สะใจ โดนใจ จนเห็นว่าแค่กล่าวคำชมในกระทู้นั้นไม่พอแน่ ขอยกมาตั้งเป็นอีกทู้ดีกว่า เพื่อคุณ "ห่านป่า" โดยเฉพาะครับ

กระทู้คำถาม
อมยิ้ม01

จากทู้แนะนำ   http://ppantip.com/topic/34470019     คุณนาค  จขกท. ตอบคุณห่านป่า


ความคิดเห็นที่ 45

มาตอบคุณห่านป่าในความเห็นที่ 39 และ 43 ค่ะ

คุณรู้ได้อย่างไรค่ะว่าคนอื่นเขาใช้ความคิดแบบปรนัย และคุณเคยเข้าใจคำว่ามนุษย์คือสัตว์โลกที่มีความหลากหลายในพันธุกรรมและความคิดไหมค่ะ หากมองในทางกลับกันแล้วดิฉันก็ไม่เคยเห็นคนอีกฝ่ายเขาใช้วาทกรรมโจมตีคนอื่นเป็นสีดำทั้งหมดนี่ค่ะ เช่นกรณีไม่รักชาติ โกง โง่ จน ฯลฯ นี่เป็นวาทกรรมของฝ่ายไหนกันแน่ค่ะที่แบ่งแยกความขาว-ดำชัดเจนในจิตใจคนโดยเฉพาะคนในชาติเดียวกัน และสิ่งที่ดิฉันตกใจในแนวคิดคุณห่านป่าก็คือคุณยังกล้ายกตัวอย่างคำว่า "วาทกรรมบิดเบือน พูดไม่ครบ เอาดีใส่ตัว สร้างชั่วให้คนอื่น" มาอ้างเป็นประเด็นในการเสริมแนวคิดของตัวเอง นี่คือการลืมสำรวจตัวเองโดยแท้จริงอย่างเต็มรูปแบบนะค่ะ อยากให้คุณลองกลับไปพิจารณาดูเสียใหม่ว่าตัวอย่างนั้นใครเป็นคนทำเสียจนติดเป็นภาพลักษณ์ประจำพรรคการเมืองของตัวเอง

สิ่งที่คุณบอกดิฉันว่าเป็นการมโนล้วนๆทั้งที่ดิฉันพยายามยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุดและปรากฏแก่สายตาประชาชนมากที่สุดมาให้ผู้อ่านดู แต่คุณห่านป่ากลับมองไม่เห็นภาพนั้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนว่าใครกันแน่ที่ไม่พิจารณาบริบทการเมือง

ในโลกนี้ยากนักที่ใครจะทำอะไรได้ถูกใจคนทั้งประเทศไปหมดเสียทุกคน การบริหารประเทศบางครั้งมันก็เหมือนการแก้ปัญหากองน้ำที่ขังอยู่บนกองผ้าใบ ในกรณีที่ไม่สามารถเอาน้ำออกจากกองผ้าใบได้จนหมดคุณเลื่อนน้ำจากจุดหนึ่งให้มันแห้งแน่นอนน้ำก็ต้องไหลไปกองกันอยู่อีกที่หนึ่งแทนที่เดิม มีคนได้ประโยชน์จากโครงการของรัฐบาล ก็ย่อมที่จะมีคนเสียประโยชน์จากโครงการของรัฐบาลเช่นกัน ฉะนั้นแล้วดิฉันเข้าใจคำที่คุณพูดว่าว่า "แม้จะไม่ดีเลิศ ประเสริฐศรี มณีเด้ง" แน่นอนค่ะเป็นเรื่องธรรมดามากจริงๆสำหรับมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคม แต่ทางฝ่ายคุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าใจตรงนี้หรือไม่ดิฉันก็เกินจะคาดเดาแต่โดยรูปธรรมแล้วเห็นน้อยมากจนแทบจะมองไม่เห็นนะค่ะ โยนความผิดให้พ้นตัวตลอด

