กฏในการมีภรรยา 4 คนในศาสนาอิสลาม

เนื่องจากว่าในระยะนี้ มีกระทู้เกี่ยวกับเรื่องความรัก โพสต์กันมาก ผมไปพบกระทู้ในเรื่อง "การมีภรรยา 4 คนในศาสนาอิสลาม" ซึ่งผมเขียนไว้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ในเวบ อนุรักษ์มรดกอิสลาม และ ในเวบพันทิปนี้, ผมเห็นว่า ถ้านำมาให้ผู้ที่ยังไม่เคยได้อ่านมาก่อน  ได้อ่าน เรื่องนี้ จะทำให้เข้าใจศาสนาอิสลาม ได้อย่างถูกต้องอีกเรื่องหนึ่ง, มีข้อความบางตอนที่ผมแก้ไขให้รัดกุม,แต่ไม่เสียข้อความ, และผมได้ตัดข้อความที่มีชื่อของบุคคลบางท่านออก เพื่อ ไม่ให้เป็นการรื้อฟื้นความเห็นที่ไม่ตรงกัน
...................

อัสลามมุอะลัยกุมท่านสมาชิกทุกๆท่าน

เมื่อผม เห็นหัวข้อกระทู้ลองอ่านดูแล้ว ผมขอนำข้อความที่ผมเคยลงคุยกันใน Pantip ซึ่งอาจจะมีประโยชน์ บ้างไม่มากก็น้อย......

Pantip Polygamy

ขอความสันติจงมีแด่สมาชิกทุกๆท่าน

ก่อนที่จะสนทนาต่อไป นั้น ผมขอ แวะอธิบายเรื่องการมี ภรรยา สี่คน เพียงสั้นๆ “แก่คุณ ผู้หญิงคน1” ก่อนนะครับ เพราะปัญหานี้เป็นที่น่าสนใจ ของ ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมมาเป็นเวลานาน...

ในข้อ 6. ที่ คุณที่คุณมุสลิมคน1 นำมาเสนอ รวมอยู่ในสิ่งมหัศจรรย์ ยุคใหม่ของโลกนั้น..ว่า

ทำไมการทำชู้ โสเภณีและการรักร่วมเพศ  ถูกถือว่าเป็นเพียงเสรีภาพทางเพศในตะวันตก ... แต่เมื่อมีการพูดว่าในอิสลาม ผู้ชายสามารถมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่งคนกลับมีคนถือว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจ?

"

การเปรียบเทียบ เรื่อง ปัญหาโสเภณี, การมีภรรยาน้อย และการคบชู้ กับ การที่ศาสนาอิสลามอนุญาตให้มีภรรยา ได้ไม่เกิน 4 คน นั้น เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ถูกต้องของ ผู้ตั้ง ปัญหาใน ข้อที่ 6.

ผมเข้าใจความรู้สึกของ คุณผู้หญิง คน 1 เป็นอย่างดี.....

ในสังคมต่างๆ รวมทั้ง “ในสังคมมุสลิมไทยและใน ต่างประเทศ นั้น การกระทำเช่นนั้น เป็นสิ่งที่เลวและไม่ถูก ต้อง ไม่ ว่าจะตามหลักการของในศาสนาใด, แม้แต่ในศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ และในพุทธศาสนาก็ตาม

การเข้าใจหลักการอันนี้ มันเป็นการจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจว่า ในยุค ก่อน “Civilization” ของสังคมมนุษย์ นั้น ผู้หญิง ไม่มี เสรีภาพในตัวเองเลย เปรียบเสมือน สิ่งของ หรือ ปศุสัตว์ (ผมต้องขออภัยท่านสุภาพสตรีด้วย ในความจำเป็นต้อง อ้างประวัติศาสตร์เช่นนี้) มีการซื้อขาย และแลกเปลี่ยน และยกให้เป็นของ กำนัล ในระหว่าง ชายและเพื่อน ชายที่มี อำนาจ ด้วยกัน

ดังนั้นการมีภรรยาหลายคนในยุคก่อน “Civilization” จึงเป็นที่ยอมรับใน สังคม สมัยนั้น ในกลุ่มประเทศตะวันตก, ตะวันออก, เอเชีย และในประเทศกลุ่ม อรับทั้งหลาย......

