สวัสดีค่ะ ปกติแล้วดิฉันก็ไม่ได้เขียนกระทู้ เพื่อร้องเรียนอะไรมากมาย แต่วันนี้ดิฉันคิดว่าอยากแชร์ประสบการณ์อะไรบางอย่าง ให้กับเพื่อนๆ ฟัง ดิฉันอยากจะแชร์ถึงกระบวนการบางอย่างของธนาคารกสิกรไทย ที่ดิฉันว่ามันไม่สมเหตุ สมผล และสร้างภาระให้กับลูกค้ามากมาย ดิฉันเลยยืม Account เพื่อนมาโพส
เรื่องมันมีอยู่ว่า พ่อดิฉันเพิ่งเสียชีวิตไปกะทันหัน โดยไม่ได้มีการทำพินัยกรรม หรือเอกสาร ทางการเงินไว้ ดังนั้นการจะถอนเงินจากธนาคารต่างๆ ของพ่อ จำเป็นต้องมีเอกสารแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่งพี่น้องๆ ทุกคนในบ้านยุ่งมาก และอยู่กันคนละมุมเมือง ภาระเลยตกมาอยู่ที่ดิฉัน โดยหนังสือฉบับนี้จะเป็นหนังสือที่ได้รับการรับรองจากทายาททุกคน รวมถึงคุณแม่ดิฉันด้วย ยินยอมให้ดิฉันเป็นผู้จัดการมรดก เพื่อทำการถอนเงินจากบัญชีคุณพ่อ และนำเงินนั้นมอบให้กับคุณแม่ต่อไป ซึ่งคุณพ่อดิฉันมีบัญชีตามธนาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร TMB ธนาคารกรุงเทพ และ "ธนาคารกสิกรไทย"
โดยก่อนทำเรื่อง ดิฉันไปถามแต่ละธนาคารว่า ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งแต่ละธนาคารจะต้องการเอกสารเหมือนๆ กัน คือ สมุดบัญชี ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ใบมรณบัตรของคุณพ่อ และเอกสารแต่งตั้งผู้จักการมรดก บางธนาคารบอกว่า หรือให้ทายาททุกๆคนมาพร้อมเพรียงกัน แล้วเซ็นเอกสาร ซึ่งข้อนั้นเป็นไปได้ยากมาก สำหรับพี่น้องทั้ง 4 คนของดิฉันที่การงานรัดตัว สุดท้ายพวกเราเลยเลือกวิธีเขียนคำร้องศาล ยื่นแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่ง ก็คือ ดิฉันเอง
ซึ่งการได้เอกสารผู้จัดการมรดกนั้น ก็ได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ไม่ว่าจะต้องเตรียมเอกสารมากมาย แต่งตั้งทนาย รวมทั้งให้พี่น้องๆ ทุกคนเซ็นรับรองการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกขึ้นมา รวมทั้งต้องไปขึ้นศาล ไปเอาเอกสารจากศาล ซึ่งทั้งหมดนี้ ดิฉันต้องลางานไป เพราะดิฉันทำงานประจำ รวมทั้งระยะเวลากว่าจะได้เอกสารรวมประมาณ 2-3 เดือน
พอได้เอกสารแต่งตั้งผู้จัดการมรดกจากศาล ดิฉันก็ลางาน (อีกครั้ง) ไปตามธนาคารๆ ต่าง เช่น ธนาคาร TMB ซึ่งดีมากกก เมื่อมีเอกสารครบ เค้าก็ถอนเงินทุกบัญชีของพ่อให้ รวมทั้งบัญชีในสาขาอื่นๆ โดยดิฉันไม่จำเป็นต้องตระเวนไปในทุกสาขาของคุณพ่อ ไปแค่สาขาเดียว แต่ก็ปิดให้ทุกสาขา เรื่องทุกอย่างจบภายใน ครึ่งชั่วโมง ( #คือดีงาม)
