ไร่ข้าวโพด
หลังจากศึกษามาพอสมควรว่าจะปลูกอะไรดี ทุกอย่างก็ตกผลึกอยู่ที่ ข้าวโพด แล้วผมก็เดินทางไปศึกษาการปลูกข้าวโพดที่ไร่สุวรรณ ไร่ข้าวโพดที่จะว่าดังที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ ตื่นตาตื่นใจกับลูกค้าที่ต่อคิวกันซื้อข้าวโพดต้มที่ร้านขายของไร่สุวรรณ ถามเค้าว่าใช้พันธุ์อะไร ได้รับคำตอบมาว่าใช้พันธุ์อินทรีย์ 2 พันธุ์ที่พัฒนาขึ้นเองจากการวิจัยของ ม.เกษตร
ok ตกลงผมซื้อเมล็ดพันธุ์จากที่นี่ 1 โล เครื่องแจ็บ 1 เครื่อง ทั้งสองอย่างรวมกัน 1700 บาท
ความหวัง
กลับมาที่บ้านบางบัวทอง รีบโทรให้น้องชายเคลียร์พื้นที่ ไถดะพื้นที่ 30 X 30 ตารางเมตร (ประมาณครึ่งไร่) เตรียมพร้อมจะปลูกข้าวโพดสายพันธุ์ “อินทรีย์ 2 “ ข้าวโพดหวานที่คนเข้าแถวแย่งกันซื้อแทบจะเหยียบกันตาย ข้อมูลในกระดาษเล็ก ๆ ที่ติดมากับถุงมเล็ดพันธุ์บอกว่า จะได้ผลผลิต 2,059 กก/ไร่ คิดหยาบ ๆ ก็ไร่ละ 2 ตัน 900 ตรม. ก็ 1 ตัน เว็บไซท์ของตลาดศรีเมืองราชบุรี บอกว่าข้าวโพดหวานกิโลละ 10 บาท คำนวณแล้ว 1 ตันก็ 10,000 บาท ใช้เวลาปลูก 70 วัน รายได้ไร่ละสองหมื่น ต่อ 2เดือนครึ่ง มี 8 ไร่ก็ 160,000 บาท / 2.5 เดือน หนึ่งปี ปลูก 4 ครั้ง 160,000 X 4 = 640,000 บาท ต่อปี หรือ 54,000 ต่อเดือน หักต้นทุนไปครึ่งนึ่ง ก็น่าจะ 26,000/เดือน โอ้ว์ ...รีบโทรไปบอกน้องให้ไถดะ ส่วนที่เหลืออีกเจ็ดไร่กว่าให้หมดเลย เตรียมปลูกข้าวโพดหวานพันธุ์อินทรีย์2 ข้าวโพดแปลงแรกเริ่มปลูก 30 กย. แปลง 2, 3 และ 4 ทะยอยลงปลูกห่างกันแปลงละ20 วัน หวังว่าแต่ละแปลงไม่น่าจะต่ำกว่า 1,000 โล นั่นหมายถึงรายได้ 10,000 บาท แต่ 20 วัน
ความจริง
วันที่ 8 ธค. ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแปลงแรก น้องโทรมาบอกว่า เช็คกับตลาดศรีเมืองแล้ว ได้โลละ 9 บาท จะเก็บเช้าตรู่ เก็บทีเดียวคงยังไม่หมด ครั้งแรกน่าจะได้สัก 500 โล ผมคำนวณ 500โล ก็ 4500 บาท ผลตอบแทนสำหรับการเริ่มอาชีพเกษตรกรครั้งแรก ก็ใช้ได้ทีดีเดียว
สาย ๆวันที่ 9 (วันที่ผมกำลังเขียนอยู่นี้) น้องโทรมาบอกว่า แม่ค้าให้โลละ 4 บาท (ย้ำว่าได้สูงสุดแค่นี้ จะเอาหรือไม่เอา) ถามแม่ค้าว่าทำไมได้แค่นี้ เค้าบอกว่าพันธุ์ที่เราปลูกไม่ใช่พันธุ์ที่เค้าต้องการ เค้าต้องการพันธุ์ ไฮบริด 3 มันต่างกัน พันธุ์นี้เค้าไม่เคยซื้อ ถ้าจะซื้อก็คงเอาไปเข้าโรงงานอย่างเดียว (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าโรงงานอะไร) ผมบอกน้องว่า ขายให้จ้าวอื่นได้มั้ย น้องบอกเหมือนกัน ผมเลยบอกน้องว่า ไม่เป็นไร เอาขึ้นตาชั่งขายไปเลย ได้เท่าไรก็เท่านั้น สรุป จากค่าคาดหวังที่จะได้ 4500บาท ความจริงคือ 1700 บาท เท่ากับค่าซื้อเครื่องปลูก กับซื้อเล็ดพันธุ์พอดี
แล้วที่กำลังจะตามมาอีก 3 แปลง จะทำอย่างไร ถ้าแม่ค้าบอกว่าพันธุ์นี้ไม่เอา ?
