กลับมาแล้ววว หลังจากห่างหายจากการรีวิวไปซักพัก (ล่าสุดที่มาก็พาไปเที่ยวมอสโก) มาคราวนี้เปลี่ยนบรรยากาศจากหนาวๆเป็นไปร้อน (ร้อนมากกก ร้อนสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ) กันบ้าง ลุยยยยย
จริงๆแล้วที่ไปดูไบเพราะต้องเปลี่ยนแพลนเที่ยวกะทันหัน ตอนแรกไม่ได้จะไปเลยค่ะ แต่พอสถานที่แรกที่ตั้งใจไว้อดไป เลยต้องหาไรมาสำรอง ที่เป็นอะไรที่อยุ่ระหว่างทางจากกรุงเทพไปทางยุโรป สุดท้ายก้มาลงที่ดูไบค่ะ! อยากไปชมมานานแล้ว เมืองที่สร้างขึ้นมาพื้นที่ทะเลทรายกว้างๆที่ไม่มีอะไรเลยจนกลายเป็นมหานครสุดอลังการงานสร้างขนาดนี้
มีเวลาที่นั่นแค่ 2 คืน 3 วัน เท่านั้น แพลนคร่าวๆเราคือ
1. ไปทะเลทราย พักในทะเลทราย อยากไปทัวร์วิถีชีวิตชาวเบดูอินสมัยก่อน (สุดท้ายไม่ได้ไป T_T)
2. วันต่อมาค่อยกลับมาเที่ยวในเมือง ตึกสูงที่สุดในโลก Dubai Mall etc.
เตรียมตัวก่อนไป
ทุกท่านคะ จะไปเที่ยวดูไบคนไทยเรา
ต้องขอวีซ่านะคะะะ
เราบินกับสายการบิน Etihad เลยสามารถใช้บริการขอวีซ่าออนไลน์ของสายการบินได้เลย ง่ายมากๆ และถูกกว่าการจ้างเอเย่นต์ในไทยให้ทำวีซ่าให้อีกค่ะ
ตอนท้ายของรีวิวเดี๋ยวจะมาแนะนำวีธีการทำวีซ่า UAE ให้นะคะ ไม่ยากค่ะ ทุกอย่างทำออนไลน์หมดเลย กรอกข้อมูลในเว็บ เอกสารก็อัพโหลดส่งออนไลน์ วีซ่าผ่านเค้าก็ส่งมาให้ในเมล์เรา สบายเลยค่ะ
Dubai Vlog : Trailer ก่อนไปอ่านรีวิว
พิเศษนิดนึงคราวนี้มี Trailer ให้ดูก่อนไปอ่านรีวิวค่ะ 55555
ก่อนไปดูไบคราวนี้อยู่ๆก้เกิดไอเดียอยากถ่ายวีดีโอเก็บไว้บ้างค่ะ คิดว่าบางทีก้สามารถเก็บ moment หลายๆอย่างได้ดีกว่าแค่รูปถ่าย เราใช้กล้อง compact รุ่นโบร๊านนถ่าย คุณภาพวีดีโอเลยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราเอาวีดีโอลงไว้ในบล็อกใน facebook เลยเอาขึ้น Pantip โดยตรงไม่ได้ ไปดูได้ตามลิงค์นี้เลยค่า
https://www.facebook.com/Bridgetology/videos/939386352799422
Part 1: First Time in the Desert
เปลี่ยนรูปแบบจากการไปเที่ยวครั้งที่แล้วนิดนึงค่ะ คือตอนไปมอสโกเราขึ้นรถใต้ดิน+เดินไปทุกที่เลย แต่มาคราวนี้ต้องขออภัยที่ไม่มีข้อมูลของรถไฟฟ้าที่ดูไบเลย เพราะไม่ได้ใช้เลยค่ะ
มันร้อนนนนมากกกกกกก เราไปดูไบเดือนมิถุนาค่ะ มันเป็นหน้าร้อนพอดี (คนบ้าไรไปเที่ยวทะเลทรายหน้าร้อน ฮือออ) ตอนนั้นคือแบบ 40 องศา หนักกว่ากรุงเทพ ร้อนแบบแห้งๆ แดดจัดๆ แสบตาไปหมดเลย แล้วเรามีเวลาเที่ยวดูไบน้อยด้วยค่ะ ไปไหนต่อไหนเลยนั่ง taxi อย่างเดียวเลยย ราคาพอรับได้ ไม่ถึงกับถูกเหมือนกรุงเทพแต่ก้ไม่แพงเว่อเหมือนญี่ปุ่นหรือยุโรปค่ะ
เราบิน Etihad ไปถึงสนามบินอาบูดาบีก็นั่งรถบัสฟรีมาเข้าตัวเมืองดูไบเลยค่ะ จากนั้นก้เรียกแท๊กซี่จากแถวนั้น พุ่งไปยัง Bab Al Shams Desert Resort เลยค่ะ
รีสอร์ทสวยมากกก เข้าไปนี่นึกว่าอยู่ Dorne ใน Game of Thrones!
