รีวิวนี้บอกก่อนว่าไม่นึกไม่ฝันว่าวันนึงผมจะซื้อรถพับมาขี่เพราะที่ผ่านๆมาไม่เคยเจอรถพับที่ถูกใจในราคาที่ใช่เลย
จนได้มาเจอภาพ FSIR ในเวปแล้วเกิดปิ๊งขึ้นมา และช่วงนั้นดันมีงานจักรยาน a day พอดีก็เลยไปส่องตัวจริงครับ
ตอนไปเจอตัวจริงนี่ยิ่งชอบ พอกลับมาผมก็ขออนุมัติถอยจักรยานคันใหม่กับแฟน จากราคาค่าตัวไม่เกิน 18,000 บาท
ทำให้ได้รับอนุมัติง่ายมาก อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ
แทแด๊นนนนนนน
โจทย์ที่ผมใช้เลือกรถพับรุ่นนี้มาใช้งาน
- จุดพับแลดูแข็งแรงไม่ง้อกแง้ก
- หน้าตาหล่อ แถมสีดำดูดีดุดันด๊วบๆๆเด้งดีด้วย
- เน้นใช้งานแบบไม่พับแต่พับได้เมื่อยามจำเป็น (ยางแตก ยางรั่ว พับขึ้นแท๊กซี่โลด)
- จากข้อด้านบนเพราะผมตั้งใจจะใช้มันขี่ไปทำงานในทางที่ไม่กว้างนักต้องการความคล่องตัว
น.น.เบายกง่าย และถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็ต้องยกขึ้นแท๊กซี่ได้ทันที ซึ่งจักรยานคันปกติแท๊กซี่มักไม่รับ
และผมคงไม่นั่งปะยางให้เหงื่อท่วมเล่นก่อนถึงที่ทำงานแน่ๆครับ
- รถเดิมๆต้องมีประสิทธิภาพที่ดีใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมเพราะผมตั้งใจจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นจะขี่เดิมๆ
เริ่มจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน
การเดินทางไปทำงานผมคงความเร็วไว้ไม่เกิน 15-16 (ปั่นอยู่ราว 12-14) เพื่อที่เหงื่อจะได้ไม่ออก
และด้วยระยะทางเฉียด 10 ก.ม.ผมจะใช้เวลาไปราว 1 ช.ม.ซึ่งถือว่าได้ออกกำลังกายนิดๆในช่วงเช้า
ด้วยน.น.จักรยานที่เบาทำให้ผมยกข้ามทุกสะพานไปมาได้สะดวกมาก
และล้อ 20" ของมันให้ความคล่องตัวกว่าเสือหมอบของผมเยอะเลย
เรามาดูด้านซ้าย
ด้านขวา
ตอนปั่นไปทำงานผมจะใช้บันไดธรรมดาเพราะผมใส่ชุดทำงานปั่นไปเลย
ไปถึงที่ทำงานคือจอดแปะแล้วพร้อมทำงานไม่มีการเปลี่ยนชุดใดๆทั้งสิ้น
...อุปกรณ์ไฟหน้า,ไฟท้าย,กระติก,บันไดคลีท ผมหาเอาแถวๆนี้
เหมือนมีใครบ่น...