และคุณไม่ต้องห่วงเลยนะค่ะว่าใครจะมองไม่เห็นเรื่อง "ในช่วงที่คุณอภิสิทธิ์เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๗ และตอนที่เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ก็พอ เราจะเห็นว่า...เหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงนั้น....วุ่นวายขนาดไหน" ดิฉันเชื่อว่าเพื่อนร่วมประเทศของเราเห็นนะค่ะว่าต้นเหตุแห่งความวุ่นวายเกิดจากอะไร กระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระต่างๆได้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางให้ปรากฏต่อหน้าประชาชนหรือไม่ ทุกคนมีวิจารณญาณในการเสพประสบการณ์ที่ได้รับนะค่ะ อย่าคิดว่าเพื่อนร่วมประเทศเราจะมองไม่ออกนะค่ะ ประกอบกับความไร้มารยาททางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ที่ไปดึงคนจากฝ่ายตรงข้ามเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลโดยแลกกับตำแหน่งในกระทรวงที่สำคัญต่างๆ เพียงเพื่ออยากให้คุณอภิสิทธิ์ได้มีโอกาสนั่งเก้าอีนายกรัฐมนตรีโดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรมในพฤติกรรมและรองรับพฤติกรรมเยี่ยงนี้ด้วยคำว่ากลไกรัฐสภา นี่คือต้นเหตุจากความวุ่นวายที่แท้จริงนะค่ะ ลองกลับไปทบทวนดูให้ดีหากคุณยังเป็นหนึ่งคนที่ยังศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยฯ

ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมในสมัยรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ ทำไมคุณไม่มองว่าการขึ้นดำรงตำแหน่งของคุณอภิสิทธิ์เป็นเรื่องไม่ชอบธรรมและเสียมารยาททางการเมืองละค่ะ เป้าหมายหลักของผู้ชุมนุมเขาเพียงแค่ต้องการให้คุณอภิสิทธิ์ยุบสภาแล้วเลือกตั้งกันใหม่เท่านั้น และดิฉันต้องมาทึ่งกับคุณห่านป่าอีกครั้งว่า ณ เวลานั้นบ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปด้วยดี , คุณอภิสิทธิ์ เพียรพยายามหาทางออกแบบสันติแต่...คนเสื้อแดงก็พยายามใช้ความรุนแรงเพื่อเป้าหมายทางการเมืองถึงขั้นพยายามจับตัวทำร้ายนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คุณอภิสิทธิ์....กลายเป็นเป้าการโจมตี ชนิดเอาถึงตาย จากคนเสื้อแดง , ตลอดเวลาสองปีเศษที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ แทบจะไม่มีสักวันเดียวที่ไม่ถูกกดดันปัญหาใหญ่น้อย  คุณห่านป่าค่ะการพยายามหาทางออกอย่างสันติของคุณคือการลากเอาอาวุธสงคราม เอารถถังมาปิดล้อมพื้นที่ชุมนุมหรือค่ะ ดิฉันจำไม่ผิดก่อนที่จะมีการเข้าสลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนจริง ทางแกนนำคนเสื้อแดงได้ขึ้นเวทีประกาศยุติการชุมนุมไปก่อนหน้านั้นแล้ว และได้มีการเจรจาไม่ให้มีการใช้อาวุธสงครามในการเข้าสลายการชุมนุมจากตัวแทนแล้ว และตัวกลางในการเจรจาครั้งนั้นก็มีอาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เข้าร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ด้วยแต่การเจรจาก็ไม่เป็นผล ทำให้เหตุการณ์นั้นมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก นี่หรือค่ะสันติของคุณ และหลังจากที่คนเสื้อแดงได้ถูกสลายการชุมนุมไปแล้วมีใครไปขัดแข้งขัดขาการทำงานของคุณอภิสิทธิ์หรือค่ะ เขาปล่อยให้พวกคุณทำจนหมดวาระแต่ผลงานไม่เข้าตาประชาชนเองคุณยังจะไปโทษคนอื่นได้อย่างเหลือเชื่อ

"แม้จะพ่ายแพ้เลือกตั้ง  ต้องไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน  แต่คุณอภิสิทธิ์ ก็ยังทำหน้าที่อย่างน่าชื่นชมยิ่ง" นี่น่าชื่นชมหรือค่ะ ลูกพรรคคุณอภิสิทธิ์มีการจัดตั้งทีมประท้วงกันจนหาสาระไม่ได้ การทุ่มเก้าอี้ใส่เพื่อนสมาชิกสภา การลากเก้าอี้ประธานสภา ฯลฯ ส่วนนอกสภาก็ร่วมกันเป่านกหวีดปิดประเทศ ไล่นายกฯที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ ทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยการเอาเรื่องปฏิรูปมาอ้าง ดูถูกชนชั้นระหว่างคนเมืองกับคนต่างจังหวัด แบ่งแบกชนชั้น คิดว่าเสียงตัวเองมีคุณภาพมากกว่าคนอื่น คนอื่นโง่ เลว โกง ฯลฯ ตัวเองเป็นคนดี นี่คือสิ่งที่สร้างสรรค์และน่าชื่นชมหรือไม่ค่ะ

