Osaka Hokkaido Tokyo เที่ยวไป Dak ไป 13 วัน มันส์ยกแก๊ง #5sahaidakmhodjapan
ติดตามกระทู้ทั้งหมดได้จากที่นี่
♡chapter1- from DMK to KIX
http://ppantip.com/topic/34425355
♡chapter2- hello universal city & dotonburi nightlife.
http://ppantip.com/topic/34427250
♡chapter3- byebye osaka, say hi sapporo.
http://ppantip.com/topic/34434693
♡chapter4- downtown sapporo.
http://ppantip.com/topic/34440345
♡chapter5- stay a child at maruyama zoo & shiroi koibito chocolate factory
http://ppantip.com/topic/34447453
♡chapter6- rainy otaru.
http://ppantip.com/topic/34472663
♡chapter7- hell valley, noboribetsu.
http://ppantip.com/topic/34533005
♡chapter8- breathtaking hakodate.
http://ppantip.com/topic/34552687
♡chapter9- matane hokkaido,ohayo tokyo.
http://ppantip.com/topic/34709894
♡special chapter- 24-hour-eating.
http://ppantip.com/topic/34878346
♡chapter7- hell valley, noboribetsu.
วันที่ 7 ขอมอบให้เป็นวันแห่งการเดิน เพราะจุดหมายของเราคือ หุบเขานรก หรือ Jigokudani แห่ง Noboribetsu นั่นเอง และวันนี้จขกท. ก็จะย้ายที่พักด้วย เริ่มต้นด้วยการนั่งชินคันเซนจาก สถานีSapporo ไป สถานี Noboribetsu ต้องแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นรถไฟด้วย นั่งรถไฟก็ประมาณชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น ค่าใช้จ่ายสนับสนุนโดย JR Pass ที่ซื้อไว้แล้ว (อย่าลืมไปจองที่นั่งรถไฟตรง JR information พอจองแล้วจะได้ตั๋วหน้าตาแบบในรูปมา)
บนรถไฟเราก็ได้เตรียมอาหารเช้ากันไปด้วย ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเมื่อวานนี้ ตอนค่ำๆ ข้าวกล่องจะลดราคาเยอะมากกก
เริ่มด้วย เทมปุระ
ต่อกันด้วย ปลาหมึกยัดไส้
และชุดของทอด สามารถซื้อข้าวกล่อง 3 กล่องนี้ในราคากล่องละไม่เกิน 500 ¥ ส่วนเรื่องรสชาติก็...ถ้าอุ่นร้อนน่าจะอร่อยมากๆ55555556
มาถึงสถานี Noboribetsu แล้ว ให้ความรู้สึกแตกต่างกับสถานี Sapporo ตรงที่จะรู้สึกถึงความเป็นชนบทมากๆ
ก่อนจะไปชมหุบเขานรก เราก็ต้องเอากระเป๋าไปฝากไว้ในล็อกเกอร์ที่สถานีก่อน เพื่อที่จะได้ไปเที่ยวอย่างสบายใจ ล็อกเกอร์ก็จะมีหลายขนาดด้วยกัน ราคาก็ลดหลั่นกันไป ถ้าเป็นกระเป๋าเดินทางไซส์ 30 นิ้ว ก็ใส่ตู้ราคา 600 ¥ ได้สบายๆ เลย ตอนแรกเราว่าจะยัดกระเป๋าสองใบเข้าไปในตู้เดียว แต่ทำไม่ได้ค่ะ 5555
จากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วรถบัสกันนน ตั๋วขาไปอย่างเดียว 340 เยน แต่ถ้าซื้อขาไปกลับพร้อมกันเลย ก็ 620 เยนเท่านั้น