ผมจัดไมล์รุ่น Padrone มาติดเพราะจอใหญ่ ใช้งานง่าย ผมไว้ดูแค่ความเร็วไม่ให้ปั่นเกิน 15
กับดูระยะทางรวมและนาฬิกาแค่นั้น แอบติดใจในความใหญ่และใช้งานง่ายของมันเหมือนกัน
ไฟหน้า ไฟท้ายผมใช้แค่นี้เหลือๆ เพราะทางที่ผ่านไม่ได้มืดสนิท มีคาดกระเป๋าที่มีแถบสะท้อนแสงใหญ่ๆ
อีกใบเพื่อเพิ่มความปลอดภัยครับ บันไดก็มีทับทิมสะท้อนแสงด้วย
ที่แฮนด์จะไม่มีสเตม แต่ด้วยองศาของตะเกียบหน้าทำให้หน้าไวน้อยลงครับ (แต่ก็ถือว่ายังไวอยู่นะ)
และจะมีที่ปลดไวไว้ปรับองศาของแฮนด์ครับ จริงๆผมว่าไว้ปรับองศาของมือเบรคแบบรวดเร็วนั่นแหละครับ
เพราะแฮนด์มันเกือบจะตรง หมุนไปหมุนมาแทบไม่มีอะไร ของผมจะปรับกดลงเยอะหน่อยเพราะตัวสูง
ถ้าเผื่อมีคนตัวเตี้ยจะยืมรถไปขี่ก็แค่ปรับองศาแฮนด์ให้มือเบรคพอดีกับองศาของมือ ...ประมาณนั้นครับ
มือเบรคของ Promax ใช้งานได้ระดับโอเค หน้าตาดูดี ที่อยู่ติดกันคือชิพเตอร์ของ Sram ไม่ระบุว่ารุ่นอะไร
แต่หน้าตาเหมือนรุ่น X5 เด๊ะ
มีก้านกดสองอันก้านหน้าใช้นิ้วชี้เกี่ยวไม่ได้ต้องใช้นิ้วโป้งกด ฟีลลิ่งกดแป๊กๆแรงๆแน่นๆ
ก้านที่ใช้ดันขึ้นจานใหญ่กดแล้วหนึบๆไม่นุ่มแบบ Shimano แต่ก้านที่ใช้ลงเฟืองเล็กมันส์มาก
แป๊กๆๆๆๆ
ระบบพับคอรถ ตัวที่เป็นห่วงกลมๆคือตัวปลดไว ส่วนห่วงที่มีขีดๆคือแหวนไว้เหน็บก้านตัวปลดไวไม่ให้มันสั่น
ถือว่าเก็บรายละเอียดมาดี ปลายห่วงปลดไวมียางหุ้มด้วยไม่ต้องกลัวว่าตอนใช้งานปลายมันจะไปโดนสีถลอก
กลมๆขาวๆตรงตะเกียบซ้ายคือแผ่นยางครับเวลาพับคอลงมามันจะมาแปะตรงจุดนี้พอดี
หมดกังวลว่าจะเป็นรอยถลอกตอนพับคอ
เบรคหน้า Promax เบรคดังฟืดฟาด เอี๊ยดอ๊าดพอประมาณ ผมเลียเบรคใช้แทนกระดิ่งให้คนรู้ตัวตอนผมเข้าใกล้
ถ้าตังค์เหลือๆในอนาคตอาจจะหาเบรคที่ดีและเนียนกว่านี้มาเปลี่ยน
นี่!!เป็นยังไง Chinese Wisdom โชว์กันจะๆไปเลยว่ารถจีน 55+
แต่มันเป็นรถจีนที่ผมภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของนะเพราะงานมันสวยเลย รูปทรงเท่และขี่ดี
ตัวปลดเร็วที่ดุมหน้า-หลัง ทรงสวยแต่ต้องระวังให้มากเพราะมันแหลม เกิดล้มขึ้นมาอาจโดนทิ่มได้
ตัวปลดหลังตอนแรกผมจะหันลงไปหลบใต้หางหลังแต่ทำไม่ได้เพราะใช้กับสแตนด์แบบจิกดุมแล้วมันไหลออก
เลยต้องหันขึ้นบนแบบนี้
ก้ามเบรคหลัง Promax ซ่อนอยู่ใต้หางหลัง
ขาจานสวยงาม ดูก็รู้ว่าพยายามรีดน้ำหนักเต็มที่ ปลายขาจานฝั่งขวาจะใส่ยางขาจานมาด้วย
ไว้กันมันไปโดนเฟรมเป็นรอยตอนเราพับรถครับ
ตีนผี Sram S500 RD (มันเขียนว่างั้น) แต่หน้าตานี่เหมือนรุ่น X5 เป๊ะ (หรือว่ามันคือตัวเดียวกันใครรู้บ้างเอ่ย)
