จริงหรือที่คนเราจะทนกับชีวิตคู่ห่วยๆมาได้เกือบทั้งชีวิต
คำว่า "ห่วย" ในที่นี้มาจากคำบอกเล่าของเจ้าของเรื่องสองคน ออกตัวก่อนว่า "ไม่ใชเรื่องตัวเอง"
แต่เป็นเรื่องของคนไกล้ตัวมากๆสองคน และชั้นคนที่สามซึ่งมีความคิดที่แตกต่าง
ด้วยความไม่เข้าใจในเหตุผลของเขาทั้งสอง ก็มีความอยากรู้ในความคิดเห็นของคนอื่นบ้างว่า
***คิดอย่างไร? ชั้นไม่ได้แปลกใช่มั้ย? หรือแค่ชั้นยังไม่เจอกับตัว?
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มที่เรื่องราวของผู้หญิงที่เจอบ่อยที่สุดก่อนตั้งแต่ชั้นเล็กจนโตเห็นเขามาตลอดค่ะ
เขามีสามีคนเดิม คือคนปัจจุบันนี้ นับๆแล้วก็ 30 กว่าปีแล้ว ปัญหาของคู้รักคู่นนี้ก็
สามีดื่มเหล้า พอเหล้าเข้าปากอะไรสะเทือนหูเป็นมีเรื่อง ขาวของพัง มีลงไม้ลงมือ
แต่สาวเจ้าก็ใช่ย่อยมีวาจาเรียกไม้เรียกมือไม่เบา
ติดเพื่อนฝูงบางครั้งมีออกไปแทงสนุ๊ก แบบมีพนันกันด้วย และก็มีนอกใจติดหญิงบ้าง
จำความได้ว่าเมื่อสามีผิดเวลา แม่ศรีภรรยาก็เซ้นดีรีบออกตามหา....แล้วก็ดั๊นนนนนนน
เจอทุกที โต๊ะสนุ๊กบ้างล่ะ วงเหล้าบ้างล่ะ พอรู้ว่าศรีภรรยาตามมาถึงที่ก็มีอาการหงุดหงิด
ฟึดฟัด แต่ภรรยาก็มีหน้างอบ้าง แต่ไม่มีการด่าทอให้เสียเชิงชาย
ปัญหาใหญ่คือ ทำงานเงินจะหมดกับการกินใช้ แม้ได้มาเยอะก็หมด ได้มาน้อยก็หมด
มีค่าเท่ากัน ตั้งแต่อยู่กันมาสองสามีภรรยาก็ไม่มีอะไรที่เป็นสมบัติเลยแม้แต่ชิ้น
ทั้งๆที่มีหน้าที่การงานที่สามารถจะมีพร้อมทุกสิ่ง
ศรีภรรยาอยากสร้างอนาคต แต่เป็นได้เพียงลูกมือสามีเท่านั้น สามีเป็นช้างเท้าหน้า
หาเงินหางานได้มาก เป็นคนเก็บเงินเอง แต่กลัวการเป็นหนี้รัดตัว เมื่อจะผ่อนอะไรสักอย่าง
ก็กลัวว่าไม่พอจะกิน สามีมองเรื่องกินเรื่องใหญ่ ในขณะที่ภรรยาอยากมีทรัพย์สิน
อยากผ่อนของมีอะไรเหมือนๆคนอื่นเขาบ้าง แต่เป็นต้องโดนเบรกทุกครั้งเมื่อมีการเอ่ยถึง
สองสามีภรรยาได้ทำอาชีพเดิมมาเท่ากับอายุการอยู่กินกัน แต่บัดนี้เขาไม่มีสมบัติอะไรเลย
ภรรยาบ่นทำไปก็ไม่เหลือทำไปก็ไม่มี แต่สองคนนี้ดีที่ว่าไม่มีหนี้นะ เพราะสามีเบรกกระจาย
บ่น บ่น บ่น ฟังมาแล้วก็ตั้งแต่เด็กจนโต เรื่องเก่าซ้ำไปซ้ามา เหมือนดูแก้วหน้าม้ารอบที่ 139
สามีภรรยาคู่นี้ก็อยู่กันมาได้
มาถึงคำถามที่คนแบบเราไม่เข้าใจ
***บ่นแบบนี้เราถามเขาว่าทำไมทนมาได้ตังนาน? คำตอบคือ:
เขาเคยจะเลิกแล้วแต่เลิกไปแบบไม่มีเงิน ก็ไปได้ไม่ถึงไหน ส่วนสามีก็ตามดึงรั้งกลับมา