วิธีขึ้นรถบัสที่นี่คือ ขึ้นตรงประตูกลาง หยิบตั๋วขึ้นมา และพอจะลงก็คือจ่ายเงินตอนลงก็จ่ายเงินตรงประตูหน้า แต่ถ้าซื้อตั๋วมาแล้วจากสถานีรถไฟคือแค่หยอดตั๋วตอนลงเท่านั้น
พอลงจากรถบัสเราก็จะเจอออ เซเว่น! เซเว่นที่นี่จะมีการตกแต่งเป็นรูปยักษ์ด้วย
เราเข้าไปซื้อขนมอีกตามเคย วันนี้ได้ขนมชาเขียวบางอย่างมา ซึ่งค้นพบแล้วว่าขนมชาเขียว 1 เป็นเหมือนไอติมชาเขียวปั่นแล้วแช่เย็น เป็นเกล็ดๆ หน่อย กินยากและไม่อร่อย และที่สำคัญคือหนาว 5555
ขนมชาเขียว 2 อร่อยและประสบความสำเร็จ
ส่วนเพื่อนอีกคน ซื้อโดรายากิแบบสอดไส้อลังการเว่อๆ ซึ่งก็อร่อย หวานๆ แป้งนุ่ม
และชานมเซเว่น อร่อย ละมุน
พอเริ่มเดินทางก็จะเจอกับยักษ์ฟ้าและยักษ์แดง จริงๆ การเดินไปหาหุบเขานรกไม่ยากเลย ให้เดินตามยักษ์ไป ถ้าเจอยักษ์แสดงว่ามาถูกทาง
ป้ายแรกที่เราเจอ
ถึงจุดชมวิวจุดแรก จะมองเห็นภูเขาสลับไปสลับมาหลายชั้น และมีควันพวยพุ่งขึ้นมาเป็นระยะๆ มีเกล็ดขาวๆ ปกคลุมทั่วไป แวะถ่ายรูปกันอยู่นานพอสมควรเลย กว่าจะนึกขึ้นได้ว่ามีข้างในอีก 5555
เดินตามทางไม้เข้าไปลัดเลาะตามภูเขา ก็จะเจอจุดที่จะมีน้ำโคลนเดือดขึ้นมา ทุกๆ 10 นาทีประมาณนี้ ไปรออยู่ซักพักก็มีน้ำเดือดขึ้นมา
ระหว่างทางก็จะมีจุดชมธารน้ำเป็นระยะๆ
และก็จุดหมายสุดท้ายในหุบเขานรกแห่งนี้ก็คือ จุดแช่เท้า 55555 หลังจากเดินมาเหนื่อยๆ ตามทางที่ขึ้นๆ ลงๆ หลงก็หลายรอบ ในที่สุดก็เจอ เค้าจะมีแผ่นพลาสติกให้วางรองนั่งอยู่จำนวนนึง จังหวะแรกที่จุ่มเท้าลงไปในน้ำ ร้อนจ้า 5555
นั่งกินลมชมวิวธรรมชาติไป อากาศหนาวๆจุ่มเท้าในน้ำอุ่นๆนี่มันก็ฟินดีเหมือนกันนะ ・ω・
แล้วก็มาถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว แปลกที่ที่นี่ร้านปิดหมดเลย เมืองดูเงียบเหงาสุดๆ แต่สุดท้ายก็เจอร้านราเม็งร้านนึง ด้านในเป็นที่นั่งบาร์ประมาณสิบที่ และมีโต๊ะแบบนั่งเสื่ออีกสองโต๊ะ ป้าที่นั่งโต๊ะข้างๆ ซู้ดราเม็งเสียงดังมากๆ 5555
พิกัดร้าน: ร้าน Enya อยู่ตรงซอยที่มีขายราเมงเยอะๆ (ความจริงคือมีอยู่ซอยเดียว 55555555)
และเมนูที่เราสั่งกันในวันนี้ได้แก่ Sulfur Ramen เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าใส่กำมะถันไปในขั้นตอนไหนของการทำราเม็งชามนี้ 555 แต่รสชาติอร่อย ใช้ได้เลย
Sio Ramen หน้าตาเหมือนก๋วยเตี๋ยวน้ำใส 5555 แต่รสชาตินี่อร่อยกำลังดี
Soy Sauce Ramen รสชาติกลมกล่อม
Miso Ramen น้ำซุปเข้มข้นมากๆ อร่อยทุกชามเลย 5555
ต่อด้วยของหวานเหมือนเดิม
เริ่มต้นด้วยซอฟต์ครีม เราถูกล่อเข้าร้านด้วยชาน้ำผึ้งให้ชิมฟรี สั่งรสธรรมดาไป รสชาติเหมือนไอติมแมคโดนัลด์
เมื่อร้านแรกไม่ค่อยถูกใจ เราเลยไปลองอีกร้านนึง
รสนม อร่อยมากๆจนอยากกลับไปกินอีก ยิ่งกินตอนหนาวๆ นี่ใช่เลย
รสบลูเบอร์รี่โยเกิร์ต เข้ากันดีมากๆ
ก่อนกลับก็ขอถ่ายรูปกับหมีที่อยู่ตรงสถานีซักหน่อยย แช๊ะ!
