สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราหลังจากส่องกระทู้คนอื่นมานาน อยากจะมาเล่าเรื่องราวการแบ็คแพคไปต่างประเทศครั้งแรก
ที่เกือบจะต้องไปคนเดียว แต่สุดท้าย สวรรค์ก็มาโปรดให้มีเพื่อนร่วมชะตากรรมไปด้วยอีก 1 คน
Follow your "SEOUL" l Autumn2015 l ตอน 2 : GyeongbokGung & CheonggyeCheon
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/34553341
Follow your "SEOUL" l Autumn2015 l ตอน 3 : ทริปนี้..ไม่มี Best shot
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/34603308
ย้อนไปประมาณเดือนมีนาคม มีการปล่อยตั๋วโปรโมชั่นของสายการบินโลว์คอร์สเจ้านึง ราคาเมื่อคิดดูแล้วก็ไม่ได้ถูกมาก
แต่ด้วยความอยากไป วอแวถามใครก็ไม่มีใครพร้อม เลยตัดสินใจว่า " เอาวะ! ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปคนเดียวมันจะไปยากอะไร๊
(ปกตินางก็ไปไหนคนเดียวอยู่แล้ว) อีกอย่างเกาหลีก็ดูเป็นประเทศที่มีความปลอดภัย ไม่ไก่กา
แล้วภาษาเกาหลีที่เคยได้ร่ำเรียนมา คงจะได้ใช้คราวนี้แหละ! ก่อนจองตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปเจอใบไม้ร่วงแบบพีคๆให้ได้
แอบสืบหาข้อมูลการเปลี่ยนสีของใบไม้ในโซลและสถานที่ใกล้ๆของปี2015 ได้ความว่าเป็นเดือนพ.ย.แน่ๆ
ทุกอย่างก็เกิดขึ้นไวมาก กดไปกดมา ได้ตั๋วไป-กลับ BKK-Incheon ในราคาหมื่นนิดๆ เป็นอันเสร็จภาระกิจที่ 1
คำเตือน1 กระทู้นี้อาจมีข้อมูลการท่องเที่ยวไม่เพียงพอ กรุณาศึกษาจากกระทู้อื่น
คำเตือน2 รูปเยอะม้ากกกกก เราจะแยกเป็นสถานที่ และกระทู้นี้อาจมีหลายตอนย่อยๆ
ตั๋วเครื่องบิน : Air AsiaX
ไป DMK>ICN 04 Nov 2015, 0220 am นน.กระเป๋า 20kg
กลับ ICN>DMK 11 Nov 2015, 1510 pm นน กระเป๋า 30kg
**สำหรับคนที่ซื้อของฝากไม่เยอะ โหลดแค่ 25 kg ก็น่าจะพอนะคะ
เอกสารที่ควรเตรียมไปเผื่อตม.เรียกตรวจ
- หนังสือรับรองการทำงาน (สำหรับคนที่ทำงานแล้ว)
- ตั๋วเครื่องบินขากลับ ปริ้นท์เตรียมไปให้เรียบร้อย หรือ cap ใส่มือถือไว้
- อีเมลล์คอนเฟิร์มจากที่พัก
ทุกอย่างที่เป็นกระดาษแนะนำว่าให้ถ่ายรูปเอาไว้ในมือถือ เผื่อหายจะได้มีหลักฐาน
จากการที่ไปครั้งนี้ หน้าพาสปอร์ตของเราขาวมากกกกก(ห่างจากการไปตปท.มานาน+เปลี่ยนเล่มใหม่) เลยเตรียมไปหมด
แต่สุดท้ายเขาไม่ดูอะไรเลย 55555
- เตรียมใจให้พร้อม ไม่ต้องตื่นเต้น ฟังที่ตม.ถามให้ชัดเจนแล้วตอบสำเนียงดีๆ แค่นี้ผ่านชัวร์!!!
