ต่อเนื่องจากกระทู้รีวิวหกวันที่ผ่านมา ตามนี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/34437813 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 1 : Bangkok - Chongqing - Chengdu
http://ppantip.com/topic/34443237 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 2 : Chengdu - Leshan - Emeishan
http://ppantip.com/topic/34446484 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 3 : Emeishan - Chengdu
http://ppantip.com/topic/34451013 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 4 : Chengdu - Jiuzhaigou
http://ppantip.com/topic/34456492 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 5 : Jiuzhaigou Day 1
http://ppantip.com/topic/34488023 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 6 : Jiuzhaigou Day 2
วันที่เจ็ดของการเดินทาง วันนี้เราจะเช็คเอาท์ออกจากที่พักที่จิ่วไจ้โกว ไปหวงหลง แล้วตอนค่ำก็จะบินต่อไปที่ซีอานนะครับ
การเดินทางจากจิ่วไจ้โกวไปหวงหลง สามารถไปได้ทางรถบัสนะครับ โดยขึ้นรถที่ท่ารถบัสที่จิ่วไจ้โกว (ที่เรานั่งมาลงจากเฉิงตูนั่นล่ะครับ) โดยรถจะออกจากท่ารถเวลาเช้า ประมาณเจ็ดโมงเช้านะครับ แต่ก็ควรจองตั๋วแต่เนิ่น ๆ นะครับเพราะตั๋วจะเต็มเร็วมาก จองล่วงหน้าก่อนเดินทางจะดีกว่าครับ
โดยส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวมักจะหารถเหมาจากจิ่วไจ้โกวไปส่งที่หวงหลงแล้วรอรับกลับมาจิ่วไจ้โกว โดยราคาเหมาก็แล้วแต่ตกลงกันนะครับ ส่วนเราเหมารถผ่านทางโรงแรม ในราคา 480 หยวนต่อวัน นั่งได้สี่คน ถ้าคนไม่ครบ ที่โรงแรมจะมีติดประกาศไว้ว่ามีรถไปวันที่เท่าไหร่ และยังขาดอีกกี่คน ก็จะให้แชร์รถกันไปครับ
แต่หนนี้ เราจะไปหวงหลงเสร็จแล้วเราจะบินต่อไปซีอาน เลยไม่ได้แชร์รถกับใคร โดยระยะทางเส้นทางการเดินทางก็ตามในรูปนะครับ
เรานัดรถมารับตอนเจ็ดโมงเช้า เราลงมาเช็คเอาท์ตอน 06:45 รถก็มารอเรียบร้อยแล้ว เจ็ดโมงตรงก็เริ่มออกเดินทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่งก็จะมาถึงหวงหลงนะครับ
แต่ก่อนจะถึงหวงหลง รถจะต้องไต่ไปตามภูเขาสูงไปเรื่อย ๆ ซึ่งระหว่างทางรถจะจอดให้แวะซื้อยาสำหรับแก้เรื่องความกดอากาศนะครับ ขายกล่องละ 100 หยวน แต่เราไมไ่ด้ซื้อ คิดว่าน่าจะไหว ซึ่งระหว่างทาง เราก็เห็นคนจอดรถลงไปอาเจียนกันเรื่อย ๆ ตลอดทางนะครับ
ก่อนจะถึงหวงหลง ถนนจะขึ้นข้ามภูเขาสูงไปเรื่อย ๆ ประมาณซัก 20 กิโลก่อนจะถึงหวงหลง จะมีจุดชมวิวครับ บอกรถให้จอดถ่ายรูปด้วย หนนี้เราเลยจุดแรกมา (มีทะเลหมอก สวยมากกกกกกกก) เลยให้มาแวะจอดที่จุดชมวิวอีกจุดนึงครับ
ภาพจากจุดชมวิวครับ