การมีภรรยาหลายคน เป็นแนวการดำเนินชีวิต ของ ชาวอรับ และ ประชา ชาติอื่นๆ มาเป็นเวลานาน ก่อนสมัย ที่อัลกุรอาน
   จะถูกประทานมาสู่มวล มนุษยชาติ

การอธิบายต่อไปนี้ผมจะขอ อธิบาย ตาม ความเข้าใจของผม ในฐานะที่ มีความศรัทธา ในพระเจ้าองค์เดียว
ซึ่งตรงกับภาษา อรับ ว่า “อัลลอฮ์” โดยอาศัย “อัลกุรอาน” และชีวะประวัติของท่านศาสนทูตมูฮัมมัดตามประวัติศาสตร์อิสลาม

ประมานกว่า 1400 ปีล่วงมาแล้ว สมัยที่โลกยัง มีอายุน้อย และยังมีประชากรของโลกไม่มากนัก การมีภรรยาหลายคนเป็น การช่วยเพิ่มจำนวนประชากร ของโลก เพื่อที่จะ มา สนองรับใช้ พระองค์ “อัลลอฮ์” ในการที่พระองค์ อัลลอฮ์ ได้วางแผนไว้ให้แล้ว เมื่อตอนถึงเวลา ที่ อัลลอฮ์ ประทานอัลกุรอาน ในเวลานั้น ประชากร ในผืนโลกมีมากพอสมควร และประกอบทั้ง สภาพสังคมอยู่ในสภาวะสงคราม มีชายมุสลิมถูฆ่าตายเป็นจำนวนมาก และ มีแม่หม้ายและ เด็กกำพร้า เพิ่มขึ้น ในสังคมมากขึ้น ในขณะนั้น พระองค์ อัลลอฮ์ ได้ส่งกฎบัญญัติลง มาห้ามการมี ภรรยา หลายคน เป็นครั้งแรกในสังคมมนุษย์ การมี ภรรยามากกว่า หนึ่งคน ได้รับการอนุญาต ให้กระทำได้ ใน อัลกุรอาน ภายใต้ สถานการณ์และเงื่อนไขที่เข้มงวด ถ้าผู้ใดก็ตามที่นำบัญญัติ ข้อ นี้ ไปใช่ ในทางที่ผิด จะ ได้รับ การ ลง โทษ อย่างรุนแรง

ดังนั้น ถึงแม้ว่า การมีภรรยามากกว่า หนึ่งคน ที่ได้รับการอนุญาต จากพระองค์อัลลอฮ์, เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ ของเราที่จะต้อง พิจารณา สถานการณ์และหลักการ เงื่อนไข ต่างๆ อย่าง รอบคอบ ก่อนที่เราจะกล่าวว่า การมีภรรยามากกว่าหนึ่งคนนั้นได้รับ
การอนุญาต จากพระองค์ อัลลอฮ์ ให้เรา กระทำได้

ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (ศาสดาฮัมมัด) เป็นตัวอย่างที่ดีที่เห็นได้อย่างชัดเจน ว่าท่านปฏิบัติ ตาม กฎที่อัลลอฮ์ ทรงบัญญัติไว้ ในเรื่อง การ มีภรรยามากกว่า หนึ่ง คน ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แต่งงาน กับ นาง คอดิญะห์ และอยู่กับ นาง มีลูกด้วยกันหลายคน, ภรรยาของท่านร่อซูล (นางคอดิญะห์) คนนี้ อยู่กับท่านรอซูล อย่าง ผัวเดียว เมียเดียว มาเป็นเวลา 25 ปี จนกระทั้ง นาง สิ้น ชีวิตลง ท่านรอซูล ให้ความดูแลเธอและ ลูกๆของท่าน อย่าง มีความสุขสบาย ในระหว่างที่นางมีชีวิตอยู่