wifi : WiFi Router ของ LG U+ เคาเตอร์ให้เช่าอยู่ตรงทางออก 8 9 10 จำไม่ได้นะ แต่ลองเดินหาดู ไม่ไกลกันมาก
ค่ามัดจำเป็นการรูดบัตรแบบตัดวงเงิน o บาทเฉยๆ *เจ้าไม่สามารถใช้เงินสดมัดจำได้นะ
ค่าใช้บริการมี 2 ส่วนคือ ค่าเช่าเราเตอร์วันละ 3,000 วอน และค่าดาต้า 5,000 วอน
*แต่ถ้าเช่าเกิน 5 วันจะไม่คิดในส่วนค่าเช่าเราเตอร์ในวันที่เหลือ
พนง.จะให้เราจ่ายเงินวันที่นำเราเตอร์มาคืน
สภาพอากาศ : ตอนเราไป อากาศค่อนข้างแปรปรวน ทั้งอากาศอุ่น(สำหรับบ้านเค้า) ฝน แล้วก็ลมหนาวยะเยือกกกกกก
อุณหภูมิค่องข้างเหวี่ยงนะ เจอเลขตัวเดียวแบบพ่นควันออกมาได้ตอนเช้าๆ กลางวันพอมีแดดก็อุ่นขึ้นหน่อย
ถ้าใครกลัวทนไม่ไหวควรเตรียมเสื้อฮีทเทคมาหลายตัวหน่อย อาจทับด้วยเสื้อสเวทเตอร์แล้วสวมโค้ท
รองเท้าแล้วแต่ถนัด แต่แนะนำให้ใส่ผ้าใบเพราะมาเที่ยวแบบนี้คุณต้องเดิน เดิน และเดินนนน วันละเป็นกิโล(ถ้าหลง) T T
เพราะงั้นควรเตรียมพร้อมตัวให้พร้อม! 555 ส่วนในวันที่มีฝนตกจะหนาวมาก ควรมีผ้าพันคือกันลมด้วย
กล้อง : Nikon D3100 + tamron 17-50mm VC f2.8 // Samsung galaxy note4
ที่พัก : Tori Hotel 7คืน ห้องดีลักซ์ เตียงใหญ่แบบมีห้องน้ำในตัว+อาหารเช้า
เราจองจาก Expedia ได้ส่วนลด 10% จ่ายผ่านบัตร KTC 10234/7 = 1462 THB/Night
สถานี Ewha women univesity (Edae) ทางออก 6
รูปภายในห้อง จริงๆตอนจองห้องดูเหมือนจะใหญ่ พอเข้ามาคือมันค่อนข้างเล็ก แนะนำให้สอดกระเป๋าไว้ใต้เตียง
ฤดูหนาว พื้นห้องน้ำเย็นมากกกก น้ำเย็นมากกกกกก
เตียงไม่นุ่มเลย แต่พอทนได้ นอน2คนถือว่าพอดีตัวมาก น่าจะใหญ่กว่านี้นิดนึง
อาหารเช้าทั่วๆไป คอนเฟล็กซ์ของเคลลอกซ์อร่อยมากกกกก ซุปแบบซองก็อร่อย กินกับขนมปังปิ้งคือเข้ากัน
ส่วนเครื่องดื่มก็มี กาแฟ น้ำส้ม น้ำเปล่า นม
โอเคนะ ส่วนที่มีสาระด้านบนได้จบลงไปแล้ว ด้านล่างจะมีแต่รูปและเรื่องเล่าละนะ
#3.11.2015
คืนวันที่ 3 เราออกจากห้องประมาณ3ทุ่ม นั่งแท็กซี่เพื่อมาลงสนามบินดอนเมือง นัดเจอเพื่อนที่นี่
จากนั้นก็รอ รอ แล้วก็รอให้เคาเตอร์เช็คอินเปิดเพื่อที่จะโหลดกระเป๋า
อ้อเราเช็คอินมาเรียบร้อยแล้วนะ ได้นั่งข้างหน้าต่าง น้ำตาแทบไหล คืออยากดูพระอาทิตย์ขึ้นไง
พอเค้าเปิดให้โหลดกระเป๋าเรากับเพื่อนก็มาเข้าแถวสำหรับโหลดกระเป๋าเลย ไม่ต้องไปวุ่นวายกับทัวร์จีน
พนง.จะแจกใบตรวจคนขาออก-ขาเข้า ก็กรอกให้เสร็จเรียบร้อย (ส่วนใบขาเข้า-ออกของประเทศเกาหลีแอร์จะแจกบนเครื่องนะ)
เดินเข้าช่องแคบขาออกไปต่างประเทศ ยื่นพาสปอร์ตกับใบขาออกให้ตม. ละเดินเข้าช่อง มองกล้อง ประทับนิ้วชี้
เป็นอันออกจากประเทศได้ ^^
#4.11.2015
เป็นคนที่มีความพยายามในการตื่นมาดูพระอาทิตย์มาก แอบลืมตาขึ้นมาดูเรื่อยๆว่ามีแสงรึยัง
จนในที่สุดก็เห็นของสีทอง >< ตอนนั้นไม่รู้ว่าอยู่บนน่านฟ้าประเทศอะไรหรอก ดูเสร็จก็นั่นแหละ นอนต่อ 555555
จนเครื่องแลนดิ้ง แอร์ก็ประกาศอุณหภูมิภาคพื้น 6 องศา คือตอนนั้นฟินไง อยากเจออากาศหนาว อยากไปสัมผัสเต็มทีละ
เก็บของละเดินออกจากเครื่องก็เริ่มสัมผัสอากาศข้างนอกได้นิดหน่อย เอ้อออออ หนาวแบบนี้แหละที่ชอบ
ออกมาก็เดิน เดิน เดิน ทางไกลมากกว่าจะมาถึงด่านตรวจคน เดินตามคนอื่นเขามานั่นแหละ แล้วก็จะมาเจอแถวที่ต้องผ่านตม.
