สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
น่าเห็นใจคนทำธุระกิจจริงๆครับ
นึกย้อนกลับไป เราคงนึกไม่ถึงว่าเศรฐกิจบ้านเรามันจะถดถอยขนาดนี้
นี่คงไม่ต่างจากรีดเลือดปู
เราไม่มีความสุขกันหรอครับ
ประเทศเรากำลังจะมี เรือดำน้ำ กับ รถไฟความเร็วสูง
ประเทศเรามีลอตเตอรี่ 80
ประเทศเราประมูลคลื่น 900 ได้ราคา เป็นแสนล้าน สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
ประเทศเรามีข้าวมากมาย จนขายไม่ทันต้องทิ้งไว้ให้มันเน่า เพื่อเอาไปทำพลังงานทดแทน
ประเทศเรามีความเงียสงบจนทุกวันนี้คุณสามารถได้ยินเสียงคนเก็บขยะทำกระป๋องหล่นตอนกลางคืนได้
ประเทศเรามีเด็กอัจฉริยะที่ไม่ต้องเรียนจน 4 โมงเย็นอีกต่อไป
ประเทศเรามีรัฐธรรมนูญมากที่สุดในโลก
เรายังต้องการอะไรอีก
นึกย้อนกลับไป เราคงนึกไม่ถึงว่าเศรฐกิจบ้านเรามันจะถดถอยขนาดนี้
นี่คงไม่ต่างจากรีดเลือดปู
เราไม่มีความสุขกันหรอครับ
ประเทศเรากำลังจะมี เรือดำน้ำ กับ รถไฟความเร็วสูง
ประเทศเรามีลอตเตอรี่ 80
ประเทศเราประมูลคลื่น 900 ได้ราคา เป็นแสนล้าน สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
ประเทศเรามีข้าวมากมาย จนขายไม่ทันต้องทิ้งไว้ให้มันเน่า เพื่อเอาไปทำพลังงานทดแทน
ประเทศเรามีความเงียสงบจนทุกวันนี้คุณสามารถได้ยินเสียงคนเก็บขยะทำกระป๋องหล่นตอนกลางคืนได้
ประเทศเรามีเด็กอัจฉริยะที่ไม่ต้องเรียนจน 4 โมงเย็นอีกต่อไป
ประเทศเรามีรัฐธรรมนูญมากที่สุดในโลก
เรายังต้องการอะไรอีก
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าคุณย้อนไปอ่านกระทู้เดิมๆ เมื่อกลางปี 57 คุณจะเห็นเลยว่า
มีกระทู้เปรยๆ มาเยอะว่าเศรษฐกิจแย่
แล้วก็โดน มนุษย์เงินเดือนกระหน่ำด้วยวลียอดฮิต " ไม่รู้จักปรับตัว "
แล้วเป็นไง พ่อค้าแม่ค้า เขาโดนก่อน เขาก็มาบอก มาปรึกษา ไม่มีคนเชื่อก็ไม่เป็นไร
พนักงานบริษัท ส่วนใหญ่จะรู้ตัวก็ต่อเมื่อ ไฟลามถึงตัวแล้ว เพราะเจ้าของเขาไม่บอกหรอก
มันเสียขวัญกำลังใจ ดีไม่ดีพนักงานเก่งๆ ชิงลาออกก่อนมันจะเสียหายหนัก และเร็วกว่าเดิม
แต่ผมบอกไว้เลยนะ ว่า พนักงานที่อายุ 35 up ต้องระวังชีวิตใช้เงิน วางแผนการเงินให้ดีๆ
อย่าคิดว่างานมั่นคง ชีวิตคุณกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะคนในวัยนี้กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว
ซื้อบ้าน ซื้อรถ มีลูกเล็กๆ กำลังเรียน อนุบาล