ภาพนี้พึ่งสังเกตเฟืองดำซะแระพึ่งขี่ได้อาทิตย์เดียว เดี๋ยวคงต้องถอดโซ่ล้างแล้วหยอดน้ำยาโซ่แบบ Wax แทน
เวลายกจักรยานเผื่อโดนขากางเกงจะได้ไม่เลอะง่ายๆ
ดูความประณีตของรอยเชื่อมและความงามของชิ้นส่วนต่างๆครับ
เบาะนุ่มเว่อร์ นุ่มแบบเฟิร์มๆ ขี่ไปทำงานชั่วโมงนึงใส่กางเกงยีนส์กับกางเกงในธรรมดา
ไม่รู้สึกปวดหรือเมื่อยอะไรเลยเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมาก
แต่อย่าเอาไปใช้ซอยขายิกๆก็พอขาหนีบแดงแน่เพราะปลายเบาะมันกว้างครับ
(ถ้าจะเอาไปซอยยิกๆแนะนำว่าควรใส่กางเกงจักรยาน)
ยางติดรถไซส์ 20 x 1.75
หลักอานบอกระยะดึง ของผมสูง 180 อินซีมไม่ลบอะไรเลยอยู่ที่ 88.5 ถ้าดึงให้ถูกตามหลักต้องมาอยู่ที่เลข 1 ครับ
แต่ผมใช้เดินทางฟรุ้งฟริ้งเลยดึงขึ้นแค่เลข 3 เพื่อให้ปลายเท้าแปะพื้นเยอะหน่อยครับ ขี้เกียจโดดคร่อมรถตอนจอด อิอิ
พร้อมจะทดสอบประสิทธิภาพแบบไม่ฟรุ้งฟริ้งแล้ว
...อุ้ย!! คุณน้องที่ไหนกำลังเซลฟี่ล่ะนั่น
จะทดสอบฝีมือรีทัชผมใช่มั้ยคุณน้อง!! จัดไปเสกให้หายไปจากภาพภายใน 5 นาที
ผลการทดสอบแบบไม่มีฮาร์ทเรทติดรถเลยไม่กล้าใส่หนักมาก และนอนดึกมาจากเมื่อคืนด้วย
ความเร็วเดินทางผมว่าอยู่ที่ 21-24 กำลังสวย ไม่เหนื่อยไปได้เรื่อยๆ แต่ต้นไม่มาปลายไม่ไหล
เพราะท่านั่งครับมันต้านลมเหลือเกิน พอผมลองหมอบให้ต่ำประมาณท่าจับฮู๊ดของหมอบ
ความเร็วไปนู่นเลยครับ 27-30 แต่ด้วยระยะเอื้อมมันสั้นมากผมเลยก้มตัวนานๆไม่ไหว เมื่อยมาก
ใครอยากได้ไปซิ่งแนะนำหาแฮนด์บูลฮอร์นมาใส่เพื่อให้ระยะเอื้อมไกลขึ้นจะได้ก้มสะดวกครับ
ถัดจากเรื่องความเร็วเป็นเรื่องของความนุ่ม รถคันนี้นุ่มเลยครับ ด้วยยางหน้ากว้าง
ด้วยหลักอานที่ให้ตัวได้นิดๆ ด้วยเบาะหนาๆ ด้วยปลอกแฮนด์ที่เป็นโฟมนุ่มๆ ทำให้มันวิ่งได้สมู๊ทมาก
ไม่ทรมานร่างกายตอนขี่บนถนนปูนเหมือนเสือหมอบ ฟีลหลักอานคล้ายๆ Domane 2.0 ที่ผมเคยขี่
แต่ Domane 2.0 โยกได้เยอะกว่ามาก ถึงอย่างนั้น FSIR 5.0 ก็ยังนุ่มกว่าเยอะครับ
(ผมว่ามันนุ่มจากสิ่งที่ผมว่าไว้ข้างบนนั่นแหละ)
เรื่องเสียงแปลกปลอม ผมเจอเสียงลั่นดังเปรี๊ยะๆเลยครับตอนขี่วันนี้ (ก่อนนี้ไม่เจอ)
ผมขี่ต่อฟังเสียงไปเรื่อยๆจนสรุปได้ว่าน่าจะหลักอาน ผมถอดหลักอานออกมาเช็ดๆ
แล้วหมุนให้ตัวปลดไวหลักอานทั้ง 2 ตัวมันแน่นขึ้น ลองขี่อีกทีเสียงหายไปเลย
ไม่มีเสียงอะไรมากวนใจอีก เพราะงั้นหมดกังวลเรื่องเสียงได้เลยครับ
เรื่องความเนี๊ยบและความแน่นหนาของงาน ผมถือว่ารถทำมาดีมากนะ เพราะคันนี้ผมขี่รูดเนินลูกระนาด
ไม่ได้ปั่นอัดใส่นะครับแต่ไม่เบรคใช้แค่ฟรีขาชะลอความเร็ว ตัวรถก็ยังแน่นดีไม่ง้อกแง้กแบบที่คิด