ภารกิจต่อมา ดิฉันก็ไปที่ธนาคารกสิกรไทย ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งพ่อดิฉันได้เปิดไว้ ดิฉันก็เตรียมเอกสารไปปกติ ปรากฎว่า
1. พนักงานบอกว่ายังถอนเงินให้เงินดิฉันไม่ได้ บอกว่าต้องส่งเอกสารให้สำนักงานใหญ่ตรวจสอบก่อนว่าเป็นของจริง ซึ่งอันนี้ดิฉันก็พอรับได้
2. ดิฉันถามเค้าว่า พอตรวจเสร็จแล้ว ขอเป็นการโอนเข้าบัญชีดิฉันแทนได้ไหม ถ้าไม่สะดวกมารับ พนักงานบอกว่าไม่ได้ ต้องมารับด้วยตัวเอง จริงๆ นะจุดๆ นี้ ดิฉันก็เริ่มเซ็ง รู้สึกว่าการปิดบัญชี ทำไมต้องมาบ่อยๆ ด้วย น่าจะมีบริการโอนเงินให้ แต่ไม่เป็นไร เนื่องจากเป็นธนาคารในห้าง ดิฉันมาอีกทีวันเสาร์ อาทิตย์ก็ได้
3. พนักงานให้ดิฉันเซ็นเอกสารมากมาย มีเอกสารค้ำประกันด้วย ซึ่งดิฉันก็งงว่า ชื่อผู้ค้ำคือใคร เค้าบอกว่า คือชื่อ ผู้ตาย ตอนนี้ก็เริ่มคิดในใจ ถึงความไม่สมเหตุสมผลของเอกสาร ซึ่งผู้ตายจะมีสิทธิมาค้ำประกันได้อย่างไร แต่ไม่เป็นไร อันนี้ดิฉันก็ยอมเซ็นไป
4 เอกสารสุดท้าย เป็นเอกสารที่ดิฉันว่า ไร้เหตุผลที่สุด เป็นเอกสารที่รับรองว่าดิฉันได้รับเงินจากธนาคารแล้ว ดิฉันถามพนักงานว่า ฉันจะเซ็นได้อย่างไร ในเมื่อดิฉันยังไม่ได้รับเงิน พนักงานก็ตอบว่า "มันเป็นระเบียบของสำนักงานใหญ่" ดิฉันเลยบอก ดิฉันจะเซ็นได้อย่างไร มันไม่ถูกต้อง พนักงานก็หน้าตุ่ยๆ บอกผู้จัดการว่า ดิฉันไม่ยอมเซ็น ดิฉันก็แย้งว่า จะเซ็นได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้รับเงิน สุดท้ายทางแบงค์ก็ยอม บอกว่าดิฉันไม่ต้องเซ็น
5. พอส่งเอกสารเส็ดเรียบร้อย เค้าก็บอกว่าต้องรอประมาณ 1 เดือน ดิฉันก็บอกว่า โอเค แต่นานจัง สุดท้ายดิฉันก็รู้สึกว่า ธนาคารนี้เวลาฝากเงินง่ายจัง ทำไมถอนที ลำบ้ากๆๆๆๆๆๆๆ ลำบากกกกกกกก
ต่อมา ผ่านไปประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ ดิฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากพนักงาน ถามหาว่า ดิฉันมีใบยืนยันว่าคดีถึงที่สิ้นสุดไหม ยอมรับว่า ดิฉันก็งง มันคือใบอะไร ดิฉันก็เลยตอบไปว่าไม่มี พนักงานบอกว่าให้ดิฉันไปศาล เพื่อขอใบนี้ โอ้วแม่เจ้าาาาาาาาาาาา.. ตอนนั้นดิฉันยอมรับว่าเดือด ดิฉันถามไปว่า คุณค่ะ ใบแต่งตั้งผู้จัดการมรดก มันก็น่าจะเกินพอแล้วไหมค่ะ กว่าจะได้มา ต้องยื่นเอกสารมากมาย ต้องให้ทายาททุกคนรวมทั้งแม่ดิฉันเซ็นแล้วยังไม่เพียงพออีก ที่สำคัญดิฉันเป็นพนักงานประจำ วันลาก็ไม่ได้มีเยอะแยะ การปิดบัญชี ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้ ไม่เห็นเหมือนธนาคารอื่นๆ
