▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
น้ำตกทีลอซู
จังหวัดตาก
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวน้ำตก
[CR] ทีลอซูไปเรื่อยๆ มาเรียงๆ เอียงไป .........ตาก........โดย...หนีเที่ยวไม่บอกแม่
ขึ้นเหนือมาก็หลายครั้ง ตาก เป็นจังหวัดนึงที่ได้แต่มองผ่าน รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่น่าจะมีอะไรเด็ด จะมีได้ยินที่มีชื่อเสียงหน่อยก็น้ำตกทีลอซู อืม ทีลอซู ได้ข่าวว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยติดอันดับโลก ที่สำคัญอยู่ในไทยด้วย เอาวะ น้ำตกก็น้ำตก จากการศึกษาข้อมูลมาแล้ว ระหว่างซื้อทัวร์กับเอารถไปเองราคาใกล้เคียงกัน และที่สำคัญซื้อทัวร์สบายกว่าไม่ต้องเหนื่อยมีคนขับรถให้ด้วย รูปแบบทัวร์ก็เป็นแบบ 3 วัน 2 คืน ออกจากกรุงเทพกลางคืนไปถึงอุ้มผางตอนหัวรุ่ง หลับไปตลอดทางจำได้ว่าคนขับแวะให้ถ่ายรูปกับหลักกิโลยักษ์ ที่บอกว่า ผู้พิชิต 1219 โค้ง ตอนนั้นก็ลงมาถ่ายรูปแบบงง อากาศข้างนอกก็หนาว ถ่ายเสร็จก็ขึ้นรถแล้วหลับต่อ มาถึงรีสอร์ทก็มีอาหารเช้าไว้คอยให้บริการ ล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ไปขึ้นเรือยางเพื่อจะล่องไปน้ำตกทีลอซู เวลาในการล่องเรือประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ระหว่างทางแวะพักที่บ่อน้ำร้อน มาถึงแล้วก็ต้องลงไปลองสิครัชว่าร้อนจริงป่าว อืม ร้อนจริงๆด้วย จุดนี้แวะประมาณ 15-20 นาที แล้วก็ล่องเรือชมความงามของสองข้างฝั่ง ดูจุดกำเนิดของน้ำตกทีลอจ่อ น้ำตกสายรุ้ง เที่ยงกว่าๆเราก็มาถึงจุดขึ้นเรือ หน่วยพิทักษ์ป่าผาเลือด จุดแวะทางข้าวเที่ยงที่ทางทัวร์เค้าจัดไว้ให้ แล้วก็นั่งรถต่อเพื่อจะเข้าไปที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็นที่ตั้งของน้ำตกทีลอซู
ระยะทางเข้าไป 14 กิโล โอ้วววโห่ แม่เจ้า ทั้งโคลน ทั้งหลุม สวดยอดมากพี่น้องลึกได้อีก ประมาณชั่วโมงนึงเราก็มาถึง พี่ไกด์บอกว่าถ้ายังมีแรงเหลือก็ไปเล่นน้ำตกได้ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโล ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที เป็นคอนกรีตตลอดทางจนถึงน้ำตก ไปสิครัชรออัลไล ไปเล่นน้ำกัน ระหว่างทางเดินไปน้ำตกก็มีจุดให้ถ่ายรูป เดินเพลินๆ ถึงน้ำตกแบบไม่รู้ตัว หรือเที่ยวเยอะเกินจนรู้สึกว่าระยะทางแค่นี้สบายๆ ก็ไม่รู้นะ อย่างที่หลายคนบอกว่าน้ำตกทีลอซูยามบ่ายจะย้อนแสงถ่ายรูปไม่สวย