สำหรับพันธมิตรใหม่เป็นไปได้ไหมกับ SK Telecom ที่หลายๆคนบอกว่า มโน
ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยก็จะบอกว่าไม่ได้มโนครับแต่ MONO
คุณพิชญ์เค้าเคยทำธุรกิจร่วมกับ SK Telecom และ Mobile Operators อื่นๆอีกหลายประเทศ ผ่านบริษัท MONO ครับ
ถามว่า MONO ก่อนที่จะมีทีวีดิจิตอล ธุรกิจหลักคืออะไร ก็คือมือถือนั่นแหละ ปัจจุบันธุรกิจมือถือก็เป็นธุรกิจหลักอยู่
ตัวอย่างการร่วมธุรกิจกับ SK Telecom และเจ้าอื่นๆ (แสดงให้เห็นว่าแกมีพันธมิตรอยู่ทั่วโลกจริงๆ)
มีบางคนบอกว่าเป็นรายใหม่ในตลาดมือถือไม่มีประสบการณ์ (ใช่จริงหรอ ?!?)
จริงๆแล้วผู้บริหารอยู่ในธุรกิจมือถือมานานมาก มีการวิเคราะห์อุตสาหกรรมอยู่ตลอดเวลา คุ้นเคยกับระบบโทรคมนาคมเป็นอย่างดีด้วย
ตัวอย่างการวิเคราะห์ แสดงให้เห็นการวิเคราะห์สภาพตลาดเชิงลึก และพฤติกรรมผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน (มีอีกเยอะ)
=======================================================================
JAS จะทำกำไรได้ยังไง ? ขาดทุนแน่ !!! เจ๊งแน่ !!!! ผมถามว่าคุณคำนวณตัวเลขออกมาจริงๆกันหรือยัง? (ดึงสติกันนิดนึง)
เงินลงทุนทั้งหมดของ JAS น่าจะประมาณ 1 แสนล้านบาท (ใบคลื่น 900 = 75,000 /เงินลงทุนอื่นๆ เช่นเสาสัญญาณ = 25,000) คิดเป็นค่าเสื่อม 15 ปีอยู่ที่ปีละ 6,700 ล้านบาท ผมบวกค่าใช้จ่ายในการบริหารให้อีกปีละ 2,000 ล้านบาท รวมเป็น 8,700 ล้านบาท (น่าจะหนักไปทางงบ Marketing กับค่าเช่าเสาเพราะในส่วนของร้านค้าและคน leverage จาก 3BB อยู่แล้ว) ถ้า ARPU 2,400 บาท/ปี (200 บาท/เดือน Average Industry) จะต้องหาลูกค้าให้ได้ 8,700,000,000/2,400 = 3.6 ล้านราย ถึงจุดคุ้มทุน คุณคิดว่า 3.6 ล้านรายจากเบอร์ทั่วประเทศ 100 ล้านเนี่ยคุณพิชญ์แกบอกขอ 3 ปี คุณเชื่อว่าทำได้ไหม (ผมว่าขี้ๆ)
=============================================================================
ขอบ่น
นักวิเคราะห์มันมั่วซั่ว ตอน JAS ทำ 3BB ครั้งแรก นักวิเคราะห์มันก็วิเคราะห์ว่าจะเจ๊งเพราะมีเจ้าตลาดจาก TRUE กับ TOT อยู่แล้ว
ต้องลงทุน Infrastructure ใหม่หมด แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ ?
ตอนออก JASIF นักวิเคราะห์มันก็วิเคราะห์กันว่า JAS จะมีกำไรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ ?
