สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
หลังจากที่มีการเปิดตัวยางตัวใหม่ของ IRC ผมเองก็ได้ไปทดสอบยางในงานเปิดตัว พร้อมทั้งซื้อยางมาลองการใช้งานจริงด้วยตัวเองอีก 1 คู่ (ทำยังกะได้รับแจกฟรีในงาน) วันนี้จะมาเล่าให้ฟังครับว่าหลังจากการใช้งานผ่านไป 1 เดือนแล้วเป็นยังไงบ้าง ก่อนจะอ่านต่อ โดยจะเทียบกับ IRC RX01 หรือยางเดิมติดรถเป็นหลัก
สำหรับกระทู้เก่าๆติดตามได้ที่นี่ครับ
การเตรียมตัวสำหรับออกทริปยาว
http://ppantip.com/topic/34508976
น้องวีร้อนรัก
http://ppantip.com/topic/34179472
ประสบการณ์ 4 ปี ทั่วประเทศกับ CBR250
http://ppantip.com/topic/33488648
อ่านไปเตือนสติตัวเองเรื่อยๆนะครับว่านี่คือความรู้สึกส่วนตัวของผมล้วนๆ อาจจะอิงนิยายวิทยาศาสตร์บ้าง หลักการบ้าง แต่ไม่ได้เอาผลการทดสอบจาก Lab มาประกอบใดๆทั้งสิ้นครับ
หลายๆคนถามว่าทำไมถึงตัดสินใจซื้อเลยในวันนั้น เอาง่ายๆครับ ราคา ฟิลลิ่งในการขับขี่ และความแข็งแรงของโครงสร้างยาง
ราคา
ราคาต่ำกว่า 4 พัน นี่ก็ขำๆดีนะครับจริงๆในราคานี้ก็มีตัวเลือกหลายตัวเช่น Sport Dragon หรือ Pilot คนที่ยังไม่รู้ความต่างของยางแต่ละตัวเดี๋ยวอ่านไปเรื่อยๆจะเข้าใจมากขึ้นครับ
ฟิลลิ่งในการขับขี่
สำหรับมือใหม่เวลาเลือกยาง ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ดูอยู่ 2 อย่าง คือ ราคา กับขนาดหน้ายางว่าใส่กับรถเราได้ไหม พอได้แล้วอาจจะถามเพื่อนเพิ่มเติมว่าขี่ดีไหม ถ้าเพื่อนที่ไปถามมาเคยลองยางหลายๆตัวก็คงจะเปรียบเทียบให้ฟังได้ แต่ถ้าไปเจอคนที่เคยใช้ยางมา 2 รุ่น คือยางเดิมกับยางที่เพิ่งเปลี่ยนมา เค้าก็จะเชียร์ยางที่เพิ่งเปลี่ยนมาอย่างสุดใจขาดดิ้นเพราะเชื่อว่ามันดีกว่าเดิมเยอะมากๆ หลายๆคนเป็นหนักทำตัวเป็นกบในกะลาไม่ฟังคนอื่นเลย แต่ก็ไม่เป็นไรครับ วันนึงพอเค้าได้ลองเล่นยางสัก 4-5 รุ่นแล้วจะเริ่มเข้าใจโลกมากขึ้น (ชักนอกเรื่องยาวไปละ)
กลับมาที่ feeling ในการขับขี่ ยางตัวนี้ออกไปทาง สนาม มากกว่า ถนน สัก 60:40 (ฟิลลิ่งนะครับ เรื่องอื่นยังไม่คุย) สำหรับมือใหม่ คุณลองลากเส้นตรงแนวนอน 1 เส้น ปลายด้านหนึ่งเขียนว่าสนาม ปลายอีกด้านเขียนว่าถนน ยางนี้ค่อนมาทางสนาม เนื่องมาจากทรงยางของมันครับ