คือตอนนั้นไม่ได้ตื่นเต้นเพราะว่าเอกสารเราพร้อมมาก แค่บอกตัวเองว่าฟังเขาดีๆ ตอบไปให้ชัดเจน มันก็ไม่มีอะไรเลย
เขาถามว่า เรามากี่วัน? มากับใคร? มองพาสปอร์ตกับใบขาเข้า(ของเกาหลี) เห็นเค้าอมยิ้มๆ เราก็ยิ้มให้ไปหนึ่งทีพร้อมคืนพาสปอร์ต
แล้วก็บอกเราว่าว่า ออซอโอเซโย (ยินดีต้อนรับค่ะ) เห็นมั้ย ไม่มีอะไรเลยยยยยย (รีบวิ่งไปหาเพื่อนเลยจ้าา นางออกมาก่อนแล้ว)
ผ่านตม.มาได้เราก็ต้องไปเอากระเป๋า คือบรรยากาศเหมือนสุวรรณภูมิเลย เสร็จแล้วไปเช่าไฟไวแล้วเข้าเมืองไปที่พัก
เราเข้าเมืองโดยใช้ AREX แบบจอดทุกสถานีไปลงที่สถานี Hongik U นะ แล้วเปลี่ยนมาขึ้น Subway ไปลงสถานี Ewha U
เอาละ พอเราลงมาจาก AREX ได้ ปัญหาก็เกิดไง คือจะขึ้นซับเวย์ครั้งแรก ยังจบต้นชนปลายไม่ได้อ่ะ
ไปลงที่ฮงแด เดินทางคำว่า transfer กับแถบสีเขียว (เราต้องไปสายสีเขียว) มาเรื่อยๆ ทีนี้พวกเราไม่รู้จะไปยังไงต่อ
เดินหมุนๆ ซ้ายขวาหน้าหลังกัน2คน ก็มีอาจุมม่าอายุประมาณ60-70ยืนอยู่เป็นแก๊งค์มาเรียกแล้วถามเราด้วยภาษาอังกฤษ ว่าจะไปไหน
เรานี่อึ้งแป้บบบ เก่งอ่ะ
เราก็บอกว่าจะไปอีแด เขาก็ชี้ทาง บอกให้เราเลี้ยวขวานะ แล้วลงไปด้านล่าง ให้ขึ้นรถฝั่งขวามือ
คือจะบอกว่าคนที่นี่เขาเฟรนด์ลี่มากนะ เขาเป็นประเทศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากๆ เรานี่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเลย (เวอร์) สุดท้ายก็นึกขึ้นมาได้
เคยอ่านรีวิวแว้บๆว่า ซับเวย์ที่นี่เขาจะเขียนป้ายบอกเป็นสถานีถัดไป ต่างจากบีทีเอสบ้านเราที่จะเขียนบอกเป็นสถานีปลายทาง
หลังจากวันนั้นเราก็เข้าใจถ่องแท้ ไม่เคยขึ้นผิดอีกเลย แต่มีลงผิด.... TT TT
เรื่องไม่จบแค่ได้ขึ้นซับเวย์ (นางวีกรรมเยอะมาก) พอลงจากซับเวย์มาได้ ก็ไม่รู้ว่าออกประตูไหนดีอีกกก ณ ตอนนั้นมึนกันมากก
ก็เดินๆไป เลือกทางออก5แล้วกัน ก็กำลังจะออกนั่นแหละ แต่ออกไม่ได้ กระเป๋ามันติดกับที่กั้น ในใจอยากจะกรีดร้องมาก
แกะยังไงก็ไม่ออก ละคือมีอาจุมม่ากับเด็กผู้ชายมาช่วยสแกนบัตรให้เพราะคิดว่าเรามีปัญหานั่นแหละ แต่เราเอากระเป๋าออกไม่ได้อยู่ดี
ละนางก็ชี้ไปอีกทางออกนึงริมสุดซึ่งมันกว้าง คงคล้ายๆจะบอกว่า แกมีกระเป๋า คราวหลังไปใช้ประตูนั้นนะ เฮ้อออออออ ชั้นพลาด
สุดท้ายก็ต้องไปตามจนท.ในห้องซับเวย์ให้มาช่วยเอาออกให้ อ้อ ตรงประตูกว้างๆจะมีปุ่ม Help ให้กดได้นะ แต่ตอนแรกเราใช้ไม่เป็นอ่ะ
