แฟนเราเขย่าบีทอล์คเจอผู้หญิงค่ะ

แฟนเก่าเป็นคนขี้หึงมากค่ะ ตอนคบกันจะมีปัญหาทะเลาะกันเรื่องความหึงหวงเสมอ แต่สุดท้ายเขาก็จะเป็นฝ่ายยอมง้อและขอโทษตลอด เขายอมทุกเรื่อง และแสดงออกเหมือนว่ารักเรามาก จนเพื่อนๆพากันอิจฉา ว่าเป็นคนโคตรโชคดีที่ได้ผู้ชายคนนี้เป็นแฟน คบหากันได้ 6-7 ปี ไม่เคยมีปัญหานอกจากการหึงหวงนิดๆหน่อยๆเพราะเราเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ เพือนบางคนแหย่ ด้วยคำพูดเอาฮา เช่น คิดถึงบ้าง เรียกที่รักบ้างเขาก็โมโหทะเลาะกันไปเขามักจะพูดเสมอว่าเราไม่เคยให้ความสำคัญกับเขาเลย และไม่เคยมีรูปเขาในเฟซบุ๊ค แม้แต่ใบเดียว เราก็อ้างเหตุผลอธิบายกันไปจนเขาใจเย็นลง สุดท้ายพอเค้ายอม ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีเป็นแบบนี้มานานค่ะ (ดวงสูญเสียเริ่มมาแล้วค่ะ) วันนึงเขาติดธุระหลังจากขึ้นมาบนฝั่ง ยังไม่ได้มาหากันต้องอยู่อบรมทำธุระที่กรุงเทพ เละเขาเขย่าบีทอล์คและได้คุยกับผู้หญิงคนหนึ่งค่ะ และต่อมาไม่นาน ก็ได้มีอะไรกัน พอเรารู้เรื่องก็ผิดหวังมากเพราะเข้าใจมาตลอดว่าเขารักเรามากคิดว่าเรื่องราวแบบนี้คงไม่มีวันเกิดขึ้นกับตัวเองก็ทะเลาะด่าทอด้วยคำพูดรุนแรง เขาพยายามง้อแต่เราสำคัญตัวผิด เอ่ยปากไล่อย่างเดียวค่ะ จนสุดท้ายก็เลิกคบกันไป(เจ็บจี๊ดด) ระหว่างนั้นเค้าก็คบกับผู้หญิงคนนั้นต่อเนื่องมา ตัวเราเองอยากรู้ว่าแฟนใหม่นิสัยใจคอเป็นอย่างไรจึงพยามแอดเป็นเพื่อนกับเธอ แต่เธอตั้งค่าจะรับแอดเฉพาะเพื่อนของเพื่อน ก็เลยไปไล่แอดเพื่อนของน้องเค้าไว้ หลายคนเพื่อหวังให้ใครซักคนนึงรับแอดเราให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ยื่นคำขอเป็นเพื่อนน้องเขาได้และจะได้คุยกับเขา พอได้คุยก็เข้าใจและตกลงกันด้วยดี พอนึกทบทวนสิ่งที่ตัวเองทำก็เสียใจมากและเข้าใจเขาเพราะเราไม่เคยใส่ใจให้ความรักเขาเท่าที่ควร จึงตั้งใจไว้ว่าจะยกรถให้เพราะแฟนซื้อรถโดยใช้ชื่อเรา และเขาไม่มีรถใช้ เมื่อพูดคุยกันกับน้องคนนั้นแล้วเห็นว่าพูดจาดีและเขาก็รักแฟนเก่าเรามากๆ จึงนัดหมาย บอกน้องคนนั้นไปว่าในวันรับรถให้ หนูมากับพี่เค้าด้วยนะ เธอยังบอกว่า "พี่ใจดีจังหนูคิดว่าพี่จะด่าว่าหนูซะอีก" เราก็เลยได้แต่บอกไปว่า "พี่พลาดเอง ไม่ได้ใส่ใจให้ความรักเขามากพอ จนเขาต้องไปหาคนที่เข้าใจและพร้อมจะรักเขามากกว่า" ตกลงกันด้วยดี