้สวมใส่ได้อย่างเหมาะสม
ปีนี้นับเป็นปีทองของ Brooks เลยก็ว่าได้ เนื่องจากสามารถกวาดรางวัลมากมายจากหลายสถาบัน ซึ่งเจ้าซีรี่ย์ Ghost 8 ที่ผมจะมารีวิวเอง ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับรางวัล editor’s choice จากนิตยสาร Runner’s World ครั้งที่ผ่านมาหมาดๆ โดยสีที่ผมใช้เป็นสี Ebony/Black/metallic Charcoal มีความกว้างหน้าเท้าแบบปกติ (D)
ข้างเท้าด้านนอก
ข้างเท้าด้านใน
Ghost 8 Urban Jungle เป็นตัวซีรี่ย์เสริมจาก Ghost 8 โดยเปลี่ยนชนิดหน้าผ้าจากเดิมเป็นหน้าผ้าแบบ Mesh ชนิดพิเศษ ที่บางแต่ทนทานและมีความยืดหยุ่นสูงขึ้น (แถมยังทำเป็นลายเสือเก๋ไก๋) ความรู้สึกหน้าผ้าชนิดนี้คล้ายๆ กับพวกผ้า Base Layer (รัดกล้ามเนื้อ) ทีแรกผมคิดว่ามันไม่น่าจะระบายอากาศหรือความร้อนได้ดี เพราะมันมีลักษณะทึบมาก ไม่ได้เป็นรูพรุนแบบหน้าผ้าของรองเท้าวิ่งทั่วไป แต่กลายเป็นว่าผมคิดผิด ตอนที่ผมเอาลงวิ่งมินิฯรายการล่าสุด มันระบายอากาศได้ดีเหลือเชื่อ จนผมลืมไปเลยว่าเคยกังวลเรื่องความร้อนก่อนหน้านี้
ชุดพื้น midsole ได้ใช้เทคโนโลยี BioMoGo DNA ซึ่งมีจุดเด่นดังที่บอกไปในข้างต้น จากการใช้งานพบว่า ให้ความสามารถในการรับแรงกระแทกที่ดีมาก จัดว่าสูสีกับเทคโนโลยี Gel ของ Asics เลยทีเดียว วิ่ง 10 กิโลเมตร ไม่รู้สึกปวดข้อเท้าหรือเข่าแม้แต่น้อย แถมยังให้ความนุ่มแต่ไม่ยวบยาบอีกด้วย เรียกได้ว่าประทับใจมากๆ
Brooks ได้ออกแบบพื้นตัว Ghost 8 ใหม่ในส่วนของ crash pod ทำให้การส่งแรงนั้นเป็นได้อย่างลื่นไหลขึ้น ในส่วนของพื้น outsole ได้ใช้เทคโนโลยียาง Blown Rubber จุดเด่นนี่ไม่ทราบแน่ชัด(ฮา) แต่ข้อเสียที่ผมพบคือเมื่อเจอสภาพถนนที่แห้ง มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่จะลื่นมากเมื่อเจอถนนที่เปียกแฉะ
ภายในรองเท้ามีการทำเป็นเลเยอร์ไว้เพื่อช่วยกันลื่น
แผ่นพื้นรอง สามารถถอดได้ ผลิตจาก EVA Foam
น้ำหนักรองเท้าโดยประมาณ 310 กรัม
สรุปการใช้งานรวม
ข้อดี
- รองเท้าจัดอยู่ในกลุ่มสำหรับผู้มีเท้าแบบ normal arch , high arch
- นุ่มสบายเท้ามากๆ (9/10)
- วิ่งได้ไหลลื่นมาก (9/10)
- การรองรับแรงกระแทกอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ทั้งในส่วนของ Forefoot Cushioning และ Heel Cushioning หลังจากวิ่ง 10 กม. ไม่รู้สึกถึงอาการปวดบริเวณข้อเท้าหรือหัวเข่าแต่อย่างใด เรียกได้ว่า Brooks Ghost 8 คือ Asics Kayano ที่เพิ่มความนุ่มเข้าไปด้วย (9/10)
- ดีไซน์ดีขึ้นมาก เมื่อเทียบกับสมัยก่อน
- ระบายอากาศและความร้อนได้ดี (8/10)
- เหมาะทั้งใส่ซ้อมและใส่แข่ง เรียกได้ว่าคู่เดียวก็เอาอยู่ เป็นรองเท้าที่สมดุลมากๆ ทั้งในแง่การรับแรงกระแทก น้ำหนักที่เบา การระบายอากาศที่ดี และยังนุ่มสบายเท้าอีกด้วย
ข้อเสีย
- ยางพื้น outsole ค่อนข้างลื่นเมื่อวิ่งบนถนนที่เปียก
- งานกาวของจีนค่อนข้างเลอะเทอะ
- สำหรับตัวสีดำ/เงิน สีที่นำเข้ามาขายจริงๆจะไม่ตรงกับที่ลงไว้ทางเวป BrooksThailand ผู้ที่ไปซื้อในห้างจะได้เห็นสีจริง แต่สำหรับผู้ที่สั่งซื้อออนไลน์บางสีจะไม่ตรงกัน
- ลิ้นรองเท้าฟูหนามาก ทำให้ค่อนข้างลำบากเวลาผูกเชือกรองเท้า
- เชือกรองเท้าเปื่อยไว
ราคาในไทยอยู่ที่ 5,400 บาท
หมายเหตุ : รีวิวชุดนี้เป็นการรีวิวจากการใช้งานส่วนตัวเพื่อโพสใน pantip เป็นการแชร์ประสบการณ์การใช้งาน ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางบริษัทผู้จำหน่ายหรือห้างร้านหรือเวปเพจใดๆ ทั้งสิ้น