ไม่ผ่านสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนไปเรียนต่ออเมริกา ทำยังไงดีครับ

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมไปสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนไปเรียนต่ออเมริกามาครับ รอบ 07.30 น. แต่ไม่ผ่าน เหตุผลการไม่ผ่านท่านกงสุลไม่ยอมบอก

แต่ผมเพียรพยายามถามท่านแล้วครับ ท่านยื่นใบสีขาวมาให้เขียนว่า คุณสมบัติไม่ผ่านมาตราฐาน 214(b) ซึ่งหลังจากกลับมาผมก็หาข้อมูลว่ามันคืออะไร

แต่ก็ไม่กระจ่างจึงได้มาตั้งกระทู้ถามถึงจุดบกพร่องที่น่าจะเป็นไปได้ที่ทำให้ผมไม่ผ่านครับ ขอเริ่มตอนยื่นเอกสารให้คนไทยในห้องก่อนพบท่านกงสุลนะครับ

หลังจากที่ต่อแถว พี่ผู้หญิงคนนึงก็เรียกผมเข้าช่องครับ
พี่ผู้หญิง  :  ขอซองเอกสารด้วยค่ะ(ซองพาสติกที่ใส่พาสปอต,I-20,ใบชำระค่า Sevis)  
ผม        :   นี่ครับ (ยื่นซองให้)
พี่ผู้หญิง  :  เคยเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลไหมคะ
ผม        :   เคยครับ เปลี่ยนแค่ชื่อครับ
พี่ผู้หญิง  :   ขอเอกสารสปอนเซอร์ครับ  
ผม        :   ยื่นให้ทั้งปึก (ผมแยกเอกสารตัวเองมาปึกนึง สปอนเซอร์ปึกนึง)
พี่ผู้หญิง  :  เอาแค่สปอนเซอร์ค่ะ (น้ำเสียงเริ่มเหวี่ยง)
ผม        :   ทั้งปึกเลยครับ
พี่ผู้หญิง  :  เอาที่สำคัญ
ผม        :   สำคัญทั้งปึกเลยครับ
พี่ผู้หญิง  :  เอาแค่หนังสือรับรองจากธนาคาร
ผม        :  อ๋อครับ (แล้วไม่บอกตั้งแต่แรก)
พี่ผู้หญิง  :  ไปต่อคิวรอเรียกได้เลย
ผม        :  (เดินไปต่อคิว)

ขณะต่อคิวผมก็สังเกตุการสัมภาษณ์ของคนอื่นๆก่อนหน้า สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ มี3ช่อง ท่านกงสุลนั่งอยู่ช่องละคน และมีผู้ชายน่าจะเป็นคนไทย

ยืนอยู่ด้วย แต่เดินไปเดินมาหลังท่านกงสุลเหมือนคอยสังเกตุการณ์ ผมจำเลขช่องไม่ได้แต่มี 3 ช่อง ซ้าย กลาง ขวา เป็นผู้ชายทั้งหมด

ช่องซ้ายหน้าตาบึ้งตึง ช่องกลางและขวาอารมณ์ดีสัมภาษณ์ไปยิ้มและหัวเราะไป เมื่อใกล้ถึงคิวผม คุณผู้หญิงที่ช่องซ้ายโดนปฏิเสธ แต่เธอพยายามถาม

ท่านกงสุลว่าทำไมเกิดอะไรทำไมไม่ผ่าน ทันใดนั้นช่องขวาสุดเสร็จพอดี(ผมคิดในใจ โชคดีได้ช่องขวาสุด) แต่ท่านกงสุลช่องขวาสุดก้มหน้าก้มตา

พิมอะไรสักอย่างไม่เรียกผมสักที และแล้วความหายนะก็มาเยือนผมท่านกงสุลช่องซ้ายกวักมือเรียกยิกๆเลยต้องเดินไปหา

