ขอหยุดชีวิต เพื่อความพอเพียง #ตอน 4

ปลายปี 2555
ฉันที่อายุสามสิบต้นๆ
ตัดสินใจลาออกจากงาน
กลับไปอยู่บ้านเกิด

วิถี : พอเพียง : ที่ 4

พืชผักที่ปลูก
ศัตรูพืชจะได้กินก่อน
ศัตรูพืชได้แก่หนอน นก แมลงต่างๆ พวกจิ้งหรีดกับตัวแมงอื่นๆ ในดิน กิ้งก่า แย้ เพลี้ย ฯลฯ
ส่วนที่เหลือรอดจากสัตว์เหล่านี้ เราถึงจะได้กิน
ส่วนที่ดีที่สุดของพืชผล จะถูกแบ่งไว้ทำบุญส่วนหนึ่งเสมอ เช่นทำกับข้าวใส่บาตรตอนเช้า หรือทำปิ่นโตไปวัด
นอกจากกินแล้วก็ยังแบ่งปันเพื่อนบ้าน
และขาย
ถ้าเหลือขายก็อาจแจกบ้านใกล้เรือนเคียง ญาติๆ
หรือกินเอง
หรือแปรรูปผลผลิต เช่นผักเหลือขาย บางชนิดเอาไปทำผักดองหรือส้มผักได้
แต่ส่วนใหญ่แล้ว ของมักจะขายหมดและมีไม่พอแก่ความต้องการ

ผักส่วนใหญ่ ยายจะเป็นคนเอาไปขายที่ตลาดในหมู่บ้าน เป็นตลาดตอนเย็น คล้ายๆ กับตลาดนัด คนส่วนใหญ่เรียกกันว่าตลาดแลง (แลง ภาษาอีสาน หมายถึงตอนเย็น)
ขายเองโดยตรงดีตรงที่ว่า เราตั้งราคาผักเองได้
ผักบางอย่างที่ดูแลค่อนข้างยาก และปลูกได้เฉพาะหน้าหนาว ยายตั้งราคาขายแพงกว่าท้องตลาดด้วยซ้ำ เช่น กะหล่ำดอก บล็อคโคลี่ แต่ผักพวกนี้ก็ไม่เคยมีพอความต้องการของคนซื้อเลย
คงเพราะชาวบ้านเดี๋ยวนี้ ตระหนักถึงพิษภัยของยาฆ่าแมลง ..ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านฉันและหมู่บ้านใกล้เคียงจึงนิยมซื้อผักปลูกเองตามบ้านมากกว่าผักตลาด
มีบางช่วง สภาพอากาศทำให้ผักบ้านเรางามสู้ผักตลาดไม่ได้ แต่ลูกค้าของยายส่วนใหญ่ก็ยังซื้อผักบ้านเราเหมือนเดิม เพราะอยากทานผักปลอดภัย

แต่จะว่าไม่ใช้สารเคมีเลยก็คงโกหก
บางฤดู ผักดูแลยากมาก โดยเฉพาะหน้าร้อน ช่วงแดดแรงจัดและขาดฝนนานๆ เพลี้ยชอบมาเกาะกินผัก โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วพู ถั่วฝักยาว
ช่วงนี้ ถ้าเป็นไปได้เรามักหลีกเลี่ยงการปลูกพืชที่เพลี้ยชอบ ไปปลูกอย่างอื่นแทน โดยเฉพาะพืชที่ปลูกได้ดีช่วงหน้าร้อน อย่างข้าวโพด
บางทีเพลี้ยก็เล่นงานข้าวโพดเหมือนกัน แต่เปลือกข้าวโพดหนา มีหลายชั้น เราลอกเปลือกนอกที่มีเพลี้ยเกาะอยู่ออกก็ไม่เป็นอะไรแล้ว
ถ้าจำเป็นต้องใช้สารเคมีขึ้นมา หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ บ้านเราก็จะใช้แค่ในปริมาณที่ คนในบ้านเองก็เก็บผักเหล่านั้นกินได้ด้วย โดยไม่รู้สึกแหยงอะไร และเราจะปล่อยแปลงผักทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ จนแน่ใจว่าไม่มีสารเคมีตกค้างแล้ว ถึงจะเก็บผัก