ตัวเฟรมสีดำด้านนี้จะเป็นสีกึ่งมันกึ่งด้าน ตัวผิวของสีดูจะมีความทนทานกว่าสีเงาธรรมดา
เพราะรองเท้าผมไปถูโดนเฟรมหลายทีตอนจะลงรถ แต่ยังไม่เจอรอยถลอกแม้แต่รอยขนแมวก็ไม่เจอ
ส่วนเรื่องงานเชื่อมนี่สุดติ่งครับสวยงามมากยอมรับเลย และมีการใส่ใจในรายละเอียดจุดต่างๆของรถ
ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจในการทำรถรุ่นนี้ออกมาครับ
อุปกรณ์ต่างๆที่ติดมากับรถผมถือว่าดีสมกับราคารถระดับนี้
ยกเว้นที่ผมไม่ชอบอยู่ 2 อย่าง คือ... ยางลายไม่ถูกใจ กับเบรคดูงานไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
นอกนั้นแหล่มเลย ดุมล้อหน้านี่ก็ลื่นมาก ชิพเตอร์กับตีนผีทำงานได้ดีเชื่อใจมันได้เลย
สรุป FSIR เป็นรถพับที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีครับ การพับก็ไม่ได้ช้าอะไร ถ้าคล่องแล้วผมว่า 20 วินาทีนี่เหลือๆ
แม้จะพับแล้วไม่ค่อยเล็กเท่าไหร่แต่แลกมาด้วยจุดพับที่แข็งแรงและทรงรถที่สวยงาม ผมถือว่าคุ้ม
การใช้งานแน่นหนา นุ่ม ลื่น คล่องตัวมาก น.น.ที่เบาทำให้ยกง่าย รถตอนกางแล้ว
ถ้าเรายกตรงด้านบนช่องสี่เหลี่ยมกลางเฟรมจะได้สมดุลที่ดีหยิบยกสะดวกครับ แบกขึ้นสะพานลอยง่ายๆเลย
จุดยึดกระติกบนท่อหลักของเฟรมใช้งานได้จริงและสะดวกครับ
ตอนแรกผมเกือบจะไม่ซื้อแล้วเพราะร้านไหนๆก็ไม่มีของ มีของก็ไม่มีสีที่ผมต้องการ (วัยทำงานใจร้อน 55+)
ในขณะที่ผมกำลังจะหมดหวังก็ได้ลองเสิร์จกุกเกิลเป็นครั้งสุดท้าย ก็ได้เจอร้านนึงที่พึ่งจะอัพภาพในเพจไปไม่กี่ช.ม.
ซึ่งในภาพเป็นรุ่นและสีที่ผมต้องการ เลยโทรไปสอบถาม ปรากฏว่าไม่มีหน้าร้าน (ปกติผมไม่ซื้อของทางไปรษณีย์)
เลยกำลังจะถอดใจไม่เอาแระเพราะคิดว่าเขาจะส่งของทางไปรษณีย์ แต่เดี๋ยวก่อนพ่อค้าบอกว่าส่งฟรีถึงบ้านนะคร้าบบบบ
และราคาถูกกว่าที่อื่น 300 ด้วย (เชร้ดดดดด) จะรอไรล่ะครับผมนี่รีบสั่งเลย พ่อค้าใจดีมาส่งให้ในค่ำวันนั้น
มาพร้อมอธิบายส่วนต่างๆของตัวรถ และสาธิตวิธีพับให้ดู อื้มมมมมเลิศมากบริการประทับใจยิ่งกว่า
ตอนผมซื้อจักรยานคันละเกินครึ่งแสนอีก (จักรยานคันละหมื่นกว่าถึงสามหมื่นนี่เลิกพูดซื้อเสร็จเหมือนคนขายอยากจะบอกว่า
มุงจะไปไหนก็รีบไป T^T)
ยังไงใครสนใจลองดูตามลิ้งค์นี้ครับ FSIR 5.0 พร้อมส่งถึงบ้าน
พ่อค้าบริการดีคอนเฟิร์มครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/jasminebike/?fref=ts
ขอจบการโม้แต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับพ้ม
Edit : เพิ่มภาพตอนพับให้ครับ ขอบคุณภาพจาก FSIRBIKE.COM ครับ
[CR] REVIEW รถพับ FSIR 5.0 ล้อ 20" กับน.น.พร้อมวิ่งแค่ 9 ก.ก.กว่า!!