แต่ในวันถัดมาก็มีปัญหากันเพราะ เพื่อนเขาแต่ละคนที่เรายื่นคำขอไปเมื่อวานทยอยรับแอด กลายเป็นเรากับน้องเค้ามีเพื่อนร่วมกัน สิบกว่าคน น้องเขาโมโหและเข้ามาถามด้วยคำพุดไม่สุภาพ "ว่าตกลงกันแล้ว แล้วเเอดเพื่อนเค้าทำไมมากมาย นี่จะไม่จบใช่ไหม ต้องการอะไร" ประมาณนี้ ดิฉันได้อธิบายไปตามความจริงและเหน็บแนมไปว่า การถามเพื่อให้ได้คำตอบควรหัดใช้มารยาทในการตั้งคำถามให้มากกว่านี้ คนตอบเขาจึงจะเต็มใจที่จะตอบ ก็เลยเป็นการทะเลาะกันค่ะ ด้วยความที่เขาเป็นเด็กพอทะเลาะก็มักจะโพสด่าทอ กระทบกระทั่งเสมอ จิกกัดมากเข้าเราจึงโมโหและบอกไปว่า เราจะไม่คืนรถให้นะ เพราะแฟนใหม่เธอแขวะฉันมากเพราะงั้นหาเงินซื้อรถใหม่กันเอง 555+ ช่วงเดือนแรกที่เพิ่งเลิกกันเขาจึงเงียบหายค่ะเพราะโกรธที่เราทำแบบนั้น  แต่พอเข้าเดือนที่2 ก็ติดต่อกับเราเรื่อยมาทุกวันจนถึงปัจจุบัน ในลักษณะของการถามไถ่ทุกข์สุขกัน และเขาบอกเสมอว่า เขารักและลืมเราไม่ได้ ไม่ว่าจะทำอะไรเขาจะมีภาพเราผุดขึ้นในใจเสมอ ก็ได้แต่ปลอบกันไป เพราะทุกอย่างล่วงเลยไปไกลแล้วคือเค้าคบแฟนใหม่ 2-3 เดือนทางบ้านฝ่ายหญิงก็ให้มีการผูกข้อไม้ข้อมือ ย่างเข้าเดือนที่ 4 เขาเริ่มมีปัญหาเพราะแฟนใหม่เป็นคนที่มักจะพูดโกหก และมีปัญหาการเงินเสมอๆ  เช่นฝากเงินให้จ่ายค่านั่น นู่น นี่ ก็มักจะมีเจ้าหน้าที่มาตามบอกว่ายังไม่ได้จ่าย ฝ่ายสามีก็ตามจ่ายใหม่แทบทุกครั้งที่ขึ้นบนฝั่ง เธอจะมีเรื่องแปลกๆบ่อยๆ เช่นเธอจะบอกว่าเธอท้อง แฟนเก่าทำงานในทะเลค่ะ จะทำงาน 4 อาทิตย์ และพัก 2 อาทิตย์ จึงมีเวลาในการอยู่บนฝั่งค่อนข้างน้อย ในการท้อง เธอบอกว่า เธอได้ลืมสมุดฝากครรภ์ไว้ในรถเพื่อน แฟนของเธอจึงไม่มีโอกาสได้เห็นสมุดฝากครรภ์เลย  เธอเคยก่อเหตุไว้เรื่องหนึ่ง คือ ฝ่ายสามีต้องการซื้อรถคันนึงด้วยเงินสด เขาไม่มีรถใช้กันค่ะ เธออ้างว่า มีเงินจำนวนนึง ที่ยืมมาจากเพื่อน มากพอที่จะซื้อรถและจะนำรถเข้าไฟแนนซ์เพื่อนำเงินไปคืนเพื่อน เพราะฉะนั้นในวันที่ขึ้นมาจากทะเลให้ฝ่ายชายไปรับรถเลยและเธอจะโอนเงินให้ไว้ในบัญชี แต่ในขณะที่โอนนั้นเธออ้างว่าแถวที่จะฝากตังค์ ยาวมากและถ่ายรูปบรรยากาศในธนาคารให้ดู(เธอหอบเงินสดไปมาค่ะหลายแสน คือตรงนี้ เราก็งง หอบทำไม ทำไมไม่ฝากให้อยู่ในรูปของบัญชี)ฝ่ายสามีรอตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนเย็น เธอก็ไม่โอนค่ะ ตอนเย็นปิดเครื่อง ติดต่อได้ในตอนค่ำเธออ้างว่ามีคนมารับเธอไปตกลงเรื่องเงินเขาต้องการเงินคืน งานนนั้นคือพลาดเรื่องรถ ต่อมาเธอก็ทะเลาะกับแฟน ด้วยเรื่องค่าบ้านที่เธออ้างว่าจ่ายแล้วแต่ธนาคารยืนยันว่าไม่ได้จ่ายสามีเธอจึงจะพาเธอไปดูกล้องวงจรปิด ตามที่ธนาคารขอร้องให้มีการเข้ามาตรวจสอบเพราะธนาคารขอยืนยันในความบริสุทธิ์ เหตุการณ์นี้ทำให้ทะเลาะกันและเธอหนีออกจากบ้าน  ในการหนีออกจากบ้านเธอได้ขอยืมเฟซบุ๊คเพื่อน ปลอมเป็นเพื่อนของตัวเอง เพื่อคุยกับสามี และพูดในทำนองว่าเห็นเธอหอบยาบำรุงครรภ์ถุงใหญ่ไปมา ซึ่งในขณะอยู่ร่วมกันที่บ้าน สามีของเธอไม่เคยเห็นยาถุงนั้นเลย (เรื่องนี้เพื่อนเธอเล่าให้สามีของเธอฟังเพราะต่อมาเธอและเพื่อนมีปัญหาผิดใจกัน) ต่อมาเธอก้ได้ส่งรูปอัลตร้าซาวด์ มาให้สามีดู พูดด้วยว่า หน้าเหมือนสามีมาก เราก็คอยเตือนเเฟนเก่าว่าทำอะไรให้นึกถึงเด็กน้อยที่เขาไม่เกี่ยวข้องไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย #แต่# สุดท้ายฝ่ายก็รู้กันว่าเป็นรูปที่ก็อปจากเน็ต เพราะปี พ.ศ ที่อัลตร้าซาวด์ เป็นปี51 (ผ่านมาแล้วนานมาก) พอคาดคั้นเธอก็อ้างว่าเธอท้องจริงๆ แต่ไม่มีรูปอัลตร้าซาวด์ แต่ก็อยากจะให้ฝ่ายสามี ระลึกได้ว่า เธอกำลังท้องอยู่นะ จึงส่งรูปมาให้ดู จนในที่สุดก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันต่อค่ะ ฝ่ายชายพยายามทำเพื่อครอบครัวจึงจะลองให้โอกาสอีกสักตั้งเพื่อลูก ต่อมาเมื่อสามีลงทะเล เธอก็อ้างว่าเธอแท้ง มีแม่ละพ่อมาดูแลในโรงพยาบาล พ่อร้องไห้ยกมือไหว้หัวหน้างานที่พาเธอมาส่งที่โรงพยาบาล  ฟังดูน่าสงสารมาก นอกจากนั้น เธอก็บอกอีกว่าเธอมีเงินจากการเก็บออม จำนวนหนึ่ง จะนำไปรวมกับเงินของสามีและจะไปซื้อ รถกัน แต่ในที่สุดเธอก็บอกว่าพ่อ ได้ ขอยืมเงินจำนวนนั้นไป สุดท้ายฝ่ายสามีต้องไปหาเงินสดและซื้อรถด้วยตนเอง ต่อมาเธออ้างอีกว่าแม่เธอโอนตังค์ มาให้แล้ว ฝ่ายสามีหมดตูดไปกับการซื้อรถ จึงนำรถไปซ่อม โดยบอกเธอไว้ว่าให้เธอเบิกเงินจากที่แม่ช่วยโอนมาให้เตรียมไว้เพื่อมาเป็นค่าซ่อม พอรถเสร็จ ปรากฎว่า เงินที่เธอเบิกมา หายไป ไม่ทราบว่าหล่นที่ไหน สามีโมโหมาก จึงเอาบัตรเอทีเอ็มของเธอไปกดดูเงินที่เหลือ ปรากฎว่ามีเงินเหลือในบัญชีเพียง 39 บาท ฝ่ายสามีทนไม่ไหวจึงโทรไปถามความจริงจากทางฝั่งแม่ของเธอก็ได้รู้ว่าเรื่องที่เธอเล่าทั้งหมดไม่ได้เป็นความจริง