ก็ยอมมาเพราะตัวเองก็ไม่มีเงิน ทำมาแล้วช่วงยังเป็นหนุ่มสาว จนเริ่มอายุมากจึงเปลี่ยนความคิดว่า
ทนๆไป เพราะถ้าจะเลิก จะไป ก็ไปไม่พ้น อยู่ๆไปงั้นๆ ความดีก็มีบ้าง ทนเพื่อลูก ถ้าไปเงินจะชะงักถึงลูก
และเพราะการให้โอกาศคนที่เขารัก เพราะหวังว่าเขาจะดีขึ้นจริงๆ พอวันนี้อายุมากแล้วก็ตอบออกมาเพิ่มจาก
คำตอบเดิมคือ แก่แล้วจะไปไหนได้ เริ่มรู้สึกหมดหนทางในอาชีพ และก็ว่าเวรกรรมของเขาเอง
***แต่เรากลับมองว่าถ้าเราเจอสิ่งที่ดูเป็นทุขในระดับที่เรามองจากเขาแล้ว เราจะจำว่าเราทุขยังไง
ในเมื่อเงินมันทำให้เราไปไม่รอด เราก็จะขอแอบเก็บเงินเพื่อทำให้ครั้งหน้าเราไปรอด ที่สำคัญเราจะไม่มีลูก
จะขอไปตายเอาดาบหน้า จะทนทำไมกับสิ่งที่ผิดลาดมา 139 รอบ ไม่เข้าใจว่าจะทนทำไม เหมือนว่า
เขาไม่ได้ตั้งใจจะไปจากผู้ชายคนนี้จริงๆ คือสิ่งที่เป็นทุข กับสิ่งที่ทำมันสวนทางมาก
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องราวของสาวคนที่สอง บัดนี้นางเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เท้าความให้ฟังก่อนว่า
นางเป็นคนหน้าตาดีตั้งแต่สมัยเรียน นางก็เป็นที่ต้องตาของชายทั้งหลาย
ทำให้นางมีสามีตั้งแต่อายุยังน้อย และรวบรัดมาที่ชีวิตปัจจุบัน นางมีลูกสองคน
และได้เลิกกับสามี ไม่นานผ่านมา...นางก็พบกับรักครั้งใหม่ เป็นพ่อหม้ายลูกสองเช่นกัน
ชีวิตนางเริ่มต้นดูเหมือนจะดี ทุกอย่างของผู้ชายคนนี้เหมือนผู้ชายที่นางฝันไว้
มีกิจการส่วนตัวและเป็นเจ้าบุญทุ่ม เนื่องจากนางเป็นคนใช้เงินเก่ง นางก็ได้โปรโมชั่นจากชายนั้นมา
จนมาวันนึงทุกอย่างเปลี่ยนไป ชายหม้ายคนนี้ไม่ได้มีใครใหม่ แต่เปลี่ยนไปในเรื่องบุญทุ่ม
อยู่ๆชายหม้ายก็ค่อยๆหยุดทุ่ม แต่นางก็หลงรักเขาเข้าแล้วเต็มๆ เดิมๆนางเป็นคนต้องการความรักและอบอุ่นจากสามี
แต่พักหลังมานี้นางไม่ค่อยได้ความอบอุ่น เนื่องจากชายหม้ายจะต้องนำลูกทั้งสองของเขามาเลี้ยง โดยมีนางเป็นผู้ดูแล
ควบคู่ไปกับการดูแลลูกของนาง เมื่อมีเวลาเหลือชายหม้ายก็จะทุ่มเวลาให้ลูกๆของเขาจนหมด
หมด จนนางน้อยใจ เพราะนางก็อยากมีอารมณ์สนใจชั้นหน่อยซิ นางไม่ใช่คนเยอะนะ แต่ชายหม้ายก็เฉยเป็นหินจริงๆ
นางจึงเรียกร้องสิทธิความอบอุ่นของนาง ด้วยท่าทีที่ งอนนิดๆ แต่ชายหม้ายก็ออกท่าทีโมโห
และพูดทำนองว่าถ้าอยากได้แบบนั้นก็ไปหาที่อื่น ไล่ ทวงเงินที่เคยออกค่าต่างๆนาๆให้