จนได้มาเจอภาพ FSIR ในเวปแล้วเกิดปิ๊งขึ้นมา และช่วงนั้นดันมีงานจักรยาน a day พอดีก็เลยไปส่องตัวจริงครับ
ตอนไปเจอตัวจริงนี่ยิ่งชอบ พอกลับมาผมก็ขออนุมัติถอยจักรยานคันใหม่กับแฟน จากราคาค่าตัวไม่เกิน 18,000 บาท
ทำให้ได้รับอนุมัติง่ายมาก อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ
แทแด๊นนนนนนน
โจทย์ที่ผมใช้เลือกรถพับรุ่นนี้มาใช้งาน
- จุดพับแลดูแข็งแรงไม่ง้อกแง้ก
- หน้าตาหล่อ แถมสีดำดูดีดุดันด๊วบๆๆเด้งดีด้วย
- เน้นใช้งานแบบไม่พับแต่พับได้เมื่อยามจำเป็น (ยางแตก ยางรั่ว พับขึ้นแท๊กซี่โลด)
- จากข้อด้านบนเพราะผมตั้งใจจะใช้มันขี่ไปทำงานในทางที่ไม่กว้างนักต้องการความคล่องตัว
น.น.เบายกง่าย และถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็ต้องยกขึ้นแท๊กซี่ได้ทันที ซึ่งจักรยานคันปกติแท๊กซี่มักไม่รับ
และผมคงไม่นั่งปะยางให้เหงื่อท่วมเล่นก่อนถึงที่ทำงานแน่ๆครับ
- รถเดิมๆต้องมีประสิทธิภาพที่ดีใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมเพราะผมตั้งใจจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นจะขี่เดิมๆ
เริ่มจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน
การเดินทางไปทำงานผมคงความเร็วไว้ไม่เกิน 15-16 (ปั่นอยู่ราว 12-14) เพื่อที่เหงื่อจะได้ไม่ออก
และด้วยระยะทางเฉียด 10 ก.ม.ผมจะใช้เวลาไปราว 1 ช.ม.ซึ่งถือว่าได้ออกกำลังกายนิดๆในช่วงเช้า
ด้วยน.น.จักรยานที่เบาทำให้ผมยกข้ามทุกสะพานไปมาได้สะดวกมาก
และล้อ 20" ของมันให้ความคล่องตัวกว่าเสือหมอบของผมเยอะเลย
เรามาดูด้านซ้าย
ด้านขวา
ตอนปั่นไปทำงานผมจะใช้บันไดธรรมดาเพราะผมใส่ชุดทำงานปั่นไปเลย
ไปถึงที่ทำงานคือจอดแปะแล้วพร้อมทำงานไม่มีการเปลี่ยนชุดใดๆทั้งสิ้น
...อุปกรณ์ไฟหน้า,ไฟท้าย,กระติก,บันไดคลีท ผมหาเอาแถวๆนี้
เหมือนมีใครบ่น...