ถามว่าฝันสลายมั้ย ? ไม่หรอก ผมว่านี่เป็นเพียงบทเรียนบทแรกของการเป็นเกษตรกรเท่านั้นเอง
ผมบอกน้อง ที่เหลืออีกสามแปลงทำให้ดีที่สุด อีก 20 วันจะถึงเวลาเก็บแปลงที่ 2 ถึงวันนั้นทุกอย่างอาจจะดีกว่านี้
30 กย.เราก็เริ่มปลูกแปลงแรก
แปลงแรกอายุได้ 40 วัน แปลง 2 กำลังโตตาม
แปลง 3 อายุได้ 7 วัน
ไร่ข้าวโพดหวาน
หลังจากศึกษามาพอสมควรว่าจะปลูกอะไรดี ทุกอย่างก็ตกผลึกอยู่ที่ ข้าวโพด แล้วผมก็เดินทางไปศึกษาการปลูกข้าวโพดที่ไร่สุวรรณ ไร่ข้าวโพดที่จะว่าดังที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ ตื่นตาตื่นใจกับลูกค้าที่ต่อคิวกันซื้อข้าวโพดต้มที่ร้านขายของไร่สุวรรณ ถามเค้าว่าใช้พันธุ์อะไร ได้รับคำตอบมาว่าใช้พันธุ์อินทรีย์ 2 พันธุ์ที่พัฒนาขึ้นเองจากการวิจัยของ ม.เกษตร
ok ตกลงผมซื้อเมล็ดพันธุ์จากที่นี่ 1 โล เครื่องแจ็บ 1 เครื่อง ทั้งสองอย่างรวมกัน 1700 บาท
ความหวัง
กลับมาที่บ้านบางบัวทอง รีบโทรให้น้องชายเคลียร์พื้นที่ ไถดะพื้นที่ 30 X 30 ตารางเมตร (ประมาณครึ่งไร่) เตรียมพร้อมจะปลูกข้าวโพดสายพันธุ์ “อินทรีย์ 2 “ ข้าวโพดหวานที่คนเข้าแถวแย่งกันซื้อแทบจะเหยียบกันตาย ข้อมูลในกระดาษเล็ก ๆ ที่ติดมากับถุงมเล็ดพันธุ์บอกว่า จะได้ผลผลิต 2,059 กก/ไร่ คิดหยาบ ๆ ก็ไร่ละ 2 ตัน 900 ตรม. ก็ 1 ตัน เว็บไซท์ของตลาดศรีเมืองราชบุรี บอกว่าข้าวโพดหวานกิโลละ 10 บาท คำนวณแล้ว 1 ตันก็ 10,000 บาท ใช้เวลาปลูก 70 วัน รายได้ไร่ละสองหมื่น ต่อ 2เดือนครึ่ง มี 8 ไร่ก็ 160,000 บาท / 2.5 เดือน หนึ่งปี ปลูก 4 ครั้ง 160,000 X 4 = 640,000 บาท ต่อปี หรือ 54,000 ต่อเดือน หักต้นทุนไปครึ่งนึ่ง ก็น่าจะ 26,000/เดือน โอ้ว์ ...รีบโทรไปบอกน้องให้ไถดะ ส่วนที่เหลืออีกเจ็ดไร่กว่าให้หมดเลย เตรียมปลูกข้าวโพดหวานพันธุ์อินทรีย์2 ข้าวโพดแปลงแรกเริ่มปลูก 30 กย. แปลง 2, 3 และ 4 ทะยอยลงปลูกห่างกันแปลงละ20 วัน หวังว่าแต่ละแปลงไม่น่าจะต่ำกว่า 1,000 โล นั่นหมายถึงรายได้ 10,000 บาท แต่ 20 วัน
ความจริง
วันที่ 8 ธค. ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแปลงแรก น้องโทรมาบอกว่า เช็คกับตลาดศรีเมืองแล้ว ได้โลละ 9 บาท จะเก็บเช้าตรู่ เก็บทีเดียวคงยังไม่หมด ครั้งแรกน่าจะได้สัก 500 โล ผมคำนวณ 500โล ก็ 4500 บาท ผลตอบแทนสำหรับการเริ่มอาชีพเกษตรกรครั้งแรก ก็ใช้ได้ทีดีเดียว
สาย ๆวันที่ 9 (วันที่ผมกำลังเขียนอยู่นี้) น้องโทรมาบอกว่า แม่ค้าให้โลละ 4 บาท (ย้ำว่าได้สูงสุดแค่นี้ จะเอาหรือไม่เอา) ถามแม่ค้าว่าทำไมได้แค่นี้ เค้าบอกว่าพันธุ์ที่เราปลูกไม่ใช่พันธุ์ที่เค้าต้องการ เค้าต้องการพันธุ์ ไฮบริด 3 มันต่างกัน พันธุ์นี้เค้าไม่เคยซื้อ ถ้าจะซื้อก็คงเอาไปเข้าโรงงานอย่างเดียว (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าโรงงานอะไร) ผมบอกน้องว่า ขายให้จ้าวอื่นได้มั้ย น้องบอกเหมือนกัน ผมเลยบอกน้องว่า ไม่เป็นไร เอาขึ้นตาชั่งขายไปเลย ได้เท่าไรก็เท่านั้น สรุป จากค่าคาดหวังที่จะได้ 4500บาท ความจริงคือ 1700 บาท เท่ากับค่าซื้อเครื่องปลูก กับซื้อเล็ดพันธุ์พอดี
แล้วที่กำลังจะตามมาอีก 3 แปลง จะทำอย่างไร ถ้าแม่ค้าบอกว่าพันธุ์นี้ไม่เอา ?
ถามว่าฝันสลายมั้ย ? ไม่หรอก ผมว่านี่เป็นเพียงบทเรียนบทแรกของการเป็นเกษตรกรเท่านั้นเอง
ผมบอกน้อง ที่เหลืออีกสามแปลงทำให้ดีที่สุด อีก 20 วันจะถึงเวลาเก็บแปลงที่ 2 ถึงวันนั้นทุกอย่างอาจจะดีกว่านี้
30 กย.เราก็เริ่มปลูกแปลงแรก
แปลงแรกอายุได้ 40 วัน แปลง 2 กำลังโตตาม
แปลง 3 อายุได้ 7 วัน