ถึงเวลาต้องโบกมือลา Noboribetsu ซะแล้ว
ปลายทางต่อไปคือสถานี Hakodate นั่งชินคันเซนรอบนี้ เราจองที่นั่งไม่ทัน แต่ไม่เป็นไร เพราะยังมีตู้ Non-reserved ให้ขึ้นอยู่ แต่บางขบวนอาจจะเป็น Reserved seat only ต้องลองเช็กดูก่อนนะคะ
เมื่อมาถึง Hakodate ด้วยความที่เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยอ่าว ก็สัมผัสได้กับความหนาวที่มากับสายลมกันเลยทีเดียว เลยต้องออกไปหาอะไรร้อนๆ กินซะหน่อย มื้อนี้ขอฝากให้กับร้านทงคัตสึสไตล์คุณแม่ชาวญี่ปุ่น 5555555 ราคาประมาณ 700 – 1000 ¥
พิกัดร้าน:
http://tabelog.com/en/hokkaido/A0105/A010501/1016519/
คัตสึด้ง ไข่เยิ้มๆ เลย ข้าวด้านในร้อนๆ และมีซอสด้านในด้วย ให้รสชาติได้เข้มข้น ส่วนหมูไม่ต้องพูดถึง อร่อยสุดๆ กรอบนอกนุ่มใน
ไก่คาราอาเกะ ชิ้นใหญ่เฟร่อ อร่อยยยย
ข้าวหมูทอดไข่ดาว (ทำไมชื่อเมนูเหมือนอาหารตามสั่งเลย) อร่อยมากกก ชามนี้อร่อยสุด
ทงคัตสึ ราดน้ำจิ้มสูตรของร้านนน อร่อยไม่เหมือนที่เคยกินเมืองไทยเลย
หมูทอดอีกชนิด จำชื่อไม่ได้แล้ว
ยังไม่พอสำหรับมื้อเย็นของวันที่หนักหน่วงเช่นนี้ เราไปต่อกันที่ร้านเนื้อย่าง เป็นร้านบรรยากาศเหมือนบาร์ แต่ไม่เหม็น เพราะไม่มีลูกค้าเลย 555555 ที่นี่เงียบแตกต่างกับที่ Sapporo ที่ตอนกลางคืน ร้านพวกนี้จะมีคนนั่งเต็มตลอด แต่ก็ดีที่เจ้าของร้านจะได้บริการเราเต็มที่ 55555 ที่นี่มีเนื้อแกะอยู่ 3 สูตร เราก็สั่งมาลองทั้งหมดเลย เนื้อนุ่ม และไม่คาว แต่ที่เด็ดสุดจะเป็น เนื้อแกะไอร์แลนด์ นุ่มที่สุด แทบจะละลายในปากเลย
และแล้วก็จบวันที่ 7 พรุ่งนี้เราจะพาไปเที่ยวในเมืองฮาโกดาเตะกันน อย่าลืมติดตามนะคะ ʕ⁰̈●̫⁰̈ʔ
[CR] Osaka Hokkaido Tokyo เที่ยวไป Dak ไป 13 วัน มันส์ยกแก๊ง #5sahaidakmhodjapan: ♡chapter7- hell valley, noboribetsu.