เอาเงินในกระเป๋าคืนหมด เรียกได้ว่า เอะอะก็ไล่ เอะอะก็ทวงเงิน ทวงบุญคุณ
ชายหม้ายผู้นี้ไม่คิดจะสร้างอะไรที่เป็นครอบครัว ไม่ซื้อบ้าน แต่นางอยากได้
มองๆไปเหตุผลของชายหม้ายเข้าท่านะ เพราะเขาชอบลงทุนจึงต้องการลงทุนจนนิ่ง
และมีเงินสดพอที่จะสร้างครอบครัว เช่น บ้าน
จากสถานะการนางกดดันทุกครั้งที่มีการทะเลาะเพราะมีเรื่องบุญคุณที่นางโดนทวงเรื่องเงิน
นางไม่มีอาชีพจึงไม่มีเงินที่จะคืน แต่ก็เถอะที่นางไม่มีอาชีพนี้ก็เพราะชายหม้ายไม่ให้ทำงาน
ให้เลี้ยงลูกให้เขา แต่เงินก็ให้เพียงน้อยนิด เพราะหมดโปรบุญทุ่มไปแล้ว
มาถึงสิ่งที่เราไม่เข้าใจสำหรับเคสนี้
นางทะเลาะทีไรประชดจะไปทุกที พอจะไปสามีก็รั้งไว้ มีถึงขั้นทุบกระจกรถแตก และแล้วสองวันผ่านไป
ก็รักกันดี
คำถามเราคือ ในเมื่อเราผ่านการมีชีวิตคู่มาแล้ว มีลูกถึงสองคน ชีวิตคู่ควรเป็ฯเรื่องรองใช่หรือไม่?
จะมองหาความอบอุ่นไม่ได้ผิด แต่เมื่อเขาไม่ให้ จะไปร้องเอาอยู่ได้ทำไม มองข้ามลูกที่อยู่ข้างๆไปรึเปล่า
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราถามสองเคสนี้เขาบอกเราว่าไม่เจอคงไม่รู้หรอกมันเข้าใจยาก มันก็ใช่ แต่.............................
เราก็ถามตัวเองว่าที่เราไม่เจอเพราะเราไม่ทนกับคนที่อยู่ด้วยแล้วทุข ซึ่งเราเคยผ่านมาเราก็ขอลาไปแล้วเหมือนกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็น คือเขาศรีภรรยาคนแรกกลัวการเปลี่ยนแปลงและเริ่มต้นใหม่ ทั้งๆที่อยู่ไปก็เท่าเดิมไม่ได้เริ่มเหมือนกัน
ส่วนคนนางที่สองปัจจัยเป็นเงินมากเกินไป เชื่อมั่นในทุกคนยกเว้นตัวเอง คิดว่าถ้าไปทำเองกว่าจะมี
กว่าจะรวยได้มันต้องนานและยากลำบากไม่ขอสู้แต่ขอทนต่อไปและบ่นจนแกตาม ศรีภรรยาท่านแรกไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราไม่ได้อวดดีอวดเก่ง หรืออะไรทั้งสิ้นเรื่องชีวิตคู่ แต่เราไม่เข้าใจในสองเคสนี้
ใครเคยมีประสบการณ์ที่ทนชีวิตคู่ ว่าเหตุใดต้องทน ลองมาแชร์กันดูนะ เราเชื่อว่าคู่ที่เป็นแบบนี้มันเยอะ
แต่คุณเชื่อมั้ย ชีวิตคู่แบบนี้ทำให้ครอบครัว และคนรอบข้างรู้สึกมืดมนไปกับเคสเหล่านี้ด้วย
อยากให้ทุกคนที่เจอปัญหานี้หาทางออกที่ดีให้กับตัวเอง นอกจากการทน เพราะมันมีผลอารมณ์คุณ
อารมณ์สามีคุณ และแล้วบางทีมันอาจจะมาลงกับลูกของคุณ คุณอาจจะกำลังทำลายครอบครัวตัวเองโดยไม่รู้ตัว
สิ่งที่ไม่เข้าใจ::::เหตุใด::::คนเราจะทนกับชีวิตคู่ "ห่วยๆ" มาได้เกือบทั้งชีวิต?