และที่คุณมาตลกปิดท้ายกับคำว่า "เราหาได้อีกมั้ยในประเทศไทยเรา .นักการเมืองแบบต้องฝ่าฟันเต็ม ๑๐๐  แบบคุณอภิสิทธิ์" ดิฉันขอตอบสั้นๆเลยนะค่ะ หาไม่ได้ค่ะนักการเมืองที่โชคดีแบบคุณอภิสิทธิ์ ได้เปรียบเขาทุกอย่างแต่ไม่มีปัญญาเลือกตั้งชนะใคร หาไม่ได้อีกแล้วแน่นอนค่ะ

ส่วนเรื่องที่คุณว่า ทำไม "พี่น้องคนเสื้อแดงจึงไปไม่ถึงฝันสักที่ แหกโค้งลงข้างทาง ทั้งที่มีพลังเหลือเฟือ ก็เพราะไม่ยอมรับความเห็นต่าง ไม่รู้จักนำความเห็นต่างมาศึกษา...ให้รู้เขารู้เรา" คุณห่านป่าลองมองกลับไปทางตัวเองดูนะค่ะว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่แข็งกร้าวต่อฝ่ายตรงข้าม ไม่ยอมปรองดองด้วย อยากไล่พวกคิดต่างออกนอกประเทศ ฯลฯ ที่สำคัญคือไม่กล้าที่จะให้ประชาชนทั้งประเทศลงคะแนนตัดสินในความเห็นต่างผ่านคูหาเลือกตั้ง แบบนี้มันสะท้อนให้เห็นนะค่ะว่าใครที่ไม่ยอมรับความเห็นต่างค่ะ

  
นาค  
23 พ.ย. 2558   เวลา 21:40:29 น.
...............................................................




ขอบอกว่า
ยอดเยี่ยมเลยครับคุณนาค   อมยิ้ม36อมยิ้ม36อมยิ้ม36อมยิ้ม36อมยิ้ม36


ผมขอเสริมนิด ๆ ว่า

คุณนาคใช้ข้อมูล  เหตุผล  อันอิงสถานการณ์จริง ปรากฎการณ์จริงที่เกิดขึ้นในการถกแย้ง
ขณะที่คุณห่านป่า  ใช้มโนและฉันทาคติบวกโทสาคติอันเต็มไปด้วยโมหาคติเท่านั้น  ในการถกแย้ง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้






พี่น้องเอ๊ย  พี่น้องสลิ่มครับ   เห็นหรือยังครับ   นึกได้หรือยังครับ
ว่าถ้าหากอยากให้คนเสื้อแดง หรือใครก็ตามเห็นด้วย เห็นคล้อยตามกับพวกคุณ  ยอมรับพวกคุณ
พวกคุณควรปรับตัว ปรับรู้ เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนแนวทางในการโน้มน้าวถกถ้อยแย้งความ

เลิกเถอะครับกับวิธีที่ ปชป. ใช้  คือไม่มีอะไรที่สร้างสรรค์
นอกจากหาเรื่องต่อปากต่อคำ  เหน็บแนม  เสียดสี  ใช้ข้อมูลพร่องหลักฐานเท็จ ใส่ร้ายไปวัน ๆ

ไม่ได้ผลครับ

เหมือน ๆ อย่างที่คุณห่านป่าว่าไว้นั่นแหละ ที่ว่า    "พี่น้องคนเสื้อแดงจึงไปไม่ถึงฝันสักที่ แหกโค้งลงข้างทาง"

ผมขอเปลี่ยนเป็น    "พี่น้องสลิ่มจึงไปไม่ถึงฝันสักที่ แหกโค้งลงข้างทาง  สีข้างพรุนไปตาม ๆ กัน"



นะครับ
อมยิ้ม01
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
สิ่งที่น่าสมเพช และน่าสังเวช ของเหล่าสลิ่ม คือ "การกลัวความเปลี่ยนแปลง"

สลิ่มเคยชินกับการเมืองแบบ "อนุรักษ์" รูปแบบการทำงานก็เหมือนข้าราชการในอดีต

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจากการเมืองแบบใหม่ในรูปแบบทันสมัย สลิ่ม และ พรรคการเมือง

