รีวิวทริปอิ่มบุญ เที่ยว 3 วัน 2 คืน หงสาวดี ย่างกุ้ง ไปกับทัวร์ครั้งแรก
ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ไม่ได้เที่ยวด้วยตัวเอง ก่อนอื่น จขกท.ต้องบอกก่อนว่า ปกติเวลาไปเที่ยวต่างประเทศที่ผ่านมา ไม่เคยใช้บริการบริษัททัวร์เลย เพราะกลัวโปรแกรมแน่น ต้องเข้าร้านช็อปปิ้ง แล้วไม่ได้เที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ตัวเองอยากจะไป
จขกท. เดินทางมา 6 ประเทศภายในระยะเวลา 3 ปี , ได้แก่ มาเลเซีย ญี่ปุ่น สิงค์โปร เกาหลี ฮ่องกง และ เวียดนามใต้ ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ตัดสินใจไปกับทัวร์ เพราะราคาที่จ่ายต่อคน มันแค่ 9,900 บาท รวมที่พัก อาหารทุกมื้อ, รถ, ไกด์และค่าตั๋วเครื่องบินไป – กลับ กรุงเทพ - ย่างกุ้ง ซึ่งถือว่าคุ้มมาก ๆ เดี๋ยวจะรีวิวรายละเอียดทั้งหมดว่าการเดินทางทริปนี้เป็นยังไงบ้างตั้งแต่แรกจนจบทริปค่ะ
Day 1: เดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินย่างกุ้ง – มื้อเที่ยง – พระราชวังบุเรงนอง- หวสาวดี – พระธาตุอินแขวนทร์
Day 2: เจดีย์มุเตา - มื้อเที่ยง – พระนอนยิ้มหวาน – พระพุทธรูปสี่ทิศ - ย่างกุ้ง – Afternoon Tea - สักการะเทพทันใจ - สักการะเทพกระซิบ – เจดีย์ชเว
อง – มื้อเย็น International and Sea food Buffet – Lotte Hotel Yangung
Day 3: พระนอนตาหวาน - ตลาดสก็อต – มื้อเที่ยง - พระหินอ่อน – ปางช้างเผือก – เดินทางกลับกรุงเทพ
Day 1: เดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินย่างกุ้ง –มื้อเที่ยง – พระราชวังบุเรงนอง- หวสาวดี – พระธาตุอินแขวนทร์
เนื่องจากว่าเราต้องไปรวมตัวที่จุดนัดพบที่สนามบินสุวรรณภูมิตอน 07:30 น. แต่จขกท.ต้องเดินทางจากภูเก็ต ทางพนักงานเลยแนะนำว่า นอนค้างคืนที่กรุงเทพก่อนวันเดินทางจะดีกว่า จขกท.ก็เลยไปค้างบ้านเพื่อนซี่งไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ นั่งแท็กซี่แค่ 15 นาที ก่อนอื่น จขกท.ต้องบอกก่อนว่า ไม่ได้มีการเตรียมข้อมูลหรือเตรียมตัวสำหรับทริปนี้แต่อย่างใด เพราะอยากไปเที่ยวแบบสมองกลวง ๆ ไม่อยากต้องกังวลเกี่ยวกับการเดินทางอะไรมากมาย และคิดว่าไปพม่า ถ้ามีไกด์ท้องถิ่นคอยดูแลจะดีกว่า
ซึ่งก่อนวันเดินทาง 1 วัน ทางหัวหน้าทัวร์จะมีการโทรไปแนะนำตัว และนัดหมาย แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ว่า เราจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ซึ่งจริง ๆแล้ว รายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมตัวสำหรับการเดินทางของทริปนี้ จะแจ้งในใบนัดหมายทั้งหมด ซี่งเราจะได้รับก่อนวันเดินทาง 3 – 5 วันล่วงหน้า คือ จขกท.ปลื้มปริ่มกับการไม่ต้องเตรียมข้อมูลเหมือนทริบที่ผ่าน ๆ มา ก่อนเดินทางเราได้ซื้อซิมการ์ด ของ Ture และ Sim2Fly คนละ 1 ซิม เพื่อที่จะเปรียบเทียบกันว่า อันไหนใช้ดีกว่า จขกท. แนะนำ ซิม Ture แบบการใช้งาน 10 วัน ราคา 399 บาท เมื่อเทียบกับ AIS ถ้าไปพม่า ของ True ดีกว่า และอีกอย่างซิม True สามารถใช้ได้อีก 3 เดือนโดยไม่ต้องเติมเงิน หากท่านใดเดินทางเที่ยวต่างประเทศบ่อย แนะนำ Sim Ture gเพราะแค่เติมเงิน ตามการใช้งานก็ใช้ได้แล้วค่ะ ไม่ต้องซื้อซิมใหม่
เอาล่ะค่ะ เรามาเล่าเปิดประสบการณ์กันเลยดีกว่า!!