ยางตัวนี้ทรงจะกลมกว่ายางเดิมค่อนข้างมาก ทำให้การพลิกรถนั้นทำได้ง่ายกว่า เวลาเอียงรถเข้าโค้งไม่ต้องเหนื่อยมาก แค่ทิ้งสะโพกรถก็พลิกตามแล้ว หรือขี่ๆไปเจอฝาท่อโยกรถหลบฝาท่อได้สบายๆ ใครจะเถียงว่ายางเดิมก็ทำได้ ว่างๆลองวิ่งเร็วๆ นอนหมอบเอาคางติดถัง แล้วลองพลิกรถเข้าโค้งโดยที่ไม่ยกตัวขึ้นมาเพิ่มช่วยถ่วงรถดูนะครับ แล้วจะรู้ว่ายางเดิมนั้นพลิกไม่ค่อยไป ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากทรงของยางที่ต่างกันนั่นเอง
แต่พลิกง่ายมากก็ไม่ใช่ว่าดีนะครับ บางตัวพลิกง่ายเกินจนขี่บนถนนไม่สนุกเช่นเจ้า IZ-003 บางคนรักเลย แต่ผมไม่ชอบเอาซะเลย เข้าขั้นเกลียดเลยก็ว่าได้ ทำไมถึงไม่ชอบ ก็เพราะเอียงนิดเอียงหน่อยก็จะพาพับลงไปทุกที เช่น เวลาขี่พลิกซ้ายพลิกขวาเพิ่มเปิดหน้ายาง พอเอียงปุ๊บรถมันจะพับลงและต้องใช้แรงดึงขึ้นเยอะปกว่าปกติครับ แต่ถ้าเอาไปเล่นในสนามคงสนุก พลิกง่ายๆ จะพลิกกลับขึ้นมาก็เปิดคันเร่ง
โครงสร้างยาง
ยางตัวนี้เป็นยางผ้าใบหรือ Bias ครับ ซึ่งโดยปกติแล้วเวลาขี่ยางผ้าใบแล้วเข้าโค้งแรงๆแล้วเปิดคันเร่งในโค้งหนักๆ จะเจออาการย้วยในโค้ง หรือถ้าหนักๆเข้าก็อาจจะสไลด์ได้ง่ายกว่ายาง radial ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าพอสมควร เจ้า IZ-S ตัวนี้ ทำได้ดีครับสำหรับการเข้าแรงๆ หรือเปิดคันเร่งหนักๆ แต่ก็ยังมีอาการอยู่บ้างเวลาเข้าโค้ง High Speed แล้วพื่นถนนไม่เรียบ ล่าสุดไปทริป พะเยา น่าน เขาค้อ มาครับ ถนนเส้น 12 เพิ่งทำใหม่ถนนกว้างๆ 4 เลน มีโค้งกว้างๆ ป้ายบอกความเร็วในโค้งอยู่ที่ 60 ผมซัดเข้าไป 135 ยางเอาอยู่ แต่พอเจอถนนไม่เรียบก็ออกอาการให้เห็นครับ แต่ก็ไม่ได้ย้วยจนเสียวเหมือนยางผ้าใบตัวอื่นๆนะครับ ผมผ่านเลย
ทีนี้เรามาเทียบยางตัวนี้กับยางเดิมกันดีกว่าครับ บอกตรงๆว่าผมต้องระลึกชาติอยู่นานพอสมควรกว่าจะให้คะแนนได้ เพราะห่างหายจากยางเดิมมานานพอสมควร เพราะหลังจากยางเดิมก็ได้ลองยางมา7รุ่นแล้ว ทั้ง MICHELIN Pilot Street
ทั้งตัวธรรมดาและตัวเรเดี้ยล, Pirelli Super Corsa ตะเกียบหัก, Pirelli Rosso 2, IRC IZ003, Dunlop 501 และเจ้า IRC IZ-S บางตัวก็ซื้อใช้ บางตัวก็แค่ได้ลองครับ
ถนนแห้ง