ผม           :  Good morning
ท่านกงสุล  :  สวัสดีครับ
ผม           :  สวัสดีครับ
ท่านกงสุล  :  จะไปเรียนที่ไหน
ผม           :  xxxxx New York ครับ
ท่านกงสุล  :  ใครเปนสปอเซอร์
ผม           :  พ่อกับคุณย่าครับ (บัญชีร่วม)
ท่านกงสุล  :  พ่อทำอะไร
ผม           :  รับราชการ เป็นครูครับ
ท่านกงสุล  :  ไปนานแค่ไหน
ผม           :  6 เดือนครับ
ท่านกงสุล  :  เรียนจบรึยัง
ผม           :  จบแล้วครับ
ท่านกงสุล  :  จากที่ไหน จบเมื่อไหร่
ผม           :  มหาวิทยาลัย xxxxx ปี 54 ครับ 4 ปีแล้ว
ท่านกงสุล  :  ไปเรียนเพื่ออะไร
ผม           :  ผมอยากได้ภาษาอังกฤษเพื่อกลับมาสมัครสายการบินครับ
ท่านกงสุล  :  สายการบินอะไร
ผม           :  สายการบิน xxxxx ครับ
ท่านกงสุล  :  มีญาติที่นั่นไหม
ผม           :  ไม่มีครับ
ท่านกงสุล  :  เคยไปต่างประเทศไหม
ผม           :  เคยครับไปมาเลเซีย พม่า ลาว ที่จุดผ่านแดน ไปเช้าเย็นกลับครับ
ท่านกงสุล  :  ขอดูทรานสคริปหน่อยเอามาไหม
ผม           :  เอามาครับ (ยื่นให้ดู)
ท่านกงสุล  :  (เปิดๆดูสักพัก หันไปคุยกะคนไทยที่เดินอยู่ด้านหลัง หยิบเอกสารทั้งหมดผมไปคุยกัน) ตอนนี้มีรายได้ไหม
ผม           :  (ใจไม่ดีเพราะคนที่โดนปฏิเสธก็เอาเอกสารไปคุยแบบนี้เหมือนกัน) มีครับแต่ไม่ได้เป็นเงินเดือน (ช่วยที่บ้านทำงาน)
ท่านกงสุล  :  เดี๋ยวสแกนนิ้วด้านซ้ายอีกรอบครับ
ผม           :  ครับ (สแกนนิ้ว)
ท่านกงสุล  :  (หยิบใบสีขาวมาเขียนวันที่) เสียใจด้วยนะครับวันนี้เราไม่สามารถออกให้ได้ กฎของอเมริกาเข้มงวดมาก
ผม           :  เพราะอะไรบอกได้ไหมครับ
ท่านกงสุล  :  เอกสารใบนี้จะบอกคุณทุกอย่าง (ยื่นใบขาวพร้อมเอกสารและพาสปอตคืนมาให้)
ผม           :  พอจะบอกได้ไหมครับว่าเพราะอะไร
ท่านกงสุล  :  ผายมือไปทางประตูออก

ข้อมูลส่วนตัวของผมมีดังนี้นะครับ แต่ทางท่านกงสุลไม่ขอดูอะไรเลยยกเว้นทรานสคริป

1.เอกสารสปอนเซอร์ครบทุกอย่าง หนังสือรับรองการทำงานของพ่อ รับรองเงินเดือนของพ่อประมาณ 8x,xxx บาท สเตรทเม้นย้อนหลัง

2.เอกสารส่วนตัวครบทุกอย่าง หลังจากผมจบมา ปี 54 ก็เริ่มทำงานเลยที่ค่ายมือถือ 2 ปี 6 เดือน หลังจากนั้นออกมาเรียนสถาบันสอนแอร์สจ๊วตย่านรัชาดา 6 เดือน หลังจากนั้น ทำงานต่ออีก 9 เดือน บริษัทค้าไม้แห่งหนึ่ง ออกมาบวชและลาสิขาก่อนเข้าพรรษาปีนี้ หลังจากนั้นเรียนภาษาฝรั่งเศสจนถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ และช่วยงานที่บ้านตั้งแต่ตอนนั้นถึงปัจจุบัน ไม่มีเงินเดือนประจำครับเพราะตั้งใจจะเรียนต่ออยุ่แล้วจึงไม่ได้หางานต่อครับ ผมใช้เวลาในการดำเนินการรวบรวมเอกสาร รอ I-20 ทุกอย่าง ประมาณเดือนกว่าๆตั้งแต่เดือนกันยายน วีซ่าผมทำตอนเดือนสิงหาคมปีนี้ตอนนั้นกะจะเดินทางไปฮ่องกงแต่ไม่ได้ไปพาสปอตขาวสะอาด

3.การแต่งตัวใส่สูท ผูกไทค์

4.ผมมีบ้าน ที่ดิน ที่เป็นชื่อขอผมเองแต่ไม่ได้เอาไป DS-160 ทางเอเจนซี่กรอกให้ แต่ที่กรอกมีให้กรอกแค่การทำงานไม่มีให้กรอกว่าระหว่างทำงานลาออกไปทำไมจึงไม่ได้กรอกและไม่ได้ชี้แจงเพราะท่านไม่ได้ถามครับ แต่ระยะเวลาตั้งแต่จบมาไม่มีช่วงไหนว่างงานนะครับ ทำงาน-เรียน-ทำงาน-บวช-เรียน ต่อเนื่องกันหมด เอกสารรับรองมีทุกอันครับ ยกเว้นหลังจบฝรั่งเศสจะช่วยงานที่บ้านซึ่งไม่ได้มีหนังสือรับรองรายได้ก็มีแค่พ่อแม่ให้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเงินเก็บของตัวเอง ตั๋วเครื่องบินไม่มีไปแสดงเพราะว่ายังไม่ได้วีซ่าเลยไม่อกล้าจองกลัวโดนปฏิเสธแล้วเสียเงินครับ

คำถามนะครับ จากข้อมูลข้างต้นมีอะไรที่ยังบกพร่องจึงทำให้โดนปฏิเสธไหมครับ อยากจะไปสัมภาษณ์รอบ 2 ควรเว้นระยะไหมครับ (เริ่มเรียน 4 มกราคม 2559) ควรจะเพิ่มเติมตรงไหนไหมครับ รบกวนผู้รู้หรือมีประสบการณ์ช่วยแนะนำทีครับ ตั้งใจจะไปเรียนจริงๆครับ

ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านและให้คำแนะนำครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่