อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน...ไปโดดน้ำ นั่งมองพระอาทิตย์ตก นอนดูทางช้างเผือก แล้วตื่นขึ้นไปดูทะเลหมอก ที่เดียว ครบ...

กระทู้สนทนา
เสาร์อาทิตย์ บางทีมันก็สั้นมาก แต่ถ้าเราออกเดินทางมันจะทำให้ 48 ชั่วโมงนั้นมีความหมายมากมายสำหรับเรา

หากใคร ๆ หลายคนอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด อยากไปนั่งมองพระอาทิตย์ตกสวย ๆ อยากไปดูทะเลหมอก หรืออยากไปโดดน้ำกันให้เบื่อ
มีอยู่ที่สถานที่นึง สถานที่ใครหลาย ๆ คนอาจจะคิดไม่ถึงว่ามันจะมีให้เราได้ครบทุกอย่าง
ที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี สถานที่ใครจะรู้ว่ามันสวยงามจนทำให้เวลา 2 วัน 1 คืนมันมีค่ามากมาย

ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมากจากกรุงเทพ ประมาณเกือบ 200 กิโลเมตร มาได้หมดครับ รถเล็ก รถใหญ่
รถตู้โดยสารก็มีมาส่งถึงที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลยครับ

วิวนี้จะเป็นวิวแรกที่เห็นก่อนเข้าไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ

ตามทางมาเรื่อย ๆ พอเห็นป้ายนี้ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจะอยู่ทางขวามือ เตรียมเลี้ยวครับผมม

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจะเป็นที่ติดต่อจุดกางเต็นท์ เช่าเต็นท์ ติดต่อบ้านพัก ติดต่อรถขึ้นเขาพะเนินทุ่ง จะรวมไว้หมดเลยครับ
รายละเอียดต่าง ๆ สามารถดูได้ที่ Website อุทยานแห่งชาติเลยครับผม

การเดินทางของผมครั้งนี้ตั้งใจจะขึ้นไปกางเต็นท์บนเขาพะเนินทุ่งกับแฟน แต่แล้ว....หลังจากสอบถาม
ได้ความว่าเขาพะเนินทุ่งจะเปิดให้ขึ้นพรุ่งนี้ คือวันที่ 1 พฤศจิกายน วันนั้นเลยคิดว่าทริปล่มซะแล้ว แต่ไม่ครับมีพี่แถวนั้นมาถาม
พรุ่งนี้เช้าจะขึ้นเขาพะเนินทุ่งไปดูทะเลหมอกมั้ย คือ พี่เขาจะขึ้นกัน พี่เขามาแค่ 3 คน เลยต้องหาคนหารค่ารถขึ้นหลังจากรวมรวบสักพัก
ได้ 9 คน ครับ เลยจองรถกะบะขึ้นเขาพะเนินทุ่ง ราคาอยู่ที่ 1,600 บาท คือราคาที่ขึ้นตอนเช้า แล้วลงตอนบ่าย แต่ถ้า 2,000
เขาจะขึ้นไปค้างคืนกับเราด้วยราคาไม่แพงเลยครับ หารกันหลายคน ลืมบอกเวลาขึ้นเขาอยู่ที่ประมาณตี 5 ครับ

มาถึงส่วนที่พักครับ เนื่องจากอยู่ ๆ แฟนผมเริ่มไม่อยากกางเต็นท์ทำให้คิดสักพัก อยู่ ๆ แฟนพูดว่าอยากโดดน้ำ
แล้วก็เล่าให้ฟังครับ ว่าเนี่ย ระหว่างทางที่เข้ามาเห็นเขาโดดเล่นน้ำกันด้วย ผม งงดิครับ อะไรจะตาไวขนาดนั้น

ไปครับ ไปหาก็ได้ครับ รีสอรท์ติดน้ำหลาย ๆ ที่เต็ม แต่ก็ยังมีว่างครับ หาจนได้ราคาอยู่ที่คืนละ 1,000 บาท ครับ

หลังจากเก็บของเรียบร้อย ก็ ไปครับ ไปโดดน้ำให้เปื่อยยย

ที่นี่จะมีเครื่องเล่นให้เราอย่างสองอย่าง แต่ผมแค่โดดลงแล้ว ลอยไปเรื่อย ๆ กับน้ำก็สนุกแล้วครับ

เราเล่นน้ำกันจนเกือบเย็น ก็เตรียมตัว เตรียมกล้องไปถ่ายรูปกันครับ
เราจะไปบนสันเขื่อนดินกัน นั่งรอถ่ายรูปพระอาทิตย์กัน

