ทำไมต้องพม่า....

เริ่มจากความอยากจะเปรี้ยวด้วยการ back pack เที่ยวต่างประเทศกับเค้าบ้าง หลังจากศึกษาหลากหลายประเทศที่เป็นจุดหมายในฝันของใครหลายคน แต่สุดท้ายสรุปลงที่พม่าเนื่องด้วยหลากหลายสาเหตุ อันดับแรกเลยคืออยากไปไหว้พระตามรอยศรัทธาของเราๆชาวพุทธ ต่อมาก็เรื่องภาษาเอาแบบงูๆ ปลาๆ แต่ยังมีชีวิตรอดและอิ่มท้องแบบไม่ต้องเมื่อยมือสื่อสารกันมากมาย สุดท้ายก็เงินทุนในกระเป๋าเนื่องด้วยเป็นทริปแบกกระเป๋าออกนอกประเทศครั้งแรกเลยอยากซ้อมแบบเบาๆ  ลองคำนวณทั้งค่าตั๋ว ที่พักและการเดินทางรับรองทริปนี้กินอิ่มนอนหลับแน่นอนในงบ 10,000บาทสำหรับ 2คน

Day 1 : ตัวเมืองย่างกุ้ง วัดพระหินขาว ช้างเผือกเมืองพม่า วัดชเวตอเมียต วัดงาทัตจี วัดเจ๊าทัตจี เจดีย์โบตะตาว เทพทันใจ เจดีย์ชเวดากอง << http://ppantip.com/topic/34573557 >>

Day 2 : เมืองหงสา(พะโค) พระธาตุมุเตา พระนอนชเวตาเลียง เจดีย์ไจ๊ก์ปุ่น(พระสี่ทิศ) พระมหาเจดีย์ พระนอนนองดาวจี มย่ะตาเลียง เดินทางสู่พระธาตุอินทร์แขวน << http://ppantip.com/topic/34574444  >>

Day 3 : พระธาตุอินทร์แขวน เดินทางกลับประเทศไทย และรวมค่าใช้จ่าย

และฝากติดตามรีวิวได้ที่ https://wearetreat.wordpress.com/    ขอบคุณค่ะ

……………..วันที่3    ตามความเชื่อของคนพม่าว่า ชีวิตนี้ควรขึ้นมาสักการะพระธาตุให้ครบ 3ครั้ง จึงถือว่าได้บุญสูงสุด  คนไทยอย่างเรามาได้ไม่บ่อยนักแต่ 3ครั้งก็ไม่ยากเกินความพยายาม เมื่อวานนับได้ 2ครั้ง วันนี้เราจึงตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ตี 5 เพื่อตามศรัทธาให้ได้ครบ 3 เปิดประตูออกมานอกห้องฟ้ายังมืด แต่เพื่อนข้างห้องน่าจะตื่นหมดแล้ว คนไทยด้วยกันเรารู้กันดีว่าเรามีจุดประสงค์เดียวกันแน่นอน



ฟ้ายังเต็มไปด้วยหมอกฟุ้งเต็มพื้นที่ ครั้งนี้ไม่ลืมพกถุง… ใส่รองเท้ามาด้วย ระหว่างเราเดินขึ้นเราก็สวนกับคนที่เดินลง นึกในใจ เราว่าเราตื่นเช้าแล้วนะนี่ มีคนเช้ากว่าเรา ระหว่างทางเราจะเจอพระสงฆ์ ที่จะยืนเรียงแถวกัน เดินบิณฑบาตรไปตามทาง หยุดเดิน สวดมนต์ แล้วเดินต่อ มีพระก็ต้องมีเณรน้อยที่มายืนรอคนใจบุญ รู้สึกว่าที่พม่าเค้าจะนิยมให้เด็กน้อยทั้งหญิง ทั้งชายบวชศึกษาพุทธศาสนากัน จะเห็นเณรน้อย แม่ชีน้อยตลอดเป็นเรื่องปกติ