ผมจะบอกให้นักวิเคราะห์ที่วิเคราะห์กันส่งเดชอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้รู้ดีเท่าเจ้าของหรอกว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่
นักวิเคราะห์ไม่ได้มีการทำ Financial Model ละเอียด เหมือนตัวบริษัทเองหรอก
ไม่รู้หรอกว่าจะลงทุนไรเท่าไหร่ ต้นทุนยังไง วิเคราะห์กันส่งเดชทั้งนั้น
เอาใจช่วยคนถือ JAS ครับ ของดีๆไม่นานก็กลับมา อย่าทิ้งกันไปซะก่อนล่ะ
JAS กับผู้ร่วมทุนในอนาคต และการประเมินจุดคุ้มทุนคร่าวๆ (กระทู้ให้กำลังใจคนถือ JAS)
ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยก็จะบอกว่าไม่ได้มโนครับแต่ MONO
คุณพิชญ์เค้าเคยทำธุรกิจร่วมกับ SK Telecom และ Mobile Operators อื่นๆอีกหลายประเทศ ผ่านบริษัท MONO ครับ
ถามว่า MONO ก่อนที่จะมีทีวีดิจิตอล ธุรกิจหลักคืออะไร ก็คือมือถือนั่นแหละ ปัจจุบันธุรกิจมือถือก็เป็นธุรกิจหลักอยู่
ตัวอย่างการร่วมธุรกิจกับ SK Telecom และเจ้าอื่นๆ (แสดงให้เห็นว่าแกมีพันธมิตรอยู่ทั่วโลกจริงๆ)
มีบางคนบอกว่าเป็นรายใหม่ในตลาดมือถือไม่มีประสบการณ์ (ใช่จริงหรอ ?!?)
จริงๆแล้วผู้บริหารอยู่ในธุรกิจมือถือมานานมาก มีการวิเคราะห์อุตสาหกรรมอยู่ตลอดเวลา คุ้นเคยกับระบบโทรคมนาคมเป็นอย่างดีด้วย
ตัวอย่างการวิเคราะห์ แสดงให้เห็นการวิเคราะห์สภาพตลาดเชิงลึก และพฤติกรรมผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน (มีอีกเยอะ)
=======================================================================
JAS จะทำกำไรได้ยังไง ? ขาดทุนแน่ !!! เจ๊งแน่ !!!! ผมถามว่าคุณคำนวณตัวเลขออกมาจริงๆกันหรือยัง? (ดึงสติกันนิดนึง)
เงินลงทุนทั้งหมดของ JAS น่าจะประมาณ 1 แสนล้านบาท (ใบคลื่น 900 = 75,000 /เงินลงทุนอื่นๆ เช่นเสาสัญญาณ = 25,000) คิดเป็นค่าเสื่อม 15 ปีอยู่ที่ปีละ 6,700 ล้านบาท ผมบวกค่าใช้จ่ายในการบริหารให้อีกปีละ 2,000 ล้านบาท รวมเป็น 8,700 ล้านบาท (น่าจะหนักไปทางงบ Marketing กับค่าเช่าเสาเพราะในส่วนของร้านค้าและคน leverage จาก 3BB อยู่แล้ว) ถ้า ARPU 2,400 บาท/ปี (200 บาท/เดือน Average Industry) จะต้องหาลูกค้าให้ได้ 8,700,000,000/2,400 = 3.6 ล้านราย ถึงจุดคุ้มทุน คุณคิดว่า 3.6 ล้านรายจากเบอร์ทั่วประเทศ 100 ล้านเนี่ยคุณพิชญ์แกบอกขอ 3 ปี คุณเชื่อว่าทำได้ไหม (ผมว่าขี้ๆ)
=============================================================================
ขอบ่น
นักวิเคราะห์มันมั่วซั่ว ตอน JAS ทำ 3BB ครั้งแรก นักวิเคราะห์มันก็วิเคราะห์ว่าจะเจ๊งเพราะมีเจ้าตลาดจาก TRUE กับ TOT อยู่แล้ว
ต้องลงทุน Infrastructure ใหม่หมด แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ ?
ตอนออก JASIF นักวิเคราะห์มันก็วิเคราะห์กันว่า JAS จะมีกำไรลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ ?
ผมจะบอกให้นักวิเคราะห์ที่วิเคราะห์กันส่งเดชอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้รู้ดีเท่าเจ้าของหรอกว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่
นักวิเคราะห์ไม่ได้มีการทำ Financial Model ละเอียด เหมือนตัวบริษัทเองหรอก
ไม่รู้หรอกว่าจะลงทุนไรเท่าไหร่ ต้นทุนยังไง วิเคราะห์กันส่งเดชทั้งนั้น
เอาใจช่วยคนถือ JAS ครับ ของดีๆไม่นานก็กลับมา อย่าทิ้งกันไปซะก่อนล่ะ