ทริปนี้เดินทางกับสายการบิน Myanmar Airways International
DEPARTURE FLIGHT:
8M336 BKK-RGN (10.40-11.25)
ซี่งในระหว่างที่เรานั่งเครื่องไปย่างกุ้ง มีของว่างเสิร์ฟอาหารว่าง พร้อมเครื่องดื่มบนเครื่องด้วยค่ะ มี แซนด์วิชและขนมหวาน เป็นข้าวเหนียวดำหน้าวุ้นกะทิ 55555 + กินแล้วอารมณ์ประมาณนั้นอ่ะค่ะ
เนื่องจาก ไฟลท์ดีเลย์ 30 นาที ทำให้เราไปถึงสนามบินย่างกุ้งตอนเที่ยง และใช้เวลาผ่านตม. รอรับกระเป๋า เข้าห้องน้ำ ประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นเราก็ไปขึ้นรถบัสที่ทางบริษัทจัดเตรียมไว้ให้ พร้อมมีไกด์ที่พูดไทยชัดมาก ดูแลเราตลอดการเดินทาง
อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่แรกว่าทริบนี้เราเตรียมตัวไปน้อยมากจริง ๆ ไปเที่ยวแบบสบาย อิอิ
เนื่องจากมีคนดูแลอะไรแบบนี้ เราไปแลกเงินกับไกด์บนรถ ซึ่ง 1,000 บาท เท่ากับ 42,000 จ๊าด แถมทริบนี้ดี๊ดี แจกผ้าถุงคนล่ะผืนค้าบ เอาไว้แปลงกายเป็นสาวพม่ากันจ้า
เราแลกกัน 5000 บาท เท่ากับ 210,000 จ๊าด กลายเป็นเศรษฐีณีไปเลยทีเดียว
จากสนามบินย่างกุ้งเราแวะกินมื้อเที่ยง กันก่อนที่จะเริ่มเที่ยวที่แรก ไฮไลท์ของมื้อนี้ ก็คือ กุ้งแม่น้ำเค้าบอกว่า
“มาย่างกุ้ง ต้องกินกุ้งย่าง”
จริง ๆ แล้วอาหารเที่ยงมื้อแรกของเรามีอาหารทั้ง 8 อย่าง น้ำพริกกุ้ง (จขกท.ชอบมาก) ปลากะพงราดซอส ,ปอเปี๊ยะ, ไก่ทอดสมุนไพร, ไข่เจียว, กุ้งแม่น้ำคนละตัว ผัดผัก, ซุป, ตบท้ายด้วยแตงโม มื้อแรกถือว่าผ่าน อารมณ์เหมือนกินอาหารไทย แตกต่างตรงคนพม่าทำ รสชาติถือว่าใช้ได้
รอดตายนะคะ มื้อแรก เพราะก่อนไปอดเป็นกังวลว่าจะกินอาหารบ้านเค้าได้มั้ย สรุปว่ามื้อแรกผ่านค่ะ!
หลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จแล้วก็ออกเดินทางกันไปเมืองหงสาวดีกันต่อค่ะ ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ไกด์พาเราไปเที่ยวสถานที่แรก คือ
“พระราชวังบุเรงนอง”
พระราชวังกัมโพชธานี หรือที่รู้จักกันในชื่อ
พระราชวังบุเรงนอง (Kamboza Thadi Palace)
สันนิษฐานว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นพระราชวังของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ท่านที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ประทับของพระพี่นางสุพรรณกัลยาและสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งต้องตกเป็นเชลยศึกที่เมืองหงสาฯ แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ พระราชวังและตำหนักต่าง ๆ ได้ถูกสร้างจำลองขึ้นมาใหม่ โดยอ้างอิงจากพงศาวดารและซากที่ขุดค้นพบ
เราใช้เวลาถ่ายรูปและเดินชมภายพระราชวังประมาณ 40 นาที ซึ่งภายในพระราชวังมีจุดให้พวกเราถ่ายรูปเยอะมาก ในขณะเดียวกันไกด์จะบรรยายถึงประวัติความเป็นมาและความสำคัญให้เราฟังตลอด ชอบมากค่ะ
หลังจากนั้นเดินทางกันต่อไปยัง
“พระธาตุอินทร์แขวน” เราต้องทำเวลากันนิดนึงให้ทันขึ้นรถ 6 ล้อ รอบสุดท้าย 6 โมงเย็น ระหว่างทางแวะจิบน้ำชา กาแฟยามเย็น ( อีกสิ่งหนึ่งที่ท่านควรรู้ว่า พม่าหาห้องน้ำยากมากๆ ไกด์แนะนำว่า หากท่านปวดหนัก ปวดเบา ทุกท่านสามารถใช้บริการห้องน้ำ 2,000 ไร่ได้ รับลมเบาๆ ชื่นชมบรรยากาศรอบข้าง 5555 +
(ในขณะที่ไกด์กำลังบอกนั้น จขกท.ก็หันไปเห็น สาวพม่ากำลังใช้บริการห้องน้ำ 2,000 ไร่อยู่พอดี คุณพระ!!! ทำเอา จขกท.ยอมอดน้ำกันเลยทีเดียว)
เข้าห้องน้ำประมาณ 20 นาที เราก็ออกเดินทางไปยังจุดเปลี่ยนรถ คณะของเราทำเวลาได้ดีมาก เราทันรถ 6 ล้อ รอบสุดท้ายพอดีจ้า ก่อนวันเดินทางหัวหน้าทัวร์ได้แจ้งกับเราว่าให้เตรียมกระเป๋าใบเล็กเพื่อแยกเสื้อผ้า สิ่งของและเครื่องใช้ที่จะไปพักบนพระธาตุอินทร์แขวนคืนนึง ส่วนกระเป๋าใบใหญ่เก็บไว้บนรถ ของมีค่าของเรา เราต้องเอาติดตัวไปด้วย ไม่งั้นทางบริษัทไม่รับผิดชอบ หรือ ถ้าท่านใดอยากเอากระเป๋าขึ้นไปทั้งใบ ก็จ่ายค่าแบกกระเป๋าซึ่งค่าแรงขึ้นอยู่กับขนาดของกระเป๋าค่ะ
- กระเป๋า 7-15 กก. = 6,000 จ๊าด /ขาขึ้นและขาลง
- กระเป๋าขนาดเล็ก = 3,000 จ๊าด/ ขาขึ้นและขาลง
ระยะเวลาในการเดินทางโดยรถ 6 ล้อประมาณ 45 นาที ผ่านภูเขา 30 ลูก ต่อจากนั้นเดินเท้าอีก 20 นาที ส่วนท่านใดเดินไม่ไหว ก็สามารถนั่งเสรียงได้ จขกท.จำไม่ได้ว่าคิดค่าบริการต่อครั้งเท่าไหร่ เมื่อถึงประตูทางเข้า ต้องเดินเท้าเปล่าเข้าไป ซึ่งเราได้เตรียมถุงใส่รองเท้าเอาไว้ เลยเดินหิ้วได้อย่างสบาย ๆ
