ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 19/12/2015

กระทู้คำถาม


***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***

กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................


ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม



เคยเขียนเรื่องที่มาของซาลาเปาว่าเกิดจาก ขงเบ้งใช้กุศโลบายให้ชาวหมั่นใช้ซาลาเปาเซ่นไหว้แทนการตัดหัวคนจริงๆ
http://ppantip.com/topic/33844855 นับว่าเป็นความชาญฉลาดของขงเบ้งที่ทำให้รักษาชีวิตคนไว้ได้
และทำให้เรายังมีของอร่อยๆ ทานกันอีกด้วย

ยังมีของประดิษฐ์ที่เกิดในยุคนั้นเพราะขงเบ้งอีกมากมายค่ะ วันนี้ขอนำเสนอ "โคมลอย" หรือข่งหมิงเติง (孔明灯) หรือโคมขงเบ้ง
ถึงจะพ้นเทศกาลลอยกระทงมาแล้ว ก็ไม่เป็นไรเนอะ



"โคมลอย" หรือ "โคมขงเบ้ง" นั้นเชื่อกันว่าเกิดขึ้นในยุคสามก๊ก โดยขงเบ้งเป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกเพื่อใช้ส่งข่าวในการสงคราม
ใช้เพื่อบอกตำแหน่งที่ตั้งของตัวเองให้แก่ทัพเสริม บ้างก็ใช้ในยามที่ถูกข้าศึกล้อม บ้างก็ใช้เพื่อบ่งบอกจุดที่ตั้งสำคัญของข้าศึก
และในอีกหนึ่งคุณสมบัติของโคมลอยขงเบ้งก็คือ การดูทิศทางของลม

ในภาพยนตร์สามก๊ก Red Cliff ภาค 2 ขงเบ้งได้ใช้โคมลอยเพื่อดูทิศทางลมก่อนที่จะเข้าโจมตีกองทัพโจโฉในศึกเซ็กเพ็ก (ผาแดง)




อีกเหตุผลหนึ่งที่ชาวจีนนิยมเรียกกันว่า “โคมขงเบ้ง” ก็เพราะเมื่อแรกครั้งประดิษฐ์ โคมลอยนี้มีลักษณะคล้ายหมวกของขงเบ้ง
ที่สวมใส่อยู่เป็นประจำ และคุ้นตาพวกเรากันดีจากฉากในภาพยนตร์เรื่องสามก๊ก




โคมขงเบ้งในจีน ส่วนใหญ่มักจะเขียนคำมงคล เพื่อให้ผู้ปล่อยโคมสมปรารถนา หรือบางครั้งก็เป็นภาพพระโพธิสัตว์
ไปจนถึงภาพเซียนองค์ต่างๆ ที่ผู้ปล่อยเคารพนับถืออีกด้วย มาจนถึงปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องลอยเคราะห์ให้สุขี
ทุกวันนี้ ชาวจีนยังมีการปล่อยโคมลอยนี้กันในหลายๆ เมือง และยังคงเรียกกันว่า "โคมขงเบ้ง" หรือบางทีก็เรียกว่า
"เทียนเติง" 天灯 – หรือโคมฟ้า หรือ สวี่เอวี่ยนเติง 许愿灯 หรือโคมบนบานอธิษฐาน




[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

........................................................................



Loi Krathong Karaoke English

https://www.youtube.com/watch?v=NSkriTLhM7A
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ในบางคืน ดวงจันทร์ที่สว่างไสว กลับถูกเมฆบดบังจนลับหายไป
เพียงครู่ เมื่อกลุ่มเมฆเคลื่อนผ่าน ดวงจันทร์ก็จะส่องแสงสว่างอีกครา
แต่เพียงไม่นานนัก กลุ่มเมฆกลุ่มใหม่ก็เคลื่อนเข้ามาบดบังอีก
กลุ่มเมฆก็เหมือนอุปสรรคของชีวิต ที่เข้ามาบดบังเราดั่งดวงจันทร์
อุปสรรคย่อมมีเข้ามาในชีวิตตลอด ทำให้เราไม่เห็นแสงของดวงจันทร์
แต่ดวงจันทร์ก็ไม่ได้หายไปไหน ยังคงส่องแสงอยู่ตลอดเวลา
ความคิดเห็นที่ 31
ตามนี้นะ อมยิ้ม15
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เดี๋ยวมาครับยังไม่เลิกงาน
ความคิดเห็นที่ 51
ไม่มาก็อย่ามา ไม่รักก็อย่ามา
อยากจบปัญหาก็แค่บอกลาเลิกกัน
ไม่รักก็ไม่รักบอกมาแค่สั้น ๆ
ยังทำให้ฉันเข้าใจกว่าคำอันมากมาย

