“กรมหลวงประจักษ์สร้างเมือง ลือเลื่องแหล่งธรรมะ
อารยธรรมห้าพันปี ธานีผ้าหมี่ขิด
ธรรมชาติเนรมิตทะเลบัวแดง”
“หนองหาน” อาจเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยคุ้นหูนักสำหรับใครหลายๆ คน แต่ถ้าพูดถึง “ทะเลบัวแดง” เชื่อว่าหลายคน ต้องร้อง ‘อ๋อ’ ขึ้นมาทันที. แล้วที่นี่หนองหานมีอะไร? ทำไม
คนเขาถึงไปที่นั้น แต่ถ้าใครยังไม่รู้ตามผมไปซิครับแล้วคุณจะได้รู้ความจริง.......ไปกันเลยยยยย
“หนองหาน” เป็นชื่อเรียกของบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ (มีเนื้อที่ประมาณ 22,500 ไร่ หรือ 36 ตารางกิโลเมตร มีความยาวของคันดินรอบหนองหานยาวถึง 80 กิโลเมตร อยู่ในเขตอำเภอกุมภวาปีเป็นส่วนใหญ่) ครอบคลุม 3 อำเภอได้แก่ อำเภอกุมภวาปี อำเภอประจักษ์ศิลปาคม อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่และแปลกที่สุดในโลก โดยบึงหนองหานถือเป็นบึงน้ำจืดที่มีความหลากหลายทางด้านระบบนิเวศน์ ภายในบึงประกอบไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์นก และพันธุ์ปลา หลากหลายชนิด ซึ่งพันธุ์ไม้น้ำที่โดดเด่นของบึงหนองหานก็คือ “บัวสาย” หรือ “บัวแดง” ที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนหนองหานในทุกฤดูหนาว
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธรรมชาติที่นี่ได้เนรมิตให้เกิดท้องทุ่งบัวแดงอันสุดอลังการขึ้น ซึ่งดอกบัวที่นี่จะพร้อมใจกันผลิดอกเป็นจำนวนมหาศาลกินพื้นที่ราวครึ่งหนึ่ง ของหนองหาน(หมื่นกว่าไร่) จึงทำให้กลายเป็นแหล่งชมทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติ และเป็นที่รู้จักในชื่อของ “ทะเลบัวแดง”
โดยวันนี้ผมได้ตื่นแต่เช้าเพื่อออกเดินทางไปยัง “ทะเลบัวแดง” ซึ่ง อยู่ห่างจากตัวเมืองอุดรฯ มาประมาณ 34 กิโลเมตร มาเมื่อมาถึงจุดหมายก็ตรงไปยังจุดลงเรือเพื่อจะไปให้ทันเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้น เรือที่นี่จะมี 2 แบบน่ะครับเป็นเรือท้องแบนจะนั่งได้ 2คน และเรือยนต์นั่งได้ประมาณ 4 - 6 คน ในช่วงแรกเรือจะค่อยๆ แล่นมาเรื่อยๆ จนมาถึงทุ่งดอกบัว และภาพแห่งความประทับใจที่เห็นภาพแรกคือแสงอาทิตย์ค่อยๆ สาดส่องมากระทบพื้นน้ำ แต่โชคก้อไม่เข้าข้างผมเพราะหมอกลงจัดมาก แต่ผมก้อไม่ลดความพยายาม บอกให้ลุงขับเรือไปอีกด้านหนึ่งของบึงถ้าจำไม่ผิดจะมีวัดกลางน้ำด้วย ฝั่งด้านนี้ดอกบัวมากกว่ากันสักเล็กน้อย เราไม่รอช้ารีบหยิบกล้องมาเก็บภาพกันอย่างมันมือ
หลังจากเก็บภาพจนหนำใจแล้ว นั่งวนกลับมาที่เดิมเมื่อมองไปยังเบื้องหน้าก็จะเห็นดอกบัวสีชมพูผลิบานไปจนไกลสุดสายตา เหมือนกับว่าพื้นน้ำนั้นเต็มไปด้วยสีชมพูทั่วทั้งบึง หากเรือแล่นเข้าไปใกล้ๆ บัว ก็จะเห็นดอกบัวสีชมพูทั้งขึ้นตรงบ้าง งอบ้าง สะท้อนพื้นน้ำให้เห็นกันอย่างละลานตา