วัยนี้ น่าเห็นใจทีสุด
ไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดว่ามันเป็นเวรกรรมของเราๆ ก็แล้วกัน
มันเป็นกันหมดทั้งโลกนั่นแหละ เพียงแต่บ้านเรามันหนัก แบบทุกทิศทุกทาง
ต่อไปถ้าเรา มีรัฐบาลไม่ว่าใครจะมาเป็นนายก ไม่ว่าใครจะเป็นยังไง
ขอร้อง.................................. " จงอยู่กับบ้าน "
เข็ดกันพอหรือยัง
มีกระทู้เปรยๆ มาเยอะว่าเศรษฐกิจแย่
แล้วก็โดน มนุษย์เงินเดือนกระหน่ำด้วยวลียอดฮิต " ไม่รู้จักปรับตัว "
แล้วเป็นไง พ่อค้าแม่ค้า เขาโดนก่อน เขาก็มาบอก มาปรึกษา ไม่มีคนเชื่อก็ไม่เป็นไร
พนักงานบริษัท ส่วนใหญ่จะรู้ตัวก็ต่อเมื่อ ไฟลามถึงตัวแล้ว เพราะเจ้าของเขาไม่บอกหรอก
มันเสียขวัญกำลังใจ ดีไม่ดีพนักงานเก่งๆ ชิงลาออกก่อนมันจะเสียหายหนัก และเร็วกว่าเดิม
แต่ผมบอกไว้เลยนะ ว่า พนักงานที่อายุ 35 up ต้องระวังชีวิตใช้เงิน วางแผนการเงินให้ดีๆ
อย่าคิดว่างานมั่นคง ชีวิตคุณกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะคนในวัยนี้กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว
ซื้อบ้าน ซื้อรถ มีลูกเล็กๆ กำลังเรียน อนุบาล
วัยนี้ น่าเห็นใจทีสุด
ไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดว่ามันเป็นเวรกรรมของเราๆ ก็แล้วกัน
มันเป็นกันหมดทั้งโลกนั่นแหละ เพียงแต่บ้านเรามันหนัก แบบทุกทิศทุกทาง
ต่อไปถ้าเรา มีรัฐบาลไม่ว่าใครจะมาเป็นนายก ไม่ว่าใครจะเป็นยังไง
ขอร้อง.................................. " จงอยู่กับบ้าน "
เข็ดกันพอหรือยัง
ความคิดเห็นที่ 9
และแล้วก็ลามถึงมนุษย์เงินเดือน คนทำงาน Office จนได้ แต่ไม่มีไรน่าเห็นใจ ชาวสวนยางเขาบอกโลละ 10 บาทเขาก็อยุ่ได้ขอให้แค่...
หนุ่มสาว Office ก็คงเหมือนกันแหละ ตกงาน ก็ไม่เป็นไรเขาก็อยู่ได้ขอให้แค่...
ชนชั้นนำบางส่วนก็คงคิดว่าประเทศถอยหลังยังไงก็ไม่เป็นไรขอให้แค่ ...
คือปนิธานของบางคนเขายิ่งใหญ่เกินกว่าจะต้องเห็นใจอะ เขากำลังทำเรื่องยิ่งใหญ่ที่เสียสละแม้ความสุขของตัวเองกันอยู่ขอให้แค่ ...
มนุษย์ธรรมดาอย่างเราคงยากเข้าใจ ปล่อยเขาไปดีที่สุด
หนุ่มสาว Office ก็คงเหมือนกันแหละ ตกงาน ก็ไม่เป็นไรเขาก็อยู่ได้ขอให้แค่...
ชนชั้นนำบางส่วนก็คงคิดว่าประเทศถอยหลังยังไงก็ไม่เป็นไรขอให้แค่ ...
คือปนิธานของบางคนเขายิ่งใหญ่เกินกว่าจะต้องเห็นใจอะ เขากำลังทำเรื่องยิ่งใหญ่ที่เสียสละแม้ความสุขของตัวเองกันอยู่ขอให้แค่ ...
