วันพฤหัสฯที่ 24-12-15 วัน Christmas Eve

ปีนี้ตั้งใจว่าจะไปถ่ายพลุวัน Christmas Eve ที่วัดกาลหว่าร์ ตลาดน้อย

หลังจากที่เคยถ่ายโดยบังเอิญเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังบุฟเฟต์มื้อค่ำที่กินไม่จบ ที่ห้องอาหาร Flow

โรงแรมมิลเลนเนี่ยมฮิลตัน เพราะต้องพาคริสตินและสามีข้ามไปร่วมพิธิมิสซา ที่วัดกาลหว่าร์

แต่ไม่เคยเขียนรีวิวถึง ครั้งนั้นเป็นการถ่ายโดยบังเอิญ จึงไม่ได้เตรียมอุปกรณ์

การถ่ายพลุนั้นต้องถ่ายตอนกลางคืน พลุงานสำคัญต้องแย่งจับจองที่กันค่อนวัน

ต้องเตรียมน้ำเตรียมอาหารไปกินรอ ต้องอั้นปัสสาวะ โดยเฉพาะการถ่ายพลุปีใหม่ที่สะพานสาทร

ยังต้องเสี่ยงกับการถูกจี้ปล้น โดยโจรมอเตอร์ไซค์ จึงห่างหายจากการไปถ่ายพลุหลายปี

หลังสุดที่ตามถ่าย คือ พลุเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาของในหลวง ที่สวนเบญจกิติ

"ครึ่งวันกับการกินและดูพลุ @ สวนเบญจกิติ"

http://topicstock.ppantip.com/food/topicstock/2007/12/D6110923/D6110923.html

ปีนี้บังเอิญอ่านพบในเฟซบุ้ค ว่ามีงิ้วเล่นอยู่แถวนั้น เนื่องจากช่วงนี้ ตามศาลเจ้าต่างๆ

จะมีพิธี"เสี่ยซิ้ง" หรือ งานขอบคุณเจ้าประจำปี และสิ่งหนึ่งที่ต้องมี

นอกเหนือไปจากการประมูลของไหว้แล้ว คือ การแสดงงิ้วถวายเจ้า ซึ่งถือเป็นช่วงทำเงินของงิ้วทุกคณะ

คณะงิ้วที่จะไปเก็บภาพวันนี้ แสดงอยู่ที่ซอยสหมิตร ถนนมหาพฤฒาราม

จึงนึกถึงหมูสะเต๊ะร้านหนึ่ง ที่ได้ยินชื่อเสียงมานาน แม้ว่าในบริเวณใกล้เคียง

จะมีหมูสะเต๊ะร้านดังอีกสามร้าน คือ ซองกี่ตรอกโรงหมู เม้งแยกวัดดวงแข และมิ้งบรรทัดทอง

แต่เลือกร้านสว่าง เพราะเดินได้ต่อเนื่องพอๆกับร้านซองกี่ อีกทั้งไม่ได้เดินย่านนี้นานแล้ว

กินข้าวเย็น ถ่ายงิ้วรอเวลา แล้วเดินไปตลาดน้อยรอถ่ายพลุ ออกไปครั้งเดียวได้ 3 ประโยชน์

17.16 น.เลือกนั่งรถประจำทางแทนการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน

ลงรถที่ป้ายหน้าศาลแรงงาน ถนนพระราม 4 ใกล้แยกมหานคร



ก่อนถึงแยกมหานครเล็กน้อยเลี้ยวซ้าย



เดินเข้าไปประมาณ 30 เมตรถึงทางแยก

ทางซ้ายมือ คือ ถนน(ซอย)สว่าง ทางขวามือ คือ ถนนมหานคร

เป็นถนนที่เชื่อมถนนพระราม 4 และถนนสี่พระยา

เลือกเดินเข้าถนนสว่าง



ผ่านโรงเรียนเย็นเฮส์(Jane Hays)เมมโมเรียล

เป็นโรงเรียนคริสต์ แต่ไม่เห็นมีต้นคริสต์มาส เหมือนเลิกกิจการ



ติดกับโรงเรียน คือ ทางพิเศษศรีรัช

ทางซ้ายมือ คือ ซอยสว่าง 1 ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนพระราม 4