ที่สลิ่มบูชาอย่าง ปชป จึงปรับตัวไม่ทัน และเกิดความหวาดกลัว จึงใช้ทุกวิธีการที่อยู่นอกกรอบ

มาทำลายพรรคตรงข้าม แทนที่จะหาทางพัฒนา แข่งขัน ให้ทัดเทียม หรือ ล้ำหน้า คู่ต่อสู้


เห็นได้ชัดว่า แม้แต่หัวหน้าพรรคอย่าง "อภิสิทธิ์" ซึ่งคนที่ติดตามการเมืองบ้าง ต่างก็ทราบดีว่า

คนๆนี้ "ล้มละลายทางการเมือง" ไปแล้ว แต่เหล่าสาวก ยังไม่กล้าคิดแม้แต่จะเปลี่ยน

ยอมใช้วิธีหาตัวช่วยนอกระบบ มาทำลายวิถีแห่ง ปชต  แค่จุดนี้ก็เห็นแล้วว่า คุณภาพของพรรคการเมือง

ที่มีอายุเกือบ 70 ปี และคุณภาพของเหล่า สาวก มีแค่ไหน


ป.ล  กำลังจะเขียนเรื่องนี้พอดี เลยขอฝากไว้ที่กระทู้นี้ล่ะกัน

ป.ล 2 เขียนเรื่องอื่นอาจจะต้องใช้เวลาเตรียมข้อมูล แต่เรื่องของ แมงสาบ นี่

สามารถเขียนสดได้ตลอดเวลา
ความคิดเห็นที่ 2
สงสารคุณนาคที่ต้องพิมพ์เสียยืดยาว สุดท้ายก็ไม่ต่างกับการสีซอให้ห่านฟัง มีแต่เมื่อยมือเปล่าๆ

เพราะถ้าคุณนาคเล่นห้องนี้มาตั้งแต่ยุคพันธมิตรปิดสนามบิน คุณห่านนั้นจะพร่ำเพ้อแต่เรื่องประชาธิปไตยคือจุดยืนที่ตัวเองยึดมั่นเท่านั้น และโทษคนที่ไม่เห็นด้วยว่าเป็นพวกไม่มีจิตวิญญานแห่งประชาธิปไตยที่แท้จริง

สุดท้าย คุณห่านวันนี้นั่งเลียรองเท้าบู้ทปะเล๊าะปะเล๊าะจนเลิกสนใจเรื่องราคายางพาราว่าจะรูดมหาราชแค่ไหน มันไม่คุ้มกับการที่ต้องมานั่งเสียเวลาพิมพ์นานกับคนแบบนี้เลย

สำหรับคุณห่านนั้น แค่ถามเรื่องราคายางวันนี้  กูรูยางอย่างคุณห่านป่วยแกก็ใบ้แดร๊กไปไม่เป็นแล้ว ที่ยังเสนอหน้าได้เพราะใช้ความ"หนา"เข้าไว้เท่านั้นเองนะฮ้า
ความคิดเห็นที่ 21
สวัสดีค่ะคุณหน้าตาดีไม่มีแฟน ขอบคุณที่ให้เครดิตกับกระทู้ข้อเขียนดิฉันนะค่ะ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติ พร้อมทั้งขออภัยที่เข้ามาตอบช้าเพราะพึ่งเห็นกระทู้จริงๆ

หวังว่าสักวันหนึ่งทั้งดิฉันและคุณห่านป่าคงปรับจูนแนวคิดที่ไปในทิศทางเดียวกันหรือเห็นต่างกันในองศาที่แคบลงมากกว่านี้ค่ะ เราคุยกันด้วยเหตุและผลและยึดในสิ่งที่เป็นรูปธรรมที่ปรากฏต่อหน้าประชาชนด้วยใจที่เป็นกลาง แล้วทุกอย่างจะมีข้อสรุปที่ง่ายขึ้นกว่านี้นะค่ะ บางครั้งเรายึดติดกับในสิ่งที่เราเชื่อเราคิดมาตลอดใช่ว่าจะเป็นผลดีเสมอไป ลองถอยออกมาจากตัวเองสักหนึ่งก้าวแล้วทุกท่านจะเห็นมุมมองและตัวตนของทั้งตนเองและคู่สนทนาในมุมมองที่กว้างขึ้นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่