ยิ่งเวลาผ่านไป ท้องฟ้ายิ่งสวยมากขึ้น เรื่อย ๆ

วันนั้นจำได้ว่าเป็นวันที่ฟ้าสวยมาก ๆ อีกวัน


เราถ่ายรูปเล่นกันไปเรื่อย ๆ สลับถ่ายฟ้า จนตะวันลับไป

ถึงเวลาหาของกินครับ.....ตอนแรกคิดไว้จะกางเต็นท์แล้วก็ทำอะไรกินเองแต่....เมื่อเปลี่ยนก็ต้องหาอะไรเด็ด ๆ กินครับ
เราหากันแปปนึงจาก App ก็ได้ร้าน ชื่อ ร้านต้นสนครับ เข้าไปลึกพอสมควร แต่รสอาหาร อร่อยใช้ได้เลยครับ
รีวิวอาหารลองเสริท์หาดูนะครับ ผมถ่ายไม่ทันครับ หิว แปปปเดียวหมดเกลี้ยง นึกได้เออวะ ลืมถ่ายรูป..

ประมาณ 2 ทุ่มครับถึงเวลาที่ผมกับแฟนรอคอยอีกเวลาหนึ่ง คือ ถ่ายรูปทางช้างเผือกครับ
เราไปกันที่เดิม คือบริเวณสันเขื่อนดิน ตอนนั้นเงียบมาก ๆ แต่ไม่น่ากลัว มีพี่รปภ แล้วก็ มีไฟสว่างแล้วอีกทั้งยังมีลุง ๆ วิ่งออกกำลังกายอยู่ครับ

เพิ่งเคยถ่ายได้ครั้งแรก ตื่นเต้นมากก ๆ ๆ ครับ แต่ก็ดีใจที่ได้ถ่าย
เคยไปพยายามถ่ายที่ภูสอยดาว แต่พลาดเลยมาลงเอยที่นี่ครับ

ภาพตัดอีกแล้วครับ


ประมาณตี 5 กว่า ก็มาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเจอกับพี่ ๆ ที่เจอกันเมื่อวาน วันนี้เราจะขึ้นเขาพะเนินทุ่งกันครับ

นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆกันมา ประมาณ 7 โมงกว่าเราก็ถึงยอดเขาพะเนินทุ่งครับ
พอขึ้นมาเห็นทะเลหมอกก็คือว่าสวยประมาณหนึ่ง จุดนี้คือยังไม่ถึงนะครับยังต้องไปต่ออีกนิด

จุดนี้ครับที่เป็นจุดที่ฮิตมากัน วันนี้ทะเลหมอกไม่เยอะมากครับเนื่องจากอากาศไม่ชื้นเลย
ที่เยอะคือคนครับ คงเพราะวันนั้นเป็นวันแรกที่เปิดให้ขึ้น คนเลยเยอะพอสมควรเลย

รอจังหวะคนโล่งๆ ไม่ได้เลยซัดมันแบบนี้เลยครับ เพราะต้องย้ายไปดูทะเลต่ออีกจุดตรงจุดชมวิว กม.36 ครับ

ไปครับ ไปตรงกม.36 กันครับ
นั่งรถต่อมาประมาณอึดใจเดียวก็ถึง


พอมาถึงเห็นแล้วมันสวยเกินว่าจะบรรยายถูก ต้องลองไปดูสักครั้ง

ขึ้นมาบนนี้เสียค่ารถ 100 กว่าบาทถือความโคตรคุ้มค่ามากครับ

ผมนี่กดถ่ายไปเป็น 100

ถ่ายรูปกันเรื่อย ๆ จนแดดออกหมอกคอย ๆ จางหายไปก็ถึงเวลาลงครับ ตอนกลับรถจะมาจอดตรงพะเนินทุ่งแคมป์
ให้เราได้ทำธุระแล้วก็กินมาม่ากันครับ เสร็จก็ลงจากเขาพะเนินทุ่งกันครับ

บรรยากาศนิด ๆ หน่อยระหว่างลงครับผม

หลังจากลงเขามาเขาก็จะมาส่งบริเวณที่รับเราคือตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ
หลังจากนั้นเราก็แวะไปสะพานแขวนที่เขาชอบมาถ่ายรูปกันสักนิดก่อนกลับครับ

สรุป ทริปนี้เราหมดกันไปไม่กี่บาทครับ ลองไปดูครับ แล้วเวลาจะมีความหมายมากขึ้นสำหรับการเดินทางครั้งนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่