ผมจัดไมล์รุ่น Padrone มาติดเพราะจอใหญ่ ใช้งานง่าย ผมไว้ดูแค่ความเร็วไม่ให้ปั่นเกิน 15
กับดูระยะทางรวมและนาฬิกาแค่นั้น แอบติดใจในความใหญ่และใช้งานง่ายของมันเหมือนกัน
ไฟหน้า ไฟท้ายผมใช้แค่นี้เหลือๆ เพราะทางที่ผ่านไม่ได้มืดสนิท มีคาดกระเป๋าที่มีแถบสะท้อนแสงใหญ่ๆ
อีกใบเพื่อเพิ่มความปลอดภัยครับ บันไดก็มีทับทิมสะท้อนแสงด้วย
ที่แฮนด์จะไม่มีสเตม แต่ด้วยองศาของตะเกียบหน้าทำให้หน้าไวน้อยลงครับ (แต่ก็ถือว่ายังไวอยู่นะ)
และจะมีที่ปลดไวไว้ปรับองศาของแฮนด์ครับ จริงๆผมว่าไว้ปรับองศาของมือเบรคแบบรวดเร็วนั่นแหละครับ
เพราะแฮนด์มันเกือบจะตรง หมุนไปหมุนมาแทบไม่มีอะไร ของผมจะปรับกดลงเยอะหน่อยเพราะตัวสูง
ถ้าเผื่อมีคนตัวเตี้ยจะยืมรถไปขี่ก็แค่ปรับองศาแฮนด์ให้มือเบรคพอดีกับองศาของมือ ...ประมาณนั้นครับ
มือเบรคของ Promax ใช้งานได้ระดับโอเค หน้าตาดูดี ที่อยู่ติดกันคือชิพเตอร์ของ Sram ไม่ระบุว่ารุ่นอะไร
แต่หน้าตาเหมือนรุ่น X5 เด๊ะ
มีก้านกดสองอันก้านหน้าใช้นิ้วชี้เกี่ยวไม่ได้ต้องใช้นิ้วโป้งกด ฟีลลิ่งกดแป๊กๆแรงๆแน่นๆ
ก้านที่ใช้ดันขึ้นจานใหญ่กดแล้วหนึบๆไม่นุ่มแบบ Shimano แต่ก้านที่ใช้ลงเฟืองเล็กมันส์มาก
แป๊กๆๆๆๆ
ระบบพับคอรถ ตัวที่เป็นห่วงกลมๆคือตัวปลดไว ส่วนห่วงที่มีขีดๆคือแหวนไว้เหน็บก้านตัวปลดไวไม่ให้มันสั่น
ถือว่าเก็บรายละเอียดมาดี ปลายห่วงปลดไวมียางหุ้มด้วยไม่ต้องกลัวว่าตอนใช้งานปลายมันจะไปโดนสีถลอก
กลมๆขาวๆตรงตะเกียบซ้ายคือแผ่นยางครับเวลาพับคอลงมามันจะมาแปะตรงจุดนี้พอดี
หมดกังวลว่าจะเป็นรอยถลอกตอนพับคอ
เบรคหน้า Promax เบรคดังฟืดฟาด เอี๊ยดอ๊าดพอประมาณ ผมเลียเบรคใช้แทนกระดิ่งให้คนรู้ตัวตอนผมเข้าใกล้
ถ้าตังค์เหลือๆในอนาคตอาจจะหาเบรคที่ดีและเนียนกว่านี้มาเปลี่ยน
นี่!!เป็นยังไง Chinese Wisdom โชว์กันจะๆไปเลยว่ารถจีน 55+
แต่มันเป็นรถจีนที่ผมภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของนะเพราะงานมันสวยเลย รูปทรงเท่และขี่ดี
ตัวปลดเร็วที่ดุมหน้า-หลัง ทรงสวยแต่ต้องระวังให้มากเพราะมันแหลม เกิดล้มขึ้นมาอาจโดนทิ่มได้
ตัวปลดหลังตอนแรกผมจะหันลงไปหลบใต้หางหลังแต่ทำไม่ได้เพราะใช้กับสแตนด์แบบจิกดุมแล้วมันไหลออก
เลยต้องหันขึ้นบนแบบนี้
ก้ามเบรคหลัง Promax ซ่อนอยู่ใต้หางหลัง
ขาจานสวยงาม ดูก็รู้ว่าพยายามรีดน้ำหนักเต็มที่ ปลายขาจานฝั่งขวาจะใส่ยางขาจานมาด้วย
ไว้กันมันไปโดนเฟรมเป็นรอยตอนเราพับรถครับ
ตีนผี Sram S500 RD (มันเขียนว่างั้น) แต่หน้าตานี่เหมือนรุ่น X5 เป๊ะ (หรือว่ามันคือตัวเดียวกันใครรู้บ้างเอ่ย)