ตัว อย่างนี้แสดงให้เห็นว่า เพื่อความ สุขที่แท้จริง การแต่งงานกับผู้หญิงที่เรารัก และต้องการให้เป็นภรรยา คู่ชีวิตของเรานั้น ในทางปฏิบัติ ที่ถูกต้องแล้ว คือมีเพียง คนเดียว ดังเช่นตัวอย่างที่ท่านรอซูล แสดงให้เห็นว่า ท่านรอซูล มีภรรยา คนเดียว ตั้งแต่อายุ 25-50 ปี ในระหว่างชีวิติที่ท่านเหลืออยู่ 13 ปีนั้น ท่านรอซูล แต่ง งานกับ หญิงหม้ายผู้มีอายุ ซึ่งเป็นแม่หม้าย ของ เพื่อนท่านที่เสียชีวิต และทิ้ง ลูกไว้หลายคน
เนื่องจากเด็กกำพร้า เหล่านั้น ต้องการ ครอบครัวที่อบอุ่น และมีบิดาที่เป็น หัวหน้าครอบ

ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ช่วยเหลือเด็กเหล่านั้น โดยการ แต่งงาน กับหญิงหม้ายผู้นั้น และดูแล ลูกของเธอให้ความอบอุ่น แก่เด็กกำพร้า เหล่านั้น การให้การเลี้ยงดูเด็กกำพร้า โดยวิธีที่ท่าน รอซูล ปฏิบัตินี้ ตรงตามที่ อัลกุรอาน ซูเราะห์ อนิสา อายะห์ 3 ซึ่งเป็นสถานการสิ่งแวดล้อม ที่ อัลลอฮ์ ทรงอนุมัติ ให้ กระทำได้

ซูเราะห์อนิสา อายะห์ 3 พระองค์อัลลอฮ์ทรง บัญญัติว่า “ถ้าเจ้าไม่แน่ใจว่าเจ้า จะมีความ สามารถที่ จะให้ความ ยุติธรรมกับ บรรดาลูกกำพร้า. จงแต่งงานกับ หญิงที่เจ้าเลือกแล้ว 2 หรือ 3 หรือ 4 คน; แต่ถ้าเจ้าไม่คิดว่าจะให้ความยุติธรรม กับ ภรรยาทุกๆคนได้ ดังนั้น เจ้า จงแต่งงานกับ หญิงเพียงคนเดียว หรือ จะแต่งกับ หญิงเชลยที่อยู่ในความครอบครองของเจ้า, ทั้งนี้จะเป็นการสมควร เพื่อป้องกัน ตัวเจ้าเองจากการกระทำ ความ อยุติธรรม”

นอกจากการแต่งงาน กับแม่หม้าย เพื่ออุปการะลูกกำพร้า ดังกล่าว ข้างต้นแล้ว ท่าน รอซูล ได้ แต่ง งาน อีก 3 ครั้ง ในระยะเวลา 13 ปี ในช่วงหลังของชีวิตของท่าน คือ

1. ท่านแต่งงาน กับ ลูกสาวของ เพื่อนสนิท ของท่าน คือ นางอาอิชะฮ์
2. ท่านแต่งงาน กับ ลูกสาวของเพื่อน สนิท ของ ท่าน อีก คน หนึ่ง คือ นางฮัฟเซาะอ์
3. ท่านแต่งงาน กับ หญิงชาวอียิปต์ มาเรีย ซึ่ง ผู้ปกครอง ของอียิปต์ ยกให้เพื่อเป็น การสร้าง
สัมพันธ์ ทางการเมือง