คำว่า "ห่วย" ในที่นี้มาจากคำบอกเล่าของเจ้าของเรื่องสองคน ออกตัวก่อนว่า "ไม่ใชเรื่องตัวเอง"
แต่เป็นเรื่องของคนไกล้ตัวมากๆสองคน และชั้นคนที่สามซึ่งมีความคิดที่แตกต่าง
ด้วยความไม่เข้าใจในเหตุผลของเขาทั้งสอง ก็มีความอยากรู้ในความคิดเห็นของคนอื่นบ้างว่า
***คิดอย่างไร? ชั้นไม่ได้แปลกใช่มั้ย? หรือแค่ชั้นยังไม่เจอกับตัว?
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มที่เรื่องราวของผู้หญิงที่เจอบ่อยที่สุดก่อนตั้งแต่ชั้นเล็กจนโตเห็นเขามาตลอดค่ะ
เขามีสามีคนเดิม คือคนปัจจุบันนี้ นับๆแล้วก็ 30 กว่าปีแล้ว ปัญหาของคู้รักคู่นนี้ก็
สามีดื่มเหล้า พอเหล้าเข้าปากอะไรสะเทือนหูเป็นมีเรื่อง ขาวของพัง มีลงไม้ลงมือ
แต่สาวเจ้าก็ใช่ย่อยมีวาจาเรียกไม้เรียกมือไม่เบา
ติดเพื่อนฝูงบางครั้งมีออกไปแทงสนุ๊ก แบบมีพนันกันด้วย และก็มีนอกใจติดหญิงบ้าง
จำความได้ว่าเมื่อสามีผิดเวลา แม่ศรีภรรยาก็เซ้นดีรีบออกตามหา....แล้วก็ดั๊นนนนนนน
เจอทุกที โต๊ะสนุ๊กบ้างล่ะ วงเหล้าบ้างล่ะ พอรู้ว่าศรีภรรยาตามมาถึงที่ก็มีอาการหงุดหงิด
ฟึดฟัด แต่ภรรยาก็มีหน้างอบ้าง แต่ไม่มีการด่าทอให้เสียเชิงชาย
ปัญหาใหญ่คือ ทำงานเงินจะหมดกับการกินใช้ แม้ได้มาเยอะก็หมด ได้มาน้อยก็หมด
มีค่าเท่ากัน ตั้งแต่อยู่กันมาสองสามีภรรยาก็ไม่มีอะไรที่เป็นสมบัติเลยแม้แต่ชิ้น
ทั้งๆที่มีหน้าที่การงานที่สามารถจะมีพร้อมทุกสิ่ง
ศรีภรรยาอยากสร้างอนาคต แต่เป็นได้เพียงลูกมือสามีเท่านั้น สามีเป็นช้างเท้าหน้า
หาเงินหางานได้มาก เป็นคนเก็บเงินเอง แต่กลัวการเป็นหนี้รัดตัว เมื่อจะผ่อนอะไรสักอย่าง
ก็กลัวว่าไม่พอจะกิน สามีมองเรื่องกินเรื่องใหญ่ ในขณะที่ภรรยาอยากมีทรัพย์สิน
อยากผ่อนของมีอะไรเหมือนๆคนอื่นเขาบ้าง แต่เป็นต้องโดนเบรกทุกครั้งเมื่อมีการเอ่ยถึง
สองสามีภรรยาได้ทำอาชีพเดิมมาเท่ากับอายุการอยู่กินกัน แต่บัดนี้เขาไม่มีสมบัติอะไรเลย
ภรรยาบ่นทำไปก็ไม่เหลือทำไปก็ไม่มี แต่สองคนนี้ดีที่ว่าไม่มีหนี้นะ เพราะสามีเบรกกระจาย
บ่น บ่น บ่น ฟังมาแล้วก็ตั้งแต่เด็กจนโต เรื่องเก่าซ้ำไปซ้ามา เหมือนดูแก้วหน้าม้ารอบที่ 139
สามีภรรยาคู่นี้ก็อยู่กันมาได้
มาถึงคำถามที่คนแบบเราไม่เข้าใจ
***บ่นแบบนี้เราถามเขาว่าทำไมทนมาได้ตังนาน? คำตอบคือ:
เขาเคยจะเลิกแล้วแต่เลิกไปแบบไม่มีเงิน ก็ไปได้ไม่ถึงไหน ส่วนสามีก็ตามดึงรั้งกลับมา
