ปกติมีกันสามคน พ่อแม่ลูก เราเป็นลูกชาย
เรา40แล้ว เป็นโสด .........พ่อ78 แม่ 67
เราอยู่กับบ้านตลอด ช่วง 3ปีหลังมานี้ แม่ป่วย เป็นโรคไวรัสตับบี เบาหวาน ความดัน หัวใจ
งานบ้านทั้งหมดเลยเป็นของเรา ซักผ้า กวาดบ้าน ซื้อกับข้าว บลลาๆๆๆๆๆๆๆๆ
เราทำงานอิสระไง เลยมีเวลาอยู่บ้านได้เยอะ
ต้องพาแม่ส่งรพ.บ่อยๆๆ ทั้งที่ไปตามหมอนัด และไปแบบฉุกเฉิน มีรถหวอ มารับ เวลาที่แม่อ้วกออกมาเป็นเลือด
เรียกว่าไปนอนแบบฉุกเฉิน มากกว่า 10ครั้งกันเลย
จนในที่สุด แม่ก้อถึงขั้นท้องบวม ขาบวมน้ำ จากโรคตับ ทำให้เดินไม่ค่อยได้แล้ว
เราต้องพาเข้าห้อง น้ำ เปลี่ยนแพมเพอสเวลาขับถ่าย....กินอะไรก้อไม่ค่อยได้แล้ว มันแน่นท้องไปหมด
นอนตอนดึกแกก้อครวญคราง เพราะเจ็บหน้าอก
ทรมานอยู่ 3เดือน แกก้อจากไปแล้ว
ตอนนี้ที่บ้านมีเรากับพ่อ เท่านั้น เรารู้สึกว่าพ่อจะซึมๆไปมากเลย กลัวแกเหงาจัง
ปกติเวลาอยู่ครบสามคน ก้อเป็นครอบครับที่เงียบๆกันอยู่แล้ว ไม่ค่อยได้ไปยุ่งกับใคร
พอมาเหลือสองคน ยิ่งดูวังเวง หงอยๆ เข้าไปอีก
...................................................อันที่จริงตอนแม่ยังอยู่ แกก้อสร้างวีรกรรมไว้เยอะมาก
ที่เด่นๆคือไปสร้างหนี้สิน ไปทั่ว เพราะแกติดพนันที่บ่อน
ตามใช้ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ก้อไม่หมดสักมี แกจะโกหกตลอดๆๆๆ เอาชื่อเราไปอ้างกับญาติๆ ตอนที่จะไปหลอกยืมเงินเค้า
จนญาติๆ คิดไปว่าเราเป็นคนไม่ดี สร้างแต่เรื่องให้พ่อแม่
ยังดีที่ตอนงานศพ ญาติหลายๆคนมาคุยกันเรื่องที่แม่เราไปหลอกยืมเงินคนหลายคนไปทั่ว โดยอ้างชื่อพ่อบ้าง เราบ้าง
เราเลยได้เคลียร์ตนเองตอนงานนี้นี่เอง
แต่ไม่มีใครโกรธแม่เราแล้วล่ะ อโหสิกรรมให้กันหมดแล้ว
เราก้อไม่ได้โกรธแกหรอกนะ เพราะสิบกว่าปีมานี้ แม่กับเรารบกันเรื่องนี้มาตลอด จนทุกวันนี้เราเฉยๆไปแล้ว
ในเรื่องสร้างหนี้ กับเรื่องโกหกต่างๆๆ ...............จบงานศพ ไปสามสี่วัน ยังมีเจ้าหนี้รายนึงโทรเข้าเครื่องแม่เรา เรารับ
เราบอกไปว่าแม่เสียแล้ว เค้าก้อพูดดีกับเรานิดนึง แล้วก้อบอกว่าให้เราผ่อนหนี้ที่แม่ติดไว้ต่อด้วยนะ
เงินต้น สามหมื่นห้า แม่ส่งดอกมา เดือนละเจ็ดพัน มา สองปีกว่าแล้ว
เค้าใจดีมาก บอกว่าไม่เอาดอกแล้ว ให้เราผ่อนแต่ต้นก้อได้.....................
ญาติๆบอกเราว่าไม่ต้องไปจ่ายหรอก ...