เดินมาเรื่อยๆ หมอกเริ่มจางทำให้เห็นองค์พระธาตุยามเช้าได้ชัดเจน นั่งลงไหว้พระธาตุ สวดมนต์จบไปหนึ่งรอบ นั่งมองฟ้ามองวิวรอบตัวกับอากาศสดชื่นมากๆ ยามเช้าแล้วมันอิ่ม อาจไม่ใช่อาการอิ่มบุญสูงสุดอย่างที่เค้าเชื่อกัน แต่ที่แน่ๆ อิ่มใจ ต้องมาสัมผัสเองถึงจะรู้ว่ามันอิ่มยังไง








ฟ้าเปิดได้ไม่นานหมอกก็ฟุ้งกระจายอีกรอบ ได้เวลากลับไปเก็บของเตรียมลงเขา ขาลงนี่สบายหน่อย ขาขึ้นแรกๆ ก็ชิล แต่พอรอบ 3เริ่มจะพักระหว่างทางนานขึ้น






อาหารเช้าระหว่างทาง เห็นแล้วท้องเริ่มร้อง รีบเดินกลับไปกินมื้อเช้าที่โรงแรมกันดีกว่า




มื้อเช้าที่โรงแรมเป็นบุฟเฟ่หลากหลายทั้งข้าวต้ม ข้าวผัด กุนเชียง หมูหยอง ไข่ดาว ไข่เจียว ขนมปัง ของหวาน ชา กาแฟ…… มื้อนี้จัดให้เต็มที่เพราะเราต้องเดินทางไกล


เมนูยอดฮิต ข้าวผัดถั่ว น้ำพริกและไข่ดาว กลับมาแล้วเกิดอยากกินไม่รู้จะไปที่ไหน


ออกจากโรงแรมพร้อมคณะทัวร์เลยต้องรีบเดินหน่อย ข้างทางมีของขายตลอด ที่ขาดไม่ได้ก็คือของที่ระลึกหลายหลายราคาให้เลือกสรร อันนี้แล้วแต่ชอบเจ้าไหนซื้อเจ้านั้นราคาไม่ทิ้งกัน


แล้วเราก็เจอรถจอดเรียงรออยู่ พร้อมพาลงข้างล่าง เหมือนเดิมค่ะ คันไหนคนเยอะวโดดขึ้นเลย เต็มออกไม่ต้องรอนาน เค้าหาที่ให้เรานั่งได้สบายมาก




คันที่เรานั่งลงน่าจะใหญ่กว่าเมื่อวานที่นั่งขึ้นมา หลังยังตรงเหมือนเดิมแต่เข่าไม่ชิดนั่งสบายขึ้นเยอะ


ลงถึงข้างล่างจะมีหนุ่มมารุมเพียบเพื่อชวนเรากลับย่างกุ้งด้วยกัน เราได้รถรอบ 08:40 ก่อนตกลงเรื่องตเงิน เราต้องขอดูรถสักหน่อย (เข็ดจากเมื่อวาน) เห็นรถแล้วยิ่มออก แอร์เย็นแถมยังดูใหม่สภาพนั่งสบายแน่นอน ราคา 7,000 จ๊าดต่อคน รถออกตรงเวลา น้ำกับขนมพร้อมเราก็ออกเดินทางข้ามแม่น้ำสะโตง  บอกตามตรงเห็นแม่น้ำแล้วนึกถึงตอนที่พระนเรศวรยิงพระแสงปืนข้ามลำน้ำสะโตงมาถูกแม่ทัพพม่าเสียชีวิตบนหลังช้างแล้วปลื้มใจที่เกิดเป็นคนไทย แม่น้ำมันกว้างจริงๆ นะ กว้างถึง 3 กิโลเมตร