หิมะเต็มไปหมด แดดจัด ทำให้ไม่หนาวเท่าไหร่ เราลงไปแบบไม่ได้รูดซิปเสื้อกันหนาวด้วย แต่ก็พอทนได้นะ เจอวิวแบบนี้เข้าไป ลืมหมดล่ะครับเรื่องหนาว เรื่องอะไรเนี่ย
สภาพถนนที่เรานั่งรถผ่านมาครับ สภาพดีเลยทีเดียว ส่วนราวน้ำแข็งนั่นเป็นน้ำแข็งไปหมดแย้วววว ><
ส่วนนี่คือยานพาหนะที่เรานั่งมา จัดว่าเล็กไปเสียหน่อย ถ้ามากัน 4 คนนะครับ พอดีว่าเราเหมามากันแค่ 2 คน เลยนั่งมาได้แบบสบาย ๆ
เราใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งก็มาถึงหวงหลงครับ
จากในรูป รถเราจะวิ่งมาจากทางด้านขวานะครับ การเดินเที่ยวหวงหลง หลัก ๆ ก็จะมีทั้งคนเดินเที่ยว และนั่งเคเบิลขึ้นไปแล้วเดินลง แต่ถ้าจะให้แนะนำ.....นั่งเคเบิลขึ้นไปแล้วเดินลงจะดีกว่าเยอะครับ
ในรูป ด้านขวามือเป็นทางเข้า....แต่ถ้าเราจะขึ้นเคเบิล เราก็มาที่สถานีเคเบิลคาร์ มาซื้อตั๋วที่นี่เลยครับ ค่าเข้า คนละ 200 หยวน ค่าเคเบิลคาร์ คนละ 80 หยวน (จ่ายเถอะครับ 80 หยวน เชื่อผมเถอะ)
การเดินเที่ยว ก็ขึ้นเคเบิลคาร์ไป แล้วก็เดินเที่ยวข้างบนแล้วไล่ลงมาเรื่อย ๆ ระยะทางทั้งหมดตั้งแต่ลงจากเคเบิลคาร์เดินลงมาข้างล่างตรงทางเข้าก็ประมาณ 6-7 กิโลเมตรครับ ปกติรถที่เรามาก็จะมาจอดรอตรงปากทางเข้าทางด้านขวานะครับ โดยนัดเวลากับคนขับรถไว้เลย
หน้าตาที่ขายตั๋วครับ
ตรงจุดนี้บางที (ผมเจอแบบนี้) คนขับรถจะเอาเงินไปซื้อตั๋วให้ แต่ผมแอบเห็นเขาเอาบัตรอะไรไปซื้อด้วยก็ไม่รู้ (คงเป็นบัตรส่วนลดราคาพิเศษ) ตอนเอาเงินทอนมาให้แอบดึงไว้ 20 หยวน แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะราคาที่คนขับรถคิดก็เท่ากับราคาปกติที่เขาเขียนป้ายแปะไว้ คงเป็นวิธีหารายได้ของคนขับรถอีกทางล่ะครับ
จากตรงที่ขายตั๋ว เดินมาอีกหน่อย (ก็ไม่หน่อยนะ รถขับมาส่งต่อที่นี่ครับ) ก็มาถึงทางขึ้นกระเช้าไปข้างบน ที่เห็นลิบ ๆ นั่นคือทางขึ้นรถเคเบิลคาร์ครับ
ทางเดินมาขึ้นเคเบิลคาร์ครับ ถ้าคนเยอะคงต้องต่อแถวตามรั้วไม้นี่ โชคดีที่วันที่เราไปไม่มีคนเลยครับ ไม่ต้องต่อแถวเลย ^^
ภายในเคเบิลคาร์ครับ....คนนึงน่าจะนั่งได้ซัก 5-6 คนเต็มที่
เคเบิลคาร์ขึ้นเร็วใช้ได้เลยครับ ถึงกับหูอื้อเลยทีเดียว แถมขึ้นมาสูงมากด้วย ดูจากยอดเขาฝั่งตรงข้ามได้เลยครับ ^^
ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็ขึ้นมาถึงข้างบน ทันทีที่ออกมาจากเคเบิลคาร์ ภาพที่เห็นก็คือภาพนี้ครับ หิมะขาวเชียว
เดินมาเรื่อย ๆ จะมีจุดชมวิว มองไปด้านนึงเจอวิวแบบนี้
พอมองไปอีกด้าน มีหิมะเยอะกว่า สงสัยไม่ค่อยโดนแดดมั้งครับ 5555
ถ่ายรูปให้เจ้านายเสียหน่อย ^^
อากาศหนาวใช้ได้เลยครับ มีแม่คะนิ้งเกาะตามกิ่งไม้ริมทางตลอดทางเลย