มีเวลาที่นี่แค่หนึ่งคืนเท่านั้น ต้องใช้ให้คุ้ม! ตอนแรกที่ทำรีเสิชเที่ยวดูไบอยากไปทัวร์ทะเลทรายค่ะ คือนั่งรถเข้าทะเลทรายไปแล้วก้จะมี camp เล็กๆจัดไว้เหมือน camp ของชาวเบดูอิน แล้วก้จะมีให้ขี่อูฐแล้วก้ทานอาหารเย็น แต่ทัวร์นี่ก้แอบแพงเหมือนกัน ประกอบกับตอนนั้น เดือนมิถุนา ข่าวเรื่อง ไข้ Mers แรงมากกกกกก กังวลเรื่องขี่อูฐนานๆด้วยค่ะ ก็เลยตัดใจเรื่องทัวร์ ไปรีสอร์ทนี้ก้ได้อยู่ในทะเลทราย มีอูฐให้ขี่ เหยี่ยวให้ชม แถมได้นอนโดยมีทะเลทรายล้อมรอบด้วยได้บรรยากาศอีก ห้องของที่นี่ก็เป็นสไตล์ cave แบบสมัยก่อนอีก แจ้งเค้าไว้ว่าเข้าพักวันเกิดเรา ทางรีสอร์ทก็อัพเกรดห้องให้แล้วก้จัดเตรียมเค้กไว้ให้ด้วยค่ะ เปรมมากกก
หลังจากจัดแจงนู่นนี่ กินเค้กเรียบร้อย ตอน 5 โมงเค้าจะมีบริการให้ขี่อูฐฟรีแล้วก้ชม Falcon Show ที่ทะเลทรายค่ะ
ก้าวแรกของเราในทะเลทราย...ร้อนมากค่ะะะะ
ตื่นเต้นกับทะเลทรายมาก เพิ่งเคยเหยียบทะเลทรายครั้งแรก แหมมันช่างเนียนละเอียด ทรายสีก็อ่อนกว่าที่เราคิด
อย่างที่บอกว่าตอนนั้นข่าว MERS แรงมากก ที่บ้านก้สั่งห้ามเข้าใกล้อูฐ แต่จากการอ่าน หาข้อมูลต่างๆ ไม่ใช่ว่าแค่แตะตัวอูฐก้ติดเชื้อได้ ถามเพื่อนที่อยู่ดูไบเค้าก้บอกว่าที่นั่นไม่แตกตื่นเรื่อง MERS อะไรกันเลย ไม่มีอะไรเลย มาเที่ยวได้ตามสบาย บวกกับการที่อูฐมาอยู่ตรงหน้าแล้ว แล้วนี่อุตส่าเสียเงินมาถึงนี่ เมิร์สก้เมิร์สวะ จุดนี้เราก้ต้องขี่แล้ว 555555
สนุกมาก! อูฐสูงมากค่ะ สูงกว่าที่คิด พอขึ้นไปนี่แบบ ลอยยยยเลยยย เราว่ามันเป็นสัตว์ที่น่ารัก หน้าตาตลกดี จริงๆพอขี่อูฐเสร็จเราก้รีบๆไปล้างมือนะคะ กลัวติดเชื้อมาเหมือนกัน 5555
จากนั้นก้ไปว่ายน้ำค่ะ สระน้ำของโรงแรมค่อนข้างใหญ่ มีหลายบ่อ ทำสวยมาก ที่เราตื่นเต้นคือ นี่เราอยู่กลางทะเลทรายแท้ๆ คือรอบๆรีสอร์ทไม่มีอะไรเลยนอกจากทะเลทราย แต่เค้าก้สร้างสระน้ำ สร้างสนามหญ้าเขียวๆขึ้นมาได้