* อย่าทำเป็นมีเหตุผลและพูดจา
อย่าเปลืองเวลากับคำอธิบาย

** ไม่เข้าใจ มันเสียเวลาเปล่าไม่เข้าใจ
ไม่รู้ไม่อยากฟังไม่อยากเข้าใจ
สิ่งใด สิ่งไหน ทุกๆ อย่าง
ถ้าเธอยังไม่อยากทำร้ายใครไม่พูดเลยดีกว่า

แค่รู้ก็เลิกรัก ไม่รู้ก็เลิกกัน
ถ้าหากมีค่าเท่ากันจะฟังไปเพื่อใคร
ยิ่งรู้ยิ่งเจ็บลึก ยิ่งนึกยิ่งเจ็บใจ
ไม่อยากจะช้ำใจตายด้วยการทนรับฟัง

ซ้ำ *,**,**

ก็ไม่เข้าใจ มันเสียเวลาเปล่าไม่เข้าใจ
ไม่รู้ไม่อยากฟังไม่อยากเข้าใจ
สิ่งใด สิ่งไหน ทุกๆ อย่าง
ถ้าเธอยังไม่อยากทำร้ายใคร
ถ้าเธอยังไม่อยากจะฆ่าใครไม่พูดเลยดีกว่า
++++++++++++++++++
ให้คุณแฟนทั้งหลายใครเป็นแฟนเรามั๊งยกมืออออ
ความคิดเห็นที่ 74
"รักข้ามขอบฟ้า"  ศรีไสล  สุชาติวุฒิ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


วันนั้น  เพื่อนที่เป็นมัคคุเทสก์จากตัวเมืองเชียงใหม่นำฝรั่งกรุ๊ปหนึ่งมาฝากไว้ที่หมู่บ้านชาวเขาที่ผมเป็นครูดอยอาสาอยู่บอกว่าฝากดูแลเพื่อดูวิถีชีวิตชาวเขา แล้วอีกสามสี่วันจะมารับกลับเชียงใหม่   เป็นกรุ๊ปฝรั่งชาวอังกฤษที่อยากจะศึกษาชีวิตชาวเขา    เพื่อนเห็นว่าผมพอพูดอังกฤษได้บ้างเลยโยนภาระมาให้   ทิ้งสัมภาระอาหารไว้เยอะแยะพร้อมเงินหลายพันไว้ใช้จ่าย


นอกจากภาระที่ต้องสอนหนังสือชาวเขาแล้ว  ผมต้องมีภาระเพิ่มขึ้นมาอีกคือคอยหุงหาอาหารให้ฝรั่งกรุ๊ปนั้น    ความจริงไม่ใช่ภาระมากมายอะไรหรอกเพราะปรกติก็ทำอาหารทีละเยอะๆ กับนักเรียนอยู่แล้ว   ยิ่งตอนเช้ามีขนมปัง  เนย แยม  แล้วต้มน้ำร้อนไว้ให้พวกเขาชงชากาแฟก็เรียบร้อย  ถึงชั่วโมงภาษาอังกฤษก็ถือโอกาสใช้ฝรั่งกรุ๊ปนั้นแหละเข้ามาฟุตฟิตฟอฟายกับเด็กๆ  สนุกและเปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ


ฝรั่งกรุ๊ปนั้นอายุตั้งแต่ 23 ไปถึง 60 กว่าๆ   ถูกชะตาและเป็นกันเองกับผมทุกคน   มีสามีภรรยาคู่หนึ่งบอกว่าอยากจะชวนผมไปเที่ยวดูประเทศอังกฤษเป็นการตอบแทน   หรือถ้าผมอยากจะเรียนหนังสือต่อเขาจะเป็นสปอนเซอร์ให้ซึ่งผมได้ตอบแบบกึ่งรับกึ่งสู้ว่า  ชอบชีวิตครูดอยแต่ก็อยากจะศึกษาเพิ่มเติม  ถ้าหากเป็นชะตาคงจะได้มีโอกาสเห็นประเทศอังกฤษตามคำชวนเชิญ   ผมส่งเสียตัวเองเรียนมาตั้งแต่อายุสิบสอง   และต้องดร็อปไปเป็นปีเพราะไม่มีเงินเสียค่าเทอม   เจอโอกาสทองเข้าอย่างนี้ถึงกับสะอึกพูดไม่ออกเหมือนกัน


นอกจากนี้มีสาวชาวอังกฤษคนหนึ่งที่มีน้ำใจคอยช่วยเรื่องข้าวปลาอาหาร  เธอจะมาถามเสมอว่าจะให้ช่วยหั่นผัก  ต้มน้ำฯลฯ อะไรไหม?  เธอจะมาคอยเป็นลูกมือผมเวลาเข้าห้องครัวแทบทุกมื้อ  จนรู้สึกคุ้นเคยกันเธอเป็นนางพยาบาลที่จัดว่าสวยสะดุดตามาก  สะดุดตาจนบางครั้งผมไม่กล้ามองเธอตรงๆ ....เพียงแค่ก็ไม่กี่วัน  ผมรู้สึกเหมือนว่าเราสนิทสนมกันมานานมาก   อาจจะด้วยเพราะเธอเป็นกันเองคอยถามนู่นห่วงนี่ตลอดเวลา