ต่อมาพนักงานต่อสายให้ดิฉันคุยกับสำนักงานใหญ่ บอกว่าไม่มีจดหมายยืนยันว่าคดีสิ้นสุดแล้วก็ไม่เป็นไร ให้มีทายาทคนอื่นๆ มาด้วยตอนมารับเงิน และมาเซ็นเอกสารที่แบงค์ ยอมรับค่ะนะจุดๆ นี้ รู้สึกว่า เรื่องมากกกกกกกกกกกกก จังค่ะะะะะะ คุณธนาคารสีเขียวค่ะ คุณรู้ไหมว่า กว่าจะได้หนังสือแต่งตั้งผู้จัดการมรดกมันยุ่งยากแค่ไหน แล้วทายาทแต่ละคนก็เซ็นยินยอมแล้ว คุณจะให้ทายาทมาเซ็นยินยอมที่ธนาคารคุณอีกเหรอค่ะ พี่น้องดิฉันไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แล้วก็ไม่ได้นัดกันได้ง่ายๆ ขนาดนั้น สำนักงานใหญ่บอกว่ามันเป็นระเบียบว่า ถ้าเงินไม่ถึง 2 แสนบาท ไม่ต้องใช้ใบแต่งตั้งผู้จัดการมรดก แต่ให้ทายาทมาเซ็นยินยอม แต่คุณธนาคารสีเขียวค่ะ การที่ได้เอกสารแต่งตั้งผู้จัดการมรดก นั้นคือ ทายาทยินยอมแล้วค่ะ คุณจะเรื่องมากไปไหมค่ะ พนักงานก็ได้แต่อ้างว่าเป็นระเบียบทางธนาคาร ระเบียบบบบบบๆๆๆๆๆๆ ที่มันเยิ่นเย้อ ไร้เหตุผล แล้วพนักงานก็บอกดิฉันว่า "ทางธนาคารกลัวทายาทคนอื่นมาฟ้อง ถ้าไม่มีใบสิ้นสุดคดี" ดิฉันเลยตอบกลับไปว่า "ถ้าเกิดทายาทคนอื่น มาฟ้อง พวกเค้าคงมาฟ้องกับดิฉัน คงไม่ได้ฟ้องกับธนาคารหรอกนะค่ะ"
ดิฉันรู้สึกว่า ถ้าระเบียบงี่เง่าแบบนี้ ก็ควรเปลี่ยนได้แล้วไหมค่ะ สุดท้ายดิฉันยังไม่รู้จบยังไง แต่ดิฉันรู้สึกเหนื่อยมากกับธนาคารนี้ ดิฉันไม่เข้าใจ คนที่คิดระบบเอกสาร และกระบวนการที่ไร้เหตุผลขนาดนี้
สุดท้ายดิฉันอยากจะฝากว่า ปกติครอบครัวที่ต้องเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป เค้าก็มีเรื่องเสียใจ และต้องจัดการมากมายอยู่แล้ว แต่คุณกำลังกดขี่เค้า ด้วยระเบียบการ และเอกสารไร้สาระของคุณ ดิฉันยอมรับค่ะว่า เมื่อก่อน ดิฉันมองคุณเป็นธนาคารอันดับหนึ่งในใจฉัน เปิด 3-4 บัญชี ใช้บริการตลอด ๆ แต่ถ้าคุณยังมีระเบียบการ เอกสารๆ ไร้สาระอย่างนี้อีก ดิฉันว่า ธนาคารคุณน่าจะต้องพัฒนาอีกเยอะนะค่ะ เห็นใจลูกค้าที่อยู่ในเมืองกรุง เวลาในชีวิตก็ไม่ค่อยจะมีแล้ว ยังต้องมาปวดหัว กับกระบวนการและเอกสารที่ไร้เหตุผลของคุณอีกเถอะค่ะ ที่สำคัญคนที่เค้าเสียบุคคลในครอบครัวไป เห็นใจเค้าถึงค่ะ เค้าเหนื่อยใจ เศร้าใจ พอแล้ว อย่ามาทำให้เค้าต้องมายุ่งยาก กับเอกสารกับระเบียบ ระบบ บางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลของธนาคารคุณเลย... เฮ้อออ