ในระยะเวลากว่า 4 ชั่วโมงที่เรือแล่นไปเรื่อยๆ ผมก็ชมดอกบัวไป พร้อมเก็บภาพไปอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งภาพที่เห็นเบื้องหน้านั้นทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า ไม่น่าเชื่อที่จะมีบึงบัวขนาดใหญ่ขนาดนี้ และมีดอกบัวที่บานได้เยอะขนาดนี้ ถึงขั้นมองไปจนสุดสายตาก็ไม่สามารถเห็นได้เลยว่ามันไปสิ้นสุดอยู่ตรงไหน มีแต่เพียงภาพสีชมพูเบื้องหน้าที่มันแพรวพราวให้เห็นอย่างสวยงามจับใจจริงๆ
ซึ่งที่นี่นอกจากจะมีดอกบัวสายที่พราวชมพูให้เห็นกันอย่างไม่เบื่อ แล้ว ยังมีนกนานาชนิด ที่บินวนไปวนมาให้เห็นกันอีกด้วย อย่างในวันที่เราไป ในช่วงสายๆ ระหว่างที่เรือกำลังแล่นกลับ ก็หันไปเห็นภาพฝูงนกฝูงใหญ่ บินวนไปวนมาอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปหาอาหารตามแหล่งบัว ช่างเป็นภาพที่ธรรมชาติที่สวยงาม และอุดมสมบูรณ์มากๆ
สำหรับใครที่อยากมาเห็นทะเลบัวแดงสวยๆ ด้วยตาตัวเองคงต้องรีบกันสักหน่อย เนื่องจาก “ทะเลบัวแดง” หนองหานนี้ จะบานให้เห็นกันตั้งแต่ต้นพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้เท่านั้น
หลังจากนั้นบัวจะเฉาเองเป็นไปตามธรรมชาติครับ....
หลักจากอิ่มเอมกับธรรมชาติตรงหน้าแล้วเหลือบมองดูนาฬิกาไกล้จะเที่ยงแล้ว ผมต้องขึ้นไปหาอะไรกินสักหน่อยช่วงบ่ายค่อยกลับ...
การเดินทางมาทะเลบัวแดง
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
ทะเลบัวแดง ห่างจากจังหวัดอุดรธานี ประมาณ 45 ก.ม. จากเมืองอุดรธานีใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี-กุมภวาปี) ถึงกิโลเมตรที่ 26 เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางห้วยสามพาด-อำเภอประจักษ์ศิลปาคม ประมาณ 18 กิโลเมตร นอกจากทะเลบัวแดงแล้วที่ อำเภอกุมภวาปี
2. รถโดยสารประจำทาง
รถทัวร์กรุงเทพ – อุดรธานี แล้วไปลงที่อำเภอกุมภวาปี หลังจากนั้นก็เหมารถสองแถวในอำเภอมาเที่ยวเทศกาลดอกบัวแดง ส่วนผมมารถประจำทางครับ สะดวก สบายครับ...
หลังจากเต็มกับความสวยงามในระดับหนึ่งก้อได้เวลากลับเหมาสามล้อเครื่องกับมาที่กุมภวาปี ต่อด้วยรถทัวส์ถึงกทม การออกทิปครั้งนี้ของผมเป็นที่น่าประทับใจเป็นยิ่งนัก
ปล.
อย่าลืมน่ะครับว่า
ธรรมชาติรังสรรค์สิ่งที่สวยงามมาให้มนุษย์ แต่ธรรมชาติก้อถูกมนุษย์ทำลายด้วยเช่นกัน ธรรมชาติควรที่จะอยู่กับธรรมชาติและคงรักษาไว้ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ชมกับความงามของธรรมชาติ
ติดตามเราได้ที่นี่
https://www.facebook.com/tamroitawanclub?ref=hl
https://twitter.com/Prajak_Phomnil
[CR][SR] หนองหาน..