ติดตามกระทู้ทั้งหมดได้จากที่นี่
♡chapter1- from DMK to KIX
http://ppantip.com/topic/34425355
♡chapter2- hello universal city & dotonburi nightlife.
http://ppantip.com/topic/34427250
♡chapter3- byebye osaka, say hi sapporo.
http://ppantip.com/topic/34434693
♡chapter4- downtown sapporo.
http://ppantip.com/topic/34440345
♡chapter5- stay a child at maruyama zoo & shiroi koibito chocolate factory
http://ppantip.com/topic/34447453
♡chapter6- rainy otaru.
http://ppantip.com/topic/34472663
♡chapter7- hell valley, noboribetsu.
http://ppantip.com/topic/34533005
♡chapter8- breathtaking hakodate.
http://ppantip.com/topic/34552687
♡chapter9- matane hokkaido,ohayo tokyo.
http://ppantip.com/topic/34709894
♡special chapter- 24-hour-eating.
http://ppantip.com/topic/34878346
วันที่ 7 ขอมอบให้เป็นวันแห่งการเดิน เพราะจุดหมายของเราคือ หุบเขานรก หรือ Jigokudani แห่ง Noboribetsu นั่นเอง และวันนี้จขกท. ก็จะย้ายที่พักด้วย เริ่มต้นด้วยการนั่งชินคันเซนจาก สถานีSapporo ไป สถานี Noboribetsu ต้องแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นรถไฟด้วย นั่งรถไฟก็ประมาณชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น ค่าใช้จ่ายสนับสนุนโดย JR Pass ที่ซื้อไว้แล้ว (อย่าลืมไปจองที่นั่งรถไฟตรง JR information พอจองแล้วจะได้ตั๋วหน้าตาแบบในรูปมา)
บนรถไฟเราก็ได้เตรียมอาหารเช้ากันไปด้วย ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเมื่อวานนี้ ตอนค่ำๆ ข้าวกล่องจะลดราคาเยอะมากกก
เริ่มด้วย เทมปุระ
ต่อกันด้วย ปลาหมึกยัดไส้
และชุดของทอด สามารถซื้อข้าวกล่อง 3 กล่องนี้ในราคากล่องละไม่เกิน 500 ¥ ส่วนเรื่องรสชาติก็...ถ้าอุ่นร้อนน่าจะอร่อยมากๆ55555556
มาถึงสถานี Noboribetsu แล้ว ให้ความรู้สึกแตกต่างกับสถานี Sapporo ตรงที่จะรู้สึกถึงความเป็นชนบทมากๆ
ก่อนจะไปชมหุบเขานรก เราก็ต้องเอากระเป๋าไปฝากไว้ในล็อกเกอร์ที่สถานีก่อน เพื่อที่จะได้ไปเที่ยวอย่างสบายใจ ล็อกเกอร์ก็จะมีหลายขนาดด้วยกัน ราคาก็ลดหลั่นกันไป ถ้าเป็นกระเป๋าเดินทางไซส์ 30 นิ้ว ก็ใส่ตู้ราคา 600 ¥ ได้สบายๆ เลย ตอนแรกเราว่าจะยัดกระเป๋าสองใบเข้าไปในตู้เดียว แต่ทำไม่ได้ค่ะ 5555
จากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วรถบัสกันนน ตั๋วขาไปอย่างเดียว 340 เยน แต่ถ้าซื้อขาไปกลับพร้อมกันเลย ก็ 620 เยนเท่านั้น
วิธีขึ้นรถบัสที่นี่คือ ขึ้นตรงประตูกลาง หยิบตั๋วขึ้นมา และพอจะลงก็คือจ่ายเงินตอนลงก็จ่ายเงินตรงประตูหน้า แต่ถ้าซื้อตั๋วมาแล้วจากสถานีรถไฟคือแค่หยอดตั๋วตอนลงเท่านั้น