ก็ยอมมาเพราะตัวเองก็ไม่มีเงิน ทำมาแล้วช่วงยังเป็นหนุ่มสาว จนเริ่มอายุมากจึงเปลี่ยนความคิดว่า
ทนๆไป เพราะถ้าจะเลิก จะไป ก็ไปไม่พ้น อยู่ๆไปงั้นๆ ความดีก็มีบ้าง ทนเพื่อลูก ถ้าไปเงินจะชะงักถึงลูก
และเพราะการให้โอกาศคนที่เขารัก เพราะหวังว่าเขาจะดีขึ้นจริงๆ พอวันนี้อายุมากแล้วก็ตอบออกมาเพิ่มจาก
คำตอบเดิมคือ แก่แล้วจะไปไหนได้ เริ่มรู้สึกหมดหนทางในอาชีพ และก็ว่าเวรกรรมของเขาเอง
***แต่เรากลับมองว่าถ้าเราเจอสิ่งที่ดูเป็นทุขในระดับที่เรามองจากเขาแล้ว เราจะจำว่าเราทุขยังไง
ในเมื่อเงินมันทำให้เราไปไม่รอด เราก็จะขอแอบเก็บเงินเพื่อทำให้ครั้งหน้าเราไปรอด ที่สำคัญเราจะไม่มีลูก
จะขอไปตายเอาดาบหน้า จะทนทำไมกับสิ่งที่ผิดลาดมา 139 รอบ ไม่เข้าใจว่าจะทนทำไม เหมือนว่า
เขาไม่ได้ตั้งใจจะไปจากผู้ชายคนนี้จริงๆ คือสิ่งที่เป็นทุข กับสิ่งที่ทำมันสวนทางมาก
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องราวของสาวคนที่สอง บัดนี้นางเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เท้าความให้ฟังก่อนว่า
นางเป็นคนหน้าตาดีตั้งแต่สมัยเรียน นางก็เป็นที่ต้องตาของชายทั้งหลาย
ทำให้นางมีสามีตั้งแต่อายุยังน้อย และรวบรัดมาที่ชีวิตปัจจุบัน นางมีลูกสองคน
และได้เลิกกับสามี ไม่นานผ่านมา...นางก็พบกับรักครั้งใหม่ เป็นพ่อหม้ายลูกสองเช่นกัน
ชีวิตนางเริ่มต้นดูเหมือนจะดี ทุกอย่างของผู้ชายคนนี้เหมือนผู้ชายที่นางฝันไว้
มีกิจการส่วนตัวและเป็นเจ้าบุญทุ่ม เนื่องจากนางเป็นคนใช้เงินเก่ง นางก็ได้โปรโมชั่นจากชายนั้นมา
จนมาวันนึงทุกอย่างเปลี่ยนไป ชายหม้ายคนนี้ไม่ได้มีใครใหม่ แต่เปลี่ยนไปในเรื่องบุญทุ่ม
อยู่ๆชายหม้ายก็ค่อยๆหยุดทุ่ม แต่นางก็หลงรักเขาเข้าแล้วเต็มๆ เดิมๆนางเป็นคนต้องการความรักและอบอุ่นจากสามี
แต่พักหลังมานี้นางไม่ค่อยได้ความอบอุ่น เนื่องจากชายหม้ายจะต้องนำลูกทั้งสองของเขามาเลี้ยง โดยมีนางเป็นผู้ดูแล
ควบคู่ไปกับการดูแลลูกของนาง เมื่อมีเวลาเหลือชายหม้ายก็จะทุ่มเวลาให้ลูกๆของเขาจนหมด
หมด จนนางน้อยใจ เพราะนางก็อยากมีอารมณ์สนใจชั้นหน่อยซิ นางไม่ใช่คนเยอะนะ แต่ชายหม้ายก็เฉยเป็นหินจริงๆ
นางจึงเรียกร้องสิทธิความอบอุ่นของนาง ด้วยท่าทีที่ งอนนิดๆ แต่ชายหม้ายก็ออกท่าทีโมโห
และพูดทำนองว่าถ้าอยากได้แบบนั้นก็ไปหาที่อื่น ไล่ ทวงเงินที่เคยออกค่าต่างๆนาๆให้