จะเห็นว่า ท่านรอซูล แต่งงานในระหว่างระยะเวลา 13 ปี ช่วงหลังของ ชีวิตของท่าน นี้ ใน (1) และ (2) ท่านแต่งงานเพื่อสร้าง ความสัมพันธ์ กับหญิงที่เป็น ลูกสาว ของเพื่อนสนิท ของท่าน คือ อาบูบัคร์ และ อูมัร ที่ เขาทั้งสองขอร้อง ให้ท่านรอซูลแต่ง งาน กับ ลูกสาว ของเขา เพื่อรักษาความสัมพันธ์ ตามประเพณี ของครอบครัว (แต่งด้วยความยินยอมของ บิดาของหญิง ตามประเพณี อรับ ซึ่ง ถือว่า เป็นการ ให้เกียรติ ด้วยความรักระหว่างเพื่อน เพื่อ ที่จะได้รวมเป็นครอบครัวเดียวกัน)

การแต่งงานในข้อ (3) เนื่องจากหญิงชาวอียิปต์นางมาเรีย เป็น กรรมสิทธิ์ ของท่านรอซูลที่ผู้ครองประเทศอียิปต์ยก นางให้ท่าน, แต่งงานเพื่อยกนางมาเรีย ให้พ้นจากการ เป็นทาส เพื่อจะได้ มีความเสมอ ภาค กับภรรยาคนอื่นๆ (จากหนังสือชีวประวัติของท่านศาสดา)

ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ ที่แสดง ให้เห็นว่า ชายผู้เป็นสามี จะต้องให้ความสนใจและให้เกียรติ ต่อภรรยาและครอบครัว อย่าง เต็มที่ เพื่อ ที่จะนำ มาเพื่อ ความ สุข ในครอบครัว

อัลกุรอาน ย้ำในเรื่องการจำกัด จำนวน มีภรรยาหลายคน ให้ จำกัดอยู่ ที่ไม่เกิน 4
คน และ กำหนด ไว้ด้วย โองการ ที่เฉียบขาดว่า,

“ถ้าเจ้ากลัวว่าเจ้าจะไม่สามารถให้ความยุติธรรมแก่ภรรยา ในการที่เจ้า มีมากกว่า
1 คน ดังนั้น เจ้าจง มีความพอใจ ต่อ การมีภรรยา เพียง คนเดียว เท่านั้น” (4:3)


พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวเตือน ไว้อีกว่า,

เจ้าไม่มีทางที่จะให้ความยุติธรรม (แก่หญิง) ในการมีภรรยาหลายคน ได้ ไม่ว่า
เจ้าพยายามอย่างมากเท่าใดก็ตาม
” (4:129)

อัลกุรอาน จำกัดการมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน โดยชี้ ให้เห็นว่า ในการปฏิบัติเช่นนั้น มีทางที่จะใช้ กฎบัญญัติ(4:3) ในทางที่ผิดได้ ดังนั้น เราควรทำความเข้าใจความหมายของ กฎเกน ในอายะ (4:3) อย่าง ชัดเจน และแน่ใจว่าเราสามารถที่จะ ทำตามและมีคุณสมบัติ ครบทุกอย่าง ตามที่อัลลอฮ์ บัญญัติไว้ โดยไม่ใช้ บัญญัติของพระองค์ ในทางที่ผิด เพื่อประโยชน์ ของ ตัวเอง หรือ
ใช้ในการเอาเปรียบเพศตรงข้าม เพราะ ความมักมากในกามคุณ

แต่เพื่อให้แน่ใจที่สุดว่า เรา จะไม่ หมิ่นเหม่ ในการประพฤติผิด กฎของอัลลอฮ์ เรา ควรจะหนีห่าง จากความคิด หรือ การพยายามที่จะ มีภรรยา มากกว่า 1 คน, โดยการอดทนต่อความใคร่และความ ละโมบ ของเรา, ถ้าเหตุการณ์(สถานการณ์) และ สิ่งแวดล้อม ของ สังคม ไม่บีบคั้น ให้เรา จำเป็น ต้อง มีภรรยา มากกว่า 1คน


สิ่งที่ดีที่ควรทำที่สุดก็คือ ทุ่มเทความสนใจ ของเราต่อ ภรรยาคนเดียว และลูกๆ ในครอบครัวของเรา ให้มาก ที่สุด เท่าที่ความสามารถ ของจะทำได้ ให้มีความอดทน ต่อ สิ่งเย้ายวนต่างๆ พระองค์อัลลอฮ์ ได้เตรียมการ ให้ชายมีความอดทน ในเรื่องความมักมากในกามรมย์ ไว้เรียบร้อยแล้ว ในอายะ(24:30) โดยเฉพาะในสังคมและประเทศที่มีกฎหมายห้ามการ มีภรรยา มากกว่า 1 คน