มนุษย์ธรรมดาอย่างเราคงยากเข้าใจ ปล่อยเขาไปดีที่สุด
ความคิดเห็นที่ 17
เราก็ปิดกิจการค่ะ แบกภาระไม่ไหว ให้ลูกน้องออกหมด เพราะเราขายของกันไม่ได้มานานแล้ว คงเหลือของในสต็อกหลายล้าน แจ้งปิดบริษัทชำระภาษีขายครบ จะได้จบๆไป
เราเจอภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง คนมีภาระหนี้สินครัวเรือนเยอะเกินปกติ และสินค้าจีนบุกตลาด ผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันไปใช้ของถูกและถูกที่สุด
มันรุมเร้าเรามาเกือบ2ปี เราสู้มันไม่ไหวเราก็เลยเลิกทั้งหมด
เคยขายขาดทุน คนก็ยังซื้อไม่ได้ เราเลยกองของไว้
คุยกับคู่ชีวิตปรึกษากัน ได้ข้อตกลงว่าเมื่อขายขาดทุนแล้วยังต่อแล้วต่ออีก กดแล้วกดอีก ซื้อกันไม่ได้
เราก็จะบริจาคให้เด็กยากไร้ทั้งหมด เพราะไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องมาขายขาดทุนมากๆ ให้คนที่จริงๆแล้วสามารถซื้อได้
เราทำขายเสื้อผ้าเด็ก เราตั้งใจใช้ผ้าคอตตอลอย่างดี สั่งทอทั้งหมด ไม่มีสารฟอกขาว คิดว่าเด็กต้องใส่ของดีๆ ต้องไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี แต่พอเจอภาวะเศรษฐกิจไม่ดี กลายเป็นเด็กใส่ของจีนก็ได้ เดี๋ยวก็โต เจ๊งไปตามระเบียบค่ะ
เราเจอภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง คนมีภาระหนี้สินครัวเรือนเยอะเกินปกติ และสินค้าจีนบุกตลาด ผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันไปใช้ของถูกและถูกที่สุด
มันรุมเร้าเรามาเกือบ2ปี เราสู้มันไม่ไหวเราก็เลยเลิกทั้งหมด
เคยขายขาดทุน คนก็ยังซื้อไม่ได้ เราเลยกองของไว้
คุยกับคู่ชีวิตปรึกษากัน ได้ข้อตกลงว่าเมื่อขายขาดทุนแล้วยังต่อแล้วต่ออีก กดแล้วกดอีก ซื้อกันไม่ได้
เราก็จะบริจาคให้เด็กยากไร้ทั้งหมด เพราะไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องมาขายขาดทุนมากๆ ให้คนที่จริงๆแล้วสามารถซื้อได้
เราทำขายเสื้อผ้าเด็ก เราตั้งใจใช้ผ้าคอตตอลอย่างดี สั่งทอทั้งหมด ไม่มีสารฟอกขาว คิดว่าเด็กต้องใส่ของดีๆ ต้องไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี แต่พอเจอภาวะเศรษฐกิจไม่ดี กลายเป็นเด็กใส่ของจีนก็ได้ เดี๋ยวก็โต เจ๊งไปตามระเบียบค่ะ
ความคิดเห็นที่ 41
กิจการที่บ้านเราก็เศร้าเลย หน้าร้านขายของไม่ได้เลย บัญชีติดลบมาครึ่งปีแล้ว
ตอนนี้เถ้าแก่(สามี)ต้องมาขับรถบรรทุกเองแล้วค่ะ T^T
เราในฐานะเถ้าแก่เนี้ยก็ช่วยได้แค่ให้กำลังใจและช่วยประหยัด
จากที่เคยกินอาหารคลีนฟู้ด low-carb ผักผลไม้ออแกนิค
ตอนนี้ทอดไข่เจียวโปะข้าวสวย กินจนตัวบวมอืด อ้วนขึ้นมา 3 กิโลแล้ว
"ทั้งอ้วน ทั้งจน" ความสุขที่เคยมีมันหายไปไหนหมด
ลูกก็ยังเล็ก กำลังเริ่มเข้าเรียน ต้องใช้เงินทั้งนั้น
บางคืนก็นอนกอดกันร้องไห้ 2 คนผัวเมีย
เศร้า...