อารยธรรมห้าพันปี ธานีผ้าหมี่ขิด
ธรรมชาติเนรมิตทะเลบัวแดง”
คนเขาถึงไปที่นั้น แต่ถ้าใครยังไม่รู้ตามผมไปซิครับแล้วคุณจะได้รู้ความจริง.......ไปกันเลยยยยย
ในระยะเวลากว่า 4 ชั่วโมงที่เรือแล่นไปเรื่อยๆ ผมก็ชมดอกบัวไป พร้อมเก็บภาพไปอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งภาพที่เห็นเบื้องหน้านั้นทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า ไม่น่าเชื่อที่จะมีบึงบัวขนาดใหญ่ขนาดนี้ และมีดอกบัวที่บานได้เยอะขนาดนี้ ถึงขั้นมองไปจนสุดสายตาก็ไม่สามารถเห็นได้เลยว่ามันไปสิ้นสุดอยู่ตรงไหน มีแต่เพียงภาพสีชมพูเบื้องหน้าที่มันแพรวพราวให้เห็นอย่างสวยงามจับใจจริงๆ
ซึ่งที่นี่นอกจากจะมีดอกบัวสายที่พราวชมพูให้เห็นกันอย่างไม่เบื่อ แล้ว ยังมีนกนานาชนิด ที่บินวนไปวนมาให้เห็นกันอีกด้วย อย่างในวันที่เราไป ในช่วงสายๆ ระหว่างที่เรือกำลังแล่นกลับ ก็หันไปเห็นภาพฝูงนกฝูงใหญ่ บินวนไปวนมาอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปหาอาหารตามแหล่งบัว ช่างเป็นภาพที่ธรรมชาติที่สวยงาม และอุดมสมบูรณ์มากๆ
สำหรับใครที่อยากมาเห็นทะเลบัวแดงสวยๆ ด้วยตาตัวเองคงต้องรีบกันสักหน่อย เนื่องจาก “ทะเลบัวแดง” หนองหานนี้ จะบานให้เห็นกันตั้งแต่ต้นพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้เท่านั้น
หลังจากนั้นบัวจะเฉาเองเป็นไปตามธรรมชาติครับ....
หลักจากอิ่มเอมกับธรรมชาติตรงหน้าแล้วเหลือบมองดูนาฬิกาไกล้จะเที่ยงแล้ว ผมต้องขึ้นไปหาอะไรกินสักหน่อยช่วงบ่ายค่อยกลับ...
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
ทะเลบัวแดง ห่างจากจังหวัดอุดรธานี ประมาณ 45 ก.ม. จากเมืองอุดรธานีใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี-กุมภวาปี) ถึงกิโลเมตรที่ 26 เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางห้วยสามพาด-อำเภอประจักษ์ศิลปาคม ประมาณ 18 กิโลเมตร นอกจากทะเลบัวแดงแล้วที่ อำเภอกุมภวาปี
2. รถโดยสารประจำทาง
รถทัวร์กรุงเทพ – อุดรธานี แล้วไปลงที่อำเภอกุมภวาปี หลังจากนั้นก็เหมารถสองแถวในอำเภอมาเที่ยวเทศกาลดอกบัวแดง ส่วนผมมารถประจำทางครับ สะดวก สบายครับ...
ปล.
อย่าลืมน่ะครับว่า
ธรรมชาติรังสรรค์สิ่งที่สวยงามมาให้มนุษย์ แต่ธรรมชาติก้อถูกมนุษย์ทำลายด้วยเช่นกัน ธรรมชาติควรที่จะอยู่กับธรรมชาติและคงรักษาไว้ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ชมกับความงามของธรรมชาติ
ติดตามเราได้ที่นี่
https://www.facebook.com/tamroitawanclub?ref=hl
https://twitter.com/Prajak_Phomnil
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น