กลับมาเล่าเรื่องจากประสบการณ์การเป็นแฟนคลับมือใหม่ต่อนะคะ
เมื่อก่อน ดิฉันต้องไปหาเพื่อนสนิทซึ่งทำงานอยู่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ย่านอโศกบ่อยๆ เวลาไปทุกครั้งจะเห็นมีผู้คนมากมายนั่งรอกันอยู่ที่บริเวณลอบบีอาคาร เนื่องจากเป็นทางขึ้น-ลง ทางเดียวของตึกนี้ ตอนแรกดิฉันนึกว่าพวกเขามานั่งพัก หลบฝน หลบแดด หรือรอเจอเพื่อน ได้มารู้ตอนหลังว่าคือ บรรดาแฟนคลับ ที่มาเฝ้ารอศิลปินคนโปรดอย่างอดทน คือที่เยอะแยะมากมายเนี่ย เป็นเพราะมีแฟนคลับหลายกลุ่มของศิลปินหลายคนด้วยแหละค่ะ มีทั้งดารานักแสดง นักร้องลูกทุ่ง ลูกกรุง ดีเจ พิธีกร ทุกคนมะรุมมะตุ้มอยู่ในตึกนั้น..แฟนคลับก็รออย่างอดทนในลอบบี ..เป็นการรอที่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะลงมาหรือไม่ และจะลงมาเมื่อไหร่
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แฟนคลับบางคนคงใช้วิธีการไปดักรอเจอศิลปินที่ชอบแบบนี้ค่ะ (ตามท้องเรื่องที่พวกเขาเล่าให้ฟังเอง) บ้างก็ไปรอที่สตูดิโอที่ถ่ายหนัง ถ่ายละคร บางคนอาจไปรอรับ-ส่ง ที่สนามบิน ถ้ารู้กำหนดว่าเขาจะเดินทางไป-กลับที่ไหน เมื่อไหร่ บางคนไปรอที่บ้านก็คงมี ส่วนดิฉันได้แต่ไปเจอตามงานแถลงข่าวหรืองานอีเวนท์ที่มีการประกาศแจ้งให้ทราบเท่านั้นค่ะ เพราะพระเอกรูปหล่อนี่เป็นนักแสดง เล่นหนังไม่เยอะ ไม่มีคอนเสิร์ต มินิคอนเสิรต์ หรือรับงานบ่อย ไม่รู้จะไปรอดักซุ่มตรงไหน 555..อีกอย่างที่บอกไว้ คือ ดิฉันเป็นประชากรวัยทำงาน ความรับผิดชอบในหน้าที่การงานมันค้ำคอนิดนึง แม้บางครั้งจะอยากทิ้งงานไปเจอพระเอก แต่ถ้ามีงานที่ต้องสะสางแล้ว ก็ต้องเลือกงาน (มันคือบ่อข้าวบ่อน้ำของเรา)..แต่ถ้าโชคดีรู้ล่วงหน้า ว่างานจะจัดในวันธรรมดา ก็จะเลือกขอลางานบ้างค่ะ โดยเฉพาะถ้าเป็นวันธรรมดา เวลาทำงาน แสดงว่าผู้คนอาจไม่ล้นหลามมาก ไม่ต้องเบียดเสียดจนเกินไป ก็ขอใช้สิทธิวันลาพักร้อนตามกฎหมายแรงงานนะคะ..เอาน่า นิดนึง ขอแค่ให้ได้โบกมือ ให้เขาเห็นสักหน่อยก็ดีใจ..แต่ประเภทแกล้งป่วยกะทันหันในวันนั้น แล้วโทรบอกที่สำนักงาน เพื่อการ “ติ่ง” นั้น ไม่มีแน่นอน บอกเลยว่าชื่นชมอย่างมีความรับผิดชอบ หุหุ (จริงๆ ยังไม่กล้าทำ 555)
ที่สำคัญ จะให้ไปนั่งรอนอนรอเป็นวันๆ นั้น มันไม่ไหวจริงๆ
กลับมางานแถลงข่าวที่ว่า นี้มีทั้งงานแถลงข่าวเปิดตัวหนัง เปิดตัวละคร หรือแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซนเตอร์ของสินค้า ซึ่งนักแสดงได้ตกลงเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ให้กับผู้ผลิตสินค้านั้น ส่วนงานอีเวนท์ ก็เช่น การประกาศรางวัลต่างๆ ในวงการบันเทิง ซึ่งนับวันจะมีมากมายไล่เรียงชื่อกันไม่ถูก ทั้งงาน ประกาศรางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดี รางวัลเมขลา รางวัลสุพรรณหงส์ รางวัลโทรทัศน์ทองคำ และยังมีการแจกรางวัลจากนิตยสารบันเทิงฉบับต่างๆ อีกด้วย