จุดแรกเมื่อเราถึงพระธาตุอินทร์แขวน สักการะเทพแห่งสุขภาพ ชาวพม่าเชื่อกันว่า หากท่านใดได้เดินทางมาทำบุญที่พระธาตุอินทร์แขวน อย่าลืมแวะมาสักการะขอพรจากเทพแห่งสุขภาพ วิธีการขอพร คือ ให้นำธนบัตร 3 ฉบับที่จะทำบุญให้ปัดลงจากศีรษะลงไปยังเท้า ตรงเทพที่นอน 3 รอบพร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานขอพร ให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง หรือ ท่านใดเจ็บป่วยเรื่องใดก็ให้อธิฐานขอให้หายจากการเจ็บป่วยในโรคนั้น ๆ เสร็จแล้วให้วางธนบัตรลงบนกองที่แบ่งเป็น 3 กองดังรูป
ฝั่งตรงกันข้ามท่านสามารถทำบุญ อธิฐานขอพร รอยพระพุทธบาท
เสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปพระธาตุอินทร์แขวน เดินเท้าเปล่า 10 นาทีโดยประมาณ อุณหภูมิช่วงเย็นประมาณ 16 องศา หนาวมาก เมื่อถึงลานพระธาตุอินทร์แขวนแล้ว ไกด์ได้สอนวิธีการไหว้ขอพรพระธาตุอินทร์แขวน
สิ่งที่ของจะต้องเตรียมสำหรับทำบุญ
- แผ่นทอง ราคา 2000 จ๊าด
- ดอกไม้ราคา 2000 จ๊าด
- ระฆังราคาเริ่มต้น 5000 จ๊าด
สามารถเลือกทำบุญได้ตามกำลัง หากท่านต้องการทำบุญระฆังเป็นคู่ก็ทำได้ ให้เขียนชื่อ นามสกุล บนระฆังที่จะทำบุญ ส่วนอีกอันนึงไม่ต้องเขียนหลังจากทำบุญ อธิษฐานเสร็จแล้วให้เอาระฆังอีกอันนึงกลับมาแขวนที่บ้าน หรือ ที่ทำงาน เพื่อเพิ่มความมั่งคั่ง ร่ำรวย ความสิริมงคลให้กับคนในครอบครัว และ ทีทำงาน
หลังจากที่เราได้เตรียมของทั้ง 3 อย่างเสร็จแล้ว เราก็ไปทำบุญกันค่ะ (ของทั้ง 3 อย่างสามารถซื้อได้ตรงบริเวณลานพระธาตุอินทร์แขวนค่ะ) หมายเหตุ! ผู้ชายเท่านั้นที่สามารถปิดทองตรงพระธาตุอินทร์แขวนได้นะคะ เราอธิฐานขอพรเสร็จก็ฝากผู้ชายนำไปปิดให้ได้ค่ะ
เคล็ดลับ ชาวพม่าเชื่อกันว่า พระธาตุอินทร์แขวนเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากมีโอกาสต้องไปสักการะจะได้บุญกุศลแรงกล้า และชาวพม่าเชื่อกันว่าหากท่านใดได้มาทำบุญให้ครบ 3 ครั้ง ท่านนั้นจะได้รับอานิสงส์ผลบุญที่สุดวิเศษยิ่งนัก แต่ถ้าหากต้องเดินทางมาพม่า 3 รอบ เกรงว่าจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ไกด์เลยแนะนำเคล็ดลับวิธการทำบุญให้ครบ 3 ครั้ง
-
ครั้งแรก คือ การสักการะพระธาตุอินทร์แขวนในช่วงพลบคว่ำ ถวายดอกไม้ ธูป เทียน ระฆัง และ ปิดทอง
-
ครั้งที่สอง คือ ขึ้นมาสวดมนต์นั่งสมาธิ ตรงด้านหน้าพระธาตุอินทร์แขวนในช่วงตอนกลางคืน (หลังจากเข้าที่พัก อาบาน้ำ เปลี่ยนชุด กินข้าวเรียบร้อยแล้ว)
-
ครั้งที่สาม คือ ถวายข้าวพระพุทธ ในช่วงเช้ามืด ประมาณตี 4 – 5
