หวัดดี นี้เป็นกระทู้แรกผมเลยก็ว่าได้
สมัครพันทิปนี้ กว่าจะยืนยันตัวเองได้โง่มานาน
เอ่าเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า ผม เหรียญ แบงค์ ผมเป็นพ่อค้าแคคตัส แต่ส่วนมากลูกค้าชอบเรียกผมว่า ลุง เหรียญ เสียมากกว่า
เริ่มต้นไปๆ มาๆ ก่อนผมจะเข้าวงการนี้ ผมไม่รู้จะเรียนอะไรต่อหลังจบ ม.6 จนตัวเองเรียน จบ แต่ทางบ้านมีปัญหาเรื่องการเงิน และปัญหา หลายๆด้าน
ผมจึง ยอมหยุดเรียน และนี้คือ จุดเริ่ม ต้นผมเลยก็ว่าได้ ผมเห็นต้นแคคตัส ต้นที่ผมเก็บเงินซื้อตอนเด็ก จำได้ว่า ต้น 20 บาท ตามตลาดนัดทั่วไป และเริ่มเก็บเงินสะสม ซื้อแคคตัสมา เรื่อยๆ จึงเห็นว่าน่าจะขายได้ ผมจึง ยอม ทุบ กะปุก ได้มา 500 บาท และลงทุนซื้อแคคตัสเพิ่มอีก ที่กาด ค่ำเที่ยง
และหลังจากนั้นผมก็หาตลาดที่จะขาย และตลาดที่แรกที่ผมได้เข้าก็คือ ห้างเมญ่า ตอนผมไปตั้งขายผมมีแค่กล่อง สีชมพูเก็บของกระดาษไว้ห่อแคคตัสให้ลูกค้า และก็แคคตัส และก็ผ้าปุ สีขาว ภาหนะ ก็รถ มอเตอร์ไซค์ เก่าๆ สีดำ คัน 1
แล้วก็นั่งปุ วางแคคตัสขาย ตอนแรกผมคิดในใจว่า
ยังไงก็คงไม่มีคนซื้อหรอก
ทั่งห้าง
มีแต่ คน จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น คนไทยน้อยคน ก็พูดให้กำลังใจตังเองหน่อยวันแรกของการขาย ผลสรุปว่า วันแรกและครั้งแรกในชีวิตที่ได้มาเป้นพ่อค้าแคคตัสผม ผมได้เงินกลับบ้านวันนั้น 855 บาท โหวันแรก ผมนี้ดีใจเลยถึงมันจะได้นิดเดียว และผมก็เก็บของกับแคคตัส กลับบ้าน แต่ก็อย่างที่ พ่อผม เคยสอน ทางเดินไม่ได้โรยด้วยกลีบดอก กุหลาบ ตลอดเวลาหรอก ปัญหาที่ผมเจอ ก็ คือ ผมเอ่าต้นแคคตัส วางไว้ที่ท้ายซ้อนรถ และก็ใช้ยางมัดเอา ตอนแรกมาเต็ม กล่องไม่เป็นไร แต่พอขากลับถึงบ้าน เชี๊ยๆๆแม่เจ้า กูนี้อย่างจะร้องไห้เลย คือต้นแคคตัส หิน ดิน โอ้ไม่ๆๆ กระจายเต็มกล่อง ผมนี้ ก็มือสั่นเลยเลยพอเอาลงจากรถ แต่ก็ไม่เป็นไร กูก็ปลูกใหม่ และผมก็ปลูกใหม่ ปัญหานี้เป็นปัญหาในระยะแรกของผมเลยก็ว่าได้ ผมก็เลย แก้ปัญหาโดยการไป ซื้อดิน และ หินมา เพิ่ม แต่ก็อย่างที่บอกพอ วันที่สอง ก็ขายได้เยอะอยู่ขากลับก็ต้องเอามานั่งปลูกอยู่ดี และปัญหาที่สองตามมาคือ ต้นแคคตัส เริ่ม ชำรุดก็ว่าได้ โอ้ๆๆยิ่งเป็นคนรักต้นไม้ ด้วย วันนั้นก็นั่งร้องไห้ไป ปลูกไป โอๆเชี๊ย ถึงใครเข้าใจความรู้สึกนี้นะเหมือน คนอกหัก ถุ้ย ไม่เกี่ยว เอาเป็นว่าผม สงสาร ต้นแคคตัสก็หละกัน
และวันที่สามผมก็ไปขายอีก ครั้งที่สามนี้ก็ยังมือขึ้นอยู่พอ ขากลับ ผมก็เริ่มแก้ปัญหาด้วยการ เอากระดาษหนังสือพิมพ์ มาพันเป็นม้วนๆแล้วก็ยัดข้างๆแคคตัสที่เหลือไว้ จนเต็ม ผมสรุป กลับมาบ้านก็โอเครเลย มีล้ม ต้น 2-6 ต้น ก็โอเคร วันที่4 มีลูกค้าคนหนึ่งเริ่มมาถามผมว่ามีต้นนี้ไหม ผมนี้ก็หน้าซีดเลย เพราะตอนนั้นที่เราขนไปขายก็ต้นแค่ 25 บาทเล็ก แล้วจะเอาต้นใหญ่นี้กูจะเอามายังไงฟ๊ะ ผมก็ตอบลูกค้าไปว่า มีครับ นัดดูของ คนครึ่งทางก็ได้นะครับ
บวกกับพอดีต้นที่ผมมี เป็นต้นที่ปลูกตอน เรียนอยู่ และก็ตัดสินใจตัดใจขายไป ก็เลยนัดสถานที่ให้ลูกค้ามาดู ผลสรุปก็ซื้อไปครับ
อย่างว่าผมเป็นพ่อค้า มือใหม่หัดขับ เลยก็ว่าได้ ไม่รู้เรื่องราคาแคคตัส ต้น นั้น ต้นนี้ ผมก็เลยศึกษาตลาด และราคา ไปที่กาดค่ำเที่ยงที่เดิม และก็ทำให้ผมไปพบกับร้านนี้
จากใจพ่อค้าแคคตัส
เอ่าเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า ผม เหรียญ แบงค์ ผมเป็นพ่อค้าแคคตัส แต่ส่วนมากลูกค้าชอบเรียกผมว่า ลุง เหรียญ เสียมากกว่า
เริ่มต้นไปๆ มาๆ ก่อนผมจะเข้าวงการนี้ ผมไม่รู้จะเรียนอะไรต่อหลังจบ ม.6 จนตัวเองเรียน จบ แต่ทางบ้านมีปัญหาเรื่องการเงิน และปัญหา หลายๆด้าน
ผมจึง ยอมหยุดเรียน และนี้คือ จุดเริ่ม ต้นผมเลยก็ว่าได้ ผมเห็นต้นแคคตัส ต้นที่ผมเก็บเงินซื้อตอนเด็ก จำได้ว่า ต้น 20 บาท ตามตลาดนัดทั่วไป และเริ่มเก็บเงินสะสม ซื้อแคคตัสมา เรื่อยๆ จึงเห็นว่าน่าจะขายได้ ผมจึง ยอม ทุบ กะปุก ได้มา 500 บาท และลงทุนซื้อแคคตัสเพิ่มอีก ที่กาด ค่ำเที่ยง
และหลังจากนั้นผมก็หาตลาดที่จะขาย และตลาดที่แรกที่ผมได้เข้าก็คือ ห้างเมญ่า ตอนผมไปตั้งขายผมมีแค่กล่อง สีชมพูเก็บของกระดาษไว้ห่อแคคตัสให้ลูกค้า และก็แคคตัส และก็ผ้าปุ สีขาว ภาหนะ ก็รถ มอเตอร์ไซค์ เก่าๆ สีดำ คัน 1
แล้วก็นั่งปุ วางแคคตัสขาย ตอนแรกผมคิดในใจว่า ยังไงก็คงไม่มีคนซื้อหรอก ทั่งห้างมีแต่ คน จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น คนไทยน้อยคน ก็พูดให้กำลังใจตังเองหน่อยวันแรกของการขาย ผลสรุปว่า วันแรกและครั้งแรกในชีวิตที่ได้มาเป้นพ่อค้าแคคตัสผม ผมได้เงินกลับบ้านวันนั้น 855 บาท โหวันแรก ผมนี้ดีใจเลยถึงมันจะได้นิดเดียว และผมก็เก็บของกับแคคตัส กลับบ้าน แต่ก็อย่างที่ พ่อผม เคยสอน ทางเดินไม่ได้โรยด้วยกลีบดอก กุหลาบ ตลอดเวลาหรอก ปัญหาที่ผมเจอ ก็ คือ ผมเอ่าต้นแคคตัส วางไว้ที่ท้ายซ้อนรถ และก็ใช้ยางมัดเอา ตอนแรกมาเต็ม กล่องไม่เป็นไร แต่พอขากลับถึงบ้าน เชี๊ยๆๆแม่เจ้า กูนี้อย่างจะร้องไห้เลย คือต้นแคคตัส หิน ดิน โอ้ไม่ๆๆ กระจายเต็มกล่อง ผมนี้ ก็มือสั่นเลยเลยพอเอาลงจากรถ แต่ก็ไม่เป็นไร กูก็ปลูกใหม่ และผมก็ปลูกใหม่ ปัญหานี้เป็นปัญหาในระยะแรกของผมเลยก็ว่าได้ ผมก็เลย แก้ปัญหาโดยการไป ซื้อดิน และ หินมา เพิ่ม แต่ก็อย่างที่บอกพอ วันที่สอง ก็ขายได้เยอะอยู่ขากลับก็ต้องเอามานั่งปลูกอยู่ดี และปัญหาที่สองตามมาคือ ต้นแคคตัส เริ่ม ชำรุดก็ว่าได้ โอ้ๆๆยิ่งเป็นคนรักต้นไม้ ด้วย วันนั้นก็นั่งร้องไห้ไป ปลูกไป โอๆเชี๊ย ถึงใครเข้าใจความรู้สึกนี้นะเหมือน คนอกหัก ถุ้ย ไม่เกี่ยว เอาเป็นว่าผม สงสาร ต้นแคคตัสก็หละกัน
และวันที่สามผมก็ไปขายอีก ครั้งที่สามนี้ก็ยังมือขึ้นอยู่พอ ขากลับ ผมก็เริ่มแก้ปัญหาด้วยการ เอากระดาษหนังสือพิมพ์ มาพันเป็นม้วนๆแล้วก็ยัดข้างๆแคคตัสที่เหลือไว้ จนเต็ม ผมสรุป กลับมาบ้านก็โอเครเลย มีล้ม ต้น 2-6 ต้น ก็โอเคร วันที่4 มีลูกค้าคนหนึ่งเริ่มมาถามผมว่ามีต้นนี้ไหม ผมนี้ก็หน้าซีดเลย เพราะตอนนั้นที่เราขนไปขายก็ต้นแค่ 25 บาทเล็ก แล้วจะเอาต้นใหญ่นี้กูจะเอามายังไงฟ๊ะ ผมก็ตอบลูกค้าไปว่า มีครับ นัดดูของ คนครึ่งทางก็ได้นะครับ
บวกกับพอดีต้นที่ผมมี เป็นต้นที่ปลูกตอน เรียนอยู่ และก็ตัดสินใจตัดใจขายไป ก็เลยนัดสถานที่ให้ลูกค้ามาดู ผลสรุปก็ซื้อไปครับ
อย่างว่าผมเป็นพ่อค้า มือใหม่หัดขับ เลยก็ว่าได้ ไม่รู้เรื่องราคาแคคตัส ต้น นั้น ต้นนี้ ผมก็เลยศึกษาตลาด และราคา ไปที่กาดค่ำเที่ยงที่เดิม และก็ทำให้ผมไปพบกับร้านนี้