คือผมทำเอกชนมาก่อน ไม่เคยคิดอยากเป็นราชการเลย แต่พ่อบอกผมอายุ 29 ลูกคนเดียวด้วย ยังไงๆก็ควรไปเป็น คือ วันที่ไปสอบนี่บอกตรงๆโดนบังคับ พ่อผมความดันสูงทะลุปรอท บอกไม่ไปสอบคำเดียวกลัวจะเส้นเลือดแตกตาย เลยยอมไป พอไปทำข้อสอบก็กามั่วๆ ผ่าน ! สัมภาษณ์ก็ไม่ค่อยตอบตรงคำถาม แต่ดันติด ! พอมาทำงานที่นี่แรกๆมันเหมือนตกนรกจัง ลำบากเหลือเกินกับเงินเดือนหมื่นห้า
สมัยผมทำเอกชนหมื่นห้านี่ไม่กี่วันก็หมดแล้ว แล้วผมชินกับสังคมกรุงเทพด้วย พอต้องย้ายมาทำราชการแบบพ่อว่าก็ต้องไปต่างจังหวัด ผมบรรจุถิ่นที่ทุรกันดารเหลือเกิน อาทิตย์แรกโทรหาเพื่อนเป็นสิบๆคน คิดถึงกรุงเทพใจจะขาด เหงา เงินไม่มี หนี้สินก็หมุนไม่ทัน
วันไหนคิดแผนไว้ว่าจะลาออกแล้วเข้ากรุงเทพไป มันจะต้องมีเรื่องให้ผมไม่ลาออก เช่น ผมจะลาออกเช้าวันนั้นที่เข้าไปถึงที่ทำงาน ดันมีหมากัดคนตรงหน้าผมพอดี กลายเป็นว่าผมต้องหามไปส่งโรงพยาบาล ตั้งแต่นั้นมาเค้าก็ดีกับผมตลอด เอาขนม เอาผลไม้มาฝาก พอมาอีกอาทิตย์นึง เครียดๆ อยากตาย อยากลาออก พอไปทำงานรุ่งเช้าจะยื่นซองลาออกอีก หัวหน้าดันชวนออกไปงานข้างนอกด้วย พอไปเจอคนนู้น คนนี้ รู้สึกลืมไปว่าจะลาออก
ล่าสุดเมื่อเช้า หลังจากหยุดมาหลายวัน ผมก็กะเอาซองไปยื่นให้หัวหน้า ทำท่าจะลาออก ไม่ทันได้พูดจา มีงานนู้นงานนี้เข้ามาอีก หัวหน้าก็เลี้ยงนู่นนี่นั่นตอนเย็น แถมเพื่อนร่วมงานก็ดีกับผมเหลือเกิน แถมกล่าวประโยคไว้ว่ามีไรบอกได้นะจะช่วยทุกอย่าง ผ่านตรงนี้ไปได้ซักพักก็ดีขึ้นเอง แล้วหัวหน้าก็กล่าวทิ้งท้ายว่าเชื่อไหมทุกอย่างนี่คนบนฟ้าเค้าลิขิตชะตาเราเอาไว้หมดแล้ว หนีไปไหนไม่พ้นหรอก เค้าลิขิตให้มาเจอกันแสดงว่าไม่บุญก็กรรมที่มีต่อกัน อดทนไว้ก่อนนะ คือ ผมไม่เคยบอกใครเลยนะว่าจะลาออก แต่พอคิดๆหลายครั้งแล้วจะลาออก ก็มีเรื่องมาขัดๆไม่ให้ลาออก ไม่รู้มันเป็นกรรมดี หรือ กรรมชั่ว แต่กิจกรรมในแต่ละวันบางทีก็อยากฆ่าตัวตาย บางทีก็มีความสุข บางทีก็เฉยๆ บางทีก็อยากนอน
โชคชะตาให้เรามาทำงานตรงนี้ บริษัทนี้ บางทีมันก็ถูกลิขิตไว้แล้วหรือเปล่าครับ
สมัยผมทำเอกชนหมื่นห้านี่ไม่กี่วันก็หมดแล้ว แล้วผมชินกับสังคมกรุงเทพด้วย พอต้องย้ายมาทำราชการแบบพ่อว่าก็ต้องไปต่างจังหวัด ผมบรรจุถิ่นที่ทุรกันดารเหลือเกิน อาทิตย์แรกโทรหาเพื่อนเป็นสิบๆคน คิดถึงกรุงเทพใจจะขาด เหงา เงินไม่มี หนี้สินก็หมุนไม่ทัน
วันไหนคิดแผนไว้ว่าจะลาออกแล้วเข้ากรุงเทพไป มันจะต้องมีเรื่องให้ผมไม่ลาออก เช่น ผมจะลาออกเช้าวันนั้นที่เข้าไปถึงที่ทำงาน ดันมีหมากัดคนตรงหน้าผมพอดี กลายเป็นว่าผมต้องหามไปส่งโรงพยาบาล ตั้งแต่นั้นมาเค้าก็ดีกับผมตลอด เอาขนม เอาผลไม้มาฝาก พอมาอีกอาทิตย์นึง เครียดๆ อยากตาย อยากลาออก พอไปทำงานรุ่งเช้าจะยื่นซองลาออกอีก หัวหน้าดันชวนออกไปงานข้างนอกด้วย พอไปเจอคนนู้น คนนี้ รู้สึกลืมไปว่าจะลาออก
ล่าสุดเมื่อเช้า หลังจากหยุดมาหลายวัน ผมก็กะเอาซองไปยื่นให้หัวหน้า ทำท่าจะลาออก ไม่ทันได้พูดจา มีงานนู้นงานนี้เข้ามาอีก หัวหน้าก็เลี้ยงนู่นนี่นั่นตอนเย็น แถมเพื่อนร่วมงานก็ดีกับผมเหลือเกิน แถมกล่าวประโยคไว้ว่ามีไรบอกได้นะจะช่วยทุกอย่าง ผ่านตรงนี้ไปได้ซักพักก็ดีขึ้นเอง แล้วหัวหน้าก็กล่าวทิ้งท้ายว่าเชื่อไหมทุกอย่างนี่คนบนฟ้าเค้าลิขิตชะตาเราเอาไว้หมดแล้ว หนีไปไหนไม่พ้นหรอก เค้าลิขิตให้มาเจอกันแสดงว่าไม่บุญก็กรรมที่มีต่อกัน อดทนไว้ก่อนนะ คือ ผมไม่เคยบอกใครเลยนะว่าจะลาออก แต่พอคิดๆหลายครั้งแล้วจะลาออก ก็มีเรื่องมาขัดๆไม่ให้ลาออก ไม่รู้มันเป็นกรรมดี หรือ กรรมชั่ว แต่กิจกรรมในแต่ละวันบางทีก็อยากฆ่าตัวตาย บางทีก็มีความสุข บางทีก็เฉยๆ บางทีก็อยากนอน