ปล. โทดทีนะค่ะ ถ้ามีการใช้คำที่ไม่สุภาพ หรือ อ่านแล้วงง ๆ คือ เขียนไม่ค่อยเก่งค่ะ จุดมุ่งหมายที่เขียนนี้ คิดว่า อยากให้ธนาคารกสิกรปรับปรุงเอกสาร และกระบวนการ และช่วยทำความเข้าใจลูกค้า ซึ่งเวลาในชีวิตเค้าก็ไม่ได้มีมากเท่าไหร่ แล้วบางคนก็เป็นพนักงานประจำ การไปศาล หรือ ไปธนาคาร แต่ละที มันลำบากมากค่ะ คุณมีภาพลักษณ์ที่ดีมากนะในสายตาดิฉัน แต่ตอนนี้ยอมรับค่ะว่า ม่ายยยยยยยย ช่วยกรุณาปรับปรุงนะค่ะ
ปล2 ขอโทดนะค่ะ มือใหม่ อาจ tag ผิดห้อง
ปล3 ดิฉันไม่ได้เป็นคนมีความรู้ทางด้านเอกสารของศาลมาก แต่การแต่งตั้งหนังสือผู้จัดการมรดก ใช้เอกสารมากมายๆ จริงค่ะ แล้วดิฉันก็ได้ไปสืบค้นมาว่า เอกสารฉบับนี้ก็มีความสมบูรณ์ในตัวมันเองแล้ว ไปทำเรื่องเบิกถอน และปิดบัญชีได้ ทำไมคุณธนาคารสีเขียว ยังต้องการเอกสารอื่นๆ อีกมากมายค่ะ
ปล4 ตอนนี้พนักงานเงียบไป ไมติดต่อกลับมา ดิฉัน กำลังงงว่า แล้วดิฉันต้องทำอย่างไรต่อไป เฮ้ออออออ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Update (15 ธค 2015) :
สวัสดีค่ะ ดิฉัน ขอมาอัพเดทนะค่ะ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่าน ทาง Call Center และสาขาของธนาคารกสิกรไทยได้ติดต่อมา ตอนนี้ดิฉันสามารถปิดบัญชีคุณพ่อได้สำเร็จแล้วค่ะ โดยดิฉันต้องเซ็นหนังสือค้ำประกัน และ ใบรับเงินเพิ่มเติม
ดิฉันขอขอบคุณทุกกำลังใจ พร้อมทั้งข้อมูลต่างๆ ที่เพื่อนๆ พี่ ๆ น้องๆ ให้ความรู้มานะค่ะ ดิฉันรู้สึกว่า การมาโพสครั้งแรก ของดิฉันได้เรียนรู้อะไรมากมาย รวมทั้งได้กำลังใจ จากคนที่ไม่รู้จัก มันรู้สึกอบอุ่นจิงๆ ค่ะ
ดิฉันหวังว่า เราจะเห็นการปรับปรุงของธนาคารจริงๆ ซึ่งดิฉันได้ย้ำกับ Call Center ไปแล้วว่า
1. ใบรับเงิน ควรให้ลูกค้าเซ็นหลังรับเงิน ไม่ใช่เซ็นก่อน
2. กรณีเอกสาร ที่ดิฉันคิดว่าเอกสารแต่งตั้งผู้จัดการมรดกน่าจะเพียงพอ เพราะดิฉันเห็นว่า ธนาคาร TMB ก็ยอมรับเอกสารฉบับนี้ รวมทั้งตอนไปรับเงิน ทางกสิกรมีให้เซ็นหนังสือค้ำประกัน ว่า"ถ้ามีทายาทคนอื่นมาฟ้องร้อง หรือเบิกเงิน ดิฉันจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ" ดังนั้นดิฉันว่า หนังสือค้ำประกันนี้ น่าจะเพียงพอ และป้องกันกรณีทายาทคนอื่นมาเบิกเงินกับทางกสิกรได้ ไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือรับรองคดีถึงที่สิ้นสุด
3.การลดขั้นตอนต่างๆ ที่ทำให้ลูกค้าสะดวกขึ้น สามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจขึ้นได้มากจริงๆค่ะ ยกตัวอย่าง เช่น ธนาคาร TMB ที่คราวนี้ ดิฉันยอมรับว่า ได้ใจดิฉันไปค่ะ