ไฮไลท์อีกอย่างนึงของการมาพักที่นี้ คือ Dinner ที่ร้านอาหาร Al Hadheerah ร้านอาหารอาหรับที่เป็นสไตล์ Buffet พร้อมกับมีการแสดงพื้นเมืองให้ชมค่ะ ตอนที่หาข้อมูลนี่ก้ตื่นเต้นอีกแล้ว เห็นรูปแล้วอยากมามาก บรรยากาศเหมือน พันหนึ่งราตรี อะไรแบนี้
คนที่ไม่ได้พักที่นี่นั่งรถมาทานอาหารจากในเมืองเลยก็เยอะค่ะ ส่วนเราแค่เดินออกจากห้องพักตามทางเดินที่เค้าปูพรมไว้ก้ไปถึงร้านค่ะ
เข้าไปถึงก้เลือกนั่งไม่ห่างจากบริเวณเวทีมาก แต่ก้ใกล้พัดลมหน่อยค่ะ เป็นร้านอาหารกลางแจ้ง แล้วแหม ถ้ามาหน้าหนาวอากาศคงดีมากก แต่นี่พระอาทิตย์ตกแล้วก้ยังร้อนนนแบบบสุดดๆๆๆค่ะ
ที่โต๊ะเค้าก้จะมาเสิร์ฟ appetizer สไตล์อาหรับให้ก่อนเลย อร่อยค่ะ กินไปเยอะเกือบลืมตัวว่ายังมีไลน์บุฟฟต์อลังการอีกเลยต้องรีบหยุด
โซน Buffet จะเป็นสไตล์ Souk ค่ะ คือเหมือนมาเดินซื้อหาอาหารจากตลาด มาค่อนข้างเร็ว ไลน์อาหารยังเต็ม บางอย่างเพิ่งกำลังทำเลยค่ะ หอมน่ากินไปหมดทุกอย่างงงง
อาหารมีทุกอย่าง (ยกเว้นหมู
) ทั้งอาหารอาหรับ อาหารอินเดีย อาหารทะเล steak ก้เลือกชิ้นเนื้อได้เลยแล้วปรุงให้สดๆตรงนั้นเลย ใครไม่ทานเนื้อก้มีแกะค่ะ ตอนมาร้านคือหิวมาก แต่อาหารเยอะไปหมดแค่เห็นก้แทบจะอิ่มแล้วว
ของหวานแบบอาหรับก้มีค่ะ แต่เราไม่ถนัดเท่าไหร่ ไม่ใช่ทางของเรา ชิมนิดๆหน่อยๆเราก้พุ่งไปไอติมแล้วค่ะ ที่นี่เป็น Haagen Dazs ด้วยจ้าา คือตอนนั้นในตู้มันมีรสท้องถิ่นแบบ Arabian milk หรืออะไรประมานนี้ด้วย (แต่ไม่อร่อย) สุดท้ายก้กลับมากินคุกกี้แอนด์ครีม
รอบๆร้านอาหารยังเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงวีถีชีวิตของคนโบราณที่นั่น บ้านก้เป็นเพิงๆไม้ๆคล้ายๆชาวไทยสมัยก่อนเลยค่ะ แต่คือหุ่นขี้ผึ้งที่เค้าทำเป็นท่าทางต่างๆเพื่อแสดงกิจกรรมของผู้คนนั้น...น่ากัวมากโดยเฉพาะในความมืด...