เนื่องจากหุบเขาหวงหลงอยู่ค่อนข้างสูงจากระดับน้ำทะเลมากพอสมควร จุดท่องเที่ยวที่สูงที่สุดสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 3,500 เมตร (ดอยอินทนนท์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยยังแค่ 2,565 เมตรเอง หวงหลงนี่สูงกว่าดอยอินทนนท์ไม่มากไม่น้อย 1 กิโลเมตรเท่านั้นเอง โอ้วววววว!!!!!) เพราะฉะนั้นเวลาเดินก็ค่อย ๆ เดินเพื่อปรับตัวให้ร่างกายเคยชินกับอากาศที่เบาบางเสียก่อนก็ดีครับ
แต่หากเรารู้สึกหน้ามืด วิงเวียน หายใจไม่ทัน ระหว่างทาง จะมีออกซิเจนบาร์ไว้บริการครับ (สนนราคาจำไม่ได้ ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยครับ)
ระหว่างทางมองลงไปเห็นวัดอยู่ในหุบระหว่างทางเดินลงด้วย (ไม่แน่ใจว่านี่คือ Huanglong ancient temple หรือเปล่านะครับ)
วิวระหว่างทางเดินครับ โดยตั้งแต่เราออกจากเคเบิลคาร์มา เราต้องเดินตามทางไปประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อไปให้ถึงจุดชมวิวด้าบนสุด แล้วก็เดินลงอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตรไปที่ทางเข้านะครับ
ระหว่างทาง วิวสวยมากกกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัวจริง ๆ ครับ)
ในที่สุดเราก็มาถึงจุดชมวิวด้านบนแล้วครับ ^^
ที่บ่อนี้ จะมีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุด หลายมุมเลยนะครับ จุดแรก ๆ คนจะเยอะ ถ้าเดินเลย ๆ มาจะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ครับ
ฟ้าใส แดดจัด แต่ไม่ร้อนเลยครับ (แต่ก็ทำให้ไม่หนาวมากเช่นกันครับ ^^)
หลังจากนั้นเราก็เดินลงมาข้างล่าง ตามทางเดินที่เขาทำไว้ให้ ซึ่งระหว่างทางก็จะมีจุดท่องเที่ยว รวมถึงสระน้ำอีกหลายสระให้แวะถ่ายรูปได้ครับ
มุมมองจาก ancient temple มองย้อนกลับไปทางยอดเขา
ระหว่างทาง มีศาลาให้พักเป็นระยะ ๆ เราก็แวะพักทานขนมกัน พอหยิบขนมขึ้นมาดู ไหงมันพองงงงงโตขนาดนั้นล่ะเนี่ยยยย!!!! 55555
คนจีนเห็นเราเอาขนมขึ้นมาถ่ายรูปพอเขาเห็นถุงขนมเขายังหัวเราะกันเลย ^^
ระหว่างทาง ก็จะมีบ่อน้ำลดหลั่นกันเป็นระยะ ๆ ตลอดทางเดิน เล่นเอาเดินได้ไม่เบื่อเลยครับ
ไหน ๆ แล้ว ถ่ายรูปคู่กะเจ้านายเสียหน่อย ^^
เราก็เดินลงมาเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไร ปรากฎ มาถึงตรงทางเข้าที่นัดรถไว้ตอนสามโมงตรง เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ ก่อนจะถึงเวลานัด เลยว่าจะไปเดินเล่นที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวข้าง ๆ เผื่อหาขนมกินด้วย แต่ไปเดิน ๆ ดูแล้วไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ ดูแค่นิทรรศการชั้นล่าง ส่วนชั้นบน ๆ มีแต่ร้านค้าเป็นส่วนใหญ่ เลยเดินออกมาหารถดีกว่า
รูปนี้เป็นทางเข้าหวงหลงสำหรับคนที่จะเดินขึ้นนะครับ (แต่อย่าเดินขึ้นเลย ทางชันมากในบางช่วง แถมเราจะหมดแรงก่อนถึงข้างบน แล้วยังต้องเดินลงมาอีก ไปขึ้นเคเบิลคาร์ดีกว่าครับ)
มีต่อครับ --->