พ่อ แม่ไม่รู้เรื่องการท้อง และการแท้ง และไม่มีการเดินทางไปหาเธอเพื่อเฝ้าที่โรงพยาบาลตามที่เธอบอก รวมถึงทั้งเรื่องที่พ่อยืมเงินเก็บของเธอไป และเรื่องที่แม่โอนเงินมาให้ ไม่เป็นเรื่องจริง ฝ่ายชายยังไม่แน่ใจเลยโทรไปถามโรงพยาบาลที่เธออ้างว่าเธอแอดมิดที่นั่นในวันตกเลือด ก็ได้ทราบว่าที่นั่นเป็นเพียงคลีนิคไม่มีการแอดมิด และไม่มีผู้ป่วยชื่อนี้เข้ามาทำการรักษาใดๆ เรื่องราวยังไม่จบเท่านี้ค่ะ ผู้หญิงคนนี้ มีลูกเลี้ยงที่ติดมากับสามีคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงชื่อ น้ององุ่น เรื่องเกิดขึ้นเพราะเธอเคยแต่งงานมีสามีมาแล้ว แต่สามีเป๋นคนเจ้าชู้ นอกใจเธอไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นจนตั้งท้องและคลอดลุกทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลเธอรู้เข้าก็ สงสารเด็กคนนี้มาก จึงไปรับเด็กมาดูแล แม้จะเลิกกับสามีเก่าไปแล้วก็ตาม เธอเล่าว่าแม่ของน้ององุ่นแต่งงานไปกับชาวต่างชาติและต้องการรับตัวน้ององุ่นกลับไปดูแล แต่เธอและทางครอบครัวไม่ยอมให้ตัวเด็กน้อยไป ตัวสามีเองก็ทั้งสงสารและเอ็นดูน้ององุ่นมาก สามีฟังเรื่องจนเชื่อว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง แต่สุดท้าย ก้ได้รู้ว่า น้ององุ่น ที่แท้ก็คือลูกของเธอที่เกิดกับสามีเก่าของเธอนั่นเอง เรื่องนี้ทำให้สามีของเธอเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ที่เธอไม่ยอมรับว่าน้ององุ่นเป้นลูกของตัวเอง
      ตอนนี้สามีและภรรยาคู่นี้ทะเลาะกัน และฝ่ายสามีได้บอกกับทางแม่ของผู้หยิงว่า เขาทนไม่ไหวแล้วกับนิสัยการโกหกของเธอ เขาจึงให้ภรรยากลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ของเธอที่ จังหวัดอุดร ช่วงก่อนหน้าที่มีปัญหาทางการเงิน ฝ่ายชายจะบอกเสมอว่า เขาไม่ไหวแล้วที่จะคบกันต่อ เขาพูดเสมอว่าเขาพยายามสร้างครอบครัวแต่ฝ่ายเมียเป็นฝ่ายทำลายแบบนี้ก็ไม่ไหว เขาต้องการจะเลิก แต่เรามักจะคอยเตือนสติว่าให้คิดให้ทำทุกอย่างให้รอบคอบ จนในวันนี้ เขาบอกว่าเขาไม่ไหวแล้วจริงๆ อยู่กับคนแบบนี้ไม่ได้แล้วจริงๆ
     เขียนมายาวมาก อยากจะบอกว่า ตอนนี้ เขามาง้อขอ คืนดี ขอกลับมาเริ่มต้นคบกันอีกครั้ง #เราควรจะให้โอกาสเขาหรือไม่คะ#
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่