แล้วเรามารอดูกันค่ะ ว่าธนาคารสีเขียว จะมีการปรับปรุงเพื่อพวกเราจริงๆ หรือเปล่า
ขอบคุณๆ ทุกๆ ความคิดเห็นนะค่ะ
[CR] แชร์ประสบการณ์อันยุ่งยาก ในการปิดบัญชีคุณพ่อที่เสียชีวิต กับธนาคารกสิกรไทย (ขอบ่นนะค่ะ)
เรื่องมันมีอยู่ว่า พ่อดิฉันเพิ่งเสียชีวิตไปกะทันหัน โดยไม่ได้มีการทำพินัยกรรม หรือเอกสาร ทางการเงินไว้ ดังนั้นการจะถอนเงินจากธนาคารต่างๆ ของพ่อ จำเป็นต้องมีเอกสารแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่งพี่น้องๆ ทุกคนในบ้านยุ่งมาก และอยู่กันคนละมุมเมือง ภาระเลยตกมาอยู่ที่ดิฉัน โดยหนังสือฉบับนี้จะเป็นหนังสือที่ได้รับการรับรองจากทายาททุกคน รวมถึงคุณแม่ดิฉันด้วย ยินยอมให้ดิฉันเป็นผู้จัดการมรดก เพื่อทำการถอนเงินจากบัญชีคุณพ่อ และนำเงินนั้นมอบให้กับคุณแม่ต่อไป ซึ่งคุณพ่อดิฉันมีบัญชีตามธนาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร TMB ธนาคารกรุงเทพ และ "ธนาคารกสิกรไทย"
โดยก่อนทำเรื่อง ดิฉันไปถามแต่ละธนาคารว่า ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งแต่ละธนาคารจะต้องการเอกสารเหมือนๆ กัน คือ สมุดบัญชี ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ใบมรณบัตรของคุณพ่อ และเอกสารแต่งตั้งผู้จักการมรดก บางธนาคารบอกว่า หรือให้ทายาททุกๆคนมาพร้อมเพรียงกัน แล้วเซ็นเอกสาร ซึ่งข้อนั้นเป็นไปได้ยากมาก สำหรับพี่น้องทั้ง 4 คนของดิฉันที่การงานรัดตัว สุดท้ายพวกเราเลยเลือกวิธีเขียนคำร้องศาล ยื่นแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่ง ก็คือ ดิฉันเอง
ซึ่งการได้เอกสารผู้จัดการมรดกนั้น ก็ได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ไม่ว่าจะต้องเตรียมเอกสารมากมาย แต่งตั้งทนาย รวมทั้งให้พี่น้องๆ ทุกคนเซ็นรับรองการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกขึ้นมา รวมทั้งต้องไปขึ้นศาล ไปเอาเอกสารจากศาล ซึ่งทั้งหมดนี้ ดิฉันต้องลางานไป เพราะดิฉันทำงานประจำ รวมทั้งระยะเวลากว่าจะได้เอกสารรวมประมาณ 2-3 เดือน
พอได้เอกสารแต่งตั้งผู้จัดการมรดกจากศาล ดิฉันก็ลางาน (อีกครั้ง) ไปตามธนาคารๆ ต่าง เช่น ธนาคาร TMB ซึ่งดีมากกก เมื่อมีเอกสารครบ เค้าก็ถอนเงินทุกบัญชีของพ่อให้ รวมทั้งบัญชีในสาขาอื่นๆ โดยดิฉันไม่จำเป็นต้องตระเวนไปในทุกสาขาของคุณพ่อ ไปแค่สาขาเดียว แต่ก็ปิดให้ทุกสาขา เรื่องทุกอย่างจบภายใน ครึ่งชั่วโมง ( #คือดีงาม)
ภารกิจต่อมา ดิฉันก็ไปที่ธนาคารกสิกรไทย ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งพ่อดิฉันได้เปิดไว้ ดิฉันก็เตรียมเอกสารไปปกติ ปรากฎว่า