เอาเงินในกระเป๋าคืนหมด เรียกได้ว่า เอะอะก็ไล่ เอะอะก็ทวงเงิน ทวงบุญคุณ
ชายหม้ายผู้นี้ไม่คิดจะสร้างอะไรที่เป็นครอบครัว ไม่ซื้อบ้าน แต่นางอยากได้
มองๆไปเหตุผลของชายหม้ายเข้าท่านะ เพราะเขาชอบลงทุนจึงต้องการลงทุนจนนิ่ง
และมีเงินสดพอที่จะสร้างครอบครัว เช่น บ้าน
จากสถานะการนางกดดันทุกครั้งที่มีการทะเลาะเพราะมีเรื่องบุญคุณที่นางโดนทวงเรื่องเงิน
นางไม่มีอาชีพจึงไม่มีเงินที่จะคืน แต่ก็เถอะที่นางไม่มีอาชีพนี้ก็เพราะชายหม้ายไม่ให้ทำงาน
ให้เลี้ยงลูกให้เขา แต่เงินก็ให้เพียงน้อยนิด เพราะหมดโปรบุญทุ่มไปแล้ว
มาถึงสิ่งที่เราไม่เข้าใจสำหรับเคสนี้
นางทะเลาะทีไรประชดจะไปทุกที พอจะไปสามีก็รั้งไว้ มีถึงขั้นทุบกระจกรถแตก และแล้วสองวันผ่านไป
ก็รักกันดี
คำถามเราคือ ในเมื่อเราผ่านการมีชีวิตคู่มาแล้ว มีลูกถึงสองคน ชีวิตคู่ควรเป็ฯเรื่องรองใช่หรือไม่?
จะมองหาความอบอุ่นไม่ได้ผิด แต่เมื่อเขาไม่ให้ จะไปร้องเอาอยู่ได้ทำไม มองข้ามลูกที่อยู่ข้างๆไปรึเปล่า
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราถามสองเคสนี้เขาบอกเราว่าไม่เจอคงไม่รู้หรอกมันเข้าใจยาก มันก็ใช่ แต่.............................
เราก็ถามตัวเองว่าที่เราไม่เจอเพราะเราไม่ทนกับคนที่อยู่ด้วยแล้วทุข ซึ่งเราเคยผ่านมาเราก็ขอลาไปแล้วเหมือนกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็น คือเขาศรีภรรยาคนแรกกลัวการเปลี่ยนแปลงและเริ่มต้นใหม่ ทั้งๆที่อยู่ไปก็เท่าเดิมไม่ได้เริ่มเหมือนกัน
ส่วนคนนางที่สองปัจจัยเป็นเงินมากเกินไป เชื่อมั่นในทุกคนยกเว้นตัวเอง คิดว่าถ้าไปทำเองกว่าจะมี
กว่าจะรวยได้มันต้องนานและยากลำบากไม่ขอสู้แต่ขอทนต่อไปและบ่นจนแกตาม ศรีภรรยาท่านแรกไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราไม่ได้อวดดีอวดเก่ง หรืออะไรทั้งสิ้นเรื่องชีวิตคู่ แต่เราไม่เข้าใจในสองเคสนี้
ใครเคยมีประสบการณ์ที่ทนชีวิตคู่ ว่าเหตุใดต้องทน ลองมาแชร์กันดูนะ เราเชื่อว่าคู่ที่เป็นแบบนี้มันเยอะ
แต่คุณเชื่อมั้ย ชีวิตคู่แบบนี้ทำให้ครอบครัว และคนรอบข้างรู้สึกมืดมนไปกับเคสเหล่านี้ด้วย
อยากให้ทุกคนที่เจอปัญหานี้หาทางออกที่ดีให้กับตัวเอง นอกจากการทน เพราะมันมีผลอารมณ์คุณ
อารมณ์สามีคุณ และแล้วบางทีมันอาจจะมาลงกับลูกของคุณ คุณอาจจะกำลังทำลายครอบครัวตัวเองโดยไม่รู้ตัว