พอขึ้นมาสู่พื้นดินได้ คราวนี้ก็ต้องหาทางไปที่พักใช่ป่ะ แต่ตอนนั้นมึนๆ งงๆกันมาเยอะ เลยกะว่าจะถามคนแถวนั้น
มองซ้ายขวา มีร้านขายของก็เลยเดินเข้าไปถามคุณลุงที่ขายของอยู่ ได้ความว่า เขาไม่รู้จักโรงแรมนี้ T T ในใจก็คิดว่าคนแถวนี้ไม่รู้จัก
แล้วฉันจะทำยังไงเนี่ยย เขาก็ถามว่ามีอินเตอร์เน็ตป่าว ลองหาดู แล้วซวยกว่านั้นคือมือถือแบตหมดค่าา ร้องไห้อีกรอบ
สุดท้ายสวรรค์ทรงโปรด คุณลุงหยิบมือถือขึ้นมา ละขอแผ่นกระดาษที่มีเบอร์โทรโรงแรม บอกว่าเดี๋ยวจะโทรให้
ดีใจมากกกกกก คือใจดีมากกกกกกก เราสองคนนี่พูดขอบคุณไปกี่สิบรอบจำไม่ได้เลย สรุปคือเดี๋ยวสต๊าฟที่โรงแรมจะออกมารับ
ระหว่างรอลุงก็ถามว่ามาจากไหน เราก็ตอบมาจากประเทศไทยไป ลุงก็พยายามจะสื่อสารบางอย่างที่เราไม่เข้าใจ
(หนูไม่ได้เรียนมาเยอะขนาดนั้นค่า) แล้วเขาก็หยิบมือถือขึ้นมา เปิดรูปให้ดู ประกฎว่า เขามีลูกสะใภ้เป็นคนไทย
คุยกับจบ รู้เรื่อง สต๊าฟก็มาถึงพอดี บอกลาคุณลุงแล้วก็โค้งให้แกหลายรอบมาก คือประทับใจกับความเป็นมิตรของคนที่นี่จริงๆ
พอเจอสต๊าฟเป็นผู้ชาย คือนางใส่เสื้อขนเป็ดแต่ใส่กางเกงบอล แปลกใจอยู่เหมือนกัน ระหว่างทางนางก็เล่า
เมื่อวานอากาศหนาวนะ แต่วันนี้อากาศอุ่นขึ้น คือใส่เสื้อของเมื่อวานสินะ เราก็ถึงบางอ้อเลย
เพราะเราใส่เสื้อยืดกับโค้ทบางก็โอเคแล้ว ก็คุยมาตลอดทาง(ซึ่งไม่ไกลเลย ข้ามถนนละเดิน150เห็นจะได้)
เขาก็ถามว่าเป็นนักเรียนเหรอ? เราก็แบบคิดในใจว่าเอ้ออ หน้าฉันยังได้อยู่ว่ะ 5555555 ก็บอกเขาไปว่าเปล่าา ฉันทำงานแล้วนะ
ถามนั่นนี่ไปเรื่อย สรุปคืออายุเท่ากันจ้า แต่ลืมถามชื่อไง TT คุยได้เยอะพอสมควรเพราะเขาเก่งภาษาอังกฤษเลยแหละ
อึ้งมากสุดตอนทางขึ้นโรงแรมค่อนข้างจะชัน แล้วกระเป๋าเรากับเพื่อนใบละเกือบๆ20โล นางก็ยกขึ้นไปรอบเดียวเลย
เรากับเพื่อนแบบ เห้ยยยยยยยยย แข็งแรงไปม้ายยยยยย
ตอนมาถึงห้องทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เช็คอินได้เลย ถือว่าโชคดี ก็เลยพอเข้าห้องได้ก็นั่งพักแป้บนึง
แพลนไว้ว่าวันนี้จะไปม.สตรีอีฮวากับฮงแด จนเริ่มบ่าย3ก็ออกจากโรงแรมตรงไปอีฮวาก่อน คืออยู่ใกล้มาก แค่ข้ามถนนก็ถึงแล้ววว
หน้ามหาลัยคึกคักนะ มีทั้งร้านอาหาร เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ซอยเล็กๆหลายซอยเลย
ที่สำคัญราคาถูกอ่ะ เราเพิ่งได้มาเดินวันสุดท้าย เพราะว่าหาของกินเนี่ยแหละ