พอลงจากรถบัสเราก็จะเจอออ เซเว่น! เซเว่นที่นี่จะมีการตกแต่งเป็นรูปยักษ์ด้วย
เราเข้าไปซื้อขนมอีกตามเคย วันนี้ได้ขนมชาเขียวบางอย่างมา ซึ่งค้นพบแล้วว่าขนมชาเขียว 1 เป็นเหมือนไอติมชาเขียวปั่นแล้วแช่เย็น เป็นเกล็ดๆ หน่อย กินยากและไม่อร่อย และที่สำคัญคือหนาว 5555
ขนมชาเขียว 2 อร่อยและประสบความสำเร็จ
ส่วนเพื่อนอีกคน ซื้อโดรายากิแบบสอดไส้อลังการเว่อๆ ซึ่งก็อร่อย หวานๆ แป้งนุ่ม
และชานมเซเว่น อร่อย ละมุน
พอเริ่มเดินทางก็จะเจอกับยักษ์ฟ้าและยักษ์แดง จริงๆ การเดินไปหาหุบเขานรกไม่ยากเลย ให้เดินตามยักษ์ไป ถ้าเจอยักษ์แสดงว่ามาถูกทาง
ป้ายแรกที่เราเจอ
ถึงจุดชมวิวจุดแรก จะมองเห็นภูเขาสลับไปสลับมาหลายชั้น และมีควันพวยพุ่งขึ้นมาเป็นระยะๆ มีเกล็ดขาวๆ ปกคลุมทั่วไป แวะถ่ายรูปกันอยู่นานพอสมควรเลย กว่าจะนึกขึ้นได้ว่ามีข้างในอีก 5555
เดินตามทางไม้เข้าไปลัดเลาะตามภูเขา ก็จะเจอจุดที่จะมีน้ำโคลนเดือดขึ้นมา ทุกๆ 10 นาทีประมาณนี้ ไปรออยู่ซักพักก็มีน้ำเดือดขึ้นมา
ระหว่างทางก็จะมีจุดชมธารน้ำเป็นระยะๆ
และก็จุดหมายสุดท้ายในหุบเขานรกแห่งนี้ก็คือ จุดแช่เท้า 55555 หลังจากเดินมาเหนื่อยๆ ตามทางที่ขึ้นๆ ลงๆ หลงก็หลายรอบ ในที่สุดก็เจอ เค้าจะมีแผ่นพลาสติกให้วางรองนั่งอยู่จำนวนนึง จังหวะแรกที่จุ่มเท้าลงไปในน้ำ ร้อนจ้า 5555
นั่งกินลมชมวิวธรรมชาติไป อากาศหนาวๆจุ่มเท้าในน้ำอุ่นๆนี่มันก็ฟินดีเหมือนกันนะ ・ω・
แล้วก็มาถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว แปลกที่ที่นี่ร้านปิดหมดเลย เมืองดูเงียบเหงาสุดๆ แต่สุดท้ายก็เจอร้านราเม็งร้านนึง ด้านในเป็นที่นั่งบาร์ประมาณสิบที่ และมีโต๊ะแบบนั่งเสื่ออีกสองโต๊ะ ป้าที่นั่งโต๊ะข้างๆ ซู้ดราเม็งเสียงดังมากๆ 5555
พิกัดร้าน: ร้าน Enya อยู่ตรงซอยที่มีขายราเมงเยอะๆ (ความจริงคือมีอยู่ซอยเดียว 55555555)
และเมนูที่เราสั่งกันในวันนี้ได้แก่ Sulfur Ramen เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้าใส่กำมะถันไปในขั้นตอนไหนของการทำราเม็งชามนี้ 555 แต่รสชาติอร่อย ใช้ได้เลย
Sio Ramen หน้าตาเหมือนก๋วยเตี๋ยวน้ำใส 5555 แต่รสชาตินี่อร่อยกำลังดี
Soy Sauce Ramen รสชาติกลมกล่อม
Miso Ramen น้ำซุปเข้มข้นมากๆ อร่อยทุกชามเลย 5555
ต่อด้วยของหวานเหมือนเดิม
เริ่มต้นด้วยซอฟต์ครีม เราถูกล่อเข้าร้านด้วยชาน้ำผึ้งให้ชิมฟรี สั่งรสธรรมดาไป รสชาติเหมือนไอติมแมคโดนัลด์
เมื่อร้านแรกไม่ค่อยถูกใจ เราเลยไปลองอีกร้านนึง
รสนม อร่อยมากๆจนอยากกลับไปกินอีก ยิ่งกินตอนหนาวๆ นี่ใช่เลย
รสบลูเบอร์รี่โยเกิร์ต เข้ากันดีมากๆ
ก่อนกลับก็ขอถ่ายรูปกับหมีที่อยู่ตรงสถานีซักหน่อยย แช๊ะ!