ทำแบบนี้ เท่ากับว่า เราได้สักการะพระธาตุอินทร์แขวน ครบ 3 ครั้งแล้วค่ะ
เราพักโรงแรม Yoe Yoe Lay Hotel บนพระธาตุอินทร์แขวน เราไม่ได้ถ่ายรูปมาขนาดของห้องพักไม่ได้ใหญ่มาก เนื่องจากที่ตั้งโรงแรมอยู่บนภูเขา อากาศค่อนข้างหนาว อาหารเย็นเรากินที่โรงแรม รสชาติก็พอใช้ได้ หลัก ๆ อาหารที่กินก็ประมาณอาหารไทย กินไม่ยากค่ะ
จบไปแล้วสำหรับวันแรกของทริปพม่า ทริปอิ่มบุญ อย่าลืมติดตามวันที่ 2 ได้ในกะทู้ถัดไปนะคะ
DAY2: https://ppantip.com/topic/39553566
DAY3: https://ppantip.com/topic/39564171
[CR] รีวิวทริปพม่า ทริปอิ่มบุญ 3 วัน 2 คืน เที่ยวหงสาวดี ย่างกุ้ง ไปกับทัวร์ครั้งแรก DAY 1
ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ไม่ได้เที่ยวด้วยตัวเอง ก่อนอื่น จขกท.ต้องบอกก่อนว่า ปกติเวลาไปเที่ยวต่างประเทศที่ผ่านมา ไม่เคยใช้บริการบริษัททัวร์เลย เพราะกลัวโปรแกรมแน่น ต้องเข้าร้านช็อปปิ้ง แล้วไม่ได้เที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ตัวเองอยากจะไป
จขกท. เดินทางมา 6 ประเทศภายในระยะเวลา 3 ปี , ได้แก่ มาเลเซีย ญี่ปุ่น สิงค์โปร เกาหลี ฮ่องกง และ เวียดนามใต้ ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ตัดสินใจไปกับทัวร์ เพราะราคาที่จ่ายต่อคน มันแค่ 9,900 บาท รวมที่พัก อาหารทุกมื้อ, รถ, ไกด์และค่าตั๋วเครื่องบินไป – กลับ กรุงเทพ - ย่างกุ้ง ซึ่งถือว่าคุ้มมาก ๆ เดี๋ยวจะรีวิวรายละเอียดทั้งหมดว่าการเดินทางทริปนี้เป็นยังไงบ้างตั้งแต่แรกจนจบทริปค่ะ
Day 1: เดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินย่างกุ้ง – มื้อเที่ยง – พระราชวังบุเรงนอง- หวสาวดี – พระธาตุอินแขวนทร์
Day 2: เจดีย์มุเตา - มื้อเที่ยง – พระนอนยิ้มหวาน – พระพุทธรูปสี่ทิศ - ย่างกุ้ง – Afternoon Tea - สักการะเทพทันใจ - สักการะเทพกระซิบ – เจดีย์ชเวอง – มื้อเย็น International and Sea food Buffet – Lotte Hotel Yangung
Day 3: พระนอนตาหวาน - ตลาดสก็อต – มื้อเที่ยง - พระหินอ่อน – ปางช้างเผือก – เดินทางกลับกรุงเทพ
Day 1: เดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินย่างกุ้ง –มื้อเที่ยง – พระราชวังบุเรงนอง- หวสาวดี – พระธาตุอินแขวนทร์
เนื่องจากว่าเราต้องไปรวมตัวที่จุดนัดพบที่สนามบินสุวรรณภูมิตอน 07:30 น. แต่จขกท.ต้องเดินทางจากภูเก็ต ทางพนักงานเลยแนะนำว่า นอนค้างคืนที่กรุงเทพก่อนวันเดินทางจะดีกว่า จขกท.ก็เลยไปค้างบ้านเพื่อนซี่งไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ นั่งแท็กซี่แค่ 15 นาที ก่อนอื่น จขกท.ต้องบอกก่อนว่า ไม่ได้มีการเตรียมข้อมูลหรือเตรียมตัวสำหรับทริปนี้แต่อย่างใด เพราะอยากไปเที่ยวแบบสมองกลวง ๆ ไม่อยากต้องกังวลเกี่ยวกับการเดินทางอะไรมากมาย และคิดว่าไปพม่า ถ้ามีไกด์ท้องถิ่นคอยดูแลจะดีกว่า
