พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร
สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง
อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
...
วันนี้เป็นวันถ้าจะว่าถึงวันธรรมดาของญาติโยมก็เรียกว่า
"วันพระวันศีล"
วันขึ้น ๑๕ ค่ำถือเป็นวันเข้าพรรษาของญาติโยมก็ว่าได้
คือ ญาติโยมถือว่าวันเดือนเพ็ญ แต่ว่าเดือนเพ็ญปีนี้นั้น
เรียกว่า เป็นแปดสองหน ก็เลยเลื่อนมาเป็นแปดหลัง
นี่เราอยู่ในแปดหลัง ขึ้น ๑๕ ค่ำ ให้ถือว่าตั้งแต่คืนนี้วันนี้เป็นต้นไป
เราทุกคนที่เป็นญาติเป็นโยมก็นับเข้าในการเข้าพรรษา เทศกาลเข้าพรรษา
คือส่วนพระสงฆ์ตามธรรมเนียมเข้าพรรษาพระพุทธเจ้าให้อยู่กาลฝน
ฤดูฝนไม่ให้ไปทางไหนเมื่อไม่มีกิจจำเป็น เว้นเสียแต่มีกิจจำเป็น
จึงไปได้ภายใน ๗ วันเรียก สัตตาหะ จึงได้ถือธรรมเนียมนั้น
มาตั้งแต่ครั้งสมัยพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ
บัดนี้เราทั้งหลายก็ได้มาสู่สถานที่นี้ให้ชื่อว่า
“ถ้ำผาปล่อง”
เพราะมันเป็นปล่อง เป็นที่ทะลุไปได้
เราทุกคนก็ให้ตั้งใจ
ตั้งแต่วันนี้ไปว่า ฤดูเข้าพรรษา ฤดูฝน ไตรมาสสามเดือนนี้
เราจะบำเพ็ญแต่บุญกุศลอย่างเดียว บาปจะไม่ทำ
คือคิดบาปมาก็หยุด ไม่คิด คิดภาวนาพุทโธให้จิตใจสงบระงับเย็นสบาย
เคยทำบาปมาสิ่งใดที่ไม่ดี ที่ท่านห้ามไว้ในหลักศีล ๕
ง่ายๆก็คือว่า
ให้เว้นจากฆ่าสัตว์ ให้เว้นจากลักขโมย
ให้เว้นจากประพฤติผิดในกาม ให้เว้นจากการมุสาวาท
ให้เว้นจากดื่มกินสุราเมรัย ทั้งห้าข้อนี้เรียกว่าเป็น
“เวร ๕”
ถ้าผู้ใดยังล่วงเกินอยู่ชื่อว่าเป็นผู้มีภัยมีเวร จะได้รับทุกข์ทรมาน
ถ้าผู้ใดเลิกละเว้นได้ ผู้นั้นก็จะเป็นบุญเป็นกุศล ฉะนั้นพรรษานี้
ให้เราทุกคนตั้งจิตตั้งใจเสียใหม่ จิตใจก็ให้นึกน้อมภาวนาในใจ
และเวลานี้ก็ให้พากันนั่ง
ขัดสมาธิเพชร (สะ-หมาด) พร้อมกัน
การนั่งขัดสมาธิเพชรนั้นคือเป็นการนั่งเมื่อสมัยพระพุทธเจ้าของเรา
นั่งภาวนาใต้ต้นไม้โพธิ์นั้น พระองค์นั่งขัดสมาธิ
เอาขาซ้ายขึ้นมาทับขาขวาก่อนแล้วก็เอาขาขวาขึ้นมาทับขาซ้าย
เอามือข้างขวาวางทับมือข้างซ้าย ตั้งกายให้เที่ยงตรง พระองค์ก็ภาวนา
ในคืนวันเดือนหกเพ็ญ พระพุทธเจ้าของเราก็ได้ตรัสรู้
เป็น "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ขึ้นในโลก เราทุกคนก็ให้พากันหัดนั่งให้ได้
เอา ผู้ใดยังนั่งไม่ถูกต้อง ก็นั่งหัดนั่งอยู่นี่ก่อน
เอาขาซ้ายขึ้นมาทับขาขวาก่อน เอา นั่งซะก่อน นั่งให้ถูก ทุกๆคน
แล้วก็เอาขาขวาขึ้นมาทับขาซ้าย แล้วก็ให้จำไว้ด้วย
เมื่อพ้นจากเวลานี้ไป อยู่บ้านเรือนที่ไหนก็ตาม
เวลานั่งสมาธิขัดสมาธิให้หัดนั่งขัดสมาธิเพชร
เอาขาซ้ายขึ้นมาทับขาขวาก่อนแล้วก็เอาขาขวาขึ้นมาทับขาซ้าย
เอามือข้างขวาวางทับมือข้างซ้าย ตั้งกายให้เที่ยงตรง
หลับตานึกบริกรรมภาวนาพุทโธ
"พุทโธ" นี้ถือว่าเป็น "องค์พระพุทธเจ้า" หรือว่า "พุทธคุณ"
ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า เอาพระพุทธเจ้ามาเป็นเยี่ยงอย่าง
เป็นเครื่องเตือนใจ อันพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์นั้นท่านบำเพ็ญทาน
มีจิตใจเป็น "ทานบารมี" "รักษาศีลห้า ศีลแปด" มาก่อน
ไม่ใช่มารักษาเอาเมื่อตรัสรู้แล้ว รักษามาสี่อสงไขยแสนมหากัป
จึงได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก็นับว่าเป็นเวลายาวนาน
ดังนั้นเรามาหัดนั่งสมาธิภาวนาให้ได้
...