ตอนนี้เถ้าแก่(สามี)ต้องมาขับรถบรรทุกเองแล้วค่ะ T^T
เราในฐานะเถ้าแก่เนี้ยก็ช่วยได้แค่ให้กำลังใจและช่วยประหยัด
จากที่เคยกินอาหารคลีนฟู้ด low-carb ผักผลไม้ออแกนิค
ตอนนี้ทอดไข่เจียวโปะข้าวสวย กินจนตัวบวมอืด อ้วนขึ้นมา 3 กิโลแล้ว
"ทั้งอ้วน ทั้งจน" ความสุขที่เคยมีมันหายไปไหนหมด
ลูกก็ยังเล็ก กำลังเริ่มเข้าเรียน ต้องใช้เงินทั้งนั้น
บางคืนก็นอนกอดกันร้องไห้ 2 คนผัวเมีย
เศร้า...
แสดงความคิดเห็น
ช๊อก ไม่คิดว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้
คิดว่าคงไม่มีอะไรมาก แล้ว " นาย " ก็ เกริ่นๆๆ ไว้ค่ะ ว่า คงจะต้องขายโรงงาน
ขายของใน สต๊อกออก ตอนแรกคิดว่า เป็นการปรับตัวของธุรกิจ
แต่ คุยไป คุยมา เหมือนเค้าจะกลับบ้าน ใจหายค่ะ ตอนแรก คิดว่านาย คงอดทน
และ สู้ต่อ แต่ดูท่าทาง คงไปไม่ไหว ออกจากห้องประชุมมา น้ำตามันจะไหล ค่ะ แต่ต้องสะกด และตั้งสติ ใหม่
ว่า เรา ควรจะทำอย่างไง .... ในใจพยายามเอาธรรมะเข้าข่ม เกิดขึ้น คงอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา
แต่ ถ้าคนไม่ดี เราไม่รู้สึกน่ะค่ะ แต่เค้าเป้นคนดี ดีที่สุดในบรรดานายที่เราเคยทำงานด้วย น่ะค่ะ
พยายามยิ้มสุ้ ... แต่ คงต้องหันหลังปาดน้ำตา .... เฮ้อ
อัพเดท สถานะการณ์ ล่าสุดน่ะค่ะ
อย่างแรก ต้องขอขอบคุณ ทุกๆๆ ความคิดเห็น อย่างน้อย ก็ทำให้รุ้ว่า ยังมีคนที่ อยู่ในสถานการณ์ คล้ายๆๆกัน
ตอนนี้ ขอลอง อีกเฮือก ค่ะ นายเค้าพยายามติดต่อ ลุกค้า แต่ทางเราก็พยายามค่ะ
กำลังทำเรื่อง ขอกู้ แบงค์ อยู่ไม่รู้ว่าจะได้ไหม (จริงๆๆ แล้วเราจะทำเฉยๆๆ ก้ได้น่ะค่ะ แต่ สงสารค่ะ นั่งคุยตารางงานทุกวัน คุยกันแทบทุกเรื่อง ไม่มีความเกรงใจกันล่ะ เราก็เสนอความคิดเต็มที ทำเท่าที่สองมือ หนึ่งสมองทึบๆๆ จะทำได้ค่ะ) อะไรทำเองได้ ก้ทำ ไม่ต้องเสียเงินจ้างเค้า เหนือยค่ะ เจ้าหนี้ มีทวงเราก็ ขอประนีประนอมไป แต่บางครั้ง ได้ยินคำพูดที่ไม่ดี แต่อดทนเอาค่ะ ส่วนนาย เรารุ้ว่าเค้าคง น้ำตาตกในมาหลายปี๊ป ไม่อยากให้นายเห็นว่าเราท้อ เดียวเค้ายิ่งใจเสียไปใหญ่ ยังเหลือลูกจ้างอีกหลายคนที่ยังต้องให้เค้านำทางค่ะ ล่ะคะ ถ้าหัวขบวนเสีย มันจะพังกันทั้งหมดค่ะ ตอนนี้คิดอยู่อย่างเดียว ค่ะ สู้ เท่าที่ จะทำได้ค่ะ และ ขอบคุณ จริงๆๆ ขอบคุณใจ ขอบคุณมากๆๆค่ะ