"เบาๆสิตัวเอง ฮิๆๆ" เสียงกระซิบหยอกเย้าดังออกมาจากห้องนั่งเล่นมืดๆของบ้านน้อยในซอยเงียบ
"ไม่ได้หรอกตัวเอง ก็ตัวเองน่ารักขนาดนี้นี่นา" มีเสียงกระซิบตอบอย่างได้ใจ...คืนนี้คงไม่แคล้วมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน
"ขอกอดหน่อย"
"ไม่เอา"
"ขอกอดหน่อย"
"ก็ได้"
"หื้ม..ชื่นใจจริงๆเธอเอ้ย...” เสียงหอมดังฟอดใหญ่ๆ เสียงความพอใจ..ชวนให้ยิ้มกริ่ม
"บ้า เบาๆสิตัวเอง" น้ำเสียงตื่นเต้นที่เกิดจากการถูกขโมยหอม ความเคอะเขินที่เชิญชวน
“เดี๋ยวก็ตื่นหรอก"
เสียงกระหนุงกระหนิงกระซิบกระซาบยังคงดังแว่วออกมาจากห้องนั่งเล่น...คืนนี้คงไม่แคล้วมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน
ประสิทธิ์ผู้ซึ่งกำลังนอนหลับอย่างสบาย งัวเงียขึ้นมานั่งที่ปลายเตียงตาปรือๆ
เป็นใครก็ย่อมไม่พอใจ "ไม่ได้รู้จักอายฟ้าดินกันเลยหนุ่มสาวสมัยนี้ ทำอะไรเสียงดังหนกขูมาถึงนี่"
ประสิทธิ์ส่ายหน้าพลางบ่นอย่างเหนื่อยใจ..ตายังคงปรืออยู่อย่างนั้น ด้วยความเป็นผู้ใหญ่อย่างไรเขาก็ต้องตักเตือน...จิตใต้สำนึกของชายวัยหกสิบห้าที่เป็นคนค่อนข้างหัวโบราณ...และเพิ่งงัวเงียตื่น...
เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างสโลสเล และเปิดออกไปที่โถงทางเดินอย่างเสียมิได้
“ขอหอมอีกทีนะตัวเอง” เสียงออดอ้อนยังคงเรียกร้อง
ไร้ยางอายจริงๆ ประสิทธิ์นึกอย่างหัวเสีย ที่ถูกปลุกจากเวลานอนหลับอันมีค่าของเขา..
“ไม่เอาแล้วตัวเอง บ้าจริง”
ไม่ได้อายฟ้าดินเลย..เขาเดินช้าๆสะลึมสะลือ จะล้มมิล้มแหล่...
“น่านะ”
โถงทางเดินมันช่างยาวไกลเสียเหลือเกิน..บัดสี
“ไม่เอาสิตัวเอง ฮิๆๆ”
หนุ่มสาวสมัยนี้ทำอะไรประเจิดประเจ้อ เขาเดินโซเซจนจะถึงประตูห้องนั่งเล่น...
“ฮิๆๆๆ ก็ได้ อย่าบอกใครนะ” เสียงกระซิบที่เหมือนดังกังวาน...คืนนี้คงไม่แคล้วมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน
"โว้ะ! ไอ้คนสมัยนี้ไม่ได้อับอายผีสาง เทว...”
พลันเขาลืมตาตื่นขึ้น เหมือนนึกอะไรออก...
ในราตรีที่มืดมิด..เสียงลมพัดต้นประดู่หน้าบ้านดังชัดเจน ไร้ซึ่งเสียงใดอื่นมารบกวน
มือยังคงกำลูกบิดประตูแน่น...มันเย็นเฉียบ ไม่ต่างอะไรจากมือและทั้งร่างของประสิทธิ์ตอนนี้..
ที่หยุดชะงักกับทุกการตัดสินใจที่มาจากความสะลึมสะลือและเลอะเลือน
เหงื่อเย็นๆเม็ดโตไหลย้อยลงมาจากศีรษะล้าน ตาของเขาเบิกโพลง
โถงทางเดินมืดที่มีเพียงแสงสว่างนวลๆจากแสงจันทร์ผ่านกระจกบานน้อย...
ชุดนอนสีฟ้า รองเท้าแตะผ้านุ่มสีขาว ยืนอยู่หน้าประตูห้องนั่งเล่น..มีเขาคนเดียว
ใช่..เขาลืมไป
ก็บ้านนี้มีเขาอยู่เพียงคนเดียว...
“ฮิๆๆ..”
เสียงหัวเราะเขินอาย ที่ยังคงฟังดูเชิญชวนและเยือกเย็น..ยังคงแว่วออกมาจากห้องนั่งเล่น
ระคนเสียงหมาที่พร้อมใจกันหอนอย่างเกรียวกราว...