ส่วนการแสดงก้น่าตื่นตาตื่นใจค่ะ มีโชว์เต้น 3-4 โชว์ ทั้ง Tanoura Dance, Belly Dance (ดูในวีดีโอ) แล้วก้มีการแสดงแสงสีเสียงแบบวีถีชีวิตชาวทะเลทรายในสมัยก่อน เอาอูฐมาเดินเป็นฝูง แบบจริงจังมาก
จริงๆไม่รู้มีอะไรต่อไม๊ค่ะเพราะว่าเราเป็นโต๊ะแรกที่กลับเลย ไม่ใช่ว่าเบื่อหรืออะไรนะคะ แต่ง่วงมากกกกก คือวันแรก jetlag นิดๆ 4 ทุ่มกว่าที่ไทยก้ตี 1 เข้าไปแล้ว อยู่ไม่ไหวจริงๆขอตัวกลับไปนอนก่อนค่าา
ตอนที่เราไปจำราคาแน่นอนไม่ได้ บุฟเฟ่ต์หัวละประมาณ 4 พันบาทไทยได้ค่ะ แพงมากแต่ว่าอาหารดีมากจริงๆ ถ้ากินเยอะแค่อาหารก้คุ้มแล้ว แต่ว่านี่มีโชว์เยอะแยะให้ดูอีก แถมเป็นโอกาสพิเศษฉลองวันเกิดพอดี เลยยอมจัดค่ะ
ตอนนี้ราคามีการเปลี่ยนแปลง (แพงไปอีกกก) ติดตามอัพเดทล่าสุดที่เว็บของโรงแรมค่า
http://www.meydanhotels.com/babalshams/dining.htm
จบคืนแรก ตื่นเช้ามาก่อนที่เราจะออกเดินทางกลับเข้าเมือง ต้องไปลุย Breakfast ของโรงแรม
อาหารก้ค่อนข้างเยอะค่ะ หลากหลาย ขนมก้เยอะ แอบกิน Camel Milk ไปด้วย ฮ่าๆๆ ไหน เมิร์สอะไร ที่อ่านมาเค้าบอกว่านมอูฐพาสเจอไรซ์แล้วไม่เป็นอะไรนะคะ แต่เอาจิงๆที่โรงแรมเค้าใส่ขวดใสๆไว้ที่ก้ไม่รุเหมือนกันว่าของสดรึป่าว แต่อีกแล้ว..มาถึงจุดๆนี้แล้วต้องลอง เมิร์สก้เมิร์สวะ! สรุปคือ นมอูฐไม่อร่อยเลย 5555555 (นี่ถ้าเมิร์สจิงคงตายฟรี)
หมดเวลาสนุกของเราที่ทะเลทรายแล้ววว ภาค 2 เดี๋ยวเราไปเข้าเมืองกันค่า
Dubai Access | Mini Guide to Dubai พาส่องความอลังการเมืองกลางทะเลทราย!
จริงๆแล้วที่ไปดูไบเพราะต้องเปลี่ยนแพลนเที่ยวกะทันหัน ตอนแรกไม่ได้จะไปเลยค่ะ แต่พอสถานที่แรกที่ตั้งใจไว้อดไป เลยต้องหาไรมาสำรอง ที่เป็นอะไรที่อยุ่ระหว่างทางจากกรุงเทพไปทางยุโรป สุดท้ายก้มาลงที่ดูไบค่ะ! อยากไปชมมานานแล้ว เมืองที่สร้างขึ้นมาพื้นที่ทะเลทรายกว้างๆที่ไม่มีอะไรเลยจนกลายเป็นมหานครสุดอลังการงานสร้างขนาดนี้
มีเวลาที่นั่นแค่ 2 คืน 3 วัน เท่านั้น แพลนคร่าวๆเราคือ
1. ไปทะเลทราย พักในทะเลทราย อยากไปทัวร์วิถีชีวิตชาวเบดูอินสมัยก่อน (สุดท้ายไม่ได้ไป T_T)
2. วันต่อมาค่อยกลับมาเที่ยวในเมือง ตึกสูงที่สุดในโลก Dubai Mall etc.
