ขออนุญาติใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงเรื่อง ประกันชีวิตของบริษัท AIA ที่กำลังเป็นประเด็นนะคะ จากกระทู้นี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/34100001
เราไม่ใช่ตัวแทนที่บริษัทแต่งตั้งมาเพื่อแก้ข่าว เราเพิ่งเป็นตัวแทนมาได้ไม่นาน แต่เราก็รักในอาชีพ และไม่อยากให้คนเข้าใจไปว่าอาชีพเราไม่ดีค่ะ
ขออนุญาติแบ่งเป็น 2 เรื่อง
1.เรื่องอาวุโสโอเค ต้องแจ้งปัญหาสุขภาพมั๊ย ?
2.เรื่องประกันคุณ...... ที่บริษัทไม่จ่ายสินไหม ขอบอกล้างกรมธรรม์
เป็นประกันคนละแบบ คนละเงื่อนไข อย่าเอามารวมกันนะคะ
มาเข้าเรื่องกันเลยนะคะ
1.เรื่องอาวุโสโอเค โฆษณาว่าไม่ต้องแจ้งปัญหาสุขภาพ คือ ไม่ต้องแจ้งจริงๆค่ะ เป็นประกันที่ "ต้องโทรไปซื้อกับทาง Call Center เท่านั้น" เป็นประกันที่ออกมารองรับผู้สูงอายุ โดยเงื่อนไขการจ่ายสินไหมของแบบประกันนี้ คือ ปีที่ 1-2 หากเสียชีวิต จะจ่ายสินไหม คือ 102% ของเบี้ยประกันที่จ่ายมา และ ปีที่ 3 ขึ้นไป จะจ่ายสินไหม เป็น ทุนประกัน ไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกันว่า พอเสียชีวิตภายใน 2 ปี เค้าคืนเบี้ยประกัน จะเห็นว่าการคืนเบี้ยประกัน+ดอกเบี้ยที่พูดกัน ก็คือเงื่อนไขการจ่ายสินไหมของบริษัทนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.aia.co.th/th/resources/6768e2004a4119c5afa9afc94f5f7968/AIA_senior_ok_insurance_plan_th_v2_20130805.pdf
ซึ่งเราจะเห็นบาง คห. บอกว่า เราก็ไปฮั้วกับญาติผู้ป่วยใกล้ตาย แล้วทำทุนสูงๆ 10 ล้าน 100 ล้าน พอคนไข้เสียชีวิตก็แบ่งค่าสินไหมกับญาติคนละครึ่ง จะบอกว่า ทุนประกันสูงสุดของอาวุโสโอเค คือ 200,000 นะคะ จากที่เราวิเคราะห์ เหมือน 200,000 บาทนี้ เค้าคิดว่าใช้เป็นเงินค่าฌาปนกิจศพ อะคะ
2.เรื่องประกันของคุณ..... ที่บริษัทบอกล้างกรมธรรม์
เป็นการทำประกันแบบปกติ ผ่านตัวแทนประกันชีวิต ขออธิบายคร่าวๆ จะมีทั้งแบบตรวจและไม่ตรวจสุขภาพ ถึงเราจะเลือกแบบไม่ตรวจสุขภาพ เราจะต้องบอกประวัติสุขภาพของเราทั้งหมดค่ะ ตัวแทนที่ดีจะต้องถาม อาทิ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเคยมีการตรวจสุขภาพ เจ็บป่วย ผ่าตัด ตรวจชิ้นเนื้อ มั๊ย , เคยมีอาการอาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง นู่นนี่มั๊ย (หา 9ล9 ไม่เจอ ขออภัยค่ะ) , เคยได้รับการวินิจฉัยหรือแพทย์ตั้งข้อสังเกต ว่าเป็นโรคนู่นนี่มั๊ยในรายการอีกเกือบ 40 รายการ (อาทิ ความดัน เบาหวาน เก๊าท์ เนื้องอก ก้อนหรือถุงน้ำ)