แม่เสียไป 2 อาทิตย์แล้วครับ ที่บ้านดูเงียบเหงา วังเวง เหมือนขาดอะไรไป สงสารพ่อที่ดูซึมๆๆ
เรา40แล้ว เป็นโสด .........พ่อ78 แม่ 67
เราอยู่กับบ้านตลอด ช่วง 3ปีหลังมานี้ แม่ป่วย เป็นโรคไวรัสตับบี เบาหวาน ความดัน หัวใจ
งานบ้านทั้งหมดเลยเป็นของเรา ซักผ้า กวาดบ้าน ซื้อกับข้าว บลลาๆๆๆๆๆๆๆๆ
เราทำงานอิสระไง เลยมีเวลาอยู่บ้านได้เยอะ
ต้องพาแม่ส่งรพ.บ่อยๆๆ ทั้งที่ไปตามหมอนัด และไปแบบฉุกเฉิน มีรถหวอ มารับ เวลาที่แม่อ้วกออกมาเป็นเลือด
เรียกว่าไปนอนแบบฉุกเฉิน มากกว่า 10ครั้งกันเลย
จนในที่สุด แม่ก้อถึงขั้นท้องบวม ขาบวมน้ำ จากโรคตับ ทำให้เดินไม่ค่อยได้แล้ว
เราต้องพาเข้าห้อง น้ำ เปลี่ยนแพมเพอสเวลาขับถ่าย....กินอะไรก้อไม่ค่อยได้แล้ว มันแน่นท้องไปหมด
นอนตอนดึกแกก้อครวญคราง เพราะเจ็บหน้าอก
ทรมานอยู่ 3เดือน แกก้อจากไปแล้ว
ตอนนี้ที่บ้านมีเรากับพ่อ เท่านั้น เรารู้สึกว่าพ่อจะซึมๆไปมากเลย กลัวแกเหงาจัง
ปกติเวลาอยู่ครบสามคน ก้อเป็นครอบครับที่เงียบๆกันอยู่แล้ว ไม่ค่อยได้ไปยุ่งกับใคร
พอมาเหลือสองคน ยิ่งดูวังเวง หงอยๆ เข้าไปอีก
...................................................อันที่จริงตอนแม่ยังอยู่ แกก้อสร้างวีรกรรมไว้เยอะมาก
ที่เด่นๆคือไปสร้างหนี้สิน ไปทั่ว เพราะแกติดพนันที่บ่อน
ตามใช้ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ก้อไม่หมดสักมี แกจะโกหกตลอดๆๆๆ เอาชื่อเราไปอ้างกับญาติๆ ตอนที่จะไปหลอกยืมเงินเค้า
จนญาติๆ คิดไปว่าเราเป็นคนไม่ดี สร้างแต่เรื่องให้พ่อแม่
ยังดีที่ตอนงานศพ ญาติหลายๆคนมาคุยกันเรื่องที่แม่เราไปหลอกยืมเงินคนหลายคนไปทั่ว โดยอ้างชื่อพ่อบ้าง เราบ้าง
เราเลยได้เคลียร์ตนเองตอนงานนี้นี่เอง
แต่ไม่มีใครโกรธแม่เราแล้วล่ะ อโหสิกรรมให้กันหมดแล้ว
เราก้อไม่ได้โกรธแกหรอกนะ เพราะสิบกว่าปีมานี้ แม่กับเรารบกันเรื่องนี้มาตลอด จนทุกวันนี้เราเฉยๆไปแล้ว
ในเรื่องสร้างหนี้ กับเรื่องโกหกต่างๆๆ ...............จบงานศพ ไปสามสี่วัน ยังมีเจ้าหนี้รายนึงโทรเข้าเครื่องแม่เรา เรารับ
เราบอกไปว่าแม่เสียแล้ว เค้าก้อพูดดีกับเรานิดนึง แล้วก้อบอกว่าให้เราผ่อนหนี้ที่แม่ติดไว้ต่อด้วยนะ
เงินต้น สามหมื่นห้า แม่ส่งดอกมา เดือนละเจ็ดพัน มา สองปีกว่าแล้ว
เค้าใจดีมาก บอกว่าไม่เอาดอกแล้ว ให้เราผ่อนแต่ต้นก้อได้.....................
ญาติๆบอกเราว่าไม่ต้องไปจ่ายหรอก ...