เจ้า IZ-S ชนะไปด้วยคะแนน 8 ต่อ 6 ด้วยเนื้อยางที่นุ่มกว่า ทำให้หนึบกว่าอย่างชัดเจน เจอเส้นกลางหนาๆอาจจะรู้สึกบ้างแต่ไม่เลื้อยแบบยางเดิมครับ ถ้าเส้นกลางบางๆขี่ผ่านไปแบบหน้าตาเฉยได้เลยครับ พูดถึงเนื้อยาง ทั้ง 2 ตัวนั้นร้อนช้าพอสมควร โดยเฉพาะเจ้ายางเดิมติดรถนั้น ร้อนช้ามากกกก มือใหม่หลายๆคนขี่รถไปเที่ยวบนเขา ตื่นเช้ามาขี่ลงเขาแหกโค้งกันไปหลายคนเพราะยางไม่ร้อนกันเยอะ เจ้า IZ-S นั้นถ้าให้ผมตัดสินก็ร้อนค่อนข้างช้านะครับ ต้องขี่สักพักเลยกว่าจะเริ่มหนึบ อย่างน้อยต้องมี 5 กม.ล่ะกว่าจะ”เริ่ม”ไว้ใจได้ ส่วนยางเดิม 10 โลค่อยว่ากัน (ย้ำอีกทีนะครับว่าความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ)
ถนนเปียก
ดอกยางรีดน้ำได้ดีครับ ความนุ่มของยางก็ช่วยให้ยึดเกาะได้เพิ่มอีกนิด ทำให้เจ้า IZ-S ชนะเจ้า RX01 ไปด้วยคะแนน 7 ต่อ 4 เลย เพราะความนุ่มของเนื่อยางนี่ล่ะครับ ปกติผมเป็นคนที่เวลาเจอถนนเปียกแล้วจะขี่อย่างระวังมากๆ ไม่ค่อยเปลี้ยว แต่เพื่อทดสอบยาง ผมก็ระเบิดคันเร่งในโค้งหลายๆรอบ เริ่มจากเบาไปหาหนัก เพื่อดูว่าวันไหนเผลอเดินคันเร่งไม่เนียนในโค้งถนนเปียกแล้วจะเป็นยังไง ผลที่ออกมาก็พอไหวครับ ถ้าไม่ดีดครัชแรงจริงๆจนหัวกระชากล้อหลังก็ยังไม่แถออก (สำหรับการเอียงรถในการขับขี่ในชีวิตประจำวันในกทม.ทั่วไป) แต่คงไม่ใช่ยางที่คุณจะเปรี้ยวปากแล้วเอาไปซัดหนักๆบนถนนเปียกได้แบบเมามันส์
ส่วนเจ้ายางเดิมเหรอ ไม่ต้องพูดถึงล่ะ ถึงร่องดอกยางจะใหญ่ชัดเจน แต่เนื้อยางแข็งๆของมันทำให้ผมเสียวทุกครั้งเวลาขี่ในโค้ง (สำหรับทางตรงมันก็วิ่งได้นะครับ 120 ก็วิ่งมาแล้ว แต่ถ้าต้องเบรกหนักๆตอนนั้นนี่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เพราะฉะนั้น ไม่แนะนำให้ขี่เร็ว)
โค้ง
ชัดเจนครับ เจ้า IZ-S เกิดมาเพื่อทางโค้งมากกว่า RX01 อยู่แล้ว พลิกรถง่ายกว่า พื้นที่ขอบยางสัมผัสพื้นเยอะกว่า พริ้วกว่าเยอะเลย ผมให้ 8 ต่อ 5 ครับ ที่ให้เจ้ายางเดิมถึง 5 เพราะพอยางร้อนแล้ว มันก็เข้าโค้งได้จนหมดหน้ายางเหมือนกัน ดูเหมือนเนื้อยางด้านข้างจะนิ่มกว่าตรงกลางเล็กน้อยจากการจัดโครงสร้างยาง
ความทนทาน
คงไม่มีใครเอาตำแหน่งนี้ไปจากเจ้า RX01 ได้ล่ะครับ ขี่กันไปยาวๆ 3 หมื่นกว่าโลยังขี่ได้ (ถ้าไม่ได้บรรทุกหนัก) ทนอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้ แต่ก็ยังเป็นข้อกังขาอยู่นะว่าเจ้า IZ-S จะใช้ได้นานขนาดไหน แต่ผมมั่นใจว่ามันใช้ได้ยาวกว่าเจ้า IZ003 ที่ใช้ได้ 8พัน – หมื่น2พัน กม. ครับ เพราะฉะนั้นให้คะแนนด้วยสกิล มโน ล้วนๆอยู่ที่ 6 ต่อ 10
ความคุ้มค่า
เรื่องนี้มันพูดยากนะครับ ความคุ้มค่าแต่ละคนไม่เท่ากัน ผมให้เจ้า 7 ต่อ 8 ละกัน ให้เจ้า RX01 ชนะไปฉิวเฉียดเพราะความทนทานและราคาค่าตัวของมัน แต่ที่ไม่ใช้ชนะขาดเพราะด้วยราคา 4 พันบาท สำหรับยางฟิลลิ่งกึ่งสนามดีๆแบบเจ้า IZ-S ก็ไม่ได้หากันได้ง่ายๆนะครับ มีไหม มีเยอะแต่ แต่ราคาสูงกว่านี้ครับ
ฟันธงกันไปเลยว่าน่าเล่นไหม หรือเหมาะกับใคร
ถ้าคุณมองหายางพริ้วๆ ราคาไม่สูงมาก ใช้งานได้สัก 15000 – 18000 โล เจ้า IZ-S เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าครับ
ถ้าคุณอยากได้ยางที่มาแทนยางเดิม เจอโค้งแล้วเฉยๆ ไม่ตบเกียร์เลี้ยงรอบ แล้วอัดคันเร่งเข้าใส่ เน้นใช้งานเป็นหลัก เอาทนๆ ยางเดิมก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ หรือคุณอาจจะมองยางตัวอื่นเพิ่มก็ได้ แต่ราคาอาจจะสูงขึ้นเช่น Pirelli Sport Dragon (ผมยังไม่ได้ลองเอง เพื่อนบอกมาครับ) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในราคาย่อมเยาว์
ถ้าราคาไม่ใช่ปัญหาแล้วชอบโค้ง มีอีกหลายตัวเลยครับ ถ้าให้ผมแนะนำ ก็อาจจะเชียร์ Pirelli Rosso2 Radialiono ก็เป็นตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่าที่สุดเท่าที่ผมลองมาครับ
สุดท้ายขอให้ขับขี่ปลอดภัย ได้ยางที่ดีเหมาะกับลักษณะการใช้งานทุกท่านครับ
[CR] รีวิวยาง IRC IZ-S กับการใช้งานในวันเปิดตัว การใช้งานในเมืองและการออกทริป ตลอด 1 เดือน
หลังจากที่มีการเปิดตัวยางตัวใหม่ของ IRC ผมเองก็ได้ไปทดสอบยางในงานเปิดตัว พร้อมทั้งซื้อยางมาลองการใช้งานจริงด้วยตัวเองอีก 1 คู่ (ทำยังกะได้รับแจกฟรีในงาน) วันนี้จะมาเล่าให้ฟังครับว่าหลังจากการใช้งานผ่านไป 1 เดือนแล้วเป็นยังไงบ้าง ก่อนจะอ่านต่อ โดยจะเทียบกับ IRC RX01 หรือยางเดิมติดรถเป็นหลัก
สำหรับกระทู้เก่าๆติดตามได้ที่นี่ครับ
การเตรียมตัวสำหรับออกทริปยาว
http://ppantip.com/topic/34508976
น้องวีร้อนรัก
http://ppantip.com/topic/34179472
ประสบการณ์ 4 ปี ทั่วประเทศกับ CBR250
http://ppantip.com/topic/33488648
อ่านไปเตือนสติตัวเองเรื่อยๆนะครับว่านี่คือความรู้สึกส่วนตัวของผมล้วนๆ อาจจะอิงนิยายวิทยาศาสตร์บ้าง หลักการบ้าง แต่ไม่ได้เอาผลการทดสอบจาก Lab มาประกอบใดๆทั้งสิ้นครับ
หลายๆคนถามว่าทำไมถึงตัดสินใจซื้อเลยในวันนั้น เอาง่ายๆครับ ราคา ฟิลลิ่งในการขับขี่ และความแข็งแรงของโครงสร้างยาง
ราคา
ราคาต่ำกว่า 4 พัน นี่ก็ขำๆดีนะครับจริงๆในราคานี้ก็มีตัวเลือกหลายตัวเช่น Sport Dragon หรือ Pilot คนที่ยังไม่รู้ความต่างของยางแต่ละตัวเดี๋ยวอ่านไปเรื่อยๆจะเข้าใจมากขึ้นครับ
ฟิลลิ่งในการขับขี่
สำหรับมือใหม่เวลาเลือกยาง ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ดูอยู่ 2 อย่าง คือ ราคา กับขนาดหน้ายางว่าใส่กับรถเราได้ไหม พอได้แล้วอาจจะถามเพื่อนเพิ่มเติมว่าขี่ดีไหม ถ้าเพื่อนที่ไปถามมาเคยลองยางหลายๆตัวก็คงจะเปรียบเทียบให้ฟังได้ แต่ถ้าไปเจอคนที่เคยใช้ยางมา 2 รุ่น คือยางเดิมกับยางที่เพิ่งเปลี่ยนมา เค้าก็จะเชียร์ยางที่เพิ่งเปลี่ยนมาอย่างสุดใจขาดดิ้นเพราะเชื่อว่ามันดีกว่าเดิมเยอะมากๆ หลายๆคนเป็นหนักทำตัวเป็นกบในกะลาไม่ฟังคนอื่นเลย แต่ก็ไม่เป็นไรครับ วันนึงพอเค้าได้ลองเล่นยางสัก 4-5 รุ่นแล้วจะเริ่มเข้าใจโลกมากขึ้น (ชักนอกเรื่องยาวไปละ)
กลับมาที่ feeling ในการขับขี่ ยางตัวนี้ออกไปทาง สนาม มากกว่า ถนน สัก 60:40 (ฟิลลิ่งนะครับ เรื่องอื่นยังไม่คุย) สำหรับมือใหม่ คุณลองลากเส้นตรงแนวนอน 1 เส้น ปลายด้านหนึ่งเขียนว่าสนาม ปลายอีกด้านเขียนว่าถนน ยางนี้ค่อนมาทางสนาม เนื่องมาจากทรงยางของมันครับ
ยางตัวนี้ทรงจะกลมกว่ายางเดิมค่อนข้างมาก ทำให้การพลิกรถนั้นทำได้ง่ายกว่า เวลาเอียงรถเข้าโค้งไม่ต้องเหนื่อยมาก แค่ทิ้งสะโพกรถก็พลิกตามแล้ว หรือขี่ๆไปเจอฝาท่อโยกรถหลบฝาท่อได้สบายๆ ใครจะเถียงว่ายางเดิมก็ทำได้ ว่างๆลองวิ่งเร็วๆ นอนหมอบเอาคางติดถัง แล้วลองพลิกรถเข้าโค้งโดยที่ไม่ยกตัวขึ้นมาเพิ่มช่วยถ่วงรถดูนะครับ แล้วจะรู้ว่ายางเดิมนั้นพลิกไม่ค่อยไป ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากทรงของยางที่ต่างกันนั่นเอง
แต่พลิกง่ายมากก็ไม่ใช่ว่าดีนะครับ บางตัวพลิกง่ายเกินจนขี่บนถนนไม่สนุกเช่นเจ้า IZ-003 บางคนรักเลย แต่ผมไม่ชอบเอาซะเลย เข้าขั้นเกลียดเลยก็ว่าได้ ทำไมถึงไม่ชอบ ก็เพราะเอียงนิดเอียงหน่อยก็จะพาพับลงไปทุกที เช่น เวลาขี่พลิกซ้ายพลิกขวาเพิ่มเปิดหน้ายาง พอเอียงปุ๊บรถมันจะพับลงและต้องใช้แรงดึงขึ้นเยอะปกว่าปกติครับ แต่ถ้าเอาไปเล่นในสนามคงสนุก พลิกง่ายๆ จะพลิกกลับขึ้นมาก็เปิดคันเร่ง
โครงสร้างยาง