พระเอกคนนี้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ต้นสังกัดของเขาไม่เคยเปิดเผยหรือเผยแพร่คิวงานให้กับแฟนคลับได้ทราบ นอกจากตัวเขาจะเป็นคนประกาศเองบนไอจี หรือประกาศผ่านแฟนเพจที่เขาเองเป็นหนึ่งในแอดมินที่ดูแลด้วย จังหวะดีและโชคเหมือนจะเข้าข้างอยู่บ้างค่ะ กล่าวคือ ในช่วงที่ดิฉันเริ่มติดตามนั้น เขาได้รับการทาบทามเป็นพรีเซนเตอร์ให้สินค้า 4-5 ชนิด ซึ่งก็มีการจัดกิจกรรมตามที่ต่างๆ เป็นระลอก ให้แฟนคลับได้ติดตามไปให้กำลังใจเขาได้ ดิฉันก็จะไปตามที่บอกไว้ในกำหนด แฟนคลับบางคนที่เป็นนักศึกษา และอยู่ในช่วงปิดเทอม หรือแฟนคลับที่มีกิจการส่วนตัว ไม่ได้ทำงานประจำ ก็จะสามารถพากันไปรอแต่เช้าหรือไปก่อนเวลา เพื่อนัดแนะกัน
ชะตากรรมแฟนคลับมือใหม่อย่างดิฉัน ก็คือ ต้องไปคอยชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟอยู่รอบๆ งานอีเวนท์หรืองานแถลงข่าวนี่แหละค่ะ เพราะไม่สามารถเข้าไปในงานได้ จะมีเพียงกลุ่มฐานันดรที่ 5 หรือสื่อมวลชนที่ผู้จัดงานจะดูแลอย่างดีตลอดงาน มีที่นั่ง อาหารว่าง เครื่องดื่มบริการเสร็จสรรพ พอเสร็จจากงานแถลงข่าวบนเวที พระเอกก็จะต้องให้นักข่าวได้ถ่ายรูป ได้สัมภาษณ์จนพอใจอีก จากนั้นถึงจะได้ออกมาเจอะเจอแฟนคลับที่ตั้งหน้าตั้งตารอ ให้ได้ถ่ายรูปให้ชื่นใจบ้าง ..บางงาน ผู้จัดการของพระเอกก็จะรีบมาดึงพระเอกไปขึ้นรถเลยก็มี หรือ คอยป่าวประกาศว่า “เดี๋ยว...จะต้องรีบไปอีกงานต่อนะครับ ขอโทษด้วยครับ ขอทางด้วยครับ อย่าขวางทางนะครับ อย่าดึงนะครับ” ฯลฯ โอ๊ย ฟังดูช่างยากเย็น แต่แฟนคลับที่ดิฉันเห็นนี่ก็ไม่มีการท้อ ไม่มีการถอยนะคะ ต้องยกย่องในความอดทน อดกลั้น อึด ถึก ไม่รักจริง ปลื้มจริง คงทำไม่ได้แน่นอน
แฟนคลับบางคนไปดักรอกันหลายชั่วโมงก่อนงานเริ่ม เพราะกะว่าจะได้เจอตอนที่เขาเดินทางมาถึง ก่อนที่เขาจะไปแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม เพราะถ้ารอจนงานเลิกก็อาจจะ “ตกรอบ” หรือไม่ได้มีโอกาสถ่ายรูปเลย โอ๊ย ชีวิตติ่ง แท้จริงแสนลำบาก นี่ยังไม่รวมอภิมหาดราม่าในกลุ่มพวกแฟนคลับกันเองด้วยนะ..สู้ต่อไป ทาเคชิ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกท่านที่เข้ามาอ่าน + ติชมค่ะ
สมรภูมิติ่ง ตอน มนุษย์ป้าแห่งแฟนคลับ
http://ppantip.com/topic/34497501