[CR] [รีวิว] @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง ฉงชิ่ง-เล่อซาน-เอ้อเหม่ยซาน-จิ่วไจ้โกว-หวงหลง-ซีอาน-อู่หลง-ฉงชิ่ง วันที่ 7 @@@
http://ppantip.com/topic/34437813 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 1 : Bangkok - Chongqing - Chengdu
http://ppantip.com/topic/34443237 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 2 : Chengdu - Leshan - Emeishan
http://ppantip.com/topic/34446484 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 3 : Emeishan - Chengdu
http://ppantip.com/topic/34451013 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 4 : Chengdu - Jiuzhaigou
http://ppantip.com/topic/34456492 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 5 : Jiuzhaigou Day 1
http://ppantip.com/topic/34488023 @@@ แบกเป้งุ้งงิ้ง .... วันที่ 6 : Jiuzhaigou Day 2
วันที่เจ็ดของการเดินทาง วันนี้เราจะเช็คเอาท์ออกจากที่พักที่จิ่วไจ้โกว ไปหวงหลง แล้วตอนค่ำก็จะบินต่อไปที่ซีอานนะครับ
การเดินทางจากจิ่วไจ้โกวไปหวงหลง สามารถไปได้ทางรถบัสนะครับ โดยขึ้นรถที่ท่ารถบัสที่จิ่วไจ้โกว (ที่เรานั่งมาลงจากเฉิงตูนั่นล่ะครับ) โดยรถจะออกจากท่ารถเวลาเช้า ประมาณเจ็ดโมงเช้านะครับ แต่ก็ควรจองตั๋วแต่เนิ่น ๆ นะครับเพราะตั๋วจะเต็มเร็วมาก จองล่วงหน้าก่อนเดินทางจะดีกว่าครับ
โดยส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวมักจะหารถเหมาจากจิ่วไจ้โกวไปส่งที่หวงหลงแล้วรอรับกลับมาจิ่วไจ้โกว โดยราคาเหมาก็แล้วแต่ตกลงกันนะครับ ส่วนเราเหมารถผ่านทางโรงแรม ในราคา 480 หยวนต่อวัน นั่งได้สี่คน ถ้าคนไม่ครบ ที่โรงแรมจะมีติดประกาศไว้ว่ามีรถไปวันที่เท่าไหร่ และยังขาดอีกกี่คน ก็จะให้แชร์รถกันไปครับ
แต่หนนี้ เราจะไปหวงหลงเสร็จแล้วเราจะบินต่อไปซีอาน เลยไม่ได้แชร์รถกับใคร โดยระยะทางเส้นทางการเดินทางก็ตามในรูปนะครับ
เรานัดรถมารับตอนเจ็ดโมงเช้า เราลงมาเช็คเอาท์ตอน 06:45 รถก็มารอเรียบร้อยแล้ว เจ็ดโมงตรงก็เริ่มออกเดินทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่งก็จะมาถึงหวงหลงนะครับ
แต่ก่อนจะถึงหวงหลง รถจะต้องไต่ไปตามภูเขาสูงไปเรื่อย ๆ ซึ่งระหว่างทางรถจะจอดให้แวะซื้อยาสำหรับแก้เรื่องความกดอากาศนะครับ ขายกล่องละ 100 หยวน แต่เราไมไ่ด้ซื้อ คิดว่าน่าจะไหว ซึ่งระหว่างทาง เราก็เห็นคนจอดรถลงไปอาเจียนกันเรื่อย ๆ ตลอดทางนะครับ
ก่อนจะถึงหวงหลง ถนนจะขึ้นข้ามภูเขาสูงไปเรื่อย ๆ ประมาณซัก 20 กิโลก่อนจะถึงหวงหลง จะมีจุดชมวิวครับ บอกรถให้จอดถ่ายรูปด้วย หนนี้เราเลยจุดแรกมา (มีทะเลหมอก สวยมากกกกกกกก) เลยให้มาแวะจอดที่จุดชมวิวอีกจุดนึงครับ
ภาพจากจุดชมวิวครับ
หิมะเต็มไปหมด แดดจัด ทำให้ไม่หนาวเท่าไหร่ เราลงไปแบบไม่ได้รูดซิปเสื้อกันหนาวด้วย แต่ก็พอทนได้นะ เจอวิวแบบนี้เข้าไป ลืมหมดล่ะครับเรื่องหนาว เรื่องอะไรเนี่ย
สภาพถนนที่เรานั่งรถผ่านมาครับ สภาพดีเลยทีเดียว ส่วนราวน้ำแข็งนั่นเป็นน้ำแข็งไปหมดแย้วววว ><
ส่วนนี่คือยานพาหนะที่เรานั่งมา จัดว่าเล็กไปเสียหน่อย ถ้ามากัน 4 คนนะครับ พอดีว่าเราเหมามากันแค่ 2 คน เลยนั่งมาได้แบบสบาย ๆ
เราใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งก็มาถึงหวงหลงครับ
จากในรูป รถเราจะวิ่งมาจากทางด้านขวานะครับ การเดินเที่ยวหวงหลง หลัก ๆ ก็จะมีทั้งคนเดินเที่ยว และนั่งเคเบิลขึ้นไปแล้วเดินลง แต่ถ้าจะให้แนะนำ.....นั่งเคเบิลขึ้นไปแล้วเดินลงจะดีกว่าเยอะครับ
ในรูป ด้านขวามือเป็นทางเข้า....แต่ถ้าเราจะขึ้นเคเบิล เราก็มาที่สถานีเคเบิลคาร์ มาซื้อตั๋วที่นี่เลยครับ ค่าเข้า คนละ 200 หยวน ค่าเคเบิลคาร์ คนละ 80 หยวน (จ่ายเถอะครับ 80 หยวน เชื่อผมเถอะ)
การเดินเที่ยว ก็ขึ้นเคเบิลคาร์ไป แล้วก็เดินเที่ยวข้างบนแล้วไล่ลงมาเรื่อย ๆ ระยะทางทั้งหมดตั้งแต่ลงจากเคเบิลคาร์เดินลงมาข้างล่างตรงทางเข้าก็ประมาณ 6-7 กิโลเมตรครับ ปกติรถที่เรามาก็จะมาจอดรอตรงปากทางเข้าทางด้านขวานะครับ โดยนัดเวลากับคนขับรถไว้เลย
หน้าตาที่ขายตั๋วครับ
ตรงจุดนี้บางที (ผมเจอแบบนี้) คนขับรถจะเอาเงินไปซื้อตั๋วให้ แต่ผมแอบเห็นเขาเอาบัตรอะไรไปซื้อด้วยก็ไม่รู้ (คงเป็นบัตรส่วนลดราคาพิเศษ) ตอนเอาเงินทอนมาให้แอบดึงไว้ 20 หยวน แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะราคาที่คนขับรถคิดก็เท่ากับราคาปกติที่เขาเขียนป้ายแปะไว้ คงเป็นวิธีหารายได้ของคนขับรถอีกทางล่ะครับ
จากตรงที่ขายตั๋ว เดินมาอีกหน่อย (ก็ไม่หน่อยนะ รถขับมาส่งต่อที่นี่ครับ) ก็มาถึงทางขึ้นกระเช้าไปข้างบน ที่เห็นลิบ ๆ นั่นคือทางขึ้นรถเคเบิลคาร์ครับ
ทางเดินมาขึ้นเคเบิลคาร์ครับ ถ้าคนเยอะคงต้องต่อแถวตามรั้วไม้นี่ โชคดีที่วันที่เราไปไม่มีคนเลยครับ ไม่ต้องต่อแถวเลย ^^
ภายในเคเบิลคาร์ครับ....คนนึงน่าจะนั่งได้ซัก 5-6 คนเต็มที่
เคเบิลคาร์ขึ้นเร็วใช้ได้เลยครับ ถึงกับหูอื้อเลยทีเดียว แถมขึ้นมาสูงมากด้วย ดูจากยอดเขาฝั่งตรงข้ามได้เลยครับ ^^
ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็ขึ้นมาถึงข้างบน ทันทีที่ออกมาจากเคเบิลคาร์ ภาพที่เห็นก็คือภาพนี้ครับ หิมะขาวเชียว
เดินมาเรื่อย ๆ จะมีจุดชมวิว มองไปด้านนึงเจอวิวแบบนี้
พอมองไปอีกด้าน มีหิมะเยอะกว่า สงสัยไม่ค่อยโดนแดดมั้งครับ 5555
ถ่ายรูปให้เจ้านายเสียหน่อย ^^
อากาศหนาวใช้ได้เลยครับ มีแม่คะนิ้งเกาะตามกิ่งไม้ริมทางตลอดทางเลย
