Umenohana เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นเสริฟอาหารแบบไคเซกิคือเสริฟเป็นคอร์ส มีอาหารหลากหลายในหนึ่งคอร์ส เสริฟทีละจานไล่กันไปตั้งแต่เมนูเรียกน้ำย่อย เมนูหลัก ตบท้ายด้วยของหวาน ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มาที่ Umenohana หลังจากที่ฟินกันไปเต็มๆสำหรับการไปเยือนครั้งแรกกับเมนูฤดูใบไม้ร่วง ครั้งนี้ฤดูหนาวกำลังจะมาเยือนทางร้านได้จัดเมนูต้อนรับฤดูหนาวให้เราได้ลองชิมกันอีกแล้ว สำหรับวัตถุดิบหลักคราวนี้จะเป็นปูหิมะ (Zuwai kani) ซึ่งมีรสชาติคล้ายปูอลาสกาแต่แกะง่ายกว่าเพราะเปลือกนิ่มกว่าและไม่มีหนาม แหลมๆมารบกวนนิ้วของเราเวลาแกะ แกะง่ายกินอร่อยแบบนี้ สบายแล้วเรา



ภายในร้านจะแบ่งออกเป็นห้องเล็กๆหลายห้อง วันนี้เราจะมาทานกันในห้องนี้ครับ




อุปกรณ์พร้อม



ชาเขียวร้อนก่อน



วันนี้เราจะทานเป็นเมนูประจำฤดูหนาวกันนะครับ ซึ่งมีให้ทานกันระหว่างวันที่ 7 ธ.ค. 2015 – 29 ก.พ. 2016 เริ่มต้นด้วยไคเซกิคอร์สเลยดีกว่า ที่เกริ่นไว้ในตอนต้นว่าวัตถุดิบหลังคราวนี้เป็นปูหิมะ เมนูเด่นในไคเซกิคอร์สนี้ก็คือ หม้อไฟปูหิมะ หรือ Zuwai Kani Suki นั่นเอง ส่วนราคาของไคเซกิคอร์สนี้ก็อยู่ที่ 2,950 B++ นะครับ

จานแรกของคอร์สคือ Aburi Salmon Ikura with Oroshi Ponzu  ปลาแซลมอนลนไฟนิดๆเพิ่มความหอม ราดซอสเปรี้ยวพอนสุกับหัวไชเท้าขูด โรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอนเพิ่มรสเค็มอีกหน่อย อร่อยถึงใจเลย




จานที่สองเป็น Grilled Sesame Tofu with fresh Uni เต้าหู้งาเนื้อแน่น นุ่ม ได้กลิ่นและรสของงาป่น มาพร้อมกับไข่หอยเม่นสดๆ หวานๆ ทานคู่กับวาซาบิสดหอมๆและซอสโชยุผสมซุปปลาแห้ง ทานกี่ทีก็ชอบครับเมนูนี้




จานถัดมาเป็น Sashimi Toro & Kampachi ปลาดิบโอโทโร สดมาก ชุ่มฉ่ำด้วยไขมันปลา แค่เห็นสีและลายเนื้อปลาก็ฟินแล้ว ส่วนปลาคัมปาจิก็เนื้อสดหวานอร่อย




พักทานซุปการ้อนๆกันบ้าง กับเมนูที่สี่ในคอร์ส Kaisen Dobin Mushi ซุปการสชาติกลมกล่อมดี มีทั้ง กุ้ง ปลาไท ฟองเต้าหู้ และแป้ง Namafu ใส่มาในน้ำซุป ทานเลยก็อร่อย หรือบีบมะนาวลงไปอีกหน่อยก็ดี




ต่อเนื่องด้วย Kuroge Wagyu Houba Yaki เนื้อคุโระเกะวากิวนุ่มๆ ย่างบนใบโฮบะกับซอสมิโสะหอมๆ อร่อยจัง




ในที่สุดพระเอกของมื้อนี้ก็มาแล้ว Zuwai Kani Suki ปูหิมะตัวใหญ่ๆ จัดใส่จานมาให้ครึ่งตัวพร้อมกับผักสดต่างๆ



ซูมชัดๆเนื้อปูสีสวยงาม



ใส่ปูลงหม้อไปก่อน



ตามด้วยผัก แล้วรอจนสุก



ตักใส่ถ้วยพร้อมหม่ำแล้วครับ เนื้อปูสดๆนี่หวานดีจริงๆ



ยังไม่หมด ขอปูเพียวๆต่อเลย



ต่อด้วยเมนูของทอดในคอร์ส Zuwai Kani Tempura ขาปูหิมะชิ้นโตแกะเปลือกแล้ว ชุปแป้งเทมปูระทอดกรอบๆ




เมื่อมีหม้อไฟ ก็ต้องนึกถึงข้าวต้ม Kani Soft-Boiled rice หลังจากที่ทานเนื้อปูจนหมดแล้ว น้ำซุปที่เหลืออย่างได้ทิ้งเป็นอันขาด เพราะความหวานของเนื้อปูที่ยังเหลืออยู่ในน้ำซุปนั้นมันอร่อยสุดยอด ให้นำข้าวใส่ลงไปตามด้วยไข่




ตุ๋นต่อไปสักพักจะได้ข้าวต้มหอมกลิ่นซุปปูหิมะ




ทานคู่กับผักดอง อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า



ก่อนจะไปของหวานต้อง Hojicha ชาหอมๆที่เข้ากันได้ดีกับของหวาน



ตบท้ายด้วยของหวาน Matcha Monaka with Tonyu Warabi Mochi ที่ประกอบไปด้วย ไอศครีมชาเขียว ถั่วแดง และโมจิผสมนมถั่วเหลืองเนื้อใสเหนียวนุ่มคลุกกับผงถั่ว ประกบด้วยแป้งเวเฟอร์โมนากะกรอบๆ แนะนำว่าใช้มือหยิบขึ้นมาทานแบบเบอร์เกอร์จะฟินมาก




นอกจากไคเซกิแล้วยังมีเมนูอื่นๆให้สามารถสั่งแยกได้ด้วยเริ่มจาก Kuruma Ebi Shioyaki ในราคา 450 B++ กุ้งคุรุมะย่างเกลือ เนื้อกุ้งสดรสหวาน เนื้อแน่นเด้งดี




Kuruma Ebi Uni Yuba Maki ราคา 500 B++ กุ้งคุรุมะอีกเมนู กุ้งสดๆกับไข่หอยเม่นหวานมัน ห่อด้วยฟองเต้าหู้ทอดกรอบๆ ทานกับน้ำจิ้มเทมปุระ อร่อยดี




Pork Tenyu Shabu ราคา 850 B++ ชาบูหมูคุโรบูตะ ซึ่งนำเอกลักษ์ของร้านเข้ามารวมไว้ด้วย ก็คือน้ำซุปชาบูที่ใช้น้ำเต้าหู้ที่เป็นจุดเด่นของทางร้าน




ซุปจะรสชาติอ่อนๆหน่อยสามารถปรุงรสเพิ่มได้ด้วย ต้นหอม งาคั่ว กระเทียมบด และพริกบดแบบจีนที่คุ้นหูว่าโทบันจัน



เนื้อหมูสีชมพูสวยงามมาก ในเซ็ทมีทั้งหมูสันนอกและหมูสามชั้น



หลังจากใส่ผักแล้วก็ใส่เนื้อหมูลงไป เริ่มจากสามชั้นสวยๆ



ตามด้วยสันนอกนุ่มๆ



รอเดือดซักพัก



ตักใส่ถ้วยทานคู่กับซอสใสวาดาชิและซอสงา




น้ำซุปเหลือก็เติมข้าวสิครับ




ทานคู่กับผักดองเพิ่มรสชาติ



พักดื่มชาเย็นๆกันก่อน



ของหวานบ้าง Mineoka Fruits Amaou Strawberry Sauce ราคา 150 B++ เต้าหู้นมเนื้อแน่นหนึบ ทานคู่กับซอสสตอเบอร์รี และฟรุตสลัด หวานๆเปรี้ยวๆ




มาลองเมนูเครื่องดื่มดูบ้าง Yuzu Tonyu ราคา 110 B++ น้ำเต้าหู้รสส้มยูสุ รสชาติหวานอมเปรี้ยวคล้ายโยเกริ์ต หอมกลิ่นส้มยูสุ ดื่มเพลินเลย



Maccha Tonyu ราคา 110 B++ น้ำเต้าหู้รสชาเขียวเข้มข้น หอมหวานดีครับ



มารอบสองก็ฟินเหมือนเดิม อากาศหนาวๆก็ต้องมากินหม้อไฟร้อนๆ ให้ได้บรรยากาศฤดูหนาวกันหน่อย มาลิ้มลองความอร่อยกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 29 ก.พ. 2016 นะครับ แอบเห็นทางร้านมีเมนูดงบุริเซ็ท สำหรับมื้อกลางวันเพิ่มมาใหม่ ไว้มาลองแล้วจะรีวิวให้ชมกันอีกทีนะครับ วันนี้ขอลาด้วยภาพต้นบ๊วยภายในร้านที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของร้าน Umenohana ครับ



Address: 2nd floor, Nihonmura Mall, Thonglor soi 13, Bangkok

Open: Lunch 11.00 - 15.00

Dinner 18.00 - 23.00

Tel: 084 438 3892

ติดตามเพิ่มเติมกันได้ที่ https://www.facebook.com/sheepsbutler ขอบคุณครับ