Ep 1 นิมิตแห่งจักรวาล ตอน "จุดเริ่มต้น"

กระทู้สนทนา
ผมเป็นนักเขียนมือใหม่ หากผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยนะครับ


ครั้งหนึงนานมาแล้ว ในความว่างเปล่าที่ถูกครอบงำไปด้วยคาเอลรอลเจ้าแห่งความมืด ผู้ที่ควบคุมความสิ้นหวัง และความว่างเปล่าแต่เพียงผู้เดียว  แต่อยู่มาในวันหนึ่งได้กำเนิดแสงสว่างที่สามารถควบคุมและกักขังคาเอลรอลเอาไว้ได้  และให้กำเนิดอาณาจักรแห่งดวงดาวนับแสนนับล้านดวง  พร้อมทั้งคาวผู้ที่มาพร้อมกับแสงสว่างและสิ่งมีชีวิตต่างๆ มากมายหลายสายพันธ์ุ แต่ทว่า คาวได้หลับใหลจากการใช้พลังมหาศาล  เพื่อสร้างจักรวาลให้มีชีวิตขึ้น แต่ก่อนที่คาวจะหลับใหลนั้น  เขาได้ทำพันธสัญญากับคาเอลรอลไว้ว่า  "เจ้าและเราจะร่วมกันปกครองห้วงจักรวาล  เพื่อความสมดุลของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล"  คาเอลรอลจำต้องรับพันธสัญญานั้นด้วยความไม่เต็มใจ เพราะร่างที่ถูกพันธนาการและพลังที่เหลือน้อยเต็มที  แต่คาวรู้ดีว่าการทำพันธสัญญานั้นไม่อาจทำให้คาเอลรอลยอมจำนนต่อเขาได้  ในอีกไม่ช้า คาเอลรอลจะต้องหาวิธีเพื่อที่จะหลุดจากการควบคุมของตัวเขาอย่างแน่นอน จากจิตใจของสิ่งมีชีวิตตัวเขานั้นได้สร้างขึ้นมา และนั้นก็หมายถึงจุดจบของจักรวาล  คาวจึงแยกร่างตนออกเป็นอีก 5 ร่างพร้อมกับสลักคำทำนายที่เป็นกุญแจสำคัญ และได้สร้างดวงดาวทั้ง 9 ดวง เพื่อปกป้องร่างของเขาเอาไว้  คาวได้ใช้พลังที่เหลืออยู่ส่งร่างแต่ละร่างไปยังดวงดาวต่างๆ  ด้วยการผนึกความทรงจำและความสามารถทั้งหมด  เพื่อป้องกันอำนาจมืดไม่ให้ค้นพบ  ยกเว้นร่างที่ 5 ร่างนั้นถูกเรียกว่า ชาร์ ร่างที่มีพลังนิมิตแห่งจักรวาล หรือ ความฝันแห่งคาวนั้นเอง



"มารูซ่า ตื่นได้แล้ว ทุกคนรอเธออยู่นะ" เสียงของเด็กผู้ชาย ที่เห็นเพียงเงาภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า

"นั่นเสียงของเธอหรอ ฮูเซล รอฉันด้วยอย่าเพิ่งไป ฮูเซลอย่าเพิ่งไป"เสียงร้องเรียกที่ดูเหมือนจะไร้ความหมาย พร้อมกับมือที่ไขว่คว้าความว่างเปล่า และหยดน้ำตาที่ไหลลงมาแทบไม่หยุด

"ฉันยังคงฝันอยู่สินะ ทำไม ทำไมฉันยังคงฝันเห็นแค่ภาพของเธอ"เสียงของซารูน่าที่พูดกับตัวเอง ถึงภาพความฝันเดิม ๆ ที่ไม่เคยหายไปจากใจของเธอ





ณ ดวงดาวแห่งนิมิต  1 ใน 9 ดวงดาวแห่งอาณาจักรไลท์นายน์  ในวันที่ท้องฟ้าไม่สว่างเหมือนที่เคย ทุกอย่างดูเงียบสงัด มีเพียงเสียงของลมพัดผ่านเบา ๆ ราวกับว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น  