ยางตัวนี้เป็นยางผ้าใบหรือ Bias ครับ ซึ่งโดยปกติแล้วเวลาขี่ยางผ้าใบแล้วเข้าโค้งแรงๆแล้วเปิดคันเร่งในโค้งหนักๆ จะเจออาการย้วยในโค้ง หรือถ้าหนักๆเข้าก็อาจจะสไลด์ได้ง่ายกว่ายาง radial ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าพอสมควร เจ้า IZ-S ตัวนี้ ทำได้ดีครับสำหรับการเข้าแรงๆ หรือเปิดคันเร่งหนักๆ แต่ก็ยังมีอาการอยู่บ้างเวลาเข้าโค้ง High Speed แล้วพื่นถนนไม่เรียบ ล่าสุดไปทริป พะเยา น่าน เขาค้อ มาครับ ถนนเส้น 12 เพิ่งทำใหม่ถนนกว้างๆ 4 เลน มีโค้งกว้างๆ ป้ายบอกความเร็วในโค้งอยู่ที่ 60 ผมซัดเข้าไป 135 ยางเอาอยู่ แต่พอเจอถนนไม่เรียบก็ออกอาการให้เห็นครับ แต่ก็ไม่ได้ย้วยจนเสียวเหมือนยางผ้าใบตัวอื่นๆนะครับ ผมผ่านเลย
ทีนี้เรามาเทียบยางตัวนี้กับยางเดิมกันดีกว่าครับ บอกตรงๆว่าผมต้องระลึกชาติอยู่นานพอสมควรกว่าจะให้คะแนนได้ เพราะห่างหายจากยางเดิมมานานพอสมควร เพราะหลังจากยางเดิมก็ได้ลองยางมา7รุ่นแล้ว ทั้ง MICHELIN Pilot Street
ทั้งตัวธรรมดาและตัวเรเดี้ยล, Pirelli Super Corsa ตะเกียบหัก, Pirelli Rosso 2, IRC IZ003, Dunlop 501 และเจ้า IRC IZ-S บางตัวก็ซื้อใช้ บางตัวก็แค่ได้ลองครับ
ถนนแห้ง
เจ้า IZ-S ชนะไปด้วยคะแนน 8 ต่อ 6 ด้วยเนื้อยางที่นุ่มกว่า ทำให้หนึบกว่าอย่างชัดเจน เจอเส้นกลางหนาๆอาจจะรู้สึกบ้างแต่ไม่เลื้อยแบบยางเดิมครับ ถ้าเส้นกลางบางๆขี่ผ่านไปแบบหน้าตาเฉยได้เลยครับ พูดถึงเนื้อยาง ทั้ง 2 ตัวนั้นร้อนช้าพอสมควร โดยเฉพาะเจ้ายางเดิมติดรถนั้น ร้อนช้ามากกกก มือใหม่หลายๆคนขี่รถไปเที่ยวบนเขา ตื่นเช้ามาขี่ลงเขาแหกโค้งกันไปหลายคนเพราะยางไม่ร้อนกันเยอะ เจ้า IZ-S นั้นถ้าให้ผมตัดสินก็ร้อนค่อนข้างช้านะครับ ต้องขี่สักพักเลยกว่าจะเริ่มหนึบ อย่างน้อยต้องมี 5 กม.ล่ะกว่าจะ”เริ่ม”ไว้ใจได้ ส่วนยางเดิม 10 โลค่อยว่ากัน (ย้ำอีกทีนะครับว่าความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ)
ถนนเปียก
ดอกยางรีดน้ำได้ดีครับ ความนุ่มของยางก็ช่วยให้ยึดเกาะได้เพิ่มอีกนิด ทำให้เจ้า IZ-S ชนะเจ้า RX01 ไปด้วยคะแนน 7 ต่อ 4 เลย เพราะความนุ่มของเนื่อยางนี่ล่ะครับ ปกติผมเป็นคนที่เวลาเจอถนนเปียกแล้วจะขี่อย่างระวังมากๆ ไม่ค่อยเปลี้ยว แต่เพื่อทดสอบยาง ผมก็ระเบิดคันเร่งในโค้งหลายๆรอบ เริ่มจากเบาไปหาหนัก เพื่อดูว่าวันไหนเผลอเดินคันเร่งไม่เนียนในโค้งถนนเปียกแล้วจะเป็นยังไง ผลที่ออกมาก็พอไหวครับ ถ้าไม่ดีดครัชแรงจริงๆจนหัวกระชากล้อหลังก็ยังไม่แถออก (สำหรับการเอียงรถในการขับขี่ในชีวิตประจำวันในกทม.ทั่วไป) แต่คงไม่ใช่ยางที่คุณจะเปรี้ยวปากแล้วเอาไปซัดหนักๆบนถนนเปียกได้แบบเมามันส์