ผมนี่ขอเถียงเลยครัช ว่าสวยมาก มีแสงลอดผ่านเลนส์ ฟินเฟ่อ ถ่ายไปถ่ายมาก็โดดน้ำสิครัช เล่นจนออกเป็นคู่สุดท้าย บรรยากาศน้ำตกยามไม่มีผู้คนสวยและสงบมาก ได้ยินแต่เสียงของน้ำตกเป็นอะไรที่ชอบมากๆ กลับมาจากน้ำตกก็อาบน้ำแต่งตัว มากับทัวร์จะกลัวอดทำไม ของกินนี่เรียกได้ว่าเพียบ กลางคืนก็นอน ฟังเสียงน้ำค้างหยดลงบนเต็นท์ เช้ามาก็เดินไปน้ำตกอีกรอบ เกือบเที่ยงก็ออกจากน้ำตกไปต่อกันที่ ถ้ำตะโค๊ะบิ ด้านในถ้ำมีหินงอกหินย้อย มีหินประกายเพชร และหินรูปร่างต่างๆแล้วแต่จะจินตนาการ แล้วก็มีไกด์นักเรียนตัวน้อยคอยนำทาง ค่าตอบแทนก็แล้วแต่จะให้ ช่วงค่ำก็ออกมาที่ตลาดคนเดิน มีของขายและการแสดงของคนในชุมชน แล้วก็เข้าที่พัก เช้านี้เราตื่นกันเช้าหน่อยเพราะต้องไปดูทะเลหมอก ที่ดอยหัวหมด ระยะทางไม่ไกลจากที่พัก แล้วก็กลับมาอาบน้ำแต่งตัวเดินทางกลับกรุงเทพ ตอนมารู้สึกเหมือนไม่มีอะไรโค้งก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกหนักใจว่าจะเมารถ แต่ขากลับนี่คือเราผ่านโค้งพวกนี้มาได้ยังงัยวะ คือ ทำพี่เก่งไม่กินยาแก้เมารถดักไว้ก่อน รถก็วิ่งไต่เขาไปเรื่อยๆ นี่เราทำความรู้จักกับโค้งไปแค่ 600 โค้ง เมารถเกือบตายดีนะที่ยังไม่อ้วก ไอ้น้องข้างหลังก็ยังมาอ้วกบิ้วอารมณ์เราอิ๊ก แม่เจ้า ยาดม ลูกอม ยาหม่องที่เตรียมไว้ เอาออกมาใช้พร้อมรบกับข้าศึกในท้องอย่างเต็มที่ กลั้นใจเฮือกสุดท้ายกำลังจะไม่ไหวแล้ว รถแวะจอดจุดพักรถพอดี สำหรับเราแล้วที่นี่คือสวรรค์ ได้ลงมาหายใจหายคอ ซักพักอาการเมารถทั้งหลายที่มาประทับทรงพี่ก็ดีขึ้น ก่อนขึ้นรถนี่ไม่รอช้าจัดยาแก้เมารถไปหนึ่งเม็ด รถออกมาได้สักพักก็ติดเนื่องจากมีอุบัติเหตุรถสิบล้อตกข้างทางทำให้ต้องรอเกือบสองชั่วโมง ณ จุดนั้นยาแก้เมารถออกฤทธิ์พอดี พี่นี่หลับไม่รู้เรื่องเลย ผ่าน 619 โค้งชิลล์ๆ มาตื่นอีกทีก็ตลาดริมเมย อารมณ์ตลาดก็คล้ายตลาดกิมหยงที่หาดใหญ่ แต่ แต่ แต่ ปลาเค็ม ปลาหมึก กุ้งแห้ง ถูกมากกกกกกกกกกกก แล้วก็เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ถูกจริงๆ ออกจากตลาดก็ไปแวะอีกจุดคือตลาดมูเซอ ตลาดนี้จะขายพวกน้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว แคปหมู ผักสด ผลไม้ ช็อปมันทุกตลาดช่วยๆกันกระจายรายได้ ทริปนี้ฟินมากพูดเลย เพราะไม่ได้คาดหวังอะไร ไปกับคนที่รักเราและเรารัก ยังงัยก็มีความสุข
แล้วก็ไปต่อกันที่ตลาดมูเซอ