สมรภูมิติ่ง - ดราม่าหลังป้ายไฟ ตอน จุดนัดฝัน
เมื่อก่อน ดิฉันต้องไปหาเพื่อนสนิทซึ่งทำงานอยู่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ย่านอโศกบ่อยๆ เวลาไปทุกครั้งจะเห็นมีผู้คนมากมายนั่งรอกันอยู่ที่บริเวณลอบบีอาคาร เนื่องจากเป็นทางขึ้น-ลง ทางเดียวของตึกนี้ ตอนแรกดิฉันนึกว่าพวกเขามานั่งพัก หลบฝน หลบแดด หรือรอเจอเพื่อน ได้มารู้ตอนหลังว่าคือ บรรดาแฟนคลับ ที่มาเฝ้ารอศิลปินคนโปรดอย่างอดทน คือที่เยอะแยะมากมายเนี่ย เป็นเพราะมีแฟนคลับหลายกลุ่มของศิลปินหลายคนด้วยแหละค่ะ มีทั้งดารานักแสดง นักร้องลูกทุ่ง ลูกกรุง ดีเจ พิธีกร ทุกคนมะรุมมะตุ้มอยู่ในตึกนั้น..แฟนคลับก็รออย่างอดทนในลอบบี ..เป็นการรอที่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะลงมาหรือไม่ และจะลงมาเมื่อไหร่
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แฟนคลับบางคนคงใช้วิธีการไปดักรอเจอศิลปินที่ชอบแบบนี้ค่ะ (ตามท้องเรื่องที่พวกเขาเล่าให้ฟังเอง) บ้างก็ไปรอที่สตูดิโอที่ถ่ายหนัง ถ่ายละคร บางคนอาจไปรอรับ-ส่ง ที่สนามบิน ถ้ารู้กำหนดว่าเขาจะเดินทางไป-กลับที่ไหน เมื่อไหร่ บางคนไปรอที่บ้านก็คงมี ส่วนดิฉันได้แต่ไปเจอตามงานแถลงข่าวหรืองานอีเวนท์ที่มีการประกาศแจ้งให้ทราบเท่านั้นค่ะ เพราะพระเอกรูปหล่อนี่เป็นนักแสดง เล่นหนังไม่เยอะ ไม่มีคอนเสิร์ต มินิคอนเสิรต์ หรือรับงานบ่อย ไม่รู้จะไปรอดักซุ่มตรงไหน 555..อีกอย่างที่บอกไว้ คือ ดิฉันเป็นประชากรวัยทำงาน ความรับผิดชอบในหน้าที่การงานมันค้ำคอนิดนึง แม้บางครั้งจะอยากทิ้งงานไปเจอพระเอก แต่ถ้ามีงานที่ต้องสะสางแล้ว ก็ต้องเลือกงาน (มันคือบ่อข้าวบ่อน้ำของเรา)..แต่ถ้าโชคดีรู้ล่วงหน้า ว่างานจะจัดในวันธรรมดา ก็จะเลือกขอลางานบ้างค่ะ โดยเฉพาะถ้าเป็นวันธรรมดา เวลาทำงาน แสดงว่าผู้คนอาจไม่ล้นหลามมาก ไม่ต้องเบียดเสียดจนเกินไป ก็ขอใช้สิทธิวันลาพักร้อนตามกฎหมายแรงงานนะคะ..เอาน่า นิดนึง ขอแค่ให้ได้โบกมือ ให้เขาเห็นสักหน่อยก็ดีใจ..แต่ประเภทแกล้งป่วยกะทันหันในวันนั้น แล้วโทรบอกที่สำนักงาน เพื่อการ “ติ่ง” นั้น ไม่มีแน่นอน บอกเลยว่าชื่นชมอย่างมีความรับผิดชอบ หุหุ (จริงๆ ยังไม่กล้าทำ 555)
ที่สำคัญ จะให้ไปนั่งรอนอนรอเป็นวันๆ นั้น มันไม่ไหวจริงๆ
กลับมางานแถลงข่าวที่ว่า นี้มีทั้งงานแถลงข่าวเปิดตัวหนัง เปิดตัวละคร หรือแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซนเตอร์ของสินค้า ซึ่งนักแสดงได้ตกลงเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ให้กับผู้ผลิตสินค้านั้น ส่วนงานอีเวนท์ ก็เช่น การประกาศรางวัลต่างๆ ในวงการบันเทิง ซึ่งนับวันจะมีมากมายไล่เรียงชื่อกันไม่ถูก ทั้งงาน ประกาศรางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดี รางวัลเมขลา รางวัลสุพรรณหงส์ รางวัลโทรทัศน์ทองคำ และยังมีการแจกรางวัลจากนิตยสารบันเทิงฉบับต่างๆ อีกด้วย