ซึ่งก่อนวันเดินทาง 1 วัน ทางหัวหน้าทัวร์จะมีการโทรไปแนะนำตัว และนัดหมาย แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ว่า เราจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ซึ่งจริง ๆแล้ว รายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมตัวสำหรับการเดินทางของทริปนี้ จะแจ้งในใบนัดหมายทั้งหมด ซี่งเราจะได้รับก่อนวันเดินทาง 3 – 5 วันล่วงหน้า คือ จขกท.ปลื้มปริ่มกับการไม่ต้องเตรียมข้อมูลเหมือนทริบที่ผ่าน ๆ มา ก่อนเดินทางเราได้ซื้อซิมการ์ด ของ Ture และ Sim2Fly คนละ 1 ซิม เพื่อที่จะเปรียบเทียบกันว่า อันไหนใช้ดีกว่า จขกท. แนะนำ ซิม Ture แบบการใช้งาน 10 วัน ราคา 399 บาท เมื่อเทียบกับ AIS ถ้าไปพม่า ของ True ดีกว่า และอีกอย่างซิม True สามารถใช้ได้อีก 3 เดือนโดยไม่ต้องเติมเงิน หากท่านใดเดินทางเที่ยวต่างประเทศบ่อย แนะนำ Sim Ture gเพราะแค่เติมเงิน ตามการใช้งานก็ใช้ได้แล้วค่ะ ไม่ต้องซื้อซิมใหม่
เอาล่ะค่ะ เรามาเล่าเปิดประสบการณ์กันเลยดีกว่า!!
ทริปนี้เดินทางกับสายการบิน Myanmar Airways International
เนื่องจาก ไฟลท์ดีเลย์ 30 นาที ทำให้เราไปถึงสนามบินย่างกุ้งตอนเที่ยง และใช้เวลาผ่านตม. รอรับกระเป๋า เข้าห้องน้ำ ประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นเราก็ไปขึ้นรถบัสที่ทางบริษัทจัดเตรียมไว้ให้ พร้อมมีไกด์ที่พูดไทยชัดมาก ดูแลเราตลอดการเดินทาง
อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่แรกว่าทริบนี้เราเตรียมตัวไปน้อยมากจริง ๆ ไปเที่ยวแบบสบาย อิอิ เนื่องจากมีคนดูแลอะไรแบบนี้ เราไปแลกเงินกับไกด์บนรถ ซึ่ง 1,000 บาท เท่ากับ 42,000 จ๊าด แถมทริบนี้ดี๊ดี แจกผ้าถุงคนล่ะผืนค้าบ เอาไว้แปลงกายเป็นสาวพม่ากันจ้า
เราแลกกัน 5000 บาท เท่ากับ 210,000 จ๊าด กลายเป็นเศรษฐีณีไปเลยทีเดียว
จากสนามบินย่างกุ้งเราแวะกินมื้อเที่ยง กันก่อนที่จะเริ่มเที่ยวที่แรก ไฮไลท์ของมื้อนี้ ก็คือ กุ้งแม่น้ำเค้าบอกว่า “มาย่างกุ้ง ต้องกินกุ้งย่าง”
จริง ๆ แล้วอาหารเที่ยงมื้อแรกของเรามีอาหารทั้ง 8 อย่าง น้ำพริกกุ้ง (จขกท.ชอบมาก) ปลากะพงราดซอส ,ปอเปี๊ยะ, ไก่ทอดสมุนไพร, ไข่เจียว, กุ้งแม่น้ำคนละตัว ผัดผัก, ซุป, ตบท้ายด้วยแตงโม มื้อแรกถือว่าผ่าน อารมณ์เหมือนกินอาหารไทย แตกต่างตรงคนพม่าทำ รสชาติถือว่าใช้ได้
รอดตายนะคะ มื้อแรก เพราะก่อนไปอดเป็นกังวลว่าจะกินอาหารบ้านเค้าได้มั้ย สรุปว่ามื้อแรกผ่านค่ะ!