ซึ่งถ้าเราแถลงประวัติสุขภาพไปแล้ว ทางบริษัทรับทราบ ทางบริษัทก็อาจจะ ขอให้เราไปตรวจสุขภาพ , ขอประวัติการรักษาของเราจาก รพ. ถ้าเรามีสุขภาพที่ต่ำกว่ามาตารฐาน ทางบริษัทก็อาจจะ เพิ่มเบี้ยประกัน หรือถ้าแย่ที่สุดก็คือไม่รับทำประกันเลยค่ะ
มาถึงตรงนี้เราก็จะมีข้อโต้แย้งว่าบริษัทอยากได้เงินละสิถึงคิดเบี้ยเพิ่ม ขออธิบายให้เห็นภาพนะคะ
มีผู้ชาย 2 คน นาย A และนาย B ทั้งสองอายุเท่ากัน ทำอาชีพเดียวกัน และอยากทำประกันแบบเหมือนกันทุกอย่าง นาย A เป็นคนสุขภาพดีแข็งแรง แต่นาย B สุขภาพแย่ ถ้าทางบริษัทรับทำประกันทั้งสองด้วยเบี้ยประกันที่เท่ากัน คุณว่ามันแฟร์กับนาย A มั๊ยคะ เราสุขภาพดีกว่า ทำไมต้องจ่ายเท่ากันในเมื่อนาย B มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมากกว่า ประมาณนี้ และที่บริษัทไม่รับทำประกันเพราะสุขภาพแย่ หรือมีความเสี่ยงมาก คุณต้องเข้าใจว่านี่มันเป็นธุรกิจค่ะ ถ้าเราคิดจะเอาจากบริษัทอย่างเดียวบริษัทคงไม่ยอมค่ะ ที่รับทำประกันคนสุขภาพดี หรือเสี่ยงน้อย มันเหมือน 50/50 เพราะยังไงคนเราหนี แก่ เจ็บ ตาย ไม่พ้นแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://f.ptcdn.info/770/037/000/nyfg27pb4CBpizQsIJm-o.jpg
จากกรณีในเคสที่แชร์กันอยู่นั้น ตอนทำประกันชีวิต "ทางบริษัทไม่ทราบว่ามีประวัติสุขภาพ" ซึ่งจะไม่ทราบด้วยเหตุผลอะไรเราก็ไม่ทราบ อาจจะผู้เอาประกันปกปิดตัวแทน หรือผู้เอาประกันแถลงแล้วแต่ตัวแทนจงใจไม่บอกบริษัท และเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต ทางบริษัทจึงทำการตรวจย้อนประวัติการรักษาว่าเป็นมาก่อนทำประกันหรือไม่ ถ้าเป็นมาก่อนทางบริษัทประกัน "มีสิทธิ์บอกล้างกรมธรรม์ได้ภายในสองปี" เริ่มจากวันทำสัญญา ซึ่งจากรูปคือเป็นเบาหวานและความดันมาก่อนการทะประกัน บริษัทเลยทำการบอกล้างสัญญา
มีบางความคิดเห็นบอกว่า แล้วทำไมไม่ตรวจตอนทำ ทำไมมาตรวจตอนเสียชีวิต ขออธิบายว่า ทางบริษัทก็ให้ความเชื่อใจกับทางตัวแทนและทางผู้เอาประกันภัย เพราะตัวแทนที่มีจรรยาบรรณจะไม่ทำผิดกฎ และผู้เอาประกันภัย เมื่อตัวแทนถามคำถามสุขภาพ ทางบริษัทก็ไม่คิดว่าผู้เอาประกันจะปกปิดค่ะ
ลองตอบคำถามเราเล่นๆดูนะคะว่า
ถ้าจะทำประกันคุณอยากทำให้ รถเบนซ์ หรือรถซาเล้ง ?
ถ้าจะทำประกันอัคคีภัยคุณอยากทำให้ บ้านหลังใหญ่ หรือ บ้านหลังเล็ก ?
สมมติถ้าคุณรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง แล้วบริษัทเปิดให้คนเป็นมะเร็งทำประกันได้ คุณจะทำประกันทุน 1 ล้านหรือ 100 ล้าน ?
ถ้าคุณเลือก รถเบนซ์ บ้านหลังใหญ่ หรือทุน 100 ล้าน แสดงว่าประกันมันก็ดีใช่มั๊ยคะ
ปล.ขอความกรุณาอย่าเม้นเอาแต่อารมณ์นะคะ เรามาคุยกันด้วยเหตุผลดีกว่า แบบ comment แค่ประโยค "ไอพวกตัวแทนประกันขี้โกง" งี้ โกงยังไงคะ เราขอเหตุการณ์ เคลมไม่ได้ยังไงเราขอดูกรมธรรม์และผลการรักษาได้มั๊ย เพราะถ้าเข้าข่ายยังไงบริษัทต้องจ่าย อย่าบอกว่าฟังเค้ามาอีกที ถ้าฟังเค้ามาอีกทีแสดงว่าคุณไม่รู้ว่าเค้าทำประกันแบบไหน ตอนทำได้แถลงประวัติสุขภาพรึเปล่า เพราะถ้าคุณมีแต่คำพูดที่เราไม่สามารถอธิบายได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันคะ
ปล.อีกที ถ้าเจอตัวแทนดีๆ มีจรรยาบรรณ คุณเบิกได้แน่นอนค่ะ เจอมากับตัว เท่าที่จำความได้ที่บ้านเริ่มทำประกันให้เราตั้งแต่อายุ 16 (ตอนนี้ จบ ป.ตรีมากสักพักแล้วค่ะ) เมื่อหลายปีที่แล้ว หัวหน้าครอบครัวเราเสียชีวิตตอนที่เรายังเรียนอยู่ แต่ท่านได้ทำประกันชีวิตเอาไว้ จ่ายเบี้ยประกันไป 2 ครั้ง เมื่อท่านเสียชีวิต ทางบริษัทก็จ่ายเงินสินไหมให้กับครอบครัวของเราตามทุนประกัน ซึ่งเราได้ใช้เงินที่ได้มาตรงนั้น ใช้ชีวิตต่อ ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้ เราคงเรียนไม่จบ อยากให้ทุกคนเปิดใจกันนะคะ ประกันมันดี และไม่โกงจริงๆ เราอยากให้คนมีประกันๆเยอะๆ ไม่อยากเห็นเด็กที่อยากเรียนแล้วไม่ได้เรียน แค่เพราะหัวหน้าครอบครัวเค้าไม่อยู่ แล้วไม่มีเงินเรียน ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ปล.สุดท้าย เราตั้งใจถอดล็อกอินมาค่ะ บางคนอาจจะถามว่า ถ้าเป็นเรื่องจริง เรื่องดี แล้วถอดล็อกอินทำไม ขอบอกว่า กลัวคนในพันทิปค่ะคู๊นนนนน ของแบบนี้รู้ๆกันอยู่เนาะ แต่เรามีตัวตนจริง ใครไม่เชื่อ นัดเจอได้ แต่เราไม่ได้อยู่ กทม น๊าาาา
ขออธิบาย จากกระทู้แฉกลโกงประกันผู้สูงอายุ
เราไม่ใช่ตัวแทนที่บริษัทแต่งตั้งมาเพื่อแก้ข่าว เราเพิ่งเป็นตัวแทนมาได้ไม่นาน แต่เราก็รักในอาชีพ และไม่อยากให้คนเข้าใจไปว่าอาชีพเราไม่ดีค่ะ
ขออนุญาติแบ่งเป็น 2 เรื่อง
1.เรื่องอาวุโสโอเค ต้องแจ้งปัญหาสุขภาพมั๊ย ?
2.เรื่องประกันคุณ...... ที่บริษัทไม่จ่ายสินไหม ขอบอกล้างกรมธรรม์
เป็นประกันคนละแบบ คนละเงื่อนไข อย่าเอามารวมกันนะคะ
มาเข้าเรื่องกันเลยนะคะ
1.เรื่องอาวุโสโอเค โฆษณาว่าไม่ต้องแจ้งปัญหาสุขภาพ คือ ไม่ต้องแจ้งจริงๆค่ะ เป็นประกันที่ "ต้องโทรไปซื้อกับทาง Call Center เท่านั้น" เป็นประกันที่ออกมารองรับผู้สูงอายุ โดยเงื่อนไขการจ่ายสินไหมของแบบประกันนี้ คือ ปีที่ 1-2 หากเสียชีวิต จะจ่ายสินไหม คือ 102% ของเบี้ยประกันที่จ่ายมา และ ปีที่ 3 ขึ้นไป จะจ่ายสินไหม เป็น ทุนประกัน ไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกันว่า พอเสียชีวิตภายใน 2 ปี เค้าคืนเบี้ยประกัน จะเห็นว่าการคืนเบี้ยประกัน+ดอกเบี้ยที่พูดกัน ก็คือเงื่อนไขการจ่ายสินไหมของบริษัทนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งเราจะเห็นบาง คห. บอกว่า เราก็ไปฮั้วกับญาติผู้ป่วยใกล้ตาย แล้วทำทุนสูงๆ 10 ล้าน 100 ล้าน พอคนไข้เสียชีวิตก็แบ่งค่าสินไหมกับญาติคนละครึ่ง จะบอกว่า ทุนประกันสูงสุดของอาวุโสโอเค คือ 200,000 นะคะ จากที่เราวิเคราะห์ เหมือน 200,000 บาทนี้ เค้าคิดว่าใช้เป็นเงินค่าฌาปนกิจศพ อะคะ
2.เรื่องประกันของคุณ..... ที่บริษัทบอกล้างกรมธรรม์
เป็นการทำประกันแบบปกติ ผ่านตัวแทนประกันชีวิต ขออธิบายคร่าวๆ จะมีทั้งแบบตรวจและไม่ตรวจสุขภาพ ถึงเราจะเลือกแบบไม่ตรวจสุขภาพ เราจะต้องบอกประวัติสุขภาพของเราทั้งหมดค่ะ ตัวแทนที่ดีจะต้องถาม อาทิ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเคยมีการตรวจสุขภาพ เจ็บป่วย ผ่าตัด ตรวจชิ้นเนื้อ มั๊ย , เคยมีอาการอาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง นู่นนี่มั๊ย (หา 9ล9 ไม่เจอ ขออภัยค่ะ) , เคยได้รับการวินิจฉัยหรือแพทย์ตั้งข้อสังเกต ว่าเป็นโรคนู่นนี่มั๊ยในรายการอีกเกือบ 40 รายการ (อาทิ ความดัน เบาหวาน เก๊าท์ เนื้องอก ก้อนหรือถุงน้ำ)
ซึ่งถ้าเราแถลงประวัติสุขภาพไปแล้ว ทางบริษัทรับทราบ ทางบริษัทก็อาจจะ ขอให้เราไปตรวจสุขภาพ , ขอประวัติการรักษาของเราจาก รพ. ถ้าเรามีสุขภาพที่ต่ำกว่ามาตารฐาน ทางบริษัทก็อาจจะ เพิ่มเบี้ยประกัน หรือถ้าแย่ที่สุดก็คือไม่รับทำประกันเลยค่ะ
มาถึงตรงนี้เราก็จะมีข้อโต้แย้งว่าบริษัทอยากได้เงินละสิถึงคิดเบี้ยเพิ่ม ขออธิบายให้เห็นภาพนะคะ
มีผู้ชาย 2 คน นาย A และนาย B ทั้งสองอายุเท่ากัน ทำอาชีพเดียวกัน และอยากทำประกันแบบเหมือนกันทุกอย่าง นาย A เป็นคนสุขภาพดีแข็งแรง แต่นาย B สุขภาพแย่ ถ้าทางบริษัทรับทำประกันทั้งสองด้วยเบี้ยประกันที่เท่ากัน คุณว่ามันแฟร์กับนาย A มั๊ยคะ เราสุขภาพดีกว่า ทำไมต้องจ่ายเท่ากันในเมื่อนาย B มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมากกว่า ประมาณนี้ และที่บริษัทไม่รับทำประกันเพราะสุขภาพแย่ หรือมีความเสี่ยงมาก คุณต้องเข้าใจว่านี่มันเป็นธุรกิจค่ะ ถ้าเราคิดจะเอาจากบริษัทอย่างเดียวบริษัทคงไม่ยอมค่ะ ที่รับทำประกันคนสุขภาพดี หรือเสี่ยงน้อย มันเหมือน 50/50 เพราะยังไงคนเราหนี แก่ เจ็บ ตาย ไม่พ้นแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากกรณีในเคสที่แชร์กันอยู่นั้น ตอนทำประกันชีวิต "ทางบริษัทไม่ทราบว่ามีประวัติสุขภาพ" ซึ่งจะไม่ทราบด้วยเหตุผลอะไรเราก็ไม่ทราบ อาจจะผู้เอาประกันปกปิดตัวแทน หรือผู้เอาประกันแถลงแล้วแต่ตัวแทนจงใจไม่บอกบริษัท และเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต ทางบริษัทจึงทำการตรวจย้อนประวัติการรักษาว่าเป็นมาก่อนทำประกันหรือไม่ ถ้าเป็นมาก่อนทางบริษัทประกัน "มีสิทธิ์บอกล้างกรมธรรม์ได้ภายในสองปี" เริ่มจากวันทำสัญญา ซึ่งจากรูปคือเป็นเบาหวานและความดันมาก่อนการทะประกัน บริษัทเลยทำการบอกล้างสัญญา
มีบางความคิดเห็นบอกว่า แล้วทำไมไม่ตรวจตอนทำ ทำไมมาตรวจตอนเสียชีวิต ขออธิบายว่า ทางบริษัทก็ให้ความเชื่อใจกับทางตัวแทนและทางผู้เอาประกันภัย เพราะตัวแทนที่มีจรรยาบรรณจะไม่ทำผิดกฎ และผู้เอาประกันภัย เมื่อตัวแทนถามคำถามสุขภาพ ทางบริษัทก็ไม่คิดว่าผู้เอาประกันจะปกปิดค่ะ
ลองตอบคำถามเราเล่นๆดูนะคะว่า
ถ้าจะทำประกันคุณอยากทำให้ รถเบนซ์ หรือรถซาเล้ง ?
ถ้าจะทำประกันอัคคีภัยคุณอยากทำให้ บ้านหลังใหญ่ หรือ บ้านหลังเล็ก ?
สมมติถ้าคุณรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง แล้วบริษัทเปิดให้คนเป็นมะเร็งทำประกันได้ คุณจะทำประกันทุน 1 ล้านหรือ 100 ล้าน ?
ถ้าคุณเลือก รถเบนซ์ บ้านหลังใหญ่ หรือทุน 100 ล้าน แสดงว่าประกันมันก็ดีใช่มั๊ยคะ
ปล.ขอความกรุณาอย่าเม้นเอาแต่อารมณ์นะคะ เรามาคุยกันด้วยเหตุผลดีกว่า แบบ comment แค่ประโยค "ไอพวกตัวแทนประกันขี้โกง" งี้ โกงยังไงคะ เราขอเหตุการณ์ เคลมไม่ได้ยังไงเราขอดูกรมธรรม์และผลการรักษาได้มั๊ย เพราะถ้าเข้าข่ายยังไงบริษัทต้องจ่าย อย่าบอกว่าฟังเค้ามาอีกที ถ้าฟังเค้ามาอีกทีแสดงว่าคุณไม่รู้ว่าเค้าทำประกันแบบไหน ตอนทำได้แถลงประวัติสุขภาพรึเปล่า เพราะถ้าคุณมีแต่คำพูดที่เราไม่สามารถอธิบายได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันคะ
ปล.อีกที ถ้าเจอตัวแทนดีๆ มีจรรยาบรรณ คุณเบิกได้แน่นอนค่ะ เจอมากับตัว เท่าที่จำความได้ที่บ้านเริ่มทำประกันให้เราตั้งแต่อายุ 16 (ตอนนี้ จบ ป.ตรีมากสักพักแล้วค่ะ) เมื่อหลายปีที่แล้ว หัวหน้าครอบครัวเราเสียชีวิตตอนที่เรายังเรียนอยู่ แต่ท่านได้ทำประกันชีวิตเอาไว้ จ่ายเบี้ยประกันไป 2 ครั้ง เมื่อท่านเสียชีวิต ทางบริษัทก็จ่ายเงินสินไหมให้กับครอบครัวของเราตามทุนประกัน ซึ่งเราได้ใช้เงินที่ได้มาตรงนั้น ใช้ชีวิตต่อ ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้ เราคงเรียนไม่จบ อยากให้ทุกคนเปิดใจกันนะคะ ประกันมันดี และไม่โกงจริงๆ เราอยากให้คนมีประกันๆเยอะๆ ไม่อยากเห็นเด็กที่อยากเรียนแล้วไม่ได้เรียน แค่เพราะหัวหน้าครอบครัวเค้าไม่อยู่ แล้วไม่มีเงินเรียน ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ปล.สุดท้าย เราตั้งใจถอดล็อกอินมาค่ะ บางคนอาจจะถามว่า ถ้าเป็นเรื่องจริง เรื่องดี แล้วถอดล็อกอินทำไม ขอบอกว่า กลัวคนในพันทิปค่ะคู๊นนนนน ของแบบนี้รู้ๆกันอยู่เนาะ แต่เรามีตัวตนจริง ใครไม่เชื่อ นัดเจอได้ แต่เราไม่ได้อยู่ กทม น๊าาาา