พระเอกคนนี้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ต้นสังกัดของเขาไม่เคยเปิดเผยหรือเผยแพร่คิวงานให้กับแฟนคลับได้ทราบ นอกจากตัวเขาจะเป็นคนประกาศเองบนไอจี หรือประกาศผ่านแฟนเพจที่เขาเองเป็นหนึ่งในแอดมินที่ดูแลด้วย จังหวะดีและโชคเหมือนจะเข้าข้างอยู่บ้างค่ะ กล่าวคือ ในช่วงที่ดิฉันเริ่มติดตามนั้น เขาได้รับการทาบทามเป็นพรีเซนเตอร์ให้สินค้า 4-5 ชนิด ซึ่งก็มีการจัดกิจกรรมตามที่ต่างๆ เป็นระลอก ให้แฟนคลับได้ติดตามไปให้กำลังใจเขาได้ ดิฉันก็จะไปตามที่บอกไว้ในกำหนด แฟนคลับบางคนที่เป็นนักศึกษา และอยู่ในช่วงปิดเทอม หรือแฟนคลับที่มีกิจการส่วนตัว ไม่ได้ทำงานประจำ ก็จะสามารถพากันไปรอแต่เช้าหรือไปก่อนเวลา เพื่อนัดแนะกัน
ชะตากรรมแฟนคลับมือใหม่อย่างดิฉัน ก็คือ ต้องไปคอยชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟอยู่รอบๆ งานอีเวนท์หรืองานแถลงข่าวนี่แหละค่ะ เพราะไม่สามารถเข้าไปในงานได้ จะมีเพียงกลุ่มฐานันดรที่ 5 หรือสื่อมวลชนที่ผู้จัดงานจะดูแลอย่างดีตลอดงาน มีที่นั่ง อาหารว่าง เครื่องดื่มบริการเสร็จสรรพ พอเสร็จจากงานแถลงข่าวบนเวที พระเอกก็จะต้องให้นักข่าวได้ถ่ายรูป ได้สัมภาษณ์จนพอใจอีก จากนั้นถึงจะได้ออกมาเจอะเจอแฟนคลับที่ตั้งหน้าตั้งตารอ ให้ได้ถ่ายรูปให้ชื่นใจบ้าง ..บางงาน ผู้จัดการของพระเอกก็จะรีบมาดึงพระเอกไปขึ้นรถเลยก็มี หรือ คอยป่าวประกาศว่า “เดี๋ยว...จะต้องรีบไปอีกงานต่อนะครับ ขอโทษด้วยครับ ขอทางด้วยครับ อย่าขวางทางนะครับ อย่าดึงนะครับ” ฯลฯ โอ๊ย ฟังดูช่างยากเย็น แต่แฟนคลับที่ดิฉันเห็นนี่ก็ไม่มีการท้อ ไม่มีการถอยนะคะ ต้องยกย่องในความอดทน อดกลั้น อึด ถึก ไม่รักจริง ปลื้มจริง คงทำไม่ได้แน่นอน
แฟนคลับบางคนไปดักรอกันหลายชั่วโมงก่อนงานเริ่ม เพราะกะว่าจะได้เจอตอนที่เขาเดินทางมาถึง ก่อนที่เขาจะไปแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม เพราะถ้ารอจนงานเลิกก็อาจจะ “ตกรอบ” หรือไม่ได้มีโอกาสถ่ายรูปเลย โอ๊ย ชีวิตติ่ง แท้จริงแสนลำบาก นี่ยังไม่รวมอภิมหาดราม่าในกลุ่มพวกแฟนคลับกันเองด้วยนะ..สู้ต่อไป ทาเคชิ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกท่านที่เข้ามาอ่าน + ติชมค่ะ
สมรภูมิติ่ง ตอน มนุษย์ป้าแห่งแฟนคลับ http://ppantip.com/topic/34497501