ตกกลางคืนมา  ทุกคืนพวกเราจะมานั่งล้อมวงคุยกันที่กองไฟ  เพราะความเย็นของอากาศผมและเพื่อนครูอีกคนจะร้องเพลงและเล่นกีตาร์ให้พวกเขาฟัง   ก็สนุกไปอีกแบบ  เพราะปรกติก็จะเล่นกีตาร์กันคนเดียวหรือไม่ก็สองคนแล้วแต่อารมณ์   ปรกติชีวิตประจำวันก็คือ ทำอาหารและสอนหนังสือเสร็จ...ก็จะอ่านหนังสือในบ้านพักครูบ้าง   ออกไปดักปลาในห้วย  หรือไม่ก็เดินป่า  หรือถ้าวันอาทิตย์ก็พาเด็กนักเรียนที่เป็นคริสต์ไปโบสถ์ที่หมู่บ้านที่มีโบสถ์   ก็ต่อเมื่อมีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาพักด้วยก็สร้างบรรยากาศใหม่ๆ ขึ้นมา



หนึ่งวันก่อนที่จะถึงวันกำหนดที่เพื่อนผมจะขึ้นมารับพวกเขากลับเชียงใหม่    จูลี่แหม่มสาวที่สนิทสนมคุ้นเคยกับผมมาบอกว่าเธอจะกลับมาที่นี่ใหม่  พร้อมกับทิ้งที่อยู่ไว้ให้กับผมเผื่อจะได้ติดต่อกันทางจดหมาย   เธอบอกว่านอกจากชีวิตชาวเขาแล้ว  เธออยากจะรู้จักผมมากกว่านี้   และผมก็บอกเธอไปในทำนองเดียวกันว่าอยากจะรู้จักเธอมากกว่าที่เป็นอยู่เช่นกัน   เธอบอกว่าลงจากเขาแล้ว  คณะของเธอจะอยู่เชียงใหม่สามสี่วัน...ถ้าผมได้มีโอกาสลงเขาไปเชียงใหม่   เธอจะเสียใจมากถ้าผมไม่แวะไปหาเธอ   ผมบอกว่าคงยากเพราะตอนนี้ยังไม่มีวันหยุด


วันที่เพื่อนมารับพวกเขากลับลงเชียงใหม่   ตอนแรกผมรู้สึกเฉยๆ....แอบดีใจนิดๆ ที่หมดภาระตรงนั้น......แต่เย็นวันนั้น   ดูเหมือนว่าจะเป็นเย็นของวันที่เงียบเหงาที่สุดในชีวิตของผมก็ว่าได้    ไม่คนคอยเป็นไม้เป็นมือช่วยทำอาหาร   ไม่มีคนนั่งใกล้ๆ ฟังกีตาร์ที่ผมเล่น   ไม่มีเสียงปรบมือหลังจากที่เล่นจบ......เริ่มจาก เงียบ   วังวัง....สุดท้ายก็จมดิ่งอยู่บนความเงียบเหงา   เป็นเช่นนี้อยู่สองวันสองคืน.......เมื่อใบหน้าของเธอลอยเด่นชัดขึ้นๆ  ผมถึงรู้คำตอบว่าทำไมถึงเหงา  “ ฉันจะอยู่เชียงใหม่สามสี่วัน  ถ้าเธอมีโอกาสลงไปเชียงใหม่ช่วงนั้น  ฉันจะเสียใจมากถ้าเธอไม่แวะมาหาฉัน”   คำพูดของเธอฝากไว้วันนั้นก้องขึ้นมา     ผมรู้แล้วว่าผมจะต้องทำอะไรในวันรุ่งขึ้น    ที่ทำได้ตอนนั้นก็คือเร่งค่ำคืนให้ผ่านพ้นไปให้เร็วที่สุดเพื่อที่วันใหม่จะมาถึงไวๆ.......


รุ่งเช้า...ผมฝากงานสอนไว้ให้เพื่อน  รีบขับมอเตอร์ไซด์ลงดอยเข้าเมืองเชียงใหม่  บอกว่าจะไปตามหาหัวใจตัวเอง..............................การตัดสินใจลงดอยไปหาเธอในวันนั้น   เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตผม   และนั่นเป็นการตัดสินใจที่ทำให้เรามีกันและกันมาตลอดระยะเวลายี่สิบเจ็ดปีที่รู้จักกัน....วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันครอบรอบวันแต่งงานปีที่25 ระหว่างผมกับภรรยา

ครูดอย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 55
ปะแป้งขอแปะเพลง สตรองๆ จิ๊ดนึงนะ

3เพลงรวด
(ฟังไม่รุเรื่องอ่านไทยซับนะฮะ)


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่