หลังจากกินอาหารเที่ยงเสร็จแล้วก็ออกเดินทางกันไปเมืองหงสาวดีกันต่อค่ะ ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ไกด์พาเราไปเที่ยวสถานที่แรก คือ “พระราชวังบุเรงนอง”
พระราชวังกัมโพชธานี หรือที่รู้จักกันในชื่อ พระราชวังบุเรงนอง (Kamboza Thadi Palace)
สันนิษฐานว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นพระราชวังของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ท่านที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ประทับของพระพี่นางสุพรรณกัลยาและสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งต้องตกเป็นเชลยศึกที่เมืองหงสาฯ แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ พระราชวังและตำหนักต่าง ๆ ได้ถูกสร้างจำลองขึ้นมาใหม่ โดยอ้างอิงจากพงศาวดารและซากที่ขุดค้นพบ
เราใช้เวลาถ่ายรูปและเดินชมภายพระราชวังประมาณ 40 นาที ซึ่งภายในพระราชวังมีจุดให้พวกเราถ่ายรูปเยอะมาก ในขณะเดียวกันไกด์จะบรรยายถึงประวัติความเป็นมาและความสำคัญให้เราฟังตลอด ชอบมากค่ะ
หลังจากนั้นเดินทางกันต่อไปยัง “พระธาตุอินทร์แขวน” เราต้องทำเวลากันนิดนึงให้ทันขึ้นรถ 6 ล้อ รอบสุดท้าย 6 โมงเย็น ระหว่างทางแวะจิบน้ำชา กาแฟยามเย็น ( อีกสิ่งหนึ่งที่ท่านควรรู้ว่า พม่าหาห้องน้ำยากมากๆ ไกด์แนะนำว่า หากท่านปวดหนัก ปวดเบา ทุกท่านสามารถใช้บริการห้องน้ำ 2,000 ไร่ได้ รับลมเบาๆ ชื่นชมบรรยากาศรอบข้าง 5555 +
(ในขณะที่ไกด์กำลังบอกนั้น จขกท.ก็หันไปเห็น สาวพม่ากำลังใช้บริการห้องน้ำ 2,000 ไร่อยู่พอดี คุณพระ!!! ทำเอา จขกท.ยอมอดน้ำกันเลยทีเดียว)
เข้าห้องน้ำประมาณ 20 นาที เราก็ออกเดินทางไปยังจุดเปลี่ยนรถ คณะของเราทำเวลาได้ดีมาก เราทันรถ 6 ล้อ รอบสุดท้ายพอดีจ้า ก่อนวันเดินทางหัวหน้าทัวร์ได้แจ้งกับเราว่าให้เตรียมกระเป๋าใบเล็กเพื่อแยกเสื้อผ้า สิ่งของและเครื่องใช้ที่จะไปพักบนพระธาตุอินทร์แขวนคืนนึง ส่วนกระเป๋าใบใหญ่เก็บไว้บนรถ ของมีค่าของเรา เราต้องเอาติดตัวไปด้วย ไม่งั้นทางบริษัทไม่รับผิดชอบ หรือ ถ้าท่านใดอยากเอากระเป๋าขึ้นไปทั้งใบ ก็จ่ายค่าแบกกระเป๋าซึ่งค่าแรงขึ้นอยู่กับขนาดของกระเป๋าค่ะ
- กระเป๋า 7-15 กก. = 6,000 จ๊าด /ขาขึ้นและขาลง
- กระเป๋าขนาดเล็ก = 3,000 จ๊าด/ ขาขึ้นและขาลง
ระยะเวลาในการเดินทางโดยรถ 6 ล้อประมาณ 45 นาที ผ่านภูเขา 30 ลูก ต่อจากนั้นเดินเท้าอีก 20 นาที ส่วนท่านใดเดินไม่ไหว ก็สามารถนั่งเสรียงได้ จขกท.จำไม่ได้ว่าคิดค่าบริการต่อครั้งเท่าไหร่ เมื่อถึงประตูทางเข้า ต้องเดินเท้าเปล่าเข้าไป ซึ่งเราได้เตรียมถุงใส่รองเท้าเอาไว้ เลยเดินหิ้วได้อย่างสบาย ๆ