ไก่ 5ดาวก็มีนะจ้ะ


บรรยากาศตลาดชุมชนระหว่างทาง ถูกใจสามล้อข้างของเค้ามาก นั่งเคียงข้างกันไปชิลๆ




ในที่สุดก็มาถึง สถานีรถบัสอองมินกาลา คิดง่ายๆ หมอชิตบ้านเรานั่นเอง เวลายังเหลือๆ มื้อเช้าที่อัดมาย่อยจะหมดแล้ว แต่ขอไปถึงสนามบินให้สบายใจแล้วค่อยจัดมื้อเที่ยงจะดีกว่า ลงจากรถก็จะมีผู้ชายมารุมเหมือนเดิม ราคาแท๊กซี่ไปสนามบินเริ่มเปิดที่ราคา 8,000จ๊าด ต่อรองกันไปตามประสาไม่รีบร้อน ยืนต่อสักพักก็มีพี่สาวเข้ามาช่วยต่อ ถามมาได้ความว่าพี่แกเป็นคนมอญแต่ไปทำงานที่กรุงเทพ พูดไทยคล่องเลย  แกยังมีน้ำใจถามจะกินข้าวมั๊ย กินอะไรจะช่วยสั่ง อันนี้ต้องขอบคุณพี่ดังๆ เสียดายมิได้ถ่ายรูปมา แกบอกว่านี่มาต่อวีซ่า เดี๋ยวก็จะไปกรุงเทพเหมือนกัน  อ่อ… เกือบลืมแท๊กซี่ไปสนามบินจบที่ 6,000จ๊าด


ถึงสนามบินประมาณบ่ายสามโมง เครื่องออกห้าโมง มีเวลาเหลือเฟือให้พักสบายๆ ก่อนเดินทางกลับบ้าน


หลังจาก check-in เสร็จเรียบร้อย เราก็ได้ Boarding Pass เป็นกระดาษแข็งสวยงามม….


ผ่าน ตม. มารอเครื่องบินที่ Gate พร้อมกลับบ้านนนนน…


น้องหางแดงมารับกลับแล้ววววว  ……….push back ตรงเวลาเป๊ะ


ฮัมเพลง Come back home – 2NΞ1 ~~~~~~ เบาๆ


ถึงดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าคร่าาาา…..


รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ค่าตัวเครื่องบิน ไป-กลับ 1,430 บาท

ค่า taxi day trip ในย่างกุ่ง  $45 ประมาณ 1,600 บาท

ค่า taxi จากย่างกุ้ง- พะโค และ day tirp พะโค $55 ประมาณ  1,972 บาท

ค่ารถบัส พะโค-kimpun camp $5 ประมาณ 180 บาท

ค่ารถขนหมูขึ้นไปพระธาตุอินแขวน ไป-กลับ  5,000 จ๊าด ประมาณ 140 บาท

ค่ารถบัส kimpun camp-ย่างกุ้ง 7,000 จ๊าด ประมาณ 195 บาท

ค่าที่พัก 30th Corner boutique hostel $36 ประมาณ 1,290 บาท

ค่าที่พัก kyaiktiyo hotel ประมาณ 3,400 บาท

ค่า taxi สถานีขนส่ง-สนามบิน  6,000 จ๊าด ประมาณ 168 บาท

ค่ากล้องที่พะโค 3 ที่ 900 จ๊าด ประมาณ 24 บาท

ค่าเข้าเมืองพะโค 10,000 จ๊าด ประมาณ 280 บาท

ค่าเข้าวัดที่ย่างกุ้ง 400 บาท

ค่าเข้าพระธาตุอินทร์แขวน 6,000 จ๊าด ประมาณ 168 บาท
รวมทั้งสิ้นประมาณ  7,000 บาทต่อคน (ไม่รวมค่าข้าว มื้อละประมาณ 100-200 บาท  แล้วแต่คนกิน)

ปล.ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่อยู่ที่ค่าแท็กซี่หมด จะประหยัดกว่านี้ถ้าใช้บริการรถสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถไฟ หรือรถทัวร์ แต่เนื่องจากเรามีเวลาน้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัด เลยต้องยอมจ่ายเพื่อให้เก็บได้ทุกที่ภายในเวลาที่มีอยู่

ขอบคุณทุกที่เข้ามาอ่านนะคะ ^____________^ ……

เจอกันรีวิวหน้าาาาาาาาา