คืนนี้คงไม่แคล้วมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน...
คืนนี้คงไม่แคล้ว...
"ไม่ได้หรอกตัวเอง ก็ตัวเองน่ารักขนาดนี้นี่นา" มีเสียงกระซิบตอบอย่างได้ใจ...คืนนี้คงไม่แคล้วมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน
"ขอกอดหน่อย"
"ไม่เอา"
"ขอกอดหน่อย"
"ก็ได้"
"หื้ม..ชื่นใจจริงๆเธอเอ้ย...” เสียงหอมดังฟอดใหญ่ๆ เสียงความพอใจ..ชวนให้ยิ้มกริ่ม
"บ้า เบาๆสิตัวเอง" น้ำเสียงตื่นเต้นที่เกิดจากการถูกขโมยหอม ความเคอะเขินที่เชิญชวน
“เดี๋ยวก็ตื่นหรอก"
เสียงกระหนุงกระหนิงกระซิบกระซาบยังคงดังแว่วออกมาจากห้องนั่งเล่น...คืนนี้คงไม่แคล้วมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน
ประสิทธิ์ผู้ซึ่งกำลังนอนหลับอย่างสบาย งัวเงียขึ้นมานั่งที่ปลายเตียงตาปรือๆ
เป็นใครก็ย่อมไม่พอใจ "ไม่ได้รู้จักอายฟ้าดินกันเลยหนุ่มสาวสมัยนี้ ทำอะไรเสียงดังหนกขูมาถึงนี่"
ประสิทธิ์ส่ายหน้าพลางบ่นอย่างเหนื่อยใจ..ตายังคงปรืออยู่อย่างนั้น ด้วยความเป็นผู้ใหญ่อย่างไรเขาก็ต้องตักเตือน...จิตใต้สำนึกของชายวัยหกสิบห้าที่เป็นคนค่อนข้างหัวโบราณ...และเพิ่งงัวเงียตื่น...
เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างสโลสเล และเปิดออกไปที่โถงทางเดินอย่างเสียมิได้
“ขอหอมอีกทีนะตัวเอง” เสียงออดอ้อนยังคงเรียกร้อง
ไร้ยางอายจริงๆ ประสิทธิ์นึกอย่างหัวเสีย ที่ถูกปลุกจากเวลานอนหลับอันมีค่าของเขา..
“ไม่เอาแล้วตัวเอง บ้าจริง”
ไม่ได้อายฟ้าดินเลย..เขาเดินช้าๆสะลึมสะลือ จะล้มมิล้มแหล่...
“น่านะ”
โถงทางเดินมันช่างยาวไกลเสียเหลือเกิน..บัดสี
“ไม่เอาสิตัวเอง ฮิๆๆ”
หนุ่มสาวสมัยนี้ทำอะไรประเจิดประเจ้อ เขาเดินโซเซจนจะถึงประตูห้องนั่งเล่น...
“ฮิๆๆๆ ก็ได้ อย่าบอกใครนะ” เสียงกระซิบที่เหมือนดังกังวาน...คืนนี้คงไม่แคล้วมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน
"โว้ะ! ไอ้คนสมัยนี้ไม่ได้อับอายผีสาง เทว...”
พลันเขาลืมตาตื่นขึ้น เหมือนนึกอะไรออก...
ในราตรีที่มืดมิด..เสียงลมพัดต้นประดู่หน้าบ้านดังชัดเจน ไร้ซึ่งเสียงใดอื่นมารบกวน
มือยังคงกำลูกบิดประตูแน่น...มันเย็นเฉียบ ไม่ต่างอะไรจากมือและทั้งร่างของประสิทธิ์ตอนนี้..
ที่หยุดชะงักกับทุกการตัดสินใจที่มาจากความสะลึมสะลือและเลอะเลือน
เหงื่อเย็นๆเม็ดโตไหลย้อยลงมาจากศีรษะล้าน ตาของเขาเบิกโพลง
โถงทางเดินมืดที่มีเพียงแสงสว่างนวลๆจากแสงจันทร์ผ่านกระจกบานน้อย...
ชุดนอนสีฟ้า รองเท้าแตะผ้านุ่มสีขาว ยืนอยู่หน้าประตูห้องนั่งเล่น..มีเขาคนเดียว
ใช่..เขาลืมไป
ก็บ้านนี้มีเขาอยู่เพียงคนเดียว...
“ฮิๆๆ..”
เสียงหัวเราะเขินอาย ที่ยังคงฟังดูเชิญชวนและเยือกเย็น..ยังคงแว่วออกมาจากห้องนั่งเล่น
ระคนเสียงหมาที่พร้อมใจกันหอนอย่างเกรียวกราว...
คืนนี้คงไม่แคล้วมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน...