สวัสดีจ้าสาว ๆ หนุ่ม ๆ พี่ ป้า น้า อา น้อง นุ่ง ต่าง ๆ เรามีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ถ่ายภาพ ชมวิว เดินเล่น ปั่นจักรยาน นอนอ่านหนังสือ หรือจะยืนเฉย ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ ก็ได้ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มานำเสนอ แบ่ง ๆ กันดู แบ่ง ๆ กันชม กระจาย ๆ กันเที่ยวตามที่ต่าง ๆ สถานที่ท่องเที่ยวจะได้ไม่แออัดยัดเยียดเจ้าค่า
สถานที่นั้นก็คือ บ้านบึงบัว และ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ ทุ่งสามร้อยยอด เราจะขอนำเสนอบ้านบึงบัวในครึ่งแรก และครึ่งหลังจะเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาตินะจ๊ะ
การเดินทางครั้งนี้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวไปกับพี่อีกหนึ่งคน เริ่มต้นจากกรุงเทพ เส้นทางการเดินทางสามารถเปิด Google map ได้เลย ทางบ้านบึงบัวได้ให้ข้อมูลการเดินทางและพิกัดไว้ใน website ของที่พัก (พิกัด: 12.244398,99.932499 / Website:
http://www.baanbuangbua.com/index.php / Facebook:
https://www.facebook.com/Baanbuangbua/)
แต่สำหรับใครที่อยากเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ ก็สามารถนั่งรถตู้ กทม – ประจวบคีรีขันธ์ โดยบอกรถตู้ว่าขอลงตรงทางเข้าวัดสามร้อยยอด หรือศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว นัดแนะกับทางที่พักให้เรียบร้อย แล้วทางที่พักจะส่งรถมารับค่ะ หรือจะเดินทางโดยรถไฟก็ได้ ทางที่พักก็รับส่งแขกที่สถานีรถไฟได้เช่นกัน
เราเดินทางไปพักวันที่ 21-22 พ.ย. 2558 ช่วงที่ไปถนนแถวปราณบุรี สามร้อยยอด โซนนั้นกำลังก่อสร้างปรับปรุงทาง ไปแล้วหาทางเข้าไม่เจอจ้า ไม่ค่อยได้ขับรถท่องเที่ยว ทักษะการบุกป่าฝ่าดง ลุยถนนลูกรังลองผิดลองถูกมีน้อย โทรหาที่พักเลยดีกว่า ทางที่พักใจดีมากมาก ไม่มีอธิบายทางโทรศัพท์ให้ต้องมึนงง สงสัย อารมณ์เสียเพลียจิต บอกให้ไปหาจุดจอดรอที่ชัดเจน แล้วส่งรถมานำทางไปรีสอร์ทเลย คือแบบว่าเจ๋งมากมาก คือชอบสุดสุด ประทับใจสุดสุดตรงจุดเน้
ข้อมูลสำคัญสำหรับคนที่อยากไปพักผ่อนสไตล์กิจกรรมน้อย ๆ เน้นพักเป็นหลัก ก็คือ
- ใน 1 ปี บ้านบึงบัว เปิดให้เข้าพักเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น คือเดือน พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม และกุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูหนาวนั่นเอง เราจำไม่ได้หรอกกว่ารู้จักบ้านบึงบัวได้ยังไง รู้แค่ว่าเห็นภาพแล้วแบบ ฮึ้ยยย อยากไปมากมาก จองที่พักไว้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม กระตือรือร้นจริง ๆ เรื่องเที่ยว แต่เรื่องเรียนจริงจังขนาดนี้ไหม ก็ไม่นะ 5555555
- อ้อ แล้วก็บ้านบึงบัวไม่ใกล้ทะเลนะ แต่ถ้ามีรถจะไปไหนมันก็ได้ทั้งนั้นล่ะ
- แถว ๆ ที่พักไม่มีร้านค้า จะมีก็ร้านสวัสดิการในศูนย์ศึกษาธรรมชาติซึ่งเปิดปิดเป็นเวลา ถ้าเป็นคนหิวขนม นมเนย น้ำหวาน อะไรก็เตรียมไปให้พร้อมก็น่าจะดี เพราะเข้าไปถึงที่พักแล้วก็คงไม่อยากจะออกมาหาของให้วุ่นวาย
- และสืบเนื่องจากเข้าไปแล้วอาจจะขี้เกียจออกมา ดังนั้นก็อาจจะทานอาหารเย็นจากครัวของบ้านบึงบัวได้เลย แต่ว่าต้องแจ้งล่วงหน้านะคะ ทางที่พักจะได้เตรียมวัตถุดิบไว้รอ
- เนื่องจากสภาพโดยรอบที่พักเป็นธรรมชาติ ป่า เขา และหนองน้ำ ควรเตรียมโลชั่นกันยุงหรือสเปรย์ตะไคร้หอมกันยุงไปด้วยจะได้ท่องเที่ยวด้วยความฟิน ไม่ต้องกังวลเรื่องยุงกัด (เรื่องยุงเป็นเรื่องธรรมชาตินะคะ อยากใกล้ชิดธรรมชาติก็ต้องยอมรับว่ามันอาจจะมียุง เราก็ทำได้แค่เตรียมตัวให้พร้อม)
ม๊ะ มา มาดูภาพกันดีกว่า เอาบ้านบึงบัวก่อนนะจ๊ะ
กล้องที่เราใช้คือ Canon 600D เลนส์ Kit 18-55 ที่ติดมากับกล้อง ภาพตอนกลางคืนใช้ขาตั้งกล้อง ฝีมือโดยทั่วไปก็ถ่ายได้สวยบ้างไม่สวยบ้าง
[CR] บ้านบึงบัว ทุ่งสามร้อยยอด สถานที่จริงและภาพถ่ายสวยเหมือนกันเป๊ะ (ภาพ jpeg ส่งตรงจากกล้อง ไม่แต่งภาพ)
สถานที่นั้นก็คือ บ้านบึงบัว และ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ ทุ่งสามร้อยยอด เราจะขอนำเสนอบ้านบึงบัวในครึ่งแรก และครึ่งหลังจะเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาตินะจ๊ะ
การเดินทางครั้งนี้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวไปกับพี่อีกหนึ่งคน เริ่มต้นจากกรุงเทพ เส้นทางการเดินทางสามารถเปิด Google map ได้เลย ทางบ้านบึงบัวได้ให้ข้อมูลการเดินทางและพิกัดไว้ใน website ของที่พัก (พิกัด: 12.244398,99.932499 / Website: http://www.baanbuangbua.com/index.php / Facebook: https://www.facebook.com/Baanbuangbua/)
แต่สำหรับใครที่อยากเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ ก็สามารถนั่งรถตู้ กทม – ประจวบคีรีขันธ์ โดยบอกรถตู้ว่าขอลงตรงทางเข้าวัดสามร้อยยอด หรือศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว นัดแนะกับทางที่พักให้เรียบร้อย แล้วทางที่พักจะส่งรถมารับค่ะ หรือจะเดินทางโดยรถไฟก็ได้ ทางที่พักก็รับส่งแขกที่สถานีรถไฟได้เช่นกัน
เราเดินทางไปพักวันที่ 21-22 พ.ย. 2558 ช่วงที่ไปถนนแถวปราณบุรี สามร้อยยอด โซนนั้นกำลังก่อสร้างปรับปรุงทาง ไปแล้วหาทางเข้าไม่เจอจ้า ไม่ค่อยได้ขับรถท่องเที่ยว ทักษะการบุกป่าฝ่าดง ลุยถนนลูกรังลองผิดลองถูกมีน้อย โทรหาที่พักเลยดีกว่า ทางที่พักใจดีมากมาก ไม่มีอธิบายทางโทรศัพท์ให้ต้องมึนงง สงสัย อารมณ์เสียเพลียจิต บอกให้ไปหาจุดจอดรอที่ชัดเจน แล้วส่งรถมานำทางไปรีสอร์ทเลย คือแบบว่าเจ๋งมากมาก คือชอบสุดสุด ประทับใจสุดสุดตรงจุดเน้
ข้อมูลสำคัญสำหรับคนที่อยากไปพักผ่อนสไตล์กิจกรรมน้อย ๆ เน้นพักเป็นหลัก ก็คือ
- ใน 1 ปี บ้านบึงบัว เปิดให้เข้าพักเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น คือเดือน พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม และกุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูหนาวนั่นเอง เราจำไม่ได้หรอกกว่ารู้จักบ้านบึงบัวได้ยังไง รู้แค่ว่าเห็นภาพแล้วแบบ ฮึ้ยยย อยากไปมากมาก จองที่พักไว้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม กระตือรือร้นจริง ๆ เรื่องเที่ยว แต่เรื่องเรียนจริงจังขนาดนี้ไหม ก็ไม่นะ 5555555
- อ้อ แล้วก็บ้านบึงบัวไม่ใกล้ทะเลนะ แต่ถ้ามีรถจะไปไหนมันก็ได้ทั้งนั้นล่ะ
- แถว ๆ ที่พักไม่มีร้านค้า จะมีก็ร้านสวัสดิการในศูนย์ศึกษาธรรมชาติซึ่งเปิดปิดเป็นเวลา ถ้าเป็นคนหิวขนม นมเนย น้ำหวาน อะไรก็เตรียมไปให้พร้อมก็น่าจะดี เพราะเข้าไปถึงที่พักแล้วก็คงไม่อยากจะออกมาหาของให้วุ่นวาย
- และสืบเนื่องจากเข้าไปแล้วอาจจะขี้เกียจออกมา ดังนั้นก็อาจจะทานอาหารเย็นจากครัวของบ้านบึงบัวได้เลย แต่ว่าต้องแจ้งล่วงหน้านะคะ ทางที่พักจะได้เตรียมวัตถุดิบไว้รอ
- เนื่องจากสภาพโดยรอบที่พักเป็นธรรมชาติ ป่า เขา และหนองน้ำ ควรเตรียมโลชั่นกันยุงหรือสเปรย์ตะไคร้หอมกันยุงไปด้วยจะได้ท่องเที่ยวด้วยความฟิน ไม่ต้องกังวลเรื่องยุงกัด (เรื่องยุงเป็นเรื่องธรรมชาตินะคะ อยากใกล้ชิดธรรมชาติก็ต้องยอมรับว่ามันอาจจะมียุง เราก็ทำได้แค่เตรียมตัวให้พร้อม)
ม๊ะ มา มาดูภาพกันดีกว่า เอาบ้านบึงบัวก่อนนะจ๊ะ
กล้องที่เราใช้คือ Canon 600D เลนส์ Kit 18-55 ที่ติดมากับกล้อง ภาพตอนกลางคืนใช้ขาตั้งกล้อง ฝีมือโดยทั่วไปก็ถ่ายได้สวยบ้างไม่สวยบ้าง