ภาพนี้พึ่งสังเกตเฟืองดำซะแระพึ่งขี่ได้อาทิตย์เดียว เดี๋ยวคงต้องถอดโซ่ล้างแล้วหยอดน้ำยาโซ่แบบ Wax แทน
เวลายกจักรยานเผื่อโดนขากางเกงจะได้ไม่เลอะง่ายๆ
ดูความประณีตของรอยเชื่อมและความงามของชิ้นส่วนต่างๆครับ
เบาะนุ่มเว่อร์ นุ่มแบบเฟิร์มๆ ขี่ไปทำงานชั่วโมงนึงใส่กางเกงยีนส์กับกางเกงในธรรมดา
ไม่รู้สึกปวดหรือเมื่อยอะไรเลยเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมาก
แต่อย่าเอาไปใช้ซอยขายิกๆก็พอขาหนีบแดงแน่เพราะปลายเบาะมันกว้างครับ
(ถ้าจะเอาไปซอยยิกๆแนะนำว่าควรใส่กางเกงจักรยาน)
ยางติดรถไซส์ 20 x 1.75
หลักอานบอกระยะดึง ของผมสูง 180 อินซีมไม่ลบอะไรเลยอยู่ที่ 88.5 ถ้าดึงให้ถูกตามหลักต้องมาอยู่ที่เลข 1 ครับ
แต่ผมใช้เดินทางฟรุ้งฟริ้งเลยดึงขึ้นแค่เลข 3 เพื่อให้ปลายเท้าแปะพื้นเยอะหน่อยครับ ขี้เกียจโดดคร่อมรถตอนจอด อิอิ
พร้อมจะทดสอบประสิทธิภาพแบบไม่ฟรุ้งฟริ้งแล้ว
...อุ้ย!! คุณน้องที่ไหนกำลังเซลฟี่ล่ะนั่น
จะทดสอบฝีมือรีทัชผมใช่มั้ยคุณน้อง!! จัดไปเสกให้หายไปจากภาพภายใน 5 นาที
ผลการทดสอบแบบไม่มีฮาร์ทเรทติดรถเลยไม่กล้าใส่หนักมาก และนอนดึกมาจากเมื่อคืนด้วย
ความเร็วเดินทางผมว่าอยู่ที่ 21-24 กำลังสวย ไม่เหนื่อยไปได้เรื่อยๆ แต่ต้นไม่มาปลายไม่ไหล
เพราะท่านั่งครับมันต้านลมเหลือเกิน พอผมลองหมอบให้ต่ำประมาณท่าจับฮู๊ดของหมอบ
ความเร็วไปนู่นเลยครับ 27-30 แต่ด้วยระยะเอื้อมมันสั้นมากผมเลยก้มตัวนานๆไม่ไหว เมื่อยมาก
ใครอยากได้ไปซิ่งแนะนำหาแฮนด์บูลฮอร์นมาใส่เพื่อให้ระยะเอื้อมไกลขึ้นจะได้ก้มสะดวกครับ
ถัดจากเรื่องความเร็วเป็นเรื่องของความนุ่ม รถคันนี้นุ่มเลยครับ ด้วยยางหน้ากว้าง
ด้วยหลักอานที่ให้ตัวได้นิดๆ ด้วยเบาะหนาๆ ด้วยปลอกแฮนด์ที่เป็นโฟมนุ่มๆ ทำให้มันวิ่งได้สมู๊ทมาก
ไม่ทรมานร่างกายตอนขี่บนถนนปูนเหมือนเสือหมอบ ฟีลหลักอานคล้ายๆ Domane 2.0 ที่ผมเคยขี่
แต่ Domane 2.0 โยกได้เยอะกว่ามาก ถึงอย่างนั้น FSIR 5.0 ก็ยังนุ่มกว่าเยอะครับ
(ผมว่ามันนุ่มจากสิ่งที่ผมว่าไว้ข้างบนนั่นแหละ)
เรื่องเสียงแปลกปลอม ผมเจอเสียงลั่นดังเปรี๊ยะๆเลยครับตอนขี่วันนี้ (ก่อนนี้ไม่เจอ)
ผมขี่ต่อฟังเสียงไปเรื่อยๆจนสรุปได้ว่าน่าจะหลักอาน ผมถอดหลักอานออกมาเช็ดๆ
แล้วหมุนให้ตัวปลดไวหลักอานทั้ง 2 ตัวมันแน่นขึ้น ลองขี่อีกทีเสียงหายไปเลย
ไม่มีเสียงอะไรมากวนใจอีก เพราะงั้นหมดกังวลเรื่องเสียงได้เลยครับ
เรื่องความเนี๊ยบและความแน่นหนาของงาน ผมถือว่ารถทำมาดีมากนะ เพราะคันนี้ผมขี่รูดเนินลูกระนาด