1. พนักงานบอกว่ายังถอนเงินให้เงินดิฉันไม่ได้ บอกว่าต้องส่งเอกสารให้สำนักงานใหญ่ตรวจสอบก่อนว่าเป็นของจริง ซึ่งอันนี้ดิฉันก็พอรับได้
2. ดิฉันถามเค้าว่า พอตรวจเสร็จแล้ว ขอเป็นการโอนเข้าบัญชีดิฉันแทนได้ไหม ถ้าไม่สะดวกมารับ พนักงานบอกว่าไม่ได้ ต้องมารับด้วยตัวเอง จริงๆ นะจุดๆ นี้ ดิฉันก็เริ่มเซ็ง รู้สึกว่าการปิดบัญชี ทำไมต้องมาบ่อยๆ ด้วย น่าจะมีบริการโอนเงินให้ แต่ไม่เป็นไร เนื่องจากเป็นธนาคารในห้าง ดิฉันมาอีกทีวันเสาร์ อาทิตย์ก็ได้
3. พนักงานให้ดิฉันเซ็นเอกสารมากมาย มีเอกสารค้ำประกันด้วย ซึ่งดิฉันก็งงว่า ชื่อผู้ค้ำคือใคร เค้าบอกว่า คือชื่อ ผู้ตาย ตอนนี้ก็เริ่มคิดในใจ ถึงความไม่สมเหตุสมผลของเอกสาร ซึ่งผู้ตายจะมีสิทธิมาค้ำประกันได้อย่างไร แต่ไม่เป็นไร อันนี้ดิฉันก็ยอมเซ็นไป
4 เอกสารสุดท้าย เป็นเอกสารที่ดิฉันว่า ไร้เหตุผลที่สุด เป็นเอกสารที่รับรองว่าดิฉันได้รับเงินจากธนาคารแล้ว ดิฉันถามพนักงานว่า ฉันจะเซ็นได้อย่างไร ในเมื่อดิฉันยังไม่ได้รับเงิน พนักงานก็ตอบว่า "มันเป็นระเบียบของสำนักงานใหญ่" ดิฉันเลยบอก ดิฉันจะเซ็นได้อย่างไร มันไม่ถูกต้อง พนักงานก็หน้าตุ่ยๆ บอกผู้จัดการว่า ดิฉันไม่ยอมเซ็น ดิฉันก็แย้งว่า จะเซ็นได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้รับเงิน สุดท้ายทางแบงค์ก็ยอม บอกว่าดิฉันไม่ต้องเซ็น
5. พอส่งเอกสารเส็ดเรียบร้อย เค้าก็บอกว่าต้องรอประมาณ 1 เดือน ดิฉันก็บอกว่า โอเค แต่นานจัง สุดท้ายดิฉันก็รู้สึกว่า ธนาคารนี้เวลาฝากเงินง่ายจัง ทำไมถอนที ลำบ้ากๆๆๆๆๆๆๆ ลำบากกกกกกกก
ต่อมา ผ่านไปประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ ดิฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากพนักงาน ถามหาว่า ดิฉันมีใบยืนยันว่าคดีถึงที่สิ้นสุดไหม ยอมรับว่า ดิฉันก็งง มันคือใบอะไร ดิฉันก็เลยตอบไปว่าไม่มี พนักงานบอกว่าให้ดิฉันไปศาล เพื่อขอใบนี้ โอ้วแม่เจ้าาาาาาาาาาาา.. ตอนนั้นดิฉันยอมรับว่าเดือด ดิฉันถามไปว่า คุณค่ะ ใบแต่งตั้งผู้จัดการมรดก มันก็น่าจะเกินพอแล้วไหมค่ะ กว่าจะได้มา ต้องยื่นเอกสารมากมาย ต้องให้ทายาททุกคนรวมทั้งแม่ดิฉันเซ็นแล้วยังไม่เพียงพออีก ที่สำคัญดิฉันเป็นพนักงานประจำ วันลาก็ไม่ได้มีเยอะแยะ การปิดบัญชี ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้ ไม่เห็นเหมือนธนาคารอื่นๆ