ถึงเวลาต้องโบกมือลา Noboribetsu ซะแล้ว
ปลายทางต่อไปคือสถานี Hakodate นั่งชินคันเซนรอบนี้ เราจองที่นั่งไม่ทัน แต่ไม่เป็นไร เพราะยังมีตู้ Non-reserved ให้ขึ้นอยู่ แต่บางขบวนอาจจะเป็น Reserved seat only ต้องลองเช็กดูก่อนนะคะ
เมื่อมาถึง Hakodate ด้วยความที่เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยอ่าว ก็สัมผัสได้กับความหนาวที่มากับสายลมกันเลยทีเดียว เลยต้องออกไปหาอะไรร้อนๆ กินซะหน่อย มื้อนี้ขอฝากให้กับร้านทงคัตสึสไตล์คุณแม่ชาวญี่ปุ่น 5555555 ราคาประมาณ 700 – 1000 ¥
พิกัดร้าน: http://tabelog.com/en/hokkaido/A0105/A010501/1016519/
คัตสึด้ง ไข่เยิ้มๆ เลย ข้าวด้านในร้อนๆ และมีซอสด้านในด้วย ให้รสชาติได้เข้มข้น ส่วนหมูไม่ต้องพูดถึง อร่อยสุดๆ กรอบนอกนุ่มใน
ไก่คาราอาเกะ ชิ้นใหญ่เฟร่อ อร่อยยยย
ข้าวหมูทอดไข่ดาว (ทำไมชื่อเมนูเหมือนอาหารตามสั่งเลย) อร่อยมากกก ชามนี้อร่อยสุด
ทงคัตสึ ราดน้ำจิ้มสูตรของร้านนน อร่อยไม่เหมือนที่เคยกินเมืองไทยเลย
หมูทอดอีกชนิด จำชื่อไม่ได้แล้ว
ยังไม่พอสำหรับมื้อเย็นของวันที่หนักหน่วงเช่นนี้ เราไปต่อกันที่ร้านเนื้อย่าง เป็นร้านบรรยากาศเหมือนบาร์ แต่ไม่เหม็น เพราะไม่มีลูกค้าเลย 555555 ที่นี่เงียบแตกต่างกับที่ Sapporo ที่ตอนกลางคืน ร้านพวกนี้จะมีคนนั่งเต็มตลอด แต่ก็ดีที่เจ้าของร้านจะได้บริการเราเต็มที่ 55555 ที่นี่มีเนื้อแกะอยู่ 3 สูตร เราก็สั่งมาลองทั้งหมดเลย เนื้อนุ่ม และไม่คาว แต่ที่เด็ดสุดจะเป็น เนื้อแกะไอร์แลนด์ นุ่มที่สุด แทบจะละลายในปากเลย
และแล้วก็จบวันที่ 7 พรุ่งนี้เราจะพาไปเที่ยวในเมืองฮาโกดาเตะกันน อย่าลืมติดตามนะคะ ʕ⁰̈●̫⁰̈ʔ