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"บุญเก่าหนุนบุญใหม่"
เอาพระพุทธเจ้าเป็นเยี่ยงอย่าง : หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร
สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง
อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
...
วันนี้เป็นวันถ้าจะว่าถึงวันธรรมดาของญาติโยมก็เรียกว่า "วันพระวันศีล"
วันขึ้น ๑๕ ค่ำถือเป็นวันเข้าพรรษาของญาติโยมก็ว่าได้
คือ ญาติโยมถือว่าวันเดือนเพ็ญ แต่ว่าเดือนเพ็ญปีนี้นั้น
เรียกว่า เป็นแปดสองหน ก็เลยเลื่อนมาเป็นแปดหลัง
นี่เราอยู่ในแปดหลัง ขึ้น ๑๕ ค่ำ ให้ถือว่าตั้งแต่คืนนี้วันนี้เป็นต้นไป
เราทุกคนที่เป็นญาติเป็นโยมก็นับเข้าในการเข้าพรรษา เทศกาลเข้าพรรษา
คือส่วนพระสงฆ์ตามธรรมเนียมเข้าพรรษาพระพุทธเจ้าให้อยู่กาลฝน
ฤดูฝนไม่ให้ไปทางไหนเมื่อไม่มีกิจจำเป็น เว้นเสียแต่มีกิจจำเป็น
จึงไปได้ภายใน ๗ วันเรียก สัตตาหะ จึงได้ถือธรรมเนียมนั้น
มาตั้งแต่ครั้งสมัยพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ
บัดนี้เราทั้งหลายก็ได้มาสู่สถานที่นี้ให้ชื่อว่า “ถ้ำผาปล่อง”
เพราะมันเป็นปล่อง เป็นที่ทะลุไปได้ เราทุกคนก็ให้ตั้งใจ
ตั้งแต่วันนี้ไปว่า ฤดูเข้าพรรษา ฤดูฝน ไตรมาสสามเดือนนี้
เราจะบำเพ็ญแต่บุญกุศลอย่างเดียว บาปจะไม่ทำ
คือคิดบาปมาก็หยุด ไม่คิด คิดภาวนาพุทโธให้จิตใจสงบระงับเย็นสบาย
เคยทำบาปมาสิ่งใดที่ไม่ดี ที่ท่านห้ามไว้ในหลักศีล ๕
ง่ายๆก็คือว่า ให้เว้นจากฆ่าสัตว์ ให้เว้นจากลักขโมย
ให้เว้นจากประพฤติผิดในกาม ให้เว้นจากการมุสาวาท
ให้เว้นจากดื่มกินสุราเมรัย ทั้งห้าข้อนี้เรียกว่าเป็น “เวร ๕”
ถ้าผู้ใดยังล่วงเกินอยู่ชื่อว่าเป็นผู้มีภัยมีเวร จะได้รับทุกข์ทรมาน
ถ้าผู้ใดเลิกละเว้นได้ ผู้นั้นก็จะเป็นบุญเป็นกุศล ฉะนั้นพรรษานี้
ให้เราทุกคนตั้งจิตตั้งใจเสียใหม่ จิตใจก็ให้นึกน้อมภาวนาในใจ
และเวลานี้ก็ให้พากันนั่งขัดสมาธิเพชร (สะ-หมาด) พร้อมกัน
การนั่งขัดสมาธิเพชรนั้นคือเป็นการนั่งเมื่อสมัยพระพุทธเจ้าของเรา
นั่งภาวนาใต้ต้นไม้โพธิ์นั้น พระองค์นั่งขัดสมาธิ
เอาขาซ้ายขึ้นมาทับขาขวาก่อนแล้วก็เอาขาขวาขึ้นมาทับขาซ้าย
เอามือข้างขวาวางทับมือข้างซ้าย ตั้งกายให้เที่ยงตรง พระองค์ก็ภาวนา
ในคืนวันเดือนหกเพ็ญ พระพุทธเจ้าของเราก็ได้ตรัสรู้
เป็น "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ขึ้นในโลก เราทุกคนก็ให้พากันหัดนั่งให้ได้
เอา ผู้ใดยังนั่งไม่ถูกต้อง ก็นั่งหัดนั่งอยู่นี่ก่อน
เอาขาซ้ายขึ้นมาทับขาขวาก่อน เอา นั่งซะก่อน นั่งให้ถูก ทุกๆคน
แล้วก็เอาขาขวาขึ้นมาทับขาซ้าย แล้วก็ให้จำไว้ด้วย
เมื่อพ้นจากเวลานี้ไป อยู่บ้านเรือนที่ไหนก็ตาม
เวลานั่งสมาธิขัดสมาธิให้หัดนั่งขัดสมาธิเพชร
เอาขาซ้ายขึ้นมาทับขาขวาก่อนแล้วก็เอาขาขวาขึ้นมาทับขาซ้าย
เอามือข้างขวาวางทับมือข้างซ้าย ตั้งกายให้เที่ยงตรง
หลับตานึกบริกรรมภาวนาพุทโธ
"พุทโธ" นี้ถือว่าเป็น "องค์พระพุทธเจ้า" หรือว่า "พุทธคุณ"
ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า เอาพระพุทธเจ้ามาเป็นเยี่ยงอย่าง
เป็นเครื่องเตือนใจ อันพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์นั้นท่านบำเพ็ญทาน
มีจิตใจเป็น "ทานบารมี" "รักษาศีลห้า ศีลแปด" มาก่อน
ไม่ใช่มารักษาเอาเมื่อตรัสรู้แล้ว รักษามาสี่อสงไขยแสนมหากัป
จึงได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก็นับว่าเป็นเวลายาวนาน
ดังนั้นเรามาหัดนั่งสมาธิภาวนาให้ได้
...
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"บุญเก่าหนุนบุญใหม่"