จุดแรกเมื่อเราถึงพระธาตุอินทร์แขวน สักการะเทพแห่งสุขภาพ ชาวพม่าเชื่อกันว่า หากท่านใดได้เดินทางมาทำบุญที่พระธาตุอินทร์แขวน อย่าลืมแวะมาสักการะขอพรจากเทพแห่งสุขภาพ วิธีการขอพร คือ ให้นำธนบัตร 3 ฉบับที่จะทำบุญให้ปัดลงจากศีรษะลงไปยังเท้า ตรงเทพที่นอน 3 รอบพร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานขอพร ให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง หรือ ท่านใดเจ็บป่วยเรื่องใดก็ให้อธิฐานขอให้หายจากการเจ็บป่วยในโรคนั้น ๆ เสร็จแล้วให้วางธนบัตรลงบนกองที่แบ่งเป็น 3 กองดังรูป
ฝั่งตรงกันข้ามท่านสามารถทำบุญ อธิฐานขอพร รอยพระพุทธบาท
เสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปพระธาตุอินทร์แขวน เดินเท้าเปล่า 10 นาทีโดยประมาณ อุณหภูมิช่วงเย็นประมาณ 16 องศา หนาวมาก เมื่อถึงลานพระธาตุอินทร์แขวนแล้ว ไกด์ได้สอนวิธีการไหว้ขอพรพระธาตุอินทร์แขวน
สิ่งที่ของจะต้องเตรียมสำหรับทำบุญ
- แผ่นทอง ราคา 2000 จ๊าด
- ดอกไม้ราคา 2000 จ๊าด
- ระฆังราคาเริ่มต้น 5000 จ๊าด
สามารถเลือกทำบุญได้ตามกำลัง หากท่านต้องการทำบุญระฆังเป็นคู่ก็ทำได้ ให้เขียนชื่อ นามสกุล บนระฆังที่จะทำบุญ ส่วนอีกอันนึงไม่ต้องเขียนหลังจากทำบุญ อธิษฐานเสร็จแล้วให้เอาระฆังอีกอันนึงกลับมาแขวนที่บ้าน หรือ ที่ทำงาน เพื่อเพิ่มความมั่งคั่ง ร่ำรวย ความสิริมงคลให้กับคนในครอบครัว และ ทีทำงาน
หลังจากที่เราได้เตรียมของทั้ง 3 อย่างเสร็จแล้ว เราก็ไปทำบุญกันค่ะ (ของทั้ง 3 อย่างสามารถซื้อได้ตรงบริเวณลานพระธาตุอินทร์แขวนค่ะ) หมายเหตุ! ผู้ชายเท่านั้นที่สามารถปิดทองตรงพระธาตุอินทร์แขวนได้นะคะ เราอธิฐานขอพรเสร็จก็ฝากผู้ชายนำไปปิดให้ได้ค่ะ
เคล็ดลับ ชาวพม่าเชื่อกันว่า พระธาตุอินทร์แขวนเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากมีโอกาสต้องไปสักการะจะได้บุญกุศลแรงกล้า และชาวพม่าเชื่อกันว่าหากท่านใดได้มาทำบุญให้ครบ 3 ครั้ง ท่านนั้นจะได้รับอานิสงส์ผลบุญที่สุดวิเศษยิ่งนัก แต่ถ้าหากต้องเดินทางมาพม่า 3 รอบ เกรงว่าจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ไกด์เลยแนะนำเคล็ดลับวิธการทำบุญให้ครบ 3 ครั้ง
- ครั้งแรก คือ การสักการะพระธาตุอินทร์แขวนในช่วงพลบคว่ำ ถวายดอกไม้ ธูป เทียน ระฆัง และ ปิดทอง
- ครั้งที่สอง คือ ขึ้นมาสวดมนต์นั่งสมาธิ ตรงด้านหน้าพระธาตุอินทร์แขวนในช่วงตอนกลางคืน (หลังจากเข้าที่พัก อาบาน้ำ เปลี่ยนชุด กินข้าวเรียบร้อยแล้ว)
- ครั้งที่สาม คือ ถวายข้าวพระพุทธ ในช่วงเช้ามืด ประมาณตี 4 – 5
ทำแบบนี้ เท่ากับว่า เราได้สักการะพระธาตุอินทร์แขวน ครบ 3 ครั้งแล้วค่ะ
จบไปแล้วสำหรับวันแรกของทริปพม่า ทริปอิ่มบุญ อย่าลืมติดตามวันที่ 2 ได้ในกะทู้ถัดไปนะคะ
DAY2: https://ppantip.com/topic/39553566
DAY3: https://ppantip.com/topic/39564171
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้