จะว่าไปการทำการเกษตรให้ออกมาดีมีปัจจัยเยอะมาก
สภาพอากาศ น้ำ ดิน ความอุดมสมบูรณ์ คือปัจจัยหลัก
เรื่องของการควบคุมต้นทุนการผลิตให้ต่ำก็สำคัญ เพราะถ้าต้นทุนการผลิตสูง ก็แทบจะไม่ได้อะไรเลย
คนในหมู่บ้านฉัน ส่วนใหญ่อยู่กันได้ก็เพราะไม่ต้องซื้อหาที่ดิน ไม่ต้องเช่าที่คนอื่น
แต่ถึงอย่างนั้น ปลูกอะไรแต่ละอย่าง หักค่าปุ๋ยค่ายา ค่าเครื่องมือทำการเกษตร และค่าจ้างคนงานออกแล้ว ก็มักจะเหลือเงินกันไม่มากนักหรอก
ถ้ามีที่ดินไม่เยอะมาก บ้านที่อยู่ได้อย่างสบาย มักจะเป็นบ้านที่ ลงทุนไม่มากเกินไป เช่น ใช้แรงงานคนในครอบครัวแทนการจ้างคนงาน หรือ เช่ารถทำการเกษตรแทนการซื้อเอง และผลิตกับหาอาหารตามธรรมชาติกินเองมากกว่าซื้อ
เรามักได้ยินอยู่เรื่อยๆ เรื่องของคนเมืองที่สนใจวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ออกมาซื้อที่ดินตามบ้านนอกเพื่อทำการเกษตร แต่เจ๊งไม่เป็นท่า ..เพราะส่วนใหญ่มองเห็นแต่ผลด้านที่สวยงาม ลืมคิดถึงองค์ประกอบอื่นๆ ไป

ถ้าผักที่ปลูกไว้มีเยอะเกินไป โดยเฉพาะช่วงอากาศเย็นๆ ที่ปลูกผักได้ดีและต้นงาม
เราก็จะฝากแม่ค้าในหมู่บ้านช่วยเอาเข้าไปขายให้ที่ตลาดใหญ่ในอำเภอ
แต่ราคาขายส่งจะได้ไม่ดีเท่าราคาขายปลีก
ตอนหลังฉันเลยคิดเอาพืชผักและผลผลิตในสวนเรามาแปรรูปเป็นอาหารสำเร็จขายแทน
ขายดีด้วยซี..

คงเป็นเพราะคนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยนิยมทำอาหารกินเองกันเท่าไหร่แล้ว

ฉันเน้นที่เอาผลผลิตในเรือกสวนไร่นามาแปรรูปเป็นหลัก
ใช้วิธีหาสูตรอาหารในเน็ตก่อน จากนั้นเอามาประยุกต์อีกทีนึง ให้เข้ากับวัตถุดิบที่มี รวมถึงรสชาติปากและรสนิยมของคนแถวนี้
อาหารไหน ถ้าต้องซื้อวัตถุดิบจากตลาดทั้งหมด ฉันจะไม่ทำ
กำรี่กำไรส่วนมากมักได้จากการที่ไม่ต้องซื้อพืชผักเนี่ยแหละ

ตลาด ปัจจุบันมีวันอาทิตย์ พฤหัส และศุกร์
ฉันชวนพี่ธีร์เข้าไปซื้อวัตถุดิบทำกับข้าวเพื่อขายในอำเภออาทิตย์ละครั้ง
ของกินที่ฉันทำขายทุกอาทิตย์ก็จะมี
หมี่กะทิ ..ผักเคียงฉันใช้กะหล่ำปลี กุ๊ยช่าย สะระแหน่ ถั่วฝักยาว หัวปลี ที่ปลูกเองในสวน ..กะทิก็ใช้มะพร้าวที่ปลูกไว้ ..พี่ธีร์เป็นคนช่วยขูดมะพร้าว
พี่ธีร์บอกว่า
"ปอกกับขูดมะพร้าวใช้แรงเยอะ พี่ไม่อยากให้น้องเหนื่อยเกินไป"
นอกจากหมี่กะทิแล้ว ก็จะมีแกงกะทิฟักทองที่ขายดีมาก
ฟักทองเดี๋ยวนี้แพง แต่โชคดีที่บ้านเราปลูกเอง ปีนึงแม่ฉันจะปลูกฟักทองไว้ประมาณ 2-3 ครั้ง (ช่วงเก็บฟักทองมักมาพร้อมกับแตงโมลูกโตๆ หวานเย็นชื่นใจ แตงโมบ้านเรากินได้อย่างสบายใจ จะกินมากเท่าไหร่ก็ได้ เพราะปลอดภัยเรื่องยาฆ่าแมลง)
อาหารอย่างอื่นฉันจะทำหมุนเวียนกันไป ขึ้นอยู่กับว่ามีวัตถุดิบอะไร
มีผักชีลาวต้นหอมเยอะ ก็อาจจะทำหมกเครื่องในไก่ หรือแกงอ่อมอะไรสักอย่าง
มะเขือเทศ พริก มะนาวเยอะ ก็ทำเมนูยำ
มีคะน้า กวางตุ้ง ผักยอดแขนง หรือข้าวโพด ก็ทำผัดซีอิ๊ว ผัดหมี่ ผัดเส้น ผัดมาม่าขาย
ถ้าข้าวโพดถึงเวลาเก็บได้ ก็ขายข้าวโพดต้ม
ของหวานฉันก็ทำบ้าง

ติดตามการอัพเดทได้ที่เพจของเราค่ะ
นางมารยูคาริ
https://www.facebook.com/nangmarnyukari
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่