เนื่องจากหุบเขาหวงหลงอยู่ค่อนข้างสูงจากระดับน้ำทะเลมากพอสมควร จุดท่องเที่ยวที่สูงที่สุดสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 3,500 เมตร (ดอยอินทนนท์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยยังแค่ 2,565 เมตรเอง หวงหลงนี่สูงกว่าดอยอินทนนท์ไม่มากไม่น้อย 1 กิโลเมตรเท่านั้นเอง โอ้วววววว!!!!!) เพราะฉะนั้นเวลาเดินก็ค่อย ๆ เดินเพื่อปรับตัวให้ร่างกายเคยชินกับอากาศที่เบาบางเสียก่อนก็ดีครับ
แต่หากเรารู้สึกหน้ามืด วิงเวียน หายใจไม่ทัน ระหว่างทาง จะมีออกซิเจนบาร์ไว้บริการครับ (สนนราคาจำไม่ได้ ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยครับ)
ระหว่างทางมองลงไปเห็นวัดอยู่ในหุบระหว่างทางเดินลงด้วย (ไม่แน่ใจว่านี่คือ Huanglong ancient temple หรือเปล่านะครับ)
วิวระหว่างทางเดินครับ โดยตั้งแต่เราออกจากเคเบิลคาร์มา เราต้องเดินตามทางไปประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อไปให้ถึงจุดชมวิวด้าบนสุด แล้วก็เดินลงอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตรไปที่ทางเข้านะครับ
ระหว่างทาง วิวสวยมากกกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัวจริง ๆ ครับ)
ในที่สุดเราก็มาถึงจุดชมวิวด้านบนแล้วครับ ^^
ที่บ่อนี้ จะมีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุด หลายมุมเลยนะครับ จุดแรก ๆ คนจะเยอะ ถ้าเดินเลย ๆ มาจะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ครับ
ฟ้าใส แดดจัด แต่ไม่ร้อนเลยครับ (แต่ก็ทำให้ไม่หนาวมากเช่นกันครับ ^^)
หลังจากนั้นเราก็เดินลงมาข้างล่าง ตามทางเดินที่เขาทำไว้ให้ ซึ่งระหว่างทางก็จะมีจุดท่องเที่ยว รวมถึงสระน้ำอีกหลายสระให้แวะถ่ายรูปได้ครับ
มุมมองจาก ancient temple มองย้อนกลับไปทางยอดเขา
ระหว่างทาง มีศาลาให้พักเป็นระยะ ๆ เราก็แวะพักทานขนมกัน พอหยิบขนมขึ้นมาดู ไหงมันพองงงงงโตขนาดนั้นล่ะเนี่ยยยย!!!! 55555
คนจีนเห็นเราเอาขนมขึ้นมาถ่ายรูปพอเขาเห็นถุงขนมเขายังหัวเราะกันเลย ^^
ระหว่างทาง ก็จะมีบ่อน้ำลดหลั่นกันเป็นระยะ ๆ ตลอดทางเดิน เล่นเอาเดินได้ไม่เบื่อเลยครับ
ไหน ๆ แล้ว ถ่ายรูปคู่กะเจ้านายเสียหน่อย ^^
เราก็เดินลงมาเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไร ปรากฎ มาถึงตรงทางเข้าที่นัดรถไว้ตอนสามโมงตรง เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ ก่อนจะถึงเวลานัด เลยว่าจะไปเดินเล่นที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวข้าง ๆ เผื่อหาขนมกินด้วย แต่ไปเดิน ๆ ดูแล้วไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ ดูแค่นิทรรศการชั้นล่าง ส่วนชั้นบน ๆ มีแต่ร้านค้าเป็นส่วนใหญ่ เลยเดินออกมาหารถดีกว่า
รูปนี้เป็นทางเข้าหวงหลงสำหรับคนที่จะเดินขึ้นนะครับ (แต่อย่าเดินขึ้นเลย ทางชันมากในบางช่วง แถมเราจะหมดแรงก่อนถึงข้างบน แล้วยังต้องเดินลงมาอีก ไปขึ้นเคเบิลคาร์ดีกว่าครับ)
มีต่อครับ --->