แน่นอนว่าบริษัทหลายแห่งทั่วโลกมักจะมีการหลอกลวงผู้คน โดยเฉพาะนักลงทุนให้หลงเชื่อเรื่องตัวเลขสวยๆที่บริษัทหลายแห่งมักจะตกแต่งเกินความเป็นจริง ทำให้เกิดความเสียหายทั้งนักลงทุนและก็เศรษฐกิจภาพรวมที่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนเป็นอย่างมาก ลองมาดู 10 บริษัทที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนด้านนี้ดีกว่าว่ามีที่ใดบ้าง
10.บริษัท Daewoo Group (ประเทศเกาหลีใต้)
บริษัทนี้เป็นบริษัทที่มีเครือข่าวกว้างในประเทศเกาหลีใต้ โดยมีอยู่ประมาณ 100 กว่าประเทศได้ กลายเป็นบริษัทที่ล้มละลายทางการเงินไปซะแล้ว บริษัทได้ก่อหนี้สินประมาณ 80 ล้านกว่าดอลลาร์ โดยประธานบริษัทนี้ได้มีการตกแต่งบัญชีให้ดูสวยเกินจริง ที่แต่งตัวเลขทางทรัพย์สิน 43 ล้านล้านดอลลาร์ มีการใช้อำนาจผิดๆในการกู้ยืมเงินกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์
9.บริษัท Satyam Computers (ประเทศอินเดีย)
เป็นบริษัทที่ทำงานทางด้าน IT ของประเทศอินเดียวที่ได้มีการตกแต่งบัญชีงบดุลไปในทางที่ผิดๆ บริษัทนี้ไม่ได้มีแสดงงบบัญชีในเรื่องการขาดทุนในบัญชีตามความเป็นจริง โดยแต่งตัวเลขให้ดูเหมือนว่ามีการขาดทุนน้อย แต่จริงๆขาดทุนมากกว่านั้นเยอะ ทั้งยังตกแต่งกำไรให้ดูมากกว่าความเป็นจริงกว่าพันล้านดอลลาร์กว่าๆ แต่จริงๆได้แค่หลักสิบล้านเท่านั้น สุดท้ายทางประธานบริษัทก็ถูกตำรวจจับกุมจากการตกแต่งบัญชี
8.บริษัท Barlow Clowes (ประเทศอังกฤษ)
บริษัทนี้ได้รับค่าตอบแทนจากการลงทุนของรัฐบาลหลายร้อยล้านปอนด์เพื่อนำเงินไปให้กับบุคคลระดับสูง ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ขาดทุนกับการลงทุนบริษัทนี้ เนื่องจากได้ถูกปิดตัวลง มีผู้ต้องหาหลายคนที่ต้องเข้าคุกจากการกระทำผิดๆที่เป็นเรื่องอื้อฉาวของประเทศ
7.บริษัท Fannie Mae And Freddie Mac (ประเทศอเมริกา)
บริษัทนี้ถูกพบว่าต้มตุ๋นหลอกลวงเมื่อทาง FBI ได้มีการสืบสวนความเป็นมาของบริษัทที่มีส่วนเชื่อมโยงวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2008 ที่สร้างความเสียหายกับนักลงทุนเป็นเงินจำนวนมหาศาล โดยบริษัทนี้ก็ถูกปรับด้วยเงิน 400 ล้านดอลลาร์จากการแสดงบัญชีให้เห็นว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทดูดีและน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุน
6. Bernard L. Madoff Investment Securities (ประเทศอเมริกา)
เป็นที่รู้กันดีจากการดำเนินกิจการเป็นโบรกเกอร์เถื่อน โดยทางผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Bernie Madoff ได้ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินกว่า 50 พันล้านดอลาร์ โดยทางเขาก็มีวางแผนเรื่องการกู้ยืมเงินกว่า 7 พันล้านดออลาร์ แล้วก็วางแผนที่จะนำเงินนี้ไปจ่ายเป็นค่าโบนัสกว่า 100 ล้านกว่าดอลลาร์ สุดท้ายเขาก็ถูกจับจากการตั้งโบรกเกอร์เถื่อน
5.บริษัท American International Group (ประเทศอเมริกา)
เป็นบริษัทที่ให้เช่าเครื่องบินขนาดใหญ่ที่มีการตกแต่งบัญชีไปในทางที่ผิดๆ เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันในการดำเนินกิจการทางธุรกิจ และยังมีตัวเลขต่างๆมากมายที่ยังมีปัญหาในการตรวจสอบ และยังมีการกล่าวด้วยว่า มีการปรับผลกำไรให้ดูเพิ่มขึ้นกว่าพันกว่าล้านดอลลาร์
4.บริษัท Bank Of Credit And Commerce International (ประเทศอังกฤษ)
หรือรู้จักกันในตัวย่อว่า BCCI เป็นบริษัททางการเงินที่ทำเรื่องฉ้อโกงกระฉ่อนระดับโลก โดยบริษัทนี้มีการขโมยเงินในบัญชีของผู้นำฝากกว่า 1 พันกว่าล้านปอนด์ มีการสนับสนุนการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับทางผู้ก่อการร้ายได้อย่างง่ายดาย จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในเวลานั้น
3.วิกฤตการณ์สินเชื่อ Subprime (ประเทศอเมริกา)
ช่วงแรกมีบริษัทเกี่ยวกับสินเชื่อกว่า 100 บริษัทอยู่ในสถานะล้มละลายจากวิกฤติการณ์ Subprime ต่อมาทางสถาบันทางการเงินได้ก็ได้ออกมายอมรับว่า ผู้คนจำนวนมากได้ขาดทุนจากการที่ใช้ตราสารหนี้ในการจำนองค้ำประกัน จนต้องสูญเสียบ้านจนต้องขายทอดตลาดหลายหลัง และยังทำให้วิกฤติเศรษฐกิจนี้ลามไปสู่ทั่วทั้งโลก
2.บริษัท Worldcom (ประเทศอเมริกา)
เป็นบริษัทที่ให้บริการทางด้านโทรศัพท์ที่ได้มีการยอมรับว่า มีการตกแต่งผลกำไรให้ดูเกินจริงกว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2001-2002 เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทาง Wall Street ต่อมาก็ได้มีการสืบสวนเรื่อนี้จนพบว่า บริษัทได้สร้างภาพตัวเองให้ดูดีเกินจริง
1.บริษัท Enron (ประเทศอเมริกา)
ถือเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนระดับโลกในเรื่องการต้มตุ๋นหลอกเอาเงินนักลงทุนเข้ากระเป๋าตัวเอง ผลก็คือบริษัทนี้ก็ได้เข้าสู่ภาวะล้มละลายในปี 2001 โดยบริษัทได้มีการลงทุนให้คำมั่นสัญญากับผู้คนและก็คาดหวังว่าจะได้กำไรมากขึ้นจากการขายแก๊สกับพวกพลังงานไฟฟ้า แต่บริษัทไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย ทำให้หุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นกว่าราคา $ 90 ก็เป็นการปั่นราคาหุ้นขึ้นมา จนทำให้ผู้ถือหุ้นขาดทุนย่อยยับไปเกือบๆ 11 พันล้านดอลลาร์เมื่อราคาหุ้นมันเหลือเพียงแค่ $ 1 ในช่วงท้ายๆปี 2001
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับบริษัทหลอกลวงต้มตุ๋นกระฉ่อนโลก
บริษัทนี้เป็นบริษัทที่มีเครือข่าวกว้างในประเทศเกาหลีใต้ โดยมีอยู่ประมาณ 100 กว่าประเทศได้ กลายเป็นบริษัทที่ล้มละลายทางการเงินไปซะแล้ว บริษัทได้ก่อหนี้สินประมาณ 80 ล้านกว่าดอลลาร์ โดยประธานบริษัทนี้ได้มีการตกแต่งบัญชีให้ดูสวยเกินจริง ที่แต่งตัวเลขทางทรัพย์สิน 43 ล้านล้านดอลลาร์ มีการใช้อำนาจผิดๆในการกู้ยืมเงินกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์
เป็นบริษัทที่ทำงานทางด้าน IT ของประเทศอินเดียวที่ได้มีการตกแต่งบัญชีงบดุลไปในทางที่ผิดๆ บริษัทนี้ไม่ได้มีแสดงงบบัญชีในเรื่องการขาดทุนในบัญชีตามความเป็นจริง โดยแต่งตัวเลขให้ดูเหมือนว่ามีการขาดทุนน้อย แต่จริงๆขาดทุนมากกว่านั้นเยอะ ทั้งยังตกแต่งกำไรให้ดูมากกว่าความเป็นจริงกว่าพันล้านดอลลาร์กว่าๆ แต่จริงๆได้แค่หลักสิบล้านเท่านั้น สุดท้ายทางประธานบริษัทก็ถูกตำรวจจับกุมจากการตกแต่งบัญชี