จงกล่าวเถิดมุฮัมมัดแก่บรรดาชายมุสลิม ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษา ความ บริสุทธิ์ของพวกเขา, นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์ ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ” (24:30)

ดูตัวอย่างของท่านรอซูล ที่ท่าน ใช้ชีวิตครอบครัวอยู่กับภรรยาคนแรกของท่านจนสิ้น ชีวิตจากท่านไป เป็นเวลานานถึง 25 ปี โดยที่ไม่มีประวัติว่า ท่านรอซูล ทำการนอกใจ ท่านหญิง “คอฮ์ดิยะฮ์” สักครั้งเดียว

ในสังคม อรับ และ ในประเทศ ที่อนุญาต ให้ชายมีภรรยามาก กว่า 1 คนได้ มีหลักการ เบื้องต้น ที่ ชาย มุสลิม ที่อยู่ใน สังคมนั้น จะ ต้องรำลึก ก่อนที่จะตัด สิน ใจ มี ภรรยา มาก กว่า 1 คน ดังนี้:

1. สิ่งแวดล้อม และสถานการ ในสังคม บีบบังคับ ให้ต้องกระทำ เช่น ในสภาวะที่สังคมนั้น ไม่มี
หลักการ หรือกฎหมาย ในการ ป้องกัน และ คุ้มครอง หญิงหม้าย และ เด็กกำพร้า เช่น ใน
สภาวะ สงคราม ที่กรุง มะดีนะ ในสมัย ท่านรอซูล

2. การมีภรรยามากกว่า 1 คน สร้าง ความปวดร้าวในจิตใจ ให้แก่ภรรยา และ ลูกๆ ใน
ครอบครัว ดังนั้นชาย จึงไม่ควร อ้าง เอา อายะ4:3 มาอ้างเพื่อ หลอก ลวง ภรรยา ว่า เป็น
ซุนนะห์ ที่จะต้องทำ ตามท่านศาสดามูฮัมมัด และ ภรรยาคนแรกจะได้ บุญด้วย เพราะแสดง
ถึงเป็นคน มีใจกว้าง ที่ อนุญาต ให้สามีทำตามซุนนะห์

“ท่านมุสลิมะห์ (สุภาพสตรีมุสลิม) ทั้งหลาย โปรด ให้ความสนใจ ข้อ นี้ เป็นพิเศษ อย่า ให้ สามี, ครูสอนศาสนา อิสลาม, และ บรรดาอิหม่ามต่างๆ หรือ แม้แต่พี่น้อง ในครอบครัว ของ คุณ และของ สามี นำเอา “ฮาดีษ และ ซุนนะห์” ต่างๆ มาหลอก ลวงว่า “ถ้าคุณ อนุญาต ให้ สามี มีภรรยา คนที่ สอง ได้ ไม่ ว่า จะมีเหตุผล ในทางสุขภาพ และ ทางศาสนาอย่างไรก็ตาม
คุณจะได้บุญ อย่างมหาศาล”

3. ถ้าชายที่เริ่มตั้งครอบครัวใหม่, การมีภรรยามากกว่า 1 คน เป็นการนอกใจภรรยา และเป็นการ
ใช้หลักการบิดเบือน บทบัญญัติ ของอัลลออ์ ในทางที่ผิด อย่างแน่นอน

4. การมีภรรยาคนที่สอง ที่มีอายุน้อยกว่า ภรรยา คนแรก หรือ มีภรรยาคนที่สอง เพื่อเอา มาแทน ภรรยา คนแรก ที่หมดความงาม และ แก่ แล้ว เป็นการ ผิดหลักการ ของ “อิสลาม” และ ดื้อดึง ต่อ บัญญัติ ของ อัลลอฮ์

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่