ต่อมาพนักงานต่อสายให้ดิฉันคุยกับสำนักงานใหญ่ บอกว่าไม่มีจดหมายยืนยันว่าคดีสิ้นสุดแล้วก็ไม่เป็นไร ให้มีทายาทคนอื่นๆ มาด้วยตอนมารับเงิน และมาเซ็นเอกสารที่แบงค์ ยอมรับค่ะนะจุดๆ นี้ รู้สึกว่า เรื่องมากกกกกกกกกกกกก จังค่ะะะะะะ คุณธนาคารสีเขียวค่ะ คุณรู้ไหมว่า กว่าจะได้หนังสือแต่งตั้งผู้จัดการมรดกมันยุ่งยากแค่ไหน แล้วทายาทแต่ละคนก็เซ็นยินยอมแล้ว คุณจะให้ทายาทมาเซ็นยินยอมที่ธนาคารคุณอีกเหรอค่ะ พี่น้องดิฉันไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แล้วก็ไม่ได้นัดกันได้ง่ายๆ ขนาดนั้น สำนักงานใหญ่บอกว่ามันเป็นระเบียบว่า ถ้าเงินไม่ถึง 2 แสนบาท ไม่ต้องใช้ใบแต่งตั้งผู้จัดการมรดก แต่ให้ทายาทมาเซ็นยินยอม แต่คุณธนาคารสีเขียวค่ะ การที่ได้เอกสารแต่งตั้งผู้จัดการมรดก นั้นคือ ทายาทยินยอมแล้วค่ะ คุณจะเรื่องมากไปไหมค่ะ พนักงานก็ได้แต่อ้างว่าเป็นระเบียบทางธนาคาร ระเบียบบบบบบๆๆๆๆๆๆ ที่มันเยิ่นเย้อ ไร้เหตุผล แล้วพนักงานก็บอกดิฉันว่า "ทางธนาคารกลัวทายาทคนอื่นมาฟ้อง ถ้าไม่มีใบสิ้นสุดคดี" ดิฉันเลยตอบกลับไปว่า "ถ้าเกิดทายาทคนอื่น มาฟ้อง พวกเค้าคงมาฟ้องกับดิฉัน คงไม่ได้ฟ้องกับธนาคารหรอกนะค่ะ"
ดิฉันรู้สึกว่า ถ้าระเบียบงี่เง่าแบบนี้ ก็ควรเปลี่ยนได้แล้วไหมค่ะ สุดท้ายดิฉันยังไม่รู้จบยังไง แต่ดิฉันรู้สึกเหนื่อยมากกับธนาคารนี้ ดิฉันไม่เข้าใจ คนที่คิดระบบเอกสาร และกระบวนการที่ไร้เหตุผลขนาดนี้
สุดท้ายดิฉันอยากจะฝากว่า ปกติครอบครัวที่ต้องเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป เค้าก็มีเรื่องเสียใจ และต้องจัดการมากมายอยู่แล้ว แต่คุณกำลังกดขี่เค้า ด้วยระเบียบการ และเอกสารไร้สาระของคุณ ดิฉันยอมรับค่ะว่า เมื่อก่อน ดิฉันมองคุณเป็นธนาคารอันดับหนึ่งในใจฉัน เปิด 3-4 บัญชี ใช้บริการตลอด ๆ แต่ถ้าคุณยังมีระเบียบการ เอกสารๆ ไร้สาระอย่างนี้อีก ดิฉันว่า ธนาคารคุณน่าจะต้องพัฒนาอีกเยอะนะค่ะ เห็นใจลูกค้าที่อยู่ในเมืองกรุง เวลาในชีวิตก็ไม่ค่อยจะมีแล้ว ยังต้องมาปวดหัว กับกระบวนการและเอกสารที่ไร้เหตุผลของคุณอีกเถอะค่ะ ที่สำคัญคนที่เค้าเสียบุคคลในครอบครัวไป เห็นใจเค้าถึงค่ะ เค้าเหนื่อยใจ เศร้าใจ พอแล้ว อย่ามาทำให้เค้าต้องมายุ่งยาก กับเอกสารกับระเบียบ ระบบ บางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลของธนาคารคุณเลย... เฮ้อออ