บริษัทนี้ได้รับค่าตอบแทนจากการลงทุนของรัฐบาลหลายร้อยล้านปอนด์เพื่อนำเงินไปให้กับบุคคลระดับสูง ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ขาดทุนกับการลงทุนบริษัทนี้ เนื่องจากได้ถูกปิดตัวลง มีผู้ต้องหาหลายคนที่ต้องเข้าคุกจากการกระทำผิดๆที่เป็นเรื่องอื้อฉาวของประเทศ
บริษัทนี้ถูกพบว่าต้มตุ๋นหลอกลวงเมื่อทาง FBI ได้มีการสืบสวนความเป็นมาของบริษัทที่มีส่วนเชื่อมโยงวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2008 ที่สร้างความเสียหายกับนักลงทุนเป็นเงินจำนวนมหาศาล โดยบริษัทนี้ก็ถูกปรับด้วยเงิน 400 ล้านดอลลาร์จากการแสดงบัญชีให้เห็นว่า ฐานะทางการเงินของบริษัทดูดีและน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุน
เป็นที่รู้กันดีจากการดำเนินกิจการเป็นโบรกเกอร์เถื่อน โดยทางผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Bernie Madoff ได้ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินกว่า 50 พันล้านดอลาร์ โดยทางเขาก็มีวางแผนเรื่องการกู้ยืมเงินกว่า 7 พันล้านดออลาร์ แล้วก็วางแผนที่จะนำเงินนี้ไปจ่ายเป็นค่าโบนัสกว่า 100 ล้านกว่าดอลลาร์ สุดท้ายเขาก็ถูกจับจากการตั้งโบรกเกอร์เถื่อน
เป็นบริษัทที่ให้เช่าเครื่องบินขนาดใหญ่ที่มีการตกแต่งบัญชีไปในทางที่ผิดๆ เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันในการดำเนินกิจการทางธุรกิจ และยังมีตัวเลขต่างๆมากมายที่ยังมีปัญหาในการตรวจสอบ และยังมีการกล่าวด้วยว่า มีการปรับผลกำไรให้ดูเพิ่มขึ้นกว่าพันกว่าล้านดอลลาร์
หรือรู้จักกันในตัวย่อว่า BCCI เป็นบริษัททางการเงินที่ทำเรื่องฉ้อโกงกระฉ่อนระดับโลก โดยบริษัทนี้มีการขโมยเงินในบัญชีของผู้นำฝากกว่า 1 พันกว่าล้านปอนด์ มีการสนับสนุนการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับทางผู้ก่อการร้ายได้อย่างง่ายดาย จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในเวลานั้น
ช่วงแรกมีบริษัทเกี่ยวกับสินเชื่อกว่า 100 บริษัทอยู่ในสถานะล้มละลายจากวิกฤติการณ์ Subprime ต่อมาทางสถาบันทางการเงินได้ก็ได้ออกมายอมรับว่า ผู้คนจำนวนมากได้ขาดทุนจากการที่ใช้ตราสารหนี้ในการจำนองค้ำประกัน จนต้องสูญเสียบ้านจนต้องขายทอดตลาดหลายหลัง และยังทำให้วิกฤติเศรษฐกิจนี้ลามไปสู่ทั่วทั้งโลก
เป็นบริษัทที่ให้บริการทางด้านโทรศัพท์ที่ได้มีการยอมรับว่า มีการตกแต่งผลกำไรให้ดูเกินจริงกว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2001-2002 เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทาง Wall Street ต่อมาก็ได้มีการสืบสวนเรื่อนี้จนพบว่า บริษัทได้สร้างภาพตัวเองให้ดูดีเกินจริง
ถือเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนระดับโลกในเรื่องการต้มตุ๋นหลอกเอาเงินนักลงทุนเข้ากระเป๋าตัวเอง ผลก็คือบริษัทนี้ก็ได้เข้าสู่ภาวะล้มละลายในปี 2001 โดยบริษัทได้มีการลงทุนให้คำมั่นสัญญากับผู้คนและก็คาดหวังว่าจะได้กำไรมากขึ้นจากการขายแก๊สกับพวกพลังงานไฟฟ้า แต่บริษัทไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย ทำให้หุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นกว่าราคา $ 90 ก็เป็นการปั่นราคาหุ้นขึ้นมา จนทำให้ผู้ถือหุ้นขาดทุนย่อยยับไปเกือบๆ 11 พันล้านดอลลาร์เมื่อราคาหุ้นมันเหลือเพียงแค่ $ 1 ในช่วงท้ายๆปี 2001
ผู้เขียน Mr.lawrence10