ส่วนเจ้ายางเดิมเหรอ ไม่ต้องพูดถึงล่ะ ถึงร่องดอกยางจะใหญ่ชัดเจน แต่เนื้อยางแข็งๆของมันทำให้ผมเสียวทุกครั้งเวลาขี่ในโค้ง (สำหรับทางตรงมันก็วิ่งได้นะครับ 120 ก็วิ่งมาแล้ว แต่ถ้าต้องเบรกหนักๆตอนนั้นนี่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เพราะฉะนั้น ไม่แนะนำให้ขี่เร็ว)
โค้ง
ชัดเจนครับ เจ้า IZ-S เกิดมาเพื่อทางโค้งมากกว่า RX01 อยู่แล้ว พลิกรถง่ายกว่า พื้นที่ขอบยางสัมผัสพื้นเยอะกว่า พริ้วกว่าเยอะเลย ผมให้ 8 ต่อ 5 ครับ ที่ให้เจ้ายางเดิมถึง 5 เพราะพอยางร้อนแล้ว มันก็เข้าโค้งได้จนหมดหน้ายางเหมือนกัน ดูเหมือนเนื้อยางด้านข้างจะนิ่มกว่าตรงกลางเล็กน้อยจากการจัดโครงสร้างยาง
ความทนทาน
คงไม่มีใครเอาตำแหน่งนี้ไปจากเจ้า RX01 ได้ล่ะครับ ขี่กันไปยาวๆ 3 หมื่นกว่าโลยังขี่ได้ (ถ้าไม่ได้บรรทุกหนัก) ทนอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้ แต่ก็ยังเป็นข้อกังขาอยู่นะว่าเจ้า IZ-S จะใช้ได้นานขนาดไหน แต่ผมมั่นใจว่ามันใช้ได้ยาวกว่าเจ้า IZ003 ที่ใช้ได้ 8พัน – หมื่น2พัน กม. ครับ เพราะฉะนั้นให้คะแนนด้วยสกิล มโน ล้วนๆอยู่ที่ 6 ต่อ 10
ความคุ้มค่า
เรื่องนี้มันพูดยากนะครับ ความคุ้มค่าแต่ละคนไม่เท่ากัน ผมให้เจ้า 7 ต่อ 8 ละกัน ให้เจ้า RX01 ชนะไปฉิวเฉียดเพราะความทนทานและราคาค่าตัวของมัน แต่ที่ไม่ใช้ชนะขาดเพราะด้วยราคา 4 พันบาท สำหรับยางฟิลลิ่งกึ่งสนามดีๆแบบเจ้า IZ-S ก็ไม่ได้หากันได้ง่ายๆนะครับ มีไหม มีเยอะแต่ แต่ราคาสูงกว่านี้ครับ
ฟันธงกันไปเลยว่าน่าเล่นไหม หรือเหมาะกับใคร
ถ้าคุณมองหายางพริ้วๆ ราคาไม่สูงมาก ใช้งานได้สัก 15000 – 18000 โล เจ้า IZ-S เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าครับ
ถ้าคุณอยากได้ยางที่มาแทนยางเดิม เจอโค้งแล้วเฉยๆ ไม่ตบเกียร์เลี้ยงรอบ แล้วอัดคันเร่งเข้าใส่ เน้นใช้งานเป็นหลัก เอาทนๆ ยางเดิมก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ หรือคุณอาจจะมองยางตัวอื่นเพิ่มก็ได้ แต่ราคาอาจจะสูงขึ้นเช่น Pirelli Sport Dragon (ผมยังไม่ได้ลองเอง เพื่อนบอกมาครับ) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในราคาย่อมเยาว์
ถ้าราคาไม่ใช่ปัญหาแล้วชอบโค้ง มีอีกหลายตัวเลยครับ ถ้าให้ผมแนะนำ ก็อาจจะเชียร์ Pirelli Rosso2 Radialiono ก็เป็นตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่าที่สุดเท่าที่ผมลองมาครับ
สุดท้ายขอให้ขับขี่ปลอดภัย ได้ยางที่ดีเหมาะกับลักษณะการใช้งานทุกท่านครับ