ไม่ได้ปั่นอัดใส่นะครับแต่ไม่เบรคใช้แค่ฟรีขาชะลอความเร็ว ตัวรถก็ยังแน่นดีไม่ง้อกแง้กแบบที่คิด
ตัวเฟรมสีดำด้านนี้จะเป็นสีกึ่งมันกึ่งด้าน ตัวผิวของสีดูจะมีความทนทานกว่าสีเงาธรรมดา
เพราะรองเท้าผมไปถูโดนเฟรมหลายทีตอนจะลงรถ แต่ยังไม่เจอรอยถลอกแม้แต่รอยขนแมวก็ไม่เจอ
ส่วนเรื่องงานเชื่อมนี่สุดติ่งครับสวยงามมากยอมรับเลย และมีการใส่ใจในรายละเอียดจุดต่างๆของรถ
ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจในการทำรถรุ่นนี้ออกมาครับ
อุปกรณ์ต่างๆที่ติดมากับรถผมถือว่าดีสมกับราคารถระดับนี้
ยกเว้นที่ผมไม่ชอบอยู่ 2 อย่าง คือ... ยางลายไม่ถูกใจ กับเบรคดูงานไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
นอกนั้นแหล่มเลย ดุมล้อหน้านี่ก็ลื่นมาก ชิพเตอร์กับตีนผีทำงานได้ดีเชื่อใจมันได้เลย
สรุป FSIR เป็นรถพับที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีครับ การพับก็ไม่ได้ช้าอะไร ถ้าคล่องแล้วผมว่า 20 วินาทีนี่เหลือๆ
แม้จะพับแล้วไม่ค่อยเล็กเท่าไหร่แต่แลกมาด้วยจุดพับที่แข็งแรงและทรงรถที่สวยงาม ผมถือว่าคุ้ม
การใช้งานแน่นหนา นุ่ม ลื่น คล่องตัวมาก น.น.ที่เบาทำให้ยกง่าย รถตอนกางแล้ว
ถ้าเรายกตรงด้านบนช่องสี่เหลี่ยมกลางเฟรมจะได้สมดุลที่ดีหยิบยกสะดวกครับ แบกขึ้นสะพานลอยง่ายๆเลย
จุดยึดกระติกบนท่อหลักของเฟรมใช้งานได้จริงและสะดวกครับ
ตอนแรกผมเกือบจะไม่ซื้อแล้วเพราะร้านไหนๆก็ไม่มีของ มีของก็ไม่มีสีที่ผมต้องการ (วัยทำงานใจร้อน 55+)
ในขณะที่ผมกำลังจะหมดหวังก็ได้ลองเสิร์จกุกเกิลเป็นครั้งสุดท้าย ก็ได้เจอร้านนึงที่พึ่งจะอัพภาพในเพจไปไม่กี่ช.ม.
ซึ่งในภาพเป็นรุ่นและสีที่ผมต้องการ เลยโทรไปสอบถาม ปรากฏว่าไม่มีหน้าร้าน (ปกติผมไม่ซื้อของทางไปรษณีย์)
เลยกำลังจะถอดใจไม่เอาแระเพราะคิดว่าเขาจะส่งของทางไปรษณีย์ แต่เดี๋ยวก่อนพ่อค้าบอกว่าส่งฟรีถึงบ้านนะคร้าบบบบ
และราคาถูกกว่าที่อื่น 300 ด้วย (เชร้ดดดดด) จะรอไรล่ะครับผมนี่รีบสั่งเลย พ่อค้าใจดีมาส่งให้ในค่ำวันนั้น
มาพร้อมอธิบายส่วนต่างๆของตัวรถ และสาธิตวิธีพับให้ดู อื้มมมมมเลิศมากบริการประทับใจยิ่งกว่า
ตอนผมซื้อจักรยานคันละเกินครึ่งแสนอีก (จักรยานคันละหมื่นกว่าถึงสามหมื่นนี่เลิกพูดซื้อเสร็จเหมือนคนขายอยากจะบอกว่า
มุงจะไปไหนก็รีบไป T^T)
ยังไงใครสนใจลองดูตามลิ้งค์นี้ครับ FSIR 5.0 พร้อมส่งถึงบ้าน
พ่อค้าบริการดีคอนเฟิร์มครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอจบการโม้แต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับพ้ม
Edit : เพิ่มภาพตอนพับให้ครับ ขอบคุณภาพจาก FSIRBIKE.COM ครับ