ปล. โทดทีนะค่ะ ถ้ามีการใช้คำที่ไม่สุภาพ หรือ อ่านแล้วงง ๆ คือ เขียนไม่ค่อยเก่งค่ะ จุดมุ่งหมายที่เขียนนี้ คิดว่า อยากให้ธนาคารกสิกรปรับปรุงเอกสาร และกระบวนการ และช่วยทำความเข้าใจลูกค้า ซึ่งเวลาในชีวิตเค้าก็ไม่ได้มีมากเท่าไหร่ แล้วบางคนก็เป็นพนักงานประจำ การไปศาล หรือ ไปธนาคาร แต่ละที มันลำบากมากค่ะ คุณมีภาพลักษณ์ที่ดีมากนะในสายตาดิฉัน แต่ตอนนี้ยอมรับค่ะว่า ม่ายยยยยยยย ช่วยกรุณาปรับปรุงนะค่ะ
ปล2 ขอโทดนะค่ะ มือใหม่ อาจ tag ผิดห้อง
ปล3 ดิฉันไม่ได้เป็นคนมีความรู้ทางด้านเอกสารของศาลมาก แต่การแต่งตั้งหนังสือผู้จัดการมรดก ใช้เอกสารมากมายๆ จริงค่ะ แล้วดิฉันก็ได้ไปสืบค้นมาว่า เอกสารฉบับนี้ก็มีความสมบูรณ์ในตัวมันเองแล้ว ไปทำเรื่องเบิกถอน และปิดบัญชีได้ ทำไมคุณธนาคารสีเขียว ยังต้องการเอกสารอื่นๆ อีกมากมายค่ะ
ปล4 ตอนนี้พนักงานเงียบไป ไมติดต่อกลับมา ดิฉัน กำลังงงว่า แล้วดิฉันต้องทำอย่างไรต่อไป เฮ้ออออออ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Update (15 ธค 2015) :
สวัสดีค่ะ ดิฉัน ขอมาอัพเดทนะค่ะ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่าน ทาง Call Center และสาขาของธนาคารกสิกรไทยได้ติดต่อมา ตอนนี้ดิฉันสามารถปิดบัญชีคุณพ่อได้สำเร็จแล้วค่ะ โดยดิฉันต้องเซ็นหนังสือค้ำประกัน และ ใบรับเงินเพิ่มเติม
ดิฉันขอขอบคุณทุกกำลังใจ พร้อมทั้งข้อมูลต่างๆ ที่เพื่อนๆ พี่ ๆ น้องๆ ให้ความรู้มานะค่ะ ดิฉันรู้สึกว่า การมาโพสครั้งแรก ของดิฉันได้เรียนรู้อะไรมากมาย รวมทั้งได้กำลังใจ จากคนที่ไม่รู้จัก มันรู้สึกอบอุ่นจิงๆ ค่ะ
ดิฉันหวังว่า เราจะเห็นการปรับปรุงของธนาคารจริงๆ ซึ่งดิฉันได้ย้ำกับ Call Center ไปแล้วว่า
1. ใบรับเงิน ควรให้ลูกค้าเซ็นหลังรับเงิน ไม่ใช่เซ็นก่อน
2. กรณีเอกสาร ที่ดิฉันคิดว่าเอกสารแต่งตั้งผู้จัดการมรดกน่าจะเพียงพอ เพราะดิฉันเห็นว่า ธนาคาร TMB ก็ยอมรับเอกสารฉบับนี้ รวมทั้งตอนไปรับเงิน ทางกสิกรมีให้เซ็นหนังสือค้ำประกัน ว่า"ถ้ามีทายาทคนอื่นมาฟ้องร้อง หรือเบิกเงิน ดิฉันจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ" ดังนั้นดิฉันว่า หนังสือค้ำประกันนี้ น่าจะเพียงพอ และป้องกันกรณีทายาทคนอื่นมาเบิกเงินกับทางกสิกรได้ ไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือรับรองคดีถึงที่สิ้นสุด
3.การลดขั้นตอนต่างๆ ที่ทำให้ลูกค้าสะดวกขึ้น สามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจขึ้นได้มากจริงๆค่ะ ยกตัวอย่าง เช่น ธนาคาร TMB ที่คราวนี้ ดิฉันยอมรับว่า ได้ใจดิฉันไปค่ะ
แล้วเรามารอดูกันค่ะ ว่าธนาคารสีเขียว จะมีการปรับปรุงเพื่อพวกเราจริงๆ หรือเปล่า
ขอบคุณๆ ทุกๆ ความคิดเห็นนะค่ะ