ข้ามใต้ทางด่วน คือ ซอยสว่าง 3 ได้กลิ่นหมูสะเต๊ะโชยมาแต่ใกล



ประมาณ 30 เมตร มองเห็นร้านสว่างหมูสะเต๊ะ

ตรงแยกซอยสว่าง 5 (ซ้าย) และซอยสว่าง 6 (ขวา)



มีเตาปิ้งหมูสะเต๊ะ 3 เตาที่หน้าร้าน



ส่วนสำหรับสั่งห่อ



มีโต๊ะนั่งแค่ 3 โต๊ะ ในร้าน 3 และนอกร้าน 3 เลือกนั่งนอกร้าน



เปิดทุกวันตั้งแต่เที่ยงถึงสามทุ่ม



ราคาขึ้นเป็นไม้ละ 7 บาท

พนักงานแจ้งว่าต้องรอครึ่งชั่วโมง คงเพราะมีลูกค้าสั่งห่อเยอะ

สั่งหมู ตับหมูและไก่อย่างละ 10 ไม้ แต่เหลือแค่หมู จึงสั่งหมูสะเต๊ะ 15 ไม้และขนมปัง 2 แผ่น



ระหว่างรอมีน้ำแข็งมาให้ 1 ถ้วยฟรี ตามด้วยน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะจานใหญ่



และอาจาด 1 ถ้วย ได้ยินว่าเติมได้ไม่อั้น



แม้จะบอกว่าต้องรอครึ่งชั่วโมง แต่แค่สิบนาทีก็ได้หมูสะเต๊ะที่สั่ง



ไม่ได้เน้นไม่ติดมัน



แต่ส่วนใหญ่เป็นเนื้อสันนอกล้วน



มีแบบติดมันมา 3 ไม้



ขนมปัง 2 แผ่นตามมาแทบจะในทันที



ขนมปังหั่นหนา 1 นิ้ว ปิ้งมาแค่พออุ่นๆ



เนื้อหมูสันนอกหั่นหนาพอควร แต่หมักไม่นุ่ม



หมูหมักไม่ทั่วไม่นานพอ มีแค่ 3 ไม้ที่พอเรียกได้ว่านุ่ม

น้ำสะเต๊ะได้สัมผัสของถั่วตำ น้ำสะเต๊ะออกรสเผ็ดเล็กน้อย



18.01 น. จ่ายเงินค่าหมูสะเต๊ะ 15 ไม้ 105 บาท

รวมค่าขนมปังแผ่นละ 5 บาท 2 แผ่น เป็นเงิน 115 บาท



เดินออกมาถนนมหานคาทางซอยสว่าง 6 ข้างร้าน เป็นทางเดินเข้าทางเดียว



ฝั่งตรงข้าม คือ ซอยสวาง 6 เช่นกัน เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับซอยสหมิตร ถนนมหาพฤฒาราม



ถ้ามาร้านสว่างหมูสะเต๊ะทางด้านถนนมหานคร

ให้สังเกตุตวงทองแมนชั่นตรงปากซอยสว่าง 6 ฝั่งซ้าย



ยังไม่ข้ามไปฝั่งตรงข้าม เพราะยังไม่รู้สึกอิ่ม

จึงเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 30 เมตร ตรงปากซอยวัดแก้วแจ่มฟ้า

ซึ่งซอยฝั่งตรงข้ามเชื่อมกับหลังวัดมหาพฤฒารามวรวิหาร

หน้า 7-11 คือ ร้านเป็ดย่างมหานคร เป็นร้านที่ฝากท้องเป็นประจำ

เวลามางานศพที่วัดมหาพฤฒารามฯ



น้ำดื่มบริการตัวเองฟรี



สั่งข้าวหน้าเป็ด 1 จาน นั่งตรงข้าม 7-11



ข้าวหน้าเป็ด 35 บาท

เป็ดหั่นหนาไม่ตบ ใช้ข้าวหอมมะลิ 5%



เนื้อเป็ดนุ่มอร่อย แต่วันนี้น้ำเป็ดรสแปลกเปรี้ยวเหมือนโดนน้ำขิงดอง



หัวมุมซอยแก้วฟ้า ซึ่งตั้งชื่อตามซอยวัดแก้วแจ่มฟ้า

มีร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ยังไม่เคยมาลอง



สมัยที่ยังไม่ตัดถนนมหานคร

เคยเดินผ่านวัดมหาพฤฒารามฯไปถนนสี่พระยาบ่อยๆ น่าจะกว่า 40 ปีมาแล้ว