เตรียมตัวก่อนไป
ทุกท่านคะ จะไปเที่ยวดูไบคนไทยเรา ต้องขอวีซ่านะคะะะ
เราบินกับสายการบิน Etihad เลยสามารถใช้บริการขอวีซ่าออนไลน์ของสายการบินได้เลย ง่ายมากๆ และถูกกว่าการจ้างเอเย่นต์ในไทยให้ทำวีซ่าให้อีกค่ะ
ตอนท้ายของรีวิวเดี๋ยวจะมาแนะนำวีธีการทำวีซ่า UAE ให้นะคะ ไม่ยากค่ะ ทุกอย่างทำออนไลน์หมดเลย กรอกข้อมูลในเว็บ เอกสารก็อัพโหลดส่งออนไลน์ วีซ่าผ่านเค้าก็ส่งมาให้ในเมล์เรา สบายเลยค่ะ
Dubai Vlog : Trailer ก่อนไปอ่านรีวิว
พิเศษนิดนึงคราวนี้มี Trailer ให้ดูก่อนไปอ่านรีวิวค่ะ 55555
ก่อนไปดูไบคราวนี้อยู่ๆก้เกิดไอเดียอยากถ่ายวีดีโอเก็บไว้บ้างค่ะ คิดว่าบางทีก้สามารถเก็บ moment หลายๆอย่างได้ดีกว่าแค่รูปถ่าย เราใช้กล้อง compact รุ่นโบร๊านนถ่าย คุณภาพวีดีโอเลยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราเอาวีดีโอลงไว้ในบล็อกใน facebook เลยเอาขึ้น Pantip โดยตรงไม่ได้ ไปดูได้ตามลิงค์นี้เลยค่า
https://www.facebook.com/Bridgetology/videos/939386352799422
Part 1: First Time in the Desert
เปลี่ยนรูปแบบจากการไปเที่ยวครั้งที่แล้วนิดนึงค่ะ คือตอนไปมอสโกเราขึ้นรถใต้ดิน+เดินไปทุกที่เลย แต่มาคราวนี้ต้องขออภัยที่ไม่มีข้อมูลของรถไฟฟ้าที่ดูไบเลย เพราะไม่ได้ใช้เลยค่ะ มันร้อนนนนมากกกกกกก เราไปดูไบเดือนมิถุนาค่ะ มันเป็นหน้าร้อนพอดี (คนบ้าไรไปเที่ยวทะเลทรายหน้าร้อน ฮือออ) ตอนนั้นคือแบบ 40 องศา หนักกว่ากรุงเทพ ร้อนแบบแห้งๆ แดดจัดๆ แสบตาไปหมดเลย แล้วเรามีเวลาเที่ยวดูไบน้อยด้วยค่ะ ไปไหนต่อไหนเลยนั่ง taxi อย่างเดียวเลยย ราคาพอรับได้ ไม่ถึงกับถูกเหมือนกรุงเทพแต่ก้ไม่แพงเว่อเหมือนญี่ปุ่นหรือยุโรปค่ะ
เราบิน Etihad ไปถึงสนามบินอาบูดาบีก็นั่งรถบัสฟรีมาเข้าตัวเมืองดูไบเลยค่ะ จากนั้นก้เรียกแท๊กซี่จากแถวนั้น พุ่งไปยัง Bab Al Shams Desert Resort เลยค่ะ
รีสอร์ทสวยมากกก เข้าไปนี่นึกว่าอยู่ Dorne ใน Game of Thrones!
มีเวลาที่นี่แค่หนึ่งคืนเท่านั้น ต้องใช้ให้คุ้ม! ตอนแรกที่ทำรีเสิชเที่ยวดูไบอยากไปทัวร์ทะเลทรายค่ะ คือนั่งรถเข้าทะเลทรายไปแล้วก้จะมี camp เล็กๆจัดไว้เหมือน camp ของชาวเบดูอิน แล้วก้จะมีให้ขี่อูฐแล้วก้ทานอาหารเย็น แต่ทัวร์นี่ก้แอบแพงเหมือนกัน ประกอบกับตอนนั้น เดือนมิถุนา ข่าวเรื่อง ไข้ Mers แรงมากกกกกก กังวลเรื่องขี่อูฐนานๆด้วยค่ะ ก็เลยตัดใจเรื่องทัวร์ ไปรีสอร์ทนี้ก้ได้อยู่ในทะเลทราย มีอูฐให้ขี่ เหยี่ยวให้ชม แถมได้นอนโดยมีทะเลทรายล้อมรอบด้วยได้บรรยากาศอีก ห้องของที่นี่ก็เป็นสไตล์ cave แบบสมัยก่อนอีก แจ้งเค้าไว้ว่าเข้าพักวันเกิดเรา ทางรีสอร์ทก็อัพเกรดห้องให้แล้วก้จัดเตรียมเค้กไว้ให้ด้วยค่ะ เปรมมากกก
หลังจากจัดแจงนู่นนี่ กินเค้กเรียบร้อย ตอน 5 โมงเค้าจะมีบริการให้ขี่อูฐฟรีแล้วก้ชม Falcon Show ที่ทะเลทรายค่ะ
ก้าวแรกของเราในทะเลทราย...ร้อนมากค่ะะะะ
ตื่นเต้นกับทะเลทรายมาก เพิ่งเคยเหยียบทะเลทรายครั้งแรก แหมมันช่างเนียนละเอียด ทรายสีก็อ่อนกว่าที่เราคิด
อย่างที่บอกว่าตอนนั้นข่าว MERS แรงมากก ที่บ้านก้สั่งห้ามเข้าใกล้อูฐ แต่จากการอ่าน หาข้อมูลต่างๆ ไม่ใช่ว่าแค่แตะตัวอูฐก้ติดเชื้อได้ ถามเพื่อนที่อยู่ดูไบเค้าก้บอกว่าที่นั่นไม่แตกตื่นเรื่อง MERS อะไรกันเลย ไม่มีอะไรเลย มาเที่ยวได้ตามสบาย บวกกับการที่อูฐมาอยู่ตรงหน้าแล้ว แล้วนี่อุตส่าเสียเงินมาถึงนี่ เมิร์สก้เมิร์สวะ จุดนี้เราก้ต้องขี่แล้ว 555555
สนุกมาก! อูฐสูงมากค่ะ สูงกว่าที่คิด พอขึ้นไปนี่แบบ ลอยยยยเลยยย เราว่ามันเป็นสัตว์ที่น่ารัก หน้าตาตลกดี จริงๆพอขี่อูฐเสร็จเราก้รีบๆไปล้างมือนะคะ กลัวติดเชื้อมาเหมือนกัน 5555
จากนั้นก้ไปว่ายน้ำค่ะ สระน้ำของโรงแรมค่อนข้างใหญ่ มีหลายบ่อ ทำสวยมาก ที่เราตื่นเต้นคือ นี่เราอยู่กลางทะเลทรายแท้ๆ คือรอบๆรีสอร์ทไม่มีอะไรเลยนอกจากทะเลทราย แต่เค้าก้สร้างสระน้ำ สร้างสนามหญ้าเขียวๆขึ้นมาได้
ไฮไลท์อีกอย่างนึงของการมาพักที่นี้ คือ Dinner ที่ร้านอาหาร Al Hadheerah ร้านอาหารอาหรับที่เป็นสไตล์ Buffet พร้อมกับมีการแสดงพื้นเมืองให้ชมค่ะ ตอนที่หาข้อมูลนี่ก้ตื่นเต้นอีกแล้ว เห็นรูปแล้วอยากมามาก บรรยากาศเหมือน พันหนึ่งราตรี อะไรแบนี้ คนที่ไม่ได้พักที่นี่นั่งรถมาทานอาหารจากในเมืองเลยก็เยอะค่ะ ส่วนเราแค่เดินออกจากห้องพักตามทางเดินที่เค้าปูพรมไว้ก้ไปถึงร้านค่ะ
เข้าไปถึงก้เลือกนั่งไม่ห่างจากบริเวณเวทีมาก แต่ก้ใกล้พัดลมหน่อยค่ะ เป็นร้านอาหารกลางแจ้ง แล้วแหม ถ้ามาหน้าหนาวอากาศคงดีมากก แต่นี่พระอาทิตย์ตกแล้วก้ยังร้อนนนแบบบสุดดๆๆๆค่ะ
ที่โต๊ะเค้าก้จะมาเสิร์ฟ appetizer สไตล์อาหรับให้ก่อนเลย อร่อยค่ะ กินไปเยอะเกือบลืมตัวว่ายังมีไลน์บุฟฟต์อลังการอีกเลยต้องรีบหยุด
โซน Buffet จะเป็นสไตล์ Souk ค่ะ คือเหมือนมาเดินซื้อหาอาหารจากตลาด มาค่อนข้างเร็ว ไลน์อาหารยังเต็ม บางอย่างเพิ่งกำลังทำเลยค่ะ หอมน่ากินไปหมดทุกอย่างงงง
อาหารมีทุกอย่าง (ยกเว้นหมู ) ทั้งอาหารอาหรับ อาหารอินเดีย อาหารทะเล steak ก้เลือกชิ้นเนื้อได้เลยแล้วปรุงให้สดๆตรงนั้นเลย ใครไม่ทานเนื้อก้มีแกะค่ะ ตอนมาร้านคือหิวมาก แต่อาหารเยอะไปหมดแค่เห็นก้แทบจะอิ่มแล้วว
ของหวานแบบอาหรับก้มีค่ะ แต่เราไม่ถนัดเท่าไหร่ ไม่ใช่ทางของเรา ชิมนิดๆหน่อยๆเราก้พุ่งไปไอติมแล้วค่ะ ที่นี่เป็น Haagen Dazs ด้วยจ้าา คือตอนนั้นในตู้มันมีรสท้องถิ่นแบบ Arabian milk หรืออะไรประมานนี้ด้วย (แต่ไม่อร่อย) สุดท้ายก้กลับมากินคุกกี้แอนด์ครีม
รอบๆร้านอาหารยังเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงวีถีชีวิตของคนโบราณที่นั่น บ้านก้เป็นเพิงๆไม้ๆคล้ายๆชาวไทยสมัยก่อนเลยค่ะ แต่คือหุ่นขี้ผึ้งที่เค้าทำเป็นท่าทางต่างๆเพื่อแสดงกิจกรรมของผู้คนนั้น...น่ากัวมากโดยเฉพาะในความมืด...
ส่วนการแสดงก้น่าตื่นตาตื่นใจค่ะ มีโชว์เต้น 3-4 โชว์ ทั้ง Tanoura Dance, Belly Dance (ดูในวีดีโอ) แล้วก้มีการแสดงแสงสีเสียงแบบวีถีชีวิตชาวทะเลทรายในสมัยก่อน เอาอูฐมาเดินเป็นฝูง แบบจริงจังมาก
จริงๆไม่รู้มีอะไรต่อไม๊ค่ะเพราะว่าเราเป็นโต๊ะแรกที่กลับเลย ไม่ใช่ว่าเบื่อหรืออะไรนะคะ แต่ง่วงมากกกกก คือวันแรก jetlag นิดๆ 4 ทุ่มกว่าที่ไทยก้ตี 1 เข้าไปแล้ว อยู่ไม่ไหวจริงๆขอตัวกลับไปนอนก่อนค่าา
ตอนที่เราไปจำราคาแน่นอนไม่ได้ บุฟเฟ่ต์หัวละประมาณ 4 พันบาทไทยได้ค่ะ แพงมากแต่ว่าอาหารดีมากจริงๆ ถ้ากินเยอะแค่อาหารก้คุ้มแล้ว แต่ว่านี่มีโชว์เยอะแยะให้ดูอีก แถมเป็นโอกาสพิเศษฉลองวันเกิดพอดี เลยยอมจัดค่ะ
ตอนนี้ราคามีการเปลี่ยนแปลง (แพงไปอีกกก) ติดตามอัพเดทล่าสุดที่เว็บของโรงแรมค่า http://www.meydanhotels.com/babalshams/dining.htm
จบคืนแรก ตื่นเช้ามาก่อนที่เราจะออกเดินทางกลับเข้าเมือง ต้องไปลุย Breakfast ของโรงแรม
อาหารก้ค่อนข้างเยอะค่ะ หลากหลาย ขนมก้เยอะ แอบกิน Camel Milk ไปด้วย ฮ่าๆๆ ไหน เมิร์สอะไร ที่อ่านมาเค้าบอกว่านมอูฐพาสเจอไรซ์แล้วไม่เป็นอะไรนะคะ แต่เอาจิงๆที่โรงแรมเค้าใส่ขวดใสๆไว้ที่ก้ไม่รุเหมือนกันว่าของสดรึป่าว แต่อีกแล้ว..มาถึงจุดๆนี้แล้วต้องลอง เมิร์สก้เมิร์สวะ! สรุปคือ นมอูฐไม่อร่อยเลย 5555555 (นี่ถ้าเมิร์สจิงคงตายฟรี)
หมดเวลาสนุกของเราที่ทะเลทรายแล้ววว ภาค 2 เดี๋ยวเราไปเข้าเมืองกันค่า