[CR] Follow your "SEOUL" l Autumn2015 l BKK ICN Ewha & Hongdae
สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราหลังจากส่องกระทู้คนอื่นมานาน อยากจะมาเล่าเรื่องราวการแบ็คแพคไปต่างประเทศครั้งแรก
ที่เกือบจะต้องไปคนเดียว แต่สุดท้าย สวรรค์ก็มาโปรดให้มีเพื่อนร่วมชะตากรรมไปด้วยอีก 1 คน
Follow your "SEOUL" l Autumn2015 l ตอน 2 : GyeongbokGung & CheonggyeCheon
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Follow your "SEOUL" l Autumn2015 l ตอน 3 : ทริปนี้..ไม่มี Best shot
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ย้อนไปประมาณเดือนมีนาคม มีการปล่อยตั๋วโปรโมชั่นของสายการบินโลว์คอร์สเจ้านึง ราคาเมื่อคิดดูแล้วก็ไม่ได้ถูกมาก
แต่ด้วยความอยากไป วอแวถามใครก็ไม่มีใครพร้อม เลยตัดสินใจว่า " เอาวะ! ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปคนเดียวมันจะไปยากอะไร๊
(ปกตินางก็ไปไหนคนเดียวอยู่แล้ว) อีกอย่างเกาหลีก็ดูเป็นประเทศที่มีความปลอดภัย ไม่ไก่กา
แล้วภาษาเกาหลีที่เคยได้ร่ำเรียนมา คงจะได้ใช้คราวนี้แหละ! ก่อนจองตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปเจอใบไม้ร่วงแบบพีคๆให้ได้
แอบสืบหาข้อมูลการเปลี่ยนสีของใบไม้ในโซลและสถานที่ใกล้ๆของปี2015 ได้ความว่าเป็นเดือนพ.ย.แน่ๆ
ทุกอย่างก็เกิดขึ้นไวมาก กดไปกดมา ได้ตั๋วไป-กลับ BKK-Incheon ในราคาหมื่นนิดๆ เป็นอันเสร็จภาระกิจที่ 1
คำเตือน2 รูปเยอะม้ากกกกก เราจะแยกเป็นสถานที่ และกระทู้นี้อาจมีหลายตอนย่อยๆ
ตั๋วเครื่องบิน : Air AsiaX
ไป DMK>ICN 04 Nov 2015, 0220 am นน.กระเป๋า 20kg
กลับ ICN>DMK 11 Nov 2015, 1510 pm นน กระเป๋า 30kg
**สำหรับคนที่ซื้อของฝากไม่เยอะ โหลดแค่ 25 kg ก็น่าจะพอนะคะ
เอกสารที่ควรเตรียมไปเผื่อตม.เรียกตรวจ
- หนังสือรับรองการทำงาน (สำหรับคนที่ทำงานแล้ว)
- ตั๋วเครื่องบินขากลับ ปริ้นท์เตรียมไปให้เรียบร้อย หรือ cap ใส่มือถือไว้
- อีเมลล์คอนเฟิร์มจากที่พัก
ทุกอย่างที่เป็นกระดาษแนะนำว่าให้ถ่ายรูปเอาไว้ในมือถือ เผื่อหายจะได้มีหลักฐาน
จากการที่ไปครั้งนี้ หน้าพาสปอร์ตของเราขาวมากกกกก(ห่างจากการไปตปท.มานาน+เปลี่ยนเล่มใหม่) เลยเตรียมไปหมด
แต่สุดท้ายเขาไม่ดูอะไรเลย 55555
- เตรียมใจให้พร้อม ไม่ต้องตื่นเต้น ฟังที่ตม.ถามให้ชัดเจนแล้วตอบสำเนียงดีๆ แค่นี้ผ่านชัวร์!!!