     อควาทอเลียดินแดนห่งจิตวิญญาน ถูกสร้างขึ้นจากต้นแกรนเดก ใบและลำต้นเป็นคริสตันเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล มีขนาดที่สูงใหญ่แข็งแกร่งดุจดั่งเหล็กกล้า และจะมีเพียงต้นเดียวในรอบหนึ่งพันปีเท่านนั้น ถ้ามองจากอควาทอเลียก็จะมองเห็นร่างแสงของคาวได้อย่างชัดเจน  

ดวงตาที่จ้องมองด้วยความกังวลและหวาดกลัว ถูกจับจ้องไปยังร่างแสงแห่งคาวพร้อมกับกล่าวออกมาว่า

"ดูแสงนั่นสิ มันริบหรี่ลงเรื่อย ๆ แล้ว" เสียงของหญิงแก่รูปร่างเล็ก  ในมือซ้ายถือไม้เท้ามือขวาถือหนังสือเล่มโต ที่ดูแล้วหนักเอาเรื่อง  นั้นก็คือ โซว์ แม่เฒ่ารุ่นที่ 119 ของดวงดาวแห่งนิมิต พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ และดูเป็นกังวล เมื่อมองไปที่ร่างแสงแห่งคาว  

"นี่มันจะต้องมาจบลง  ในยุคของข้าแล้วจริง ๆ หรือนี่"

"ไม่หรอกค่ะโซว์"  เสียงเด็กผู้หญิงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่หนักแน่น  พร้อมกับกุมมือของโซว์เอาไว้  

"ข้าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเด็ดขาด"  ซารูน่าพูดพร้อมกับมองหน้าของโซว์ ด้วยสีหน้าที่จริงจังและแน่วแน่

เมื่อโซว์เห็นท่าทีของเด็กสาวแบบนั้นแล้ว  ถึงกับอดยิ้มออกมาไม่ได้ พร้อมกับเอ่ยพูดว่า  

"ถ้าเด็กอย่างเจ้ายังมีความเชื่อมั่นได้ขนาดนี้ แล้วตัวข้าจะมามัวเสียเวลากลัว กับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นไปทำไมกัน  ขอบใจเจ้ามากนะ ซารูน่าหลานรักของยาย  เจ้าเหมือนกับแม่ของเจ้าไม่มีผิด ข้าเชื่อว่าในสักวัน  เจ้าจะเติบโตมาเป็นผู้สืบทอดที่ดีต่อจากข้า" เมื่อโซว์พูดจบ  จึงเอามือจับที่หัวของหลานสาวแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ซารูน่ายืนจ้องมอง ร่างแสงแห่งคาวเพียงลำพังเหมือนกับทุก ๆ ครั้ง

"ข้าขอสัญญากับร่างแสงแห่งคาว  ว่าข้าจะเป็นผู้สืบทอดที่ดีต่อจากท่านให้ได้  เพื่อสานต่อความฝันของท่านแม่ และตัวของข้าเอง"    ซารูน่าพูดกับตัวเองเบา ๆ พร้อมกับจ้องมองไปที่ร่างแสงแห่งคาว  ด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำใสๆ จนเกือบจะไหลออกมา

และทุกอย่างยังดำเนินไปอย่างเช่นทุก ๆ วัน แสงสว่างที่สาดส่องลงมากระทบใบหน้า ใบแกรานเดกที่กระทบกันเบา ๆ ทำให้เกิดเสียงที่ไพเราะ ซารูน่านั้งเอนกายลงไปที่ลำต้นแกรนเดกเพื่อพักผ่อน แต่ก็นั้งได้ไม่นาน เพราะว่ามีเสียงร้องเรียกชื่อของเธอมาแต่ไกล

"ซารูน่า ซารูน่า... เจ้าอยู่ที่ไหนกัน ได้ยินเสียงของข้าไหม"  เสียงเด็กผู้ชายร้องเรียกซารูน่าไม่หยุดปาก ซารูน่า ซารูน่า...  

"ข้าได้ยินแล้ว ฮูเซล" ชื่อของเด็กผู้ชาย ที่ร้องเรียกซารูน่า  "มีอะไรกันถึงได้ตระโกนเสียงดังขนาดนั้น"

"โซว์ ให้ข้ามาตามตัวเจ้าไปที่เขตศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ เพราะตอนนี้ทุกคนบนดาวกำลังไปรวมตัวกันที่นั่น" ฮูเซลพูดด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยและติดขัด  เพราะหมดแรงจากการวิ่งฝ่าผู้คนมาอย่างมากมาย เพื่อจะมาตามซารูน่าที่อควาทอเลีย  

"ทำไมละ มีเรื่องอะไรกัน" ซารูน่าถามฮูเซล ด้วยท่าทีที่ตกใจ

"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันถ้าเจ้าอยากรู้ ข้าว่าเรารีบ ๆ ไปกันเถอะ"  

ซารูน่ารีบวิ่งไปพร้อมกับฮูเซล  ในใจครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้น  ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญแน่ ๆ เพราะตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยเห็นโซว์ เรียกคนบนดาวไปรวมกันที่เขตศักดิ์สิทธิ์เยอะขนาดนี้ แล้วอีกอย่างนี่ก็เป็นครั้งแรก  ที่จะได้เข้าไปในเขศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย  

"ซารูน่าเจ้ารู้ไหมว่า ในเขตศักดิ์สิทธิ์มีอะไร  ข้าไม่เคยเข้าไปสักครั้ง  เห็นเขาว่ากันว่ามีไม่กี่คนบนดาวที่สามารถเข้าไปได้  ข้าบังเอิญได้ยินชาวดาวเขาพูดกันตอนที่ข้าวิ่งมาหาเจ้า  ว่าเมื่อประมาณหลายร้อยปีก่อน  เกิดเหตุการณ์ที่แม่เฒ่าเรียกคนบนดาวไปที่เขตศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ ตอนนั้นเป็นเรื่องใหญ่ถึงกับดาวจะแตกสลายเลยนะ แล้วตอนนี้ละ  จะเป็นเรื่องอะไรกันแน่"  ฮูเซลตระโกนถามซารูน่าระหว่างที่กำลังวิ่ง ด้วยความอยากรู้  เพราะคิดว่าซารูน่าเป็นหลานแท้ๆของแม่เฒ่าแห่งดวงดาว น่าจะรู้ทุกเรื่องเป็นอย่างดี  

ด้วยคำถามของฮูเซล ทำให้ซารูน่าวิ่งช้าลง สีหน้าดูเป็นกังวล และตอบฮูเซลไปว่า

"ถึงข้าจะเป็นหลานของท่านยาย  แต่ข้าก็แทบไม่รู้อะไรเลย  ขนาดเรื่องในวันนี้ทุกคนบนดาวต่างก็รู้ก่อนข้ากันทั้งนั้น " ซารูน่าพูดตัดพ้อตัวเอง  พร้อมกับถอนหายใจและรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

"ข้าว่า ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ก็พวกเรายังเป็นเด็กกันอยู่กันนี่หน่า  หน้าที่ของเด็กก็ต้องใช้ชีวิตให้สนุกก่อนที่จะเป็นผู้ใหญ่ไงล่ะ  เจ้าอย่าคิดมากเลยซารูน่า" ฮูเซลพูดปลอบใจซารูน่าแล้วก็หัวเราะแบบร่าเริงทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งสองยังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ  ฝ่าผู้คนมากมายที่มีจุดหมายเดียวกัน  แต่เมื่อรู้ตัวอีกทีทั้งคู่ต้องหยุดลงกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า   มันช่างยิ่งใหญ่และสวยงามราวกับภาพวาด เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่หลากสีสันสัตว์นานาพันธุ์ที่ไม่เคยพบเห็น  เหล่าภูติตัวน้อยๆที่บินเต็มไปทั่วอาณาบริเวณ ส่งเสียงเพลงต้อนรับผู้คนที่หลั่งไหลมาแทบไม่หยุด ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็กทั้งสองเป็นอย่างมาก จนแทบเหมือนกับอยู่ในมนต์สะกด

"นี่น่ะหรอเขตศักดิ์สิทธิ์  ข้ารู้สึกว่ามันเหมือนกับเขตแห่งความสุขมากกว่านะ  ดูทุกอย่างนั้นสิเซลมันสวยงามจริง ๆ " ซารูน่าพูดขึ้นพร้อมกับกระโดดด้วยความสุขและตื่นเต้นจนหัวใจของเธอนั้นเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ  

"เดี่ยวก่อนซารูน่าอย่าลืมสิว่าเรามาที่นี่ทำไม  ข้าว่าเจ้ารีบเข้าไปหาโซว์ก่อนดีกว่า  เดียวข้าจะรอแถว ๆ นี้"

"นั่นสิข้าลืมไปเลยขอโทดทีข้ามีความสุขมากไปหน่อย" ซารูน่าตอบด้วยรอยยิ้มที่ดูมีความสุขอย่างแท้จริง  

"เจ้าไปกับข้าด้วยสิฮูเซลมีเจ้าอยู่ใกล้ ๆ ข้ารู้สึกปลอดภัย" ซารูน่าพูดพร้อมกับยื่นมือให้  

"ได้ข้าจะไปกับเจ้าททุกที่และจะไม่มีวันทอดทิ้งเจ้าข้าสัญญา" ฮูเซลพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่จริงจัง  แล้วก็จับที่มือซารูน่าพากันวิ่งไปหาโซว์ที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมพิธีอะไรสักอย่าง

"เจ้ามาแล้วหรอซารูน่า" โซว์ถามซารูน่าพร้อมกับในมือที่กับลังยุ่งกับการจัดเตรียมข้าวของ

" ใช่แล้วค่ะโซ่"  ซารูน่าตอบด้วยใบหน้าที่มีความสุขและยิ้มไม่หยุด สร้างความแปลกใจให้กับโซว์ยิ่งนัก  

"เจ้ามาก็ดีแล้วจะได้ร่วมพิธีไปพร้อมๆกัน"

"พิธีอะไรหรอคะโซ่ "ซารูน่าถามด้วยความสงสัยและอยากรู้

โซว์วางทุกอย่างลงจากมือ และตั้งใจตอบคำถามของหลานสาวผู้สงสัย

"พิธีนี้เป็นพิธีสำคัญของดวงดาวแห่งนิมิต  เพื่อที่จะดูอนาคตที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า  เป็นพิธีกรรมที่ผู้สืบทอดของดวงดาวแห่งนิมิตเท่านั้นที่จะทำได้"  

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าในตอนนี้หรอคะโซ่" เมื่อซารูน่าถามจบก็โดนโซว์เอาไม้เท้าเคาะที่หัวเและก็หัวเราะอย่างพอใจ

"เจ้านี่มันช่างถามซะจริง ๆ  มันต้องเกี่ยวกับเจ้าสิ  เพราะเจ้าในอนาคตจะต้องเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากข้า นี่ก็ได้เวลาแล้ว" เมื่อโซว์ตอบคำถามของซารูน่าเสร็จ จากนั้นนางจึงเดินออกไปในจุดที่เห็นทุกคนบนดาวได้อย่างชัดเจน และกล่าวออกมาว่า  

"นับเป็นเวลานานแสนนานที่คาวได้สร้างจักรวาลนี้ขึ้นมา  พร้อมกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่  และพวกเราทุกคนบนจักรวาลแห่งนี้ก็เป็นลูกหลานของคาวกันทั้งนั้น บัดนี้ความมืดที่กัดกินหัวใจของพวกเราทำให้การเสียสละของคาวกำลังจะดูไร้ค่า  ข้าจึงต้องทำพิธีนิมิตแห่งอนาคตเพื่อที่จะหาวิธีแก้ไข  และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้คำสวดภาวนาจากพวกเจ้าทั้งหลาย  ขอให้พวกเจ้าทุกคนตั้งใจและร่วมพิธีนี้ไปด้วยกัน"

หลังจากแม่เฒ่าพูดจบได้บังเกิดแสงออโรร่าเต็มไปทั่วอาณาเขตเขตศักดิ์สิทธิ์  สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนที่พบเห็น  เพราะเป็นแสงที่สวยงามและดูมีพลัง ราวกับสายน้ำที่มีคลื่นซัดสาดอยู่ตลอดเวลา  ทันใดนั้นเสียงสวดภาวนาจากแม่เฒ่าเริ่มดังขึ้น ทำให้ทุกคนเงียบสงบและสวดภาวนาตามแม่เฒ่าอย่างตั้งใจ   เมื่อซารูน่าและฮูเซลเห็นดังนั้นจึงร่วมสวดภาวนาไปด้วยกับทุกคน  แต่สายตาของฮูเซลเหลือบไปเห็นก้อนอะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่รูปร่างแปลก ๆ  ในบริเวณเขตศักดิ์สิทธิ์  จึงถามกับซารูน่าว่า

"เจ้าเห็นนั่นไหมซารูน่า ก้อนอะไรสักอย่างที่ตั้งอยู่ตรงนั้น "

"อะไรหรอฮูเซลก้อนอะไรกัน" ซารูน่าถามด้วยความมึนงง และยังใจจดใจจ่อกับการสวดภาวนา

"นั่นไงเจ้าไม่เห็นหรอตรงต้นไม้ใหญ่นั้นไง" ซารูน่ามองหาก้อนที่ฮูเซลพูดถึงอยู่สักพัก

"ข้าเห็นแล้วว่าแต่นั้นมันก้อนอะไรกัน"  ในขณะที่ซารูน่ากำลังพูดอยู่ ตัวของฮูเซลเดินเไปกือบจะถึงเจ้าก้อนนั่นอยู่แล้ว สร้างความตกใจให้กับซารูน่าอย่างมากพร้อมกับรีบวิ่งไปหาฮูเซลและตระคอกถามเบาๆ

"นั้นเจ้าจะทำอะไร" ซารูน่าถามแต่ฮูเซลไม่สนใจเพราะยังตกตะลึงกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และพูดต่อว่า

"หรือนี่จะเป็นผนึกที่เขาว่ากันว่า  เป็นหนึ่งในห้าร่างของคาวที่ดวงดาวแห่งนิมิตของเราปกป้องอยู่  ดูนั่นสิมีตัวอักษรอะไรเต็มไปหมดและยังมีอยู่ภายในเจ้าก้อนนี้อีกด้วย" ยังพูดไม่ทันขาดคำฮูเซลก็เอามือไปจับที่ก้อนผนึกนั้นทันที  ซารูน่าเห็นดั่งนั้นจึงเกิดความตกใจ  และเอามือไปห้ามฮูเซลแต่ก็ช้าไป  จึงทำให้มือของซารูน่าพลัดไปจับก้อนผนึกนั้นเข้าด้วยอีกคน ทันใดนั้นผนึกเริ่มสั่นไหวรุ่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ และมีแสงเปล่งประกายออกมาอย่างเจิดจ้าคล้าย ๆ กับร่างแสงแห่งคาวยังไงยังงั้น  จนฮูเซลและซารูน่ามองอะไรไม่เห็น ได้แต่ตกใจและร้องเรียกชื่อของกันและกัน

"ฮูเซล ฮูเซล... เจ้าอยู่ไหนทำไมข้าถึงมองไม่เห็นเจ้า "ซารูน่าถามพร้อมกับมือที่ไขว่คว้าหาร่างของฮูเซล

"ข้าอยู่ตรงนี้ซารูน่าข้าก็มองไม่เห็นเจ้าเช่นกัน ได้ยินเพียงเสียงเรียกของเจ้าเท่านั้น"  

ทันใดนั้นก็มีเสียพูดขึ้น คล้ายๆกับเสียงของผู้ชายแต่ในบางครั้งก็เหมือนกับผู้หญิงออกมาจากทุกทิศทางในแสงสว่าง มีทั้งความอ่อนนุ่มและทรงพลังกล่าวขึ้นว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่