wifi : WiFi Router ของ LG U+ เคาเตอร์ให้เช่าอยู่ตรงทางออก 8 9 10 จำไม่ได้นะ แต่ลองเดินหาดู ไม่ไกลกันมาก
ค่ามัดจำเป็นการรูดบัตรแบบตัดวงเงิน o บาทเฉยๆ *เจ้าไม่สามารถใช้เงินสดมัดจำได้นะ
ค่าใช้บริการมี 2 ส่วนคือ ค่าเช่าเราเตอร์วันละ 3,000 วอน และค่าดาต้า 5,000 วอน
*แต่ถ้าเช่าเกิน 5 วันจะไม่คิดในส่วนค่าเช่าเราเตอร์ในวันที่เหลือ
พนง.จะให้เราจ่ายเงินวันที่นำเราเตอร์มาคืน
สภาพอากาศ : ตอนเราไป อากาศค่อนข้างแปรปรวน ทั้งอากาศอุ่น(สำหรับบ้านเค้า) ฝน แล้วก็ลมหนาวยะเยือกกกกกก
อุณหภูมิค่องข้างเหวี่ยงนะ เจอเลขตัวเดียวแบบพ่นควันออกมาได้ตอนเช้าๆ กลางวันพอมีแดดก็อุ่นขึ้นหน่อย
ถ้าใครกลัวทนไม่ไหวควรเตรียมเสื้อฮีทเทคมาหลายตัวหน่อย อาจทับด้วยเสื้อสเวทเตอร์แล้วสวมโค้ท
รองเท้าแล้วแต่ถนัด แต่แนะนำให้ใส่ผ้าใบเพราะมาเที่ยวแบบนี้คุณต้องเดิน เดิน และเดินนนน วันละเป็นกิโล(ถ้าหลง) T T
เพราะงั้นควรเตรียมพร้อมตัวให้พร้อม! 555 ส่วนในวันที่มีฝนตกจะหนาวมาก ควรมีผ้าพันคือกันลมด้วย
กล้อง : Nikon D3100 + tamron 17-50mm VC f2.8 // Samsung galaxy note4
ที่พัก : Tori Hotel 7คืน ห้องดีลักซ์ เตียงใหญ่แบบมีห้องน้ำในตัว+อาหารเช้า
เราจองจาก Expedia ได้ส่วนลด 10% จ่ายผ่านบัตร KTC 10234/7 = 1462 THB/Night
สถานี Ewha women univesity (Edae) ทางออก 6
รูปภายในห้อง จริงๆตอนจองห้องดูเหมือนจะใหญ่ พอเข้ามาคือมันค่อนข้างเล็ก แนะนำให้สอดกระเป๋าไว้ใต้เตียง
ฤดูหนาว พื้นห้องน้ำเย็นมากกกก น้ำเย็นมากกกกกก
เตียงไม่นุ่มเลย แต่พอทนได้ นอน2คนถือว่าพอดีตัวมาก น่าจะใหญ่กว่านี้นิดนึง
อาหารเช้าทั่วๆไป คอนเฟล็กซ์ของเคลลอกซ์อร่อยมากกกกก ซุปแบบซองก็อร่อย กินกับขนมปังปิ้งคือเข้ากัน
ส่วนเครื่องดื่มก็มี กาแฟ น้ำส้ม น้ำเปล่า นม
คืนวันที่ 3 เราออกจากห้องประมาณ3ทุ่ม นั่งแท็กซี่เพื่อมาลงสนามบินดอนเมือง นัดเจอเพื่อนที่นี่
จากนั้นก็รอ รอ แล้วก็รอให้เคาเตอร์เช็คอินเปิดเพื่อที่จะโหลดกระเป๋า
อ้อเราเช็คอินมาเรียบร้อยแล้วนะ ได้นั่งข้างหน้าต่าง น้ำตาแทบไหล คืออยากดูพระอาทิตย์ขึ้นไง
พอเค้าเปิดให้โหลดกระเป๋าเรากับเพื่อนก็มาเข้าแถวสำหรับโหลดกระเป๋าเลย ไม่ต้องไปวุ่นวายกับทัวร์จีน
พนง.จะแจกใบตรวจคนขาออก-ขาเข้า ก็กรอกให้เสร็จเรียบร้อย (ส่วนใบขาเข้า-ออกของประเทศเกาหลีแอร์จะแจกบนเครื่องนะ)
เดินเข้าช่องแคบขาออกไปต่างประเทศ ยื่นพาสปอร์ตกับใบขาออกให้ตม. ละเดินเข้าช่อง มองกล้อง ประทับนิ้วชี้
เป็นอันออกจากประเทศได้ ^^
เป็นคนที่มีความพยายามในการตื่นมาดูพระอาทิตย์มาก แอบลืมตาขึ้นมาดูเรื่อยๆว่ามีแสงรึยัง
จนในที่สุดก็เห็นของสีทอง >< ตอนนั้นไม่รู้ว่าอยู่บนน่านฟ้าประเทศอะไรหรอก ดูเสร็จก็นั่นแหละ นอนต่อ 555555
จนเครื่องแลนดิ้ง แอร์ก็ประกาศอุณหภูมิภาคพื้น 6 องศา คือตอนนั้นฟินไง อยากเจออากาศหนาว อยากไปสัมผัสเต็มทีละ
เก็บของละเดินออกจากเครื่องก็เริ่มสัมผัสอากาศข้างนอกได้นิดหน่อย เอ้อออออ หนาวแบบนี้แหละที่ชอบ
ออกมาก็เดิน เดิน เดิน ทางไกลมากกว่าจะมาถึงด่านตรวจคน เดินตามคนอื่นเขามานั่นแหละ แล้วก็จะมาเจอแถวที่ต้องผ่านตม.
คือตอนนั้นไม่ได้ตื่นเต้นเพราะว่าเอกสารเราพร้อมมาก แค่บอกตัวเองว่าฟังเขาดีๆ ตอบไปให้ชัดเจน มันก็ไม่มีอะไรเลย
เขาถามว่า เรามากี่วัน? มากับใคร? มองพาสปอร์ตกับใบขาเข้า(ของเกาหลี) เห็นเค้าอมยิ้มๆ เราก็ยิ้มให้ไปหนึ่งทีพร้อมคืนพาสปอร์ต
แล้วก็บอกเราว่าว่า ออซอโอเซโย (ยินดีต้อนรับค่ะ) เห็นมั้ย ไม่มีอะไรเลยยยยยย (รีบวิ่งไปหาเพื่อนเลยจ้าา นางออกมาก่อนแล้ว)
ผ่านตม.มาได้เราก็ต้องไปเอากระเป๋า คือบรรยากาศเหมือนสุวรรณภูมิเลย เสร็จแล้วไปเช่าไฟไวแล้วเข้าเมืองไปที่พัก
เราเข้าเมืองโดยใช้ AREX แบบจอดทุกสถานีไปลงที่สถานี Hongik U นะ แล้วเปลี่ยนมาขึ้น Subway ไปลงสถานี Ewha U
ไปลงที่ฮงแด เดินทางคำว่า transfer กับแถบสีเขียว (เราต้องไปสายสีเขียว) มาเรื่อยๆ ทีนี้พวกเราไม่รู้จะไปยังไงต่อ
เดินหมุนๆ ซ้ายขวาหน้าหลังกัน2คน ก็มีอาจุมม่าอายุประมาณ60-70ยืนอยู่เป็นแก๊งค์มาเรียกแล้วถามเราด้วยภาษาอังกฤษ ว่าจะไปไหน
เรานี่อึ้งแป้บบบ เก่งอ่ะ เราก็บอกว่าจะไปอีแด เขาก็ชี้ทาง บอกให้เราเลี้ยวขวานะ แล้วลงไปด้านล่าง ให้ขึ้นรถฝั่งขวามือ
คือจะบอกว่าคนที่นี่เขาเฟรนด์ลี่มากนะ เขาเป็นประเทศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากๆ เรานี่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเลย (เวอร์) สุดท้ายก็นึกขึ้นมาได้
เคยอ่านรีวิวแว้บๆว่า ซับเวย์ที่นี่เขาจะเขียนป้ายบอกเป็นสถานีถัดไป ต่างจากบีทีเอสบ้านเราที่จะเขียนบอกเป็นสถานีปลายทาง
หลังจากวันนั้นเราก็เข้าใจถ่องแท้ ไม่เคยขึ้นผิดอีกเลย แต่มีลงผิด.... TT TT
เรื่องไม่จบแค่ได้ขึ้นซับเวย์ (นางวีกรรมเยอะมาก) พอลงจากซับเวย์มาได้ ก็ไม่รู้ว่าออกประตูไหนดีอีกกก ณ ตอนนั้นมึนกันมากก
ก็เดินๆไป เลือกทางออก5แล้วกัน ก็กำลังจะออกนั่นแหละ แต่ออกไม่ได้ กระเป๋ามันติดกับที่กั้น ในใจอยากจะกรีดร้องมาก
แกะยังไงก็ไม่ออก ละคือมีอาจุมม่ากับเด็กผู้ชายมาช่วยสแกนบัตรให้เพราะคิดว่าเรามีปัญหานั่นแหละ แต่เราเอากระเป๋าออกไม่ได้อยู่ดี
ละนางก็ชี้ไปอีกทางออกนึงริมสุดซึ่งมันกว้าง คงคล้ายๆจะบอกว่า แกมีกระเป๋า คราวหลังไปใช้ประตูนั้นนะ เฮ้อออออออ ชั้นพลาด
สุดท้ายก็ต้องไปตามจนท.ในห้องซับเวย์ให้มาช่วยเอาออกให้ อ้อ ตรงประตูกว้างๆจะมีปุ่ม Help ให้กดได้นะ แต่ตอนแรกเราใช้ไม่เป็นอ่ะ
พอขึ้นมาสู่พื้นดินได้ คราวนี้ก็ต้องหาทางไปที่พักใช่ป่ะ แต่ตอนนั้นมึนๆ งงๆกันมาเยอะ เลยกะว่าจะถามคนแถวนั้น
มองซ้ายขวา มีร้านขายของก็เลยเดินเข้าไปถามคุณลุงที่ขายของอยู่ ได้ความว่า เขาไม่รู้จักโรงแรมนี้ T T ในใจก็คิดว่าคนแถวนี้ไม่รู้จัก
แล้วฉันจะทำยังไงเนี่ยย เขาก็ถามว่ามีอินเตอร์เน็ตป่าว ลองหาดู แล้วซวยกว่านั้นคือมือถือแบตหมดค่าา ร้องไห้อีกรอบ
สุดท้ายสวรรค์ทรงโปรด คุณลุงหยิบมือถือขึ้นมา ละขอแผ่นกระดาษที่มีเบอร์โทรโรงแรม บอกว่าเดี๋ยวจะโทรให้
ดีใจมากกกกกก คือใจดีมากกกกกกก เราสองคนนี่พูดขอบคุณไปกี่สิบรอบจำไม่ได้เลย สรุปคือเดี๋ยวสต๊าฟที่โรงแรมจะออกมารับ
ระหว่างรอลุงก็ถามว่ามาจากไหน เราก็ตอบมาจากประเทศไทยไป ลุงก็พยายามจะสื่อสารบางอย่างที่เราไม่เข้าใจ
(หนูไม่ได้เรียนมาเยอะขนาดนั้นค่า) แล้วเขาก็หยิบมือถือขึ้นมา เปิดรูปให้ดู ประกฎว่า เขามีลูกสะใภ้เป็นคนไทย
คุยกับจบ รู้เรื่อง สต๊าฟก็มาถึงพอดี บอกลาคุณลุงแล้วก็โค้งให้แกหลายรอบมาก คือประทับใจกับความเป็นมิตรของคนที่นี่จริงๆ
พอเจอสต๊าฟเป็นผู้ชาย คือนางใส่เสื้อขนเป็ดแต่ใส่กางเกงบอล แปลกใจอยู่เหมือนกัน ระหว่างทางนางก็เล่า
เมื่อวานอากาศหนาวนะ แต่วันนี้อากาศอุ่นขึ้น คือใส่เสื้อของเมื่อวานสินะ เราก็ถึงบางอ้อเลย
เพราะเราใส่เสื้อยืดกับโค้ทบางก็โอเคแล้ว ก็คุยมาตลอดทาง(ซึ่งไม่ไกลเลย ข้ามถนนละเดิน150เห็นจะได้)
เขาก็ถามว่าเป็นนักเรียนเหรอ? เราก็แบบคิดในใจว่าเอ้ออ หน้าฉันยังได้อยู่ว่ะ 5555555 ก็บอกเขาไปว่าเปล่าา ฉันทำงานแล้วนะ
ถามนั่นนี่ไปเรื่อย สรุปคืออายุเท่ากันจ้า แต่ลืมถามชื่อไง TT คุยได้เยอะพอสมควรเพราะเขาเก่งภาษาอังกฤษเลยแหละ
อึ้งมากสุดตอนทางขึ้นโรงแรมค่อนข้างจะชัน แล้วกระเป๋าเรากับเพื่อนใบละเกือบๆ20โล นางก็ยกขึ้นไปรอบเดียวเลย
เรากับเพื่อนแบบ เห้ยยยยยยยยย แข็งแรงไปม้ายยยยยย
ตอนมาถึงห้องทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เช็คอินได้เลย ถือว่าโชคดี ก็เลยพอเข้าห้องได้ก็นั่งพักแป้บนึง
แพลนไว้ว่าวันนี้จะไปม.สตรีอีฮวากับฮงแด จนเริ่มบ่าย3ก็ออกจากโรงแรมตรงไปอีฮวาก่อน คืออยู่ใกล้มาก แค่ข้ามถนนก็ถึงแล้ววว
หน้ามหาลัยคึกคักนะ มีทั้งร้านอาหาร เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ซอยเล็กๆหลายซอยเลย
ที่สำคัญราคาถูกอ่ะ เราเพิ่งได้มาเดินวันสุดท